Show “ขอโทษ” คำง่าย ๆ สั้น ๆ ที่หลาย ๆ คนมักไม่ค่อยกล้าที่จะพูด อาจเพราะความอาย ความรู้สึกผิด หรือศักดิ์ศรีที่มันค้ำคอ แต่เชื่อเถอะค่ะ ผลจากการขอโทษ มักจะเป็นเรื่องที่ดีเสมอ เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “..3 คำที่เราควรพูดให้ชินปาก นั่นก็คือ สวัสดี ขอบคุณ และขอโทษ..” กันไหมคะ บอกเลยว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะคำเหล่านี้นอกจากจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกดีแล้ว ยังทำให้ช่วยรักษาความสัมพันธ์ได้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว, พี่น้อง, เพื่อน หรือคนรัก หากเราตัดเรื่องศักดิ์ศรีออกไป ใครที่ใช้ 3 คำนี้จนชิน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ในบทความก่อนหน้า เราได้นำเสนอ การกล่าวทักทายภาษาเกาหลี กันไปแล้ว ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ การกล่าวคำขอโทษในภาษาเกาหลี กันบ้างค่ะ เพราะในชีวิตของคนเราต้องล้วนเคยทำผิดพลาดมาก่อนทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ดังนั้นวันนี้เราได้รวบรวมคำขอโทษภาษาเกาหลีในรูปแบบต่าง ๆ มาฝากทุกคนกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถนำไปใช้กล่าวขอโทษผู้อื่นได้ในหลายสถานการณ์ รวมถึงนำไปใช้ได้อย่างถูกที่ ถูกกาลเทศะกันด้วยค่ะ 1. ใช้ขอโทษเมื่อเราทำผิด죄송하다 (ชเวซงฮาดา) เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา มาที่คำแรกกันเลยค่ะ 죄송하다 (ชเวซงฮาดา) คำนี้แปลว่าขอโทษ มักจะใช้ในสถานการณ์ที่เราได้กระทำผิดพลาดไป ทำอะไรไม่ทันระวัง เป็นการของโทษที่เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ดีของเรา คำขอโทษที่จัดอยู่ในคำที่สุภาพ มักเป็นคำที่ผู้น้อยใช้พูดกับผู้ใหญ่ แต่ในเวลาพูด เราไม่สามารถเอาคำว่า 죄송하다 (ชเวซงฮาดา) มาใช้ได้เลยนะคะ เพราะในภาษาเกาหลี คำกริยาทุกคำ ต้องนำมาผันก่อนพูดเสมอ โดยคำนี้ก็จะผันได้ว่า ตัวอย่างประโยค : ขอโทษเมื่อเราทำผิด
죄송합니다 (ชเวซงฮัมนีดา) : คำนี้ถือเป็นการกล่าวขอโทษที่ทางการ มีความสุภาพมากที่สุด เราจะใช้คำนี้ขอโทษกับผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส หรือผู้ที่เราเคารพนับถือมาก ๆ เช่น ปู่ยาตายาย, ญาติผู้ใหญ่ หรือเจ้านาย เวลาที่เราทำตัวไม่ดี หรือทำอะไรผิดไป หรือหากเราเผลอเดินไปเหยียบเท้าคุณตาคุณยายที่เราไม่รู้จัก เราก็สามารถใช้คำนี้ได้เช่นกันค่ะ ตัวอย่างประโยค : ขอโทษเมื่อเราทำผิด
죄송해요 (ชเวซงแฮโย) : คำนี้ถือเป็นการกล่าวขอโทษที่สุภาพ สามารถใช้ได้ในบริบทกับคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ไม่รู้จัก, เพื่อนร่วมงาน, อาจารย์ที่สนิท หรือผู้ที่โตกว่าเราไม่มาก เช่น หัวหน้างาน เป็นต้น หรือในอีกกรณี หากเราเดินไปเหยียบเท้าคนคนนึงที่เราไม่รู้จัก แต่ดูแล้วมั่นใจว่าอายุน้อยกว่าเราแน่ ๆ ก็สามารถพูดว่า 죄송해요 (ชเวซงแฮโย) เพื่อรักษาความสุภาพได้เช่นกันค่ะ 2. ใช้ขอโทษเมื่อเรารู้สึกผิด미안하다 (มีอันฮาดา) ต่อมาค่ะ 미안하다 (มีอันฮาดา) คำนี้ก็จะแปลว่า ขอโทษ เช่นเดียวกัน แต่มักจะใช้ในบริบทที่ขอโทษจากความรู้สึกละอาย อับอาย รู้สึกผิด หรือรู้สึกไม่สบายใจต่อผู้อื่น มักจะใช้ขอโทษจากความรู้สึกมากกว่าการกระทำ แต่ตามหลักแล้ว คำว่า 죄송하다 (ชเวซงฮาดา) และ 미안하다 (มีอันฮาดา) สามารถใช้สลับกันได้โดยไม่ผิดแปลกเท่าไหร่นัก แต่หลัก ๆ จะต่างกันตรงที่ 죄송하다 (ชเวซงฮาดา) มักเป็นคำที่ผู้น้อยใช้พูดกับผู้ใหญ่ ส่วน 미안하다 (มีอันฮาดา) ส่วนใหญ่จะเป็นคำที่ผู้ใหญ่ใช้พูดกับผู้น้อยนั่นเองค่ะ และเช่นเคย ก่อนจะนำคำว่า 미안하다 (มีอันฮาดา) ไปใช้ ก็ต้องผันระดับภาษาก่อนด้วยนะคะ ตัวอย่างประโยค : ขอโทษเมื่อเรารู้สึกผิด
미안합니다 (มีอันฮัมนีดา) : คำนี้ก็จะแปลว่าขอโทษ สามารถใช้พูดกับผู้ที่อายุมากกว่า มีฐานะทางสังคมสูงกว่า เป็นทางการกว่า แต่หากผู้ที่เราจะขอโทษ อายุเยอะกว่าเรามาก ๆ ขอแนะนำให้ใช้คำว่า 죄송합니다 (ชเวซงฮัมนีดา) ดีกว่าค่ะ เพราะจะดูทางการมากกว่า เราสามารถใช้คำว่า 미안합니다 (มีอันฮัมนีดา) เวลาที่เราถามเรื่องที่เสียมารยาท หรือเราไม่ได้ตั้งใจ เช่น เวลาเราถามผู้อื่นว่า “คุณพ่อของเธอเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม” แต่เขาตอบกลับมาว่า “พ่อของฉันเสียชีวิตไปแล้ว” เราก็สามารถใช้คำนี้พูดขอโทษได้ เนื่องจากเรารู้สึกผิดที่ถามนั่นเองค่ะ ตัวอย่างประโยค : ขอโทษเมื่อเรารู้สึกผิด
미안해요 (มีอันแฮโย) : มีอันแฮโย เป็นคำที่ไม่ทางการ แต่ยังถือว่าสุภาพ สามารถใช้พูดได้กับคนที่อายุมากกว่าเรา หรือน้อยกว่าเรา ที่ค่อนข้างที่จะสนิทกัน แต่ยังต้องรักษามารยาทกันอยู่ เช่น แฟนที่อายุมากกว่า, พ่อแม่, ลูกศิษย์ หรือ ลูกพี่ลูกน้อง เป็นต้น ตัวอย่างประโยค : ขอโทษเมื่อเรารู้สึกผิด
미안해 / 미안 (มีอันแฮ / มีอัน) : คำนี้เป็นคำที่สามารถพูดได้กับคนที่สนิทกันมาก ๆ เท่านั้น อย่างเพื่อนสนิท, เด็ก ๆ หรือพี่น้องที่สนิทกัน คำนี้สามารถใช้พูดขอโทษได้ทั้งแบบที่เราทำผิด และแบบที่เรารู้สึกผิดเลยค่ะ แต่อย่าเผลอนำไปใช้กับผู้หลักผู้ใหญ่นะคะ ถือว่าไม่สุภาพมาก ๆ 3. ใช้ขออภัย, ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง사과하다 (ซา กวา ฮา ดา) 사과하다 (ซา กวา ฮา ดา) มาจากคำว่า 사과 (ซา กวา) ซึ่งเป็นคำนาม แปลว่า การขอโทษ, การขออภัย หรือคำขอโทษ คำนี้จะตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า Apology นั่นเองค่ะ นอกจากคำว่า 사과 จะแปลว่าการขอโทษแล้ว ยังแปลว่า แอปเปิ้ล ด้วย ดังนั้นไม่แปลกที่เวลาเราดูซีรี่ส์แล้วจะเห็นคนเกาหลีชอบมอบแอปเปิ้ลให้ผู้อื่นแทนการกล่าวคำขอโทษ เพราะเป็นคำพ้องเสียงที่ออกเสียงเหมือนกันนั่นเอง ตัวอย่างประโยค : ใช้ขออภัย, ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
คำว่า 사과 (ซา กวา) มักจะเป็นคำที่ได้ยินไม่บ่อยนักในเกาหลี นั่นก็เพราะว่าเป็นคำกล่าวขอโทษที่สุภาพมาก ๆ หรือเป็นการรู้สึกแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ใช้พูดกับบุคคลที่เรายกย่อง นับถือ และให้เกียรติมาก ๆ โดยจะนำมาผันได้ว่า 사과드립니다. (ซา กวา ทือ ริม นี ดา) แปลว่า ขออภัยอย่างสุดซึ้ง นั่นเอง ในอีกกรณีหนึ่ง คำว่า 사과하다 (ซา กวา ฮา ดา) สามารถเอาไว้พูดเวลาที่เราต้องการจะบอกให้ใครคนหนึ่งพูดคำว่าขอโทษ อาจจะให้ขอโทษเรา หรือขอโทษบุคคลที่ 3 ก็ได้ แต่อย่าลืมว่าจะต้องผันตามลำดับความสุภาพทุกครั้งนะคะ 4. ใช้ขอโทษเมื่อจะรบกวนผู้อื่น실례합니다 (ชิลรเยฮัมนีดา) หากพูดให้เห็นภาพชัดเจน คำว่า 실례합니다 (ชิลรเยฮัมนีดา) ก็จะคล้ายกับคำว่า “Excuse me” ในภาษาอังกฤษนั่นแหละค่ะ และมักจะผันเป็นรูป “습니다” หรือระดับความสุภาพแบบทางการเสมอ มักจะไม่ค่อยเห็นใครใช้ว่า 실례해요 (ชิลรเยแฮโย) / 실례해 (ชิลรเยแฮ) เพราะคนเกาหลีถือว่าเวลาเราจะมีเรื่องไปรบกวนใคร เราต้องให้เกียรติเขานั่นเองค่ะ โดยคำนี้จะมาจากคำว่า 실례 ที่แปลว่า มารยาทไม่ดี หรือเสียมารยาท เมื่อนำมาอยู่ในประโยคก็จะแปลว่า ขออภัย, ขออนุญาต, ขอโทษที่รบกวน จะใช้เมื่อมีเรื่องต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือขอให้ผู้อื่นทำบางสิ่งบางอย่างให้เรา อย่างเช่น การถามทาง หรือการขอทาง นั่นเองค่ะ ตัวอย่างประโยค : ขอโทษเมื่อจะรบกวนผู้อื่น
5. ใช้บอกผู้อื่นว่าเราผิดไปแล้ว ให้อภัยเราเถอะ잘못하다 (ชัลมดฮาดา) มักจะใช้ในกรณีที่เราจะบอกผู้อื่นว่า ‘ฉันผิดไปแล้ว’ ‘ฉันทำพลาดไปแล้ว’ หรือ ‘ขอโทษนะ ฉันทำผิดไปแล้ว’ อาจจะเป็นความผิดที่เราไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น และอยากจะให้ผู้อื่นยกโทษให้เรา โดยคำนี้ เวลานำมาผันเข้าประโยค จะใช้เป็นรูปอดีตเสมอ (เพราะเราได้ทำไปแล้ว) เวลาจะนำไปใช้ ก็ผันไปตามระดับความสุภาพได้เลย ดังนี้
6. ใช้บอกผู้อื่นว่าเป็นความผิดของฉันเอง제 탓이에요. (เช ทัดชีเอโย) เป็นการบอกผู้อื่นว่า ฉันผิดเอง ซึ่งเราอาจจะทำผิดจริง ๆ หรือรับผิดแทนผู้อื่นก็ได้ ประโยคนี้ถือว่าสุภาพ เพราะอยุ่ในรูปประโยคที่เติม 요 (โย) เทียบกับภาษาไทยก็เหมือนกับหางเสียง ค่ะ/ครับ นั่นเองค่ะ แต่หากเราจะใช้พูดกับเจ้านาย หรือผู้อาวุโส เพื่อเป็นการบอกว่า ‘เป็นความผิดของดิฉันเองค่ะ’ สามารถพูดได้ว่า 제 탓입니다. (เช ทัดชิมนีดา) ประโยคนี้ก็จะดูทางการ ดูสุภาพมากขึ้น หรือถ้าเราจะพูดกับเพื่อนที่สนิทกัน ก็จะพูดได้ว่า 내 탓이야. (เน ทัดชียา) จะแปลได้ว่า ฉันผิดเองแหละ ก็จะฟังดูไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ ใช้พูดกับเพื่อน หรือบุคคลที่สนิทกันมาก ๆ เท่านั้นค่ะ ตัวอย่างประโยค : ใช้บอกผู้อื่นว่าเป็นความผิดของฉันเอง
7. จะระวังไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก앞으로 조심하도록 하겠습니다. (อัพพือโร โชชิมฮาโทรก ฮาเก็ดซึมนีดา) ประโยคนี้ถือเป็นประโยคที่ทางการ และคนเกาหลีใช้กันบ่อยมาก ๆ มักจะใช้พูดต่อท้ายคำว่าขอโทษ เพื่อบอกแก่ผู้ที่เราทำผิดว่าจะระวังไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก โดยประโยคนี้สามารถแยกคำได้ว่า 앞으로 (อัพพือโร) แปลว่า ครั้งหน้า, ต่อจากนี้, หนหน้า 조심하도록 (โชชิมฮาโทรก) แปลว่า จะระมัดระวัง และ 하겠습니다 (ฮาเก็ดซึมนีดา) แปลว่า จะทำ ซึ่งเป็นรูปอนาคตของ 하다 (ฮาดา) ที่แปลว่าทำนั่นเองค่ะ เมื่อนำมารวมเป็นประโยคก็จะแปลได้ว่า จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว, ต่อไปจะระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก, ครั้งหน้าจะระวังให้มากกว่านี้ เป็นต้น ตัวอย่างประโยค : จะระวังไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการกล่าวขอโทษในภาษาเกาหลีที่เราได้นำมาให้ทุกคนได้ดูกันในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปใช้กล่าวขอโทษเพื่อน ๆ หรือบุคคลที่ทุกคนแคร์กันได้นะคะ แต่อย่าลืมนะคะ สิ่งสำคัญที่ควรจำไว้เสมอก็คือคนเกาหลีจะเคร่งครัดในการใช้รูปประโยคตามลำดับอาวุโสกันมาก ๆ เชื่อว่าหากทุกคนตั้งใจ และฝึกฝนในการพูดบ่อย ๆ ก็จะนำไปใช้ได้ถูกที่ ถูกสถานการณ์แน่นอนค่ะ นอกจากการกล่าวคำขอโทษในภาษาเกาหลีแล้ว เว็บไซต์ของเรายังมี แคปชั่นขอโทษ/ง้อแฟน, การกล่าวขอบคุณอวยพรวันเกิด, การบอกฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ภาษาเกาหลี, การกล่าวแสดงความยินดีภาษาเกาหลี, คำเรียกแฟนภาษาเกาหลี, การอวยพรวันเกิดภาษาเกาหลี มาให้ทุกคนได้เลือกอ่านกันอีกด้วยค่ะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะ |