วอน คุณ ภรรยา อย่า พาลูกผม หนี

ภรรยาพาลูกหนีต้องทำอย่างไร

กระผมมีปัญหาข้อกฎหมายอยากสอบถามครับ คือว่า กระผมและภรรยาแต่งงานกันมาได้ 7 ปี

บทความวันที่ 26 ต.ค. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 17344 ครั้ง


ภรรยาพาลูกหนีต้องทำอย่างไร

          กระผมมีปัญหาข้อกฎหมายอยากสอบถามครับ คือว่า กระผมและภรรยาแต่งงานกันมาได้ 7 ปี ภรรยามีลูกติด 1 คน กระผมได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กอายุ 1 เดือน ปัจจุบันอายุ 7 ขวบ ลูกติดภรรยาผมได้จดทะเบียนรับรองเป็นบุตรบุญธรรมและมีลูกกับผมอีก 1 คน ปัจจุบันอายุ 2 ขวบ 5 เดือน แต่ปัจจุบันนี้ กระผมและภรรยาได้หย่าร้างกัน ซึ่งเขาเป็นคนขอหย่ากับผมเอง และได้บันทึกในข้อความกำกับใบหย่า ว่า
          1.ทั้งคู่หย่ากันด้วยความสมัครใจ ดังได้นำหนังสือสัญญาการหย่ามาแสดงและได้แนบติดบันทึกนี้แล้ว
          2.ทั้งคู่ได้แต่งงานอยู่กันมาเป็นเวลา 7 ปี มีบุตรด้วยกันจำนวน 1 คน อายุ 2 ปี โดยให้ อยู่ในอำนาจการปกครองของบิดาแต่เพียงผู้เดียว
          3.มีทรัพย์สินไม่บันทึก
          4.มีหนี้สินไม่บันทึก
          กระผมดูแลเลี้ยงดูเด็กทั้ง 2 คนมาเป็นอย่างดี โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูคนเดียวมาตลอด โดยที่แม่เด็กไม่เคยช่วยอะไรเลย เนื่องจากไม่ได้ทำงาน ถึงจะทำงานก็ไม่เคยนำเงินมาเลี้ยงลูกเลย  ตอนหย่ากันนั้น ลูกทั้ง 2 คน อยู่กับผม คนโตผมส่งเรียน  ปัจจุบันนี้ อยู่ ป.1 คนเล็กผมส่งเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ปัจจุบันนี้แม่ของเด็กได้มาเอาเด็กทั้ง 2 คน หลบหนีไป โดยที่ผมไม่รู้ว่าเขาพาเด็กไปอยู่ที่ไหน แต่พอจะรู้ว่าเขาไปทำงานร้านอาหารคาราโอเกะ ทำงานกลางคืน โดยที่เขาเอาแม่เขาไปเลี้ยงให้ตอนกลางคืน เขาเป็นคนที่ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จึงอยากทราบว่า
          1.ผมต้องทำอย่างไรถึงจะได้ลูกคืน
          2.ถ้าผมฟ้องศาลผมจะชนะไหม
          3.ผมฟ้องขอเลี้ยงดูบุตรตนเองและบุญธรรมให้อยู่กับผมต่อไปได้ไหม
          4.แจ้งความกับตำรวจได้ไหม
          5.ถ้าเขาไม่ไปตามหมายศาลจะทำอย่างไร
          6.ถ้าศาลตัดสินให้ผมชนะคดี แต่เขาไม่ยอมรับ มาแย่งเอาไปอีก มีวิธีบังคับได้อย่างไร

คำแนะนำทนายคลายทุกข์
         1. ฐานะที่ท่านเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรของผู้เยาว์ทั้งสอง ย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะฟ้องคดีต่อศาล เรียกบุตรคืนจากอดีตภรรยา ซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมายได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1567 (4)
         2. เมื่อในบันทึกท้ายทะเบียนการหย่าได้ระบุให้ท่านเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรทั้งสองแต่เพียงผู้เดียว จึงย่อมเป็นเรื่องที่บิดาและเจ้ามรดกได้ตกลงกันตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้ตกลงกันได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1520, 1566 วรรคสอง (6) ซึ่งศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินให้ท่านชนะคดีสูงมาก
         3. ท่านจึงสามารถฟ้องขอให้ตนเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูทั้งสองได้เพียงผู้เดียวได้
         4. หากอดีตภรรยาไม่ยอมส่งคืนบุตรให้แก่ท่าน ย่อมเป็นการกักบุตรไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง จึงสามารถแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีกับอดีตภรรยาได้
        5. หากศาลมีหมายเรียกให้อดีตภรรยาให้การแก้ต่าง แต่ภรรยาไม่ไปศาล ก็ย่อมเป็นสิทธิที่จะไม่ไปศาล และเป็นการเสียสิทธิในการต่อสู้คดี ศาลจะพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีแพ่งโดยสืบพยานของท่านซึ่งเป็นโจทก์ไปแต่เพียงฝ่ายเดียว และมีคำพิพากษาออกคำบังคับและบังคับคดีในที่สุด
 

ความคิดเห็น

แสดงความเห็น

สยามรัฐออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2565 16:03 น. ภูมิภาค

วอน คุณ ภรรยา อย่า พาลูกผม หนี

พ่อค้าบะหมี่เกี๊ยว วอนเมียคนเล็กกลับบ้านหลังหายตัวไปแล้ว 12 วันโดนขี่จักรยานยนต์ พ่วง 4 ชีวิตหายช่วงเช้ามืด เจ้าตัวย้ำพร้อมขอโทษทั้งแม่ยายภรรยาและลูกเล็ก โดยตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ขณะเมียอีกคนโพสต์ โซเชียลตามหาภรรยาด้วยกันให้กลับมาบ้านพร้อมปรับความเข้าใจกัน

 วันที่ 9 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่ นายฉัตรชัย อายุ 38  ปี เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยว อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.3 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้เข้าแจ้งความกับ กับ พ.ต.ต.นพพร หิรัญรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่าเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. เวลาประมาณ 04.25 น. นางสาวกิ๊ฟ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ออกจากบ้านไปโดยหอบ น้องก้าว(นามสมมติ) บุตรชายและน้องเดียร์(นามสมมติ) อายุ 9 เดือนบุตรสาว ซึ่งมีนางวัน(นามสมมติ) อายุ62 ปี แม่ยายซ้อนท้าย 4 คน พากันออกจากบ้านเลขที่ 66/82 ม.4 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี ซึ่งจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 12 วันแล้วโดยไม่ทราบชะตากรรม แต่คาดว่าน่าจะเกิดปัญหาในครอบครัว เนื่องจาก นายฉัตรชัย มีภรรยา 2 คนอาจจะเกิดความน้อยใจในครอบครัว 

วอน คุณ ภรรยา อย่า พาลูกผม หนี

นายฉัตรชัย เผยว่าก่อนหน้าที่นางสาวก้าว จะหายตัวไปตนเองยอมรับว่ามีปัญหากันภายในบ้านแต่ไม่ได้เป็นปัญหารุนแรงอะไรแต่เป็นเรื่องปัญหาเล็กๆน้อยๆ ในครอบครัวซึ่งตอนนี้ตนเองยังไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรซึ่งตอนนี้ทั้ง 4 คนยังติดต่อใครไม่ได้เลยและกลัวจะเกิดอุบัติเหตุตนเองโทรไปก็ปิดเครื่องส่วนเครื่องแม่ยายก็โทรไม่มีคนรับสาย และทุกการติดต่อบนโลกออนไลน์ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้มืดไป 8 ด้านแล้ว

ทั้งนี้ นายฉัตรชัย บอกว่า ก่อนวันที่เขาจะหายกันไปผมคิดว่าช่วงเช้าผมจะขึ้นไปคุยกับแม่ยายอยู่แล้วและจะไปกราบขอโทษและถามว่ามันมีเรื่องอะไรแต่ก็ไม่ทันแล้วซึ่งเขาทุกคนก็น่าจะรู้ว่าผมมีอะไรชอบถามชอบแก้ปัญหาถ้าบอกก่อนเราจะได้แก้ปัญหาแต่นี่เขาไม่ได้บอก ผมออกไปตามหามาแล้วซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมาผมไม่เคยไปไหนกันเราอยู่กันแต่บ้านทำงานอยู่กันในครอบครัว มีที่ที่ผมสงสัยว่าเขาไปคือบ้านแม่ บ้านยายก็ไปตามมาครั้งหนึ่งทางบ้านเขาก็บอกว่าไม่มาผมก็เกรงใจไม่กล้าไปจุกจิก หรือถ้าเขาไม่เอาเราแล้วจะแยกย้ายหรือจะไปอยู่กับใครก็ควรจะมาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่กลับเงียบไปหมดฝากใครก็ได้ที่ติดตามหรือพบเบาะแสของทั้ง 4 คนช่วยบอกผมด้วยผมพร้อมจะขอโทษผมลูกผู้ชาย 

วอน คุณ ภรรยา อย่า พาลูกผม หนี

“ทุกวันนี้ผมอยู่กับลูกเมีย 24 ชม.ผมจะอยู่กัน เกิน 20 ชั่วโมงแน่นอน วันนี้ผมได้แต่นอนฟังเสียงพัดลมคนเดียวที่บ้านก็ไม่มีเสียงอะไร อยากบอกลูก ๆว่าถ้ารู้ว่าพ่อตามหาให้บอกแม่ว่าให้กลับมาบ้าน พ่อซื้อปืนแก็บมารอเล่นกับลูกก็ยังไม่ได้เล่น ส่วนเมียผมถ้ารู้ข่าวหรือรับรู้ช่วยกลับมาบ้านเราเถอะพี่รออยู่ ผมก็พยายามพูดแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่เขาไปจนถึงวันนี้ทุกอย่างก็ยังเงียบอยู่” นายฉัตรชัย กล่าว

วอน คุณ ภรรยา อย่า พาลูกผม หนี

 ขณะที่ภรรยาอีกคน ซึ่งเคยอาศัยอยู่กินด้วยกันได้ใช้สื่อโซเชียลประกาศตามหาภรรยาร่วมครอบครัวให้กลับมาบ้าน โดยมีข้อความทำนองให้กลับมาบ้านเหมือนเดิม ตั้งแต่ภรรยาอีกคนหายไปก็ไม่มีความสุข กลัวสามีคิดสั้นจะไม่ทันดูลูกโต และไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาไม่กลัวคนมองว่าเสแสร้ง และลูกไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ซึ่งเริ่มเป็นประเด็นที่เริ่มมีคนสนใจในเรื่องนี้มากขึ้นแล้ว