นักเรียนจะมีวิธีการเตรียมความพร้อมอย่างไร

Schindler

วิธีเตรียมความพร้อม

การเตรียมความพร้อมคือกุญแจสำคัญ

ใบสมัครของคุณคือโอกาสในการสร้างความประทับใจแรกที่ยืนยาว มันคือโอกาสในการแสดงตัวตนที่แท้จริงของคุณและนำเสสนอตัวคุณต่อว่าที่ผู้ว่าจ้างของคุณ  เอกสารประกอบใบสมัครควรมีจดหมายนำที่ทำให้เกิดแรงจูงใจ เรซูเม่หรือ CV และจดหมายอ้างอิง

จงเตรียมพร้อม

เรียนรู้เกี่ยวกับ Schindler ให้มากเข้าไว้ เราจะสังเกตเห็นคนที่เตรียมตัวมาดีเสมอ  ให้คิดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่คุณมีและเป้าหมายของอาชีพของคุณว่าเป็นไปในทางเดียวกันกับเราหรือไม่ บอกกล่าวให้เราทราบว่าเหตุใดคุณจะประสบความสำเร็จกับองค์กรของเรา 

จงเป็นตัวของตัวเอง

แสดงให้เราเห็นว่าคุณรับแรงกดดันในการสัมภาษณ์ได้โดยการเป็นตัวของตัวเอง หากคุณไม่ทราบคำตอบของคำถามสักหนึ่งคำถาม ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำเป็นว่ารู้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความซื่อสัตย์และจริงใจ ทั้งสองคือค่านิยมของ Schindler และเราจะมองหาสิ่งเหล่านี้ในตัวของพนักงานที่เราจะจ้างงาน 

นำเสนอตัวเอง

คุณได้รับคำเชิญให้มาสัมภาษณ์ ซึ่งอ้างอิงกับคุณสมบัติของคุณ ทว่าคุณอาจจะมีประสบการณ์อันมีคุณค่า ซึ่งไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตำแหน่งนั้น ๆ ก็เป็นได้ ให้ลองหาตัวอย่างทักษะและความรู้อันน่าสนใจที่คุณได้รับจากอาชีพของคุณ ซึ่งมันจะช่วยคุณในการสัมภาษณ์ได้  

การฝึกฝน

คุณสามารถเตรียมความพร้อมด้วยการหาคำถามในการสัมภาษณ์จากอินเทอร์เน็ต ฝึกตอบคำถามเหล่านั้นอย่างมั่นใจต่อหน้ากระจก หรือต่อหน้าเพื่อ หรือญาติของคุณ คุณสามารถถ่ายวิดีดอหรือบันทึกเทปการตอบคำถามของคุณเพื่อตรวจสอบดูได้เช่นกัน ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้คุณปรับปรุง เพื่อให้การสัมภาษณ์เป็นไปได้อย่างราบรื่น 

ถามคำถาม

ในกระบวนการคัดสรรพนักงานเป็นการสนทนาของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นหากคุณต้องการทราบเกี่ยวกับเราและเราทำอะไรอยู่ การสัมภาษณ์เป็นเวลาที่เหมาะในการสอบถาม ด้วยการสอบถามนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การทราบว่า Schindler คือที่ที่ใช่สำหรับความสำเร็จของคุณเท่านั้น แต่มันเป็นการแสดงให้เราเห็นว่าคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเราเช่นกัน 

สร้างความประทับใจ

การมาสำรวจสถานที่การสัมภาษณ์ก่อนวันสัมภาษณ์จริงทำให้คุณไม่มีปัญหาในการหาสถานที่สัมภาษณ์และสามารถมาสัมภาษณ์ได้ตรงเวลา   ให้แต่งกายอย่างเหมาะสมและเป็นมืออาชีพ เราจะตัดสินคุณไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่คุณพูด แต่เป็นวิธีการที่คุณนำเสนอตัวเองด้วยเช่นกัน 

เรซูเม่

เรซูเม่หรือ CV คือโอกาสที่จะได้รับการความสนใจภายใน 30 วินาที ดังนั้นจงใช้มันให้คุ้มค่า เรซูเม่ที่ทำอย่างเป็นมืออาชีพจะทำให้เราทราบเกี่ยวกับคุณ ประสบการณ์ของคุณ และความสนใจของคุณ จงจำไว้ว่ามันคือกุญแจสำคัญในการเปิดประตูการสัมภาษณ์ 

สิ่งที่ต้องมีเมื่อคุณทำเรซูเม่หรือ CV:

• จงพยายามสร้างความประทับใจ
• เรซูเม่ควรจะดลใจทำให้เราเชิญคุณมาสัมภาษณ์
• นึกถึงงานที่คุณสมัครและแสดงทักษะและประสบการณ์ของคุณให้เหมาะสมกับงานนั้น
• แดงทัศนคติคุณผ่านการใช้ตัวอย่างและมีรายละเอียดประกอบ 
• ทำให้เข้าใจง่าย (สูงสุด 2 แผ่น) และจัดเรียงอย่างดี

ข้อมูลหลักที่ต้องมีคือ:

• ข้อมูลส่วนตัวและช่องทางการติดต่อ
• การเกริ่นนำเล็กน้อย ซึ่งคุณต้องพรรณนาพอสังเขปเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอยากนำเสนอให้เห็น 
• ประวัติการศึกษา
• ประสบการณ์การทำงาน 
• ทักษะและความสำเร็จอื่น ๆ 
• งานอดิเรกและความสนใจ        
• ภาษา
• อ้างอิง

จดหมายนำ

ในจดหมายนำ คุณต้องแสดงแรงบันดาลใจในการสมัครอย่างชัดเจน ความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับงานที่คุณสมัครและวิธีที่คุณจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ พยายามสร้างความเชื่อมโยงระหว่างทักษะ ประสบการณ์ ความสามารถ และทักษะที่จำเป็นต้องมีสำหรับงานตำแหน่งที่คุณสนใจ และที่สำคัญ จงสร้างแรงจูงใจ! 

• ใช้จดหมายนำเพื่อแสดงให้เห็นถึงบุคลิกภาพ ความใฝ่รู้ และความสนใจของคุณ      
• แสดงให้เห็นว่าคุณสมบัติของคุณเหมาะสมกับคุณสมบัติของตำแหน่งงานนั้น         
• เน้นความสำเร็จหลักของอาชีพคุณ ซึ่งแสดงภาพความสำเร็จของคุณกับเรา        
• หากคุณเพิ่งสำเร็จการศึกษา บอกกล่าวเราให้ทราบถึงประสบการณ์นอกห้องเรียนของคุณ อย่าเน้นที่ใบทรานสคริปท์ให้มากจนเกินไป         
• ทำให้สั้นและมุ่งเน้นให้เข้าประเด็น 

          เป็นนักศึกษาจบใหม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเผชิญโลกแห่งความรับผิดชอบ การทำงานเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่คนเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าจะเกิดบนกองเงินกองทองไม่ต้องทำอะไรก็มีกินไปตลอดชีวิต คนเราเมื่อทำงานจะได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น ได้เห็นคุณค่าในตัวเอง จากการที่ต้องหาเลี้ยงตนเอง หาเลี้ยงพ่อแม่ตอบแทนที่ท่านเลี้ยงดูเรามาจนถึงวันนี้ ในโลกของการทำงานสิ่งที่นักศึกษาจบใหม่อย่างเราต้องมี คือทักษะความรู้ต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการทำงาน ซึ่งบางอย่างก็ไม่มีในตำราเรียน ต้องศึกษาและเรียนรู้เอาเองจากการทำงานนี่แหละ ถ้าเราเตรียมพร้อมก่อนทำงาน เราก็จะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น

• ไม่หวั่นปัญหาเฉพาะหน้า ในชีวิตเรามักเจออะไรไม่คาดคิดเสมอ ซึ่งทำให้เราต้องเป็นคนหัวไว คิดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที ทำให้งานไม่ต้องสะดุดติดขัดในจุดเล็กๆ น้อยๆ
• รู้จักใช้เครื่องใช้สำนักงาน เมื่อเราเข้าไปทำงานวันแรกๆ เขาจะสอนให้เรารู้จักวิธีใช้เครื่องใช้สำนักงาน เช่น การรับโทรศัพท์ การโอนสาย การใช้เครื่องแฟกซ์ เครื่องพริ้นเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งเราควรทำความคุ้นเคยกับมันให้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นบ่อยๆ ให้เป็นที่รำคาญใจ
• ภาษาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เดี๋ยวนี้โลกเราเป็น globalization เราติดต่อสื่อสารกันไปทั่วโลก การทำธุรกิจก็เช่นกันไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศไทย คนทำงานจึงจำเป็นต้องมีความรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษในการทำงาน แต่ถ้าบริษัทของเรามีเจ้านายที่พูดภาษาอื่น เช่น ฝร่งเศส ญี่ปุ่น จีน อิตาเลียน เราก็ควรที่จะพูดภาษานั้นเป็นด้วย
• โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานผ่านฉลุย ใบสมัครงานทุกที่เดี๋ยวนี้ต้องให้ระบุทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งคนรุ่นใหม่จะคุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์กันอยู่แล้ว โดยเฉพาะโปรแกรมพื้นฐานที่ควรจะต้องอยู่ในระดับใช้งานได้ดี เช่น ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ เวิร์ด เอกเซล พาวเวอร์พอยต์ การใช้อินเทอร์เน็ต และการรับส่งอีเมล เป็นต้น
• รู้จักนำความรู้มาประยุกต์ใช้ เราเรียนมาทางด้านไหนก็จะมีทักษะและความสามารถในด้านนั้นเป็นพิเศษ รู้จักนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน แสดงฝีมือให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่า เราเป็นตัวจริง มีความรู้จริง และใช้งานได้จริง ไม่ใช่เรียนจบมาได้เกรดสวยหรู แต่ทำงานไม่เป็นเลย
• มีความรู้เรื่องการบริหารจัดการ ถึงเราจะไม่ได้จบการบริหารธุรกิจมาโดยตรง แต่ก็ควรมีความรู้ไว้บ้าง โดยการหาหนังสือมาศึกษา เดี๋ยวนี้หนังสือเกี่ยวกับการบริหารมีขายเต็มไปหมด และยังอ่านเข้าใจง่ายอีกด้วย เราจะได้เรียนรู้ว่าธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเขามีระบบการจัดการอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้คุณเรียนรู้การทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น
• มีวิธีจัดการกับข้อมูล เวลามีงานเยอะๆ ที่รอคิวทำ หรืองานที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรจัดเก็บให้เรียบร้อย เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการค้นหา ถ้าเจ้านายเรียกหาเอกสารอะไรก็จะสามารถหยิบจับได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรื้อต้องค้นให้วุ่นวาย
• รู้จักใช้เงิน คนเราส่วนใหญ่เมื่อเริ่มทำงานก็จะเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น ว่าต้องเหนื่อยยากลำบากแค่ไหนกว่าจะได้เงินมาใช้ แต่บางคนไม่คิดอย่างนั้น แทนที่จะเก็บออมกลับคิดว่า ทำงานเหนื่อยมาทั้งเดือนต้องใช้ชีวิตให้เต็มที่ ใช้เงินให้คุ้มค่ากับความเหนื่อยยาก อยากได้ก็ไรก็ซื้อ อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไป จึงไม่มีเงินเหลือเก็บ ซ้ำเดือนยังชักหน้าไม่ถึงหลัง เที่ยวหยิบยืมคนนั้น คนนี้ไปทั่ว อย่างนี้เพื่อนร่วมงานคงไม่ปลี้มเท่าไหร่
  
• มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่มีแต่ความรู้เท่านั้น แต่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีด้วย บริษัทหลายแห่งคัดเลือกแต่คนเก่งๆ เข้าไปทำงาน แต่เมื่อคนเก่งๆ อยู่ร่วมกันและไม่มีใครยอมเข้าหาใครก่อน ก็จะเกิดบรรยากาศการทำงานแบบตัวใครตัวมัน ไม่สมัครสมานสามัคคีกัน กลายเป็นความแตกแยกในองค์กร แต่หากเราเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เข้าหาใครก็มีแต่คนเอ็นดู การทำงานร่วมกับผู้อื่นก็จะง่ายขึ้น

          เตรียมตัวให้พร้อมและแสดงความสามารถให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด เราเชื่อว่าการเตรียมตัวที่ดีจะนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

TOEIC กับการทำงานจริงเกี่ยวข้องกันอย่างไร

ทักษะของคนทำงานมืออาชีพ