แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

       แบตเตอรี่ที่มีอายุนานๆที่ไม่ได้แสดงอาการใดๆข้างต้นนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เสื่อมนะครับหากแต่ว่าความสามารถในการเก็บประจุนั้นลดลงไปตามการใช้งานและอายุของแบตครับ และในการใช้งานของผู้ใช้เองก็มีส่วนช่วยในการถนอมแบตเช่นกันครับ การชาร์จบ่อยๆ,  การชาร์จในสถานที่มีอุณหภูมิสูง,  การชาร์จไปแล้วเล่นไป,  การใช้จนแบตเหลือศูนย์ หรือจนเครื่องดับ  ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นการปฏิบัติที่ทำร้ายแบตเตอรี่ให้มีอายุที่สั้นลง ยังไงก็ลองนำไปตรวจสอบตรวจเช็คกันดูนะครับสำหรับผู้ที่กำลังสงสัยหรือประสบปัญหานี้อยู่  หากแบตของคุณเสื่อมจริงแล้วหมดประกันแล้วก็สามารถหาร้านที่ไว้วางใจได้ทำการเปลี่ยนใหม่ก็สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมแล้วครับ 

สำหรับผู้ใช้ iPad ที่ใช้งานแล้วอาจจะรู้สึกว่าเครื่องแบตหมดเร็วหรืออยู่ในช่วงที่แบตเหลือน้อยแล้วเราต้องใช้งานต่อ โดยไม่สะดวกชาร์จ ทีมงานมี 9 ทริคที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPad มาแนะนำให้ชมกันค่ะ

9 ทริค ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPad ลดปัญหาแบตไหล

1. เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน

โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode) เป็นฟีเจอร์ที่สามารถช่วยประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น เนื่องจากฟีเจอร์นี้จะช่วยลดกิจกรรมที่อยู่เบื้องหลังชั่วคราว เช่น การดาวน์โหลดและการดึงข้อมูลอีเมล จึงช่วยให้เราใช้งานเครื่องได้ยาวนานขึ้น

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > เปิด โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

นอกจากนี้เรายังสามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานในส่วนของ Control Center ได้อีกด้วย ทำให้การเปิดโหมดนี้สะดวกมากขึ้น (หากใครไม่พบเมนูนี้ ต้องตั้งค่าเพิ่มเมนูโหมดประหยัดพลังงานใน Control Center ให้เรียบร้อยก่อน)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

เมื่อเราเปิดโหมดประหยัดพลังงานแล้ว เราก็จะสามารถทำงานต่าง ๆ บน iPad ได้ยาวนานขึ้น หากนำเครื่องไปชาร์จจนแบตเตอรี่เต็มแล้ว โหมดนี้ก็จะปิดเองอัตโนมัติ

2. ตั้งค่าการดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง

ถึงแม้ว่าโหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดกิจกรรมที่อยู่เบื้องหลังบางอย่างแล้ว แต่ก็ไม่ได้หยุดการดึงข้อมูลเบื้องหลังทั้งหมด และแม้ว่าเราใช้งาน iPad แค่ไม่กี่แอป แต่บางแอปที่ไม่ได้เปิดใช้ก็ยังคงทำงานหรือดึงข้อมูลเบื้องหลังอยู่ในขณะที่เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือใช้เซลลูลาร์ เพื่อให้ข้อมูลอัปเดตใหม่อยู่เสมอ

ซึ่งหากแบตเตอรี่เหลือน้อยมาก เราสามารถตั้งค่าปิดการดึงข้อมูลแอปเบื้องหลังที่ไม่จำเป็นได้ เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

เลือกปิด ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh) สำหรับแอปที่ต้องการ

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

3. จำกัดเฟรมเรทเป็น 60 FPS

สำหรับทริคนี้จะใช้งานได้กับ iPad Pro รุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติหน้าจอ ProMotion เท่านั้น คุณสมบัตินี้ทำให้เราสามารถใช้งานหน้าจอด้วยอัตราการรีเฟรช 120Hz ได้ ส่งผลต่อการเลื่อนที่ไหลลื่น การเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การตอบสนอง Apple Pencil ที่แม่นยำ รวมถึงการแตะสัมผัสที่รวดเร็ว

แต่คุณสมบัตินี้ก็ใช้พลังงานแบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะ หากเราไม่ได้ใช้แอปวาดรูป เล่นเกม หรือแอปที่ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก็สามารถตั้งค่าจำกัดเฟรมเรทให้เป็น 60 FPS ได้ ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ขึ้นอีก

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) > การเคลื่อนไหว (Motion) > เปิด จำกัดอัตราเฟรม (Limit Frame Rate)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

ส่วน iPad ที่ไม่มีคุณสมบัติ ProMotion ก็สามารถตั้งค่าลดการเคลื่อนไหว เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานได้เช่นกัน แต่ภาพการเคลื่อนไหวก็จะไม่สมูทเหมือนเดิมแล้วนะ

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) > การเคลื่อนไหว (Motion)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

เปิด ลดการเคลื่อนไหว (Reduce Motion)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

4. ถอด Apple Pencil ออกจาก iPad

สำหรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เรามักจะเก็บง่าย ๆ ด้วยการวางด้านบน iPad ที่ยึดด้วยแม่เหล็ก ถ้าหาก Apple Pencil แบตเหลือน้อยก็จะทำการการชาร์จทันที ถ้าหากเราไม่ได้ใช้งาน Apple Pencil ในช่วงเวลานั้น พร้อมกับต้องการยืดระยะเวลาการใช้งานของ iPad ก็ให้ถอด Apple Pencil ออกจาก iPad เพื่อหยุดการชาร์จนั่นเอง

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

5. ปิดใช้งาน Handoff

ฟีเจอร์​ Handoff เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้การใช้งานระหว่างอุปกรณ์สะดวกมากขึ้น เช่น เรามี iPhone และ iPad ขณะที่เรากำลังอ่านบทความในเว็บไซต์อยู่บน iPhone แล้วต้องการย้ายไปอ่านบน iPad เราก็สามารถย้ายไปแตะเปิดแอปเว็บบราวเซอร์บน iPad ที่ระบุว่ามาจาก iPhone เพื่ออ่านต่อได้เลย สะดวกมาก ๆ

แต่การใช้งาน Handoff ก็อาจจะทำให้เป็นการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่อยู่ไม่น้อย สำหรับใครที่มีอุปกรณ์เดียวหรือแยกใช้งานแต่ละอุปกรณ์อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซิงค์การใช้งานร่วมกัน ก็สามารถปิดใช้งาน Handoff ได้

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > AirPlay และ Handoff (AirPlay & Handoff)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

ปิด Handoff

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

6. ปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้ง

การใช้งานแอปบน iPad อาจมีบางแอปที่ใช้บริการตำแหน่งที่ตั้งเพื่อเรียนรู้วตำแหน่งที่ตั้งของเรา อาจจะมีประโยชน์สำหรับแอปที่ใช้นำทาง แอปสั่งอาหาร แอปแจ้งเตือนกล้องจับความเร็ว เป็นต้น แต่สำหรับบางแอปนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลา เราก็สามารถตั้งค่าปิดได้ ก็จะช่วยลดการใช้พลังงานในเครื่องได้

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > บริการตำแหน่งที่ตั้ง (Location Service)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

เลือกแอปที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตำแหน่งที่ตั้ง

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

แล้วเลือกเป็น ไม่เลย (Never) หรือ ในระหว่างใช้แอป (While Using)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

7. อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ

บางครั้งการที่แบตเตอรี่หมดไวผิดปกติก็อาจจะมีส่วนมาจากปัญหาของซอฟต์แวร์ iPadOS ทางที่ดีเราควรจะเช็คก่อนว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานนั้นเป็น iPadOS เวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือยัง ถ้ายังแนะนำให้อัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์นั้น จะเป็นการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น

เช็ครายการอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

หากยังไม่ได้อัปเดตเวอร์ชันล่าสุด ก็สามารถอัปเดตได้เลย

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

8. รีเซ็ต iPad เมื่อรู้สึกว่าแบตไหลผิดปกติ

ถ้าหากเราใช้งาน iPad แล้วรู้สึกว่าแบตไหลหรือแบตหมดไวแบบผิดปกติ เช่น ไม่ค่อยได้ใช้งานแอป แบตก็ลดลงเหลือ 50% ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เราอาจจะต้องใช้วิธีการรีเซ็ตการตั้งค่า หรือถ้าหากไม่ได้ผลก็อาจจะต้องใช้วิธีลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด (วิธีนี้ข้อมูลจะหายทั้งหมด แนะนำให้สำรองข้อมูลก่อนการลบเนื้อหา)

การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPad (Transfer or Reset iPad)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

ถ้าต้องการรีเซ็ตการตั้งค่าก็เลือก รีเซ็ต (Reset) > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

แต่ถ้าหากต้องการลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด ก็เลือกลบข้อมูลเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด (Erase All Content and Settings) แล้วทำตามขั้นตอนได้เลย (อย่าลืมสำรองข้อมูลก่อนลบนะ เพราะถ้าหากลบแล้ว ข้อมูลจะหายทั้งหมด)

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

9. ติดต่อ Apple Support

หากลองทำด้วยวิธีทั้งหมดแล้ว แบตเตอรี่ iPad ยังคงหมดไวผิดปกติ แนะนำให้เราลองปรึกษากับฝ่ายสนับสนุนของ Apple (Apple Support) ดู อาจจะติดต่อผ่านแอป Apple Support หรือหน้าร้าน Apple Store เพื่อให้ฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาหรือช่วยค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้น

แบ ต ไอ แพ ด เสื่อม ทํา ไง

ถ้าพบว่าแบตเตอรี่ iPad เก็บประจุได้น้อยกว่า 80% และเครื่องยังอยู่ภายใต้ประกันก็จะเปลี่ยนได้ฟรี แต่ถ้าหากเครื่องหมดประกันแล้ว เราจะต้องชำระเงินค่าแบตเตอรี่ (ปัจจุบันอยู่ที่ 3,300 บาท)

โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สำหรับ iPad นั้นทาง Apple จะเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ (Replacement Unit) แทน โดยจะไม่เปลี่ยนเฉพาะแบตก้อนเดี่ยว ๆ เหมือนกับ iPhone

ทั้งหมดนี้ก็เป็นทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับผู้ใช้ iPad ที่อยากจะประหยัดแบตเตอรี่หรือพบปัญหาแบตเตอรี่หมดไว ก็ลองนำไปตั้งค่าและทำกันดูนะคะ

iPad แบตเสื่อมได้ไหม

. 1. ในกรณีเครื่องหมดประกัน : ถ้าตรวจเช็คแล้วแบต iPad เสื่อม หรือแบตบวม จะแลกซื้อเครื่องในราคา 4200 ค่าบริการ 300. . 2. ในกรณีที่ยังอยู่ในประกัน: ถ้าตรวจเช็คแล้วว่่าแบตเสื่อมจริง จะสามารถเคลมเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทำยังไงให้แบตไอแพดหมดช้า

[How To] รวมวิธีตั้งค่า iPad ไม่ให้แบตหมดไว ใช้งานได้นานขึ้นกว่า....
เปิดใช้งาน Low Power Mode. ... .
จัดการ Backgroud App Refresh. ... .
จำกัดค่า Frame Rate ที่ 60 FPS. ... .
ตัดการเชื่อมต่อ Apple Pencil. ... .
ปิดฟีเจอร์ Handoff. ... .
ปิด Location Services. ... .
รีเซ็ต iPad ถ้าพบว่าการทำงานบางอย่างผิดปกติ.

แบตไอแพดลดเร็วเกิดจากอะไร

บางครั้งการที่แบตเตอรี่หมดไวผิดปกติก็อาจจะมีส่วนมาจากปัญหาของซอฟต์แวร์ iPadOS ทางที่ดีเราควรจะเช็คก่อนว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานนั้นเป็น iPadOS เวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือยัง ถ้ายังแนะนำให้อัปเดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากการปล่อยอัปเดซอฟต์แวร์นั้น จะเป็นการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น

แบตเตอรี่ไอแพดอยู่ได้กี่ปี

เพราะฉะนั้นการชาร์จแบตคือสามารถชาร์จ “เมื่อไหร่ก็ได้” ไม่ต้องรอให้แบตหมด เมื่อนับด้วยวิธีนี้ จำนวน 400-500 Cycle ของ iPhone, iPod จะใช้ได้ยาวนานประมาณ 1.5-2 ปี ส่วน iPad, MacBook จะใช้ได้ยาวนานถึง 3 ปี ก่อนที่แบตจะลดประสิทธิภาพลง