วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ตรงกับวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๓... Show พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพระนางเสือง ทรงมีพระนามเดิมว่า ราม พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๓ ของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ต่อจากพ่อขุนบานเมือง ซึ่งเป็นพระเชษฐา(พี่ชาย) อนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถในด้านการทำศึกสงครามตั้งแต่ยังไม่ได้ครองราชย์ ดังจะเห็นได้จากเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ ๑๙ พรรษา พระองค์ได้เสด็จตามพระราชบิดาไปทำสงครามแย่งชิงเมืองตาก กับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด และรบชนะขุนสามชน พระบิดาจึงเฉลิมพระนามให้ว่า รามคำแหง อาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เนื่องมาจากพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ ของพระองค์ ดังนี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นผู้นำในการสร้างศรัทธาให้ประชาชนเลื่อมใสในพระพุทธศานา พระองค์ทรงนิมนต์พระสงฆ์นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ จากเมืองนครศรีธรรมราชที่กลับมาจากลังกา มาเผยแผ่คำสอนทางพระพุทธศาสนาแก่ราษฎร ซึ่งทำให้ชาวสุโขทัยเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และแสดงออกมาในรูปแบบศิลปกรรมด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างพระพุทธรูป วัด เจดีย์ เป็นต้น ทำให้พระพุทธศาสนาวางรากฐานมั่นคงในอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งกลายเป็นศาสนาประจำชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน โปรดให้สร้างทำนบกักน้ำที่เรียกว่า “สรีดภงส์” เพื่อนำน้ำไปใช้ในตัวเมืองสุโขทัยและบริเวณใกล้เคียง โดยอาศัยแนวคันดินที่เรียกว่า “เขื่อนพระร่วง” ทำให้มีน้ำสำหรับใช้ในการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภคในยาม ที่บ้านเมืองขาดแคลนน้ำ ทรงส่งเสริมการค้าขายอย่างเสรีภายในราชอาณาจักรด้วยการไม่เก็บภาษีผ่านด่านหรือ “จกอบ” (จังกอบ) จากบรรดาพ่อค้าที่เข้ามาค้าขายในกรุงสุโขทัย ดังคำจารึกบนศิลาจารึกว่า “เจ้าเมือง บ่เอาจกอบในไพร่ลู่ทาง” นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ปรากฏว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงส่งเสริมให้ชาวสุโขทัยนิยมการค้าขายนั้น ปรากฏตามศิลาจารึกตอนหนึ่งว่า “เพื่อนจูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใครจะใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า” อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทรงเปิดเสรีทุกประการในการค้าขายทำให้การค้าขายขยายออกไปอย่างกว้างขวางจนปรากฏแหล่งการค้าสำคัญในสุโขทัยได้แก่ “ตลาดปสาน” จากศิลาจารึกกล่าวว่า “เบื้องตีนนอนเมืองสุโขทัย มีตลาดปสาน” ในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจอย่าง “จีน” โดยนอกจากการเพิ่มพูนสัมพันธไมตรีตามปกติแล้ว ยังโปรดให้นำช่างจากชาวจีนมาเพื่อก่อตั้งโรงงานตั้งเตาทำถ้วยชามทั้งเพื่อใช้ในประเทศ และสามารถส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงได้ด้วย ถ้วยชามที่ผลิตในยุคนี้เรียกว่า “ชามสังคโลก” พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพ่อขุนรามคำแหงมีอะไรบ้างพระราชกรณียกิจ. ราษฎรสามารถค้าขายได้โดยเสรี เจ้าเมืองไม่เรียกเก็บจังกอบหรือภาษีผ่านทาง. ผู้ใดล้มตายลง ทรัพย์มรดกก็ตกแก่บุตร. หากผู้ใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีพิพาท ก็มีสิทธิไปสั่นกระดิ่งที่แขวนไว้หน้าประตูวังเพื่อถวายฎีกาต่อพระมหากษัตริย์ได้ พระองค์ก็จะทรงตัดสินด้วยพระองค์เอง. ข้อใดเป็นพระราชกรณียกิจที่สําคัญด้านเศรษฐกิจของพ่อขุนรามคําแหงในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเจริฐสัมพันธ์ไมตรีกับมหาอำนาจอย่าง”จีน” โดยนอกจากการเพิ่มพูนสัมพันธ์ไมตรีตามปกติลัวยังโปรดให้นำช่างจากชาวจีนมาเพื่อก่อตั้งโรงงานตั้งเตาทำถ้วยชามทั้งเพื่อใช้ในประเทศและสามารถส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงได้ด้วย ถ้วยชามที่ผลิตในยุคนี้เรียกว่า "ชามสังคโลก”
พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่สำคัญกับประเทศชาติอย่างไรพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงใช้นโยบายที่เอื้อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ แก่ประชาชน โดยให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ สามารถทำการค้าขายได้อย่าง อิสระเสรี ไม่มีสินค้า ต้องห้ามและไม่เก็บภาษีผ่านด่าน(จังกอบ) จากพ่อค้า แม่ค้า ภายในอาณาจักรสุโขทัย
พระราชกรณียกิจของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่ถือว่ามีคุณูปการต่อสุโขทัยด้านสังคมคือข้อใดพระราชกรณียกิจของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่ถือว่ามีคุณูปการต่อสุโขทัย ด้านสังคมคือข้อใด ประดิษฐ์ลายสือไทย
|