ในการสร้างฐานข้อมูลความรู้ชุมชน ผู้สร้างจะต้องเข้าใจหลักการและความหมาย รวมถึงความสำคัญของข้อมูล ความรู้ก่อน ซึ่งศูนย์ข้อมูลความรู้ประชาชน : Thailand Knowledge Portal หรือ TKP ได้นำมาเป็นแนวทางและประยุกต์ต่อการสร้างฐานข้อมูลเครือข่ายนี้ ข้อมูลความรู้เป็นข้อความที่เกิดจากคำที่มีความหมาย สองคำ
นั่นคือ ข้อมูล และความรู้ แต่โดยแท้จริงแล้วทั้งข้อมูลและความรู้ ที่มุ่งเน้นไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนจะเกี่ยวพันกับคำอื่นๆอีก สองคำ นั่นคือ สารสนเทศ และปัญญา โดยแนวคิดนี้เป็นของ Danny Wallace (2007) เจ้าของทฤษฎี DIKW Pyramid ซึ่งได้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง ข้อมูล (D : Data) สารสนเทศ (I : Information)ความรู้ (K : Knowledge) และ ปัญญา (W : Wisdom) เอาไว้ว่า Data หรือข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
เมื่อนำมาจัดเก็บอย่างเป็นระบบจะกลายเป็น Information หรือสารสนเทศ และเมื่อนำสารสนเทศมาผ่านกระบวนการประมวลผล สารสนเทศนั้นก็จะเปลี่ยนเป็น Knowledge หรือความรู้ สุดท้ายเมื่อได้ความรู้แล้วก็จะพัฒนาการไปสู่ Wisdom หรือปัญญา ดังภาพ คำว่า ข้อมูล สารสนเทศ ความรู้ และปัญญา เป็นคำที่มีความหมายคล้ายคลึงกัน มีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน ผู้ที่ศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารคงพอสรุปได้ว่าความรู้มีต้นกำเนิดมาจาก ข้อมูล ซึ่งมีความหมายคือ สิ่งที่เกิดจากการสังเกต และเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยยังไม่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ และกลั่นกรอง ขณะที่ สารสนเทศคือกลุ่มข้อมูลที่มีการจัดการที่สามารถบ่งบอกถึงสาระแนวโน้ม และทิศทางที่มีความหมายสามารถทำการวิเคราะห์ได้ แต่สารสนเทศจะเป็นองค์ความรู้ได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถตีความและทำความเข้าใจกับข้อความได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้รับว่าจะสามารถถอดรหัสข่าวสารดังกล่าวได้หรือไม่ มีความรู้ในด้านนี้หรือไม่ หากตีความหรือถอดรหัสได้จะเกิดเป็นความเข้าใจ และเป็น ความรู้ในที่สุด ซึ่งเมื่อเข้าใจหลักการ วัตถุประสงค์ของความรู้อย่างถ่องแท้แล้วสามารถพัฒนาการให้เห็นถึงที่มาของปัญญาได้ในที่สุด ซึ่งสามารถสรุปรายละเอียดได้ดังนี้ 1. ข้อมูล (Data) 2. สารสนเทศ (Information) 3. ความรู้ (Knowledge) 4. ปัญญา (Wisdom) ข้อมูล (data): ผลที่ได้จากกระบวนการจัดเป็นข้อมูล นอกจากนี้สารสนเทศ (information) ที่ไม่ได้ผ่านการประมวลถือว่าเป็นข้อมูล ภายในตาราง excel เก็บข้อมูลไม่ใช่สารสนเทศ อีกตัวอย่างตัวเลขของการขายของบริษัทที่อยู่ในแผ่นตารางคือข้อมูล ถ้ามีการจัดประเภทข้อมูลอาจทำให้ได้ผลที่เป็นประโยชน์ออกมา สารสนเทศ: ข้อมูลที่ผ่านการประมวลคือสารสนเทศ ไม่จัดเป็นสารสนเทศถ้าไม่ได้ผล (ข้อสรุป) ออกมาจากข้อมูล ตัวอย่างเช่น ตัวเลขการขายที่เก็บในแผ่นตารางโดยตัวเองไม่สามารถให้ข้อสรุปแต่เมื่อผ่านการสังเกตหรือใช้เครื่องมือทางสถิติทำให้รู้ว่าพื้นที่ทางเหนือมีการขายที่ดีกว่าพื้นที่ทางใต้ สิ่งนี้เป็นสารสนเทศที่ได้จากข้อมูลการขาย ความรู้ (knowledge): วิวัฒนาการต่อจากสารสนเทศและข้อมูลคือความรู้ เมื่อประยุกต์ใช้ประสบการณ์ การพิจารณากับสารสนเทศจะทำให้ได้ความรู้ออกมา ความรู้เป็นผลที่เกิดจากการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น จากข้อมูลการขายสามารถสรุปได้ว่าต้องการมากขึ้นความพยายามในการตลาดหรือการเลื่อนตำแหน่งในพื้นที่ทางใต้กว่าพื้นที่ทางเหนือเพื่อเพิ่มการขายในพื้นที่ทางใต้ ความรู้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ tacit knowledge (ความรู้ฝังในตัวคน) และ explicit knowledge (ความรู้ที่ชัดแจ้ง) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดความแตกต่างระหว่างข้อมูลและสารสนเทศ ที่มา: Data Information and Knowledge. Retrieved July 19, 2019, from http://www.allkm.com/km-basics/data.php |