7 วิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คแบบง่าย ๆ รู้สเปคทั้งเครื่องในไม่กี่ขั้นตอนวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คด้วยฟังก์ชั่นภายในระบบปฏิบัติการ Windows, macOS หรือจะใช้โปรแกรมต่าง ๆ ที่มีโปรแกรมเมอร์พัฒนามันขึ้นมาให้โหลดไปใช้งานได้ฟรีก็ช่วยให้เราเช็คสเปคได้ง่ายขึ้น ตอนจะอัพเกรดสเปคของพีซีหรือโน๊ตบุ๊คก็ช่วยให้เราเลือกของมาอัพเกรดได้ง่าย ไม่ต้องเสียเงินซื้อของผิดสเปคมาอัพเกรดฟรีแน่นอน โดยทั้ง 7 วิธีที่เลือกมาแนะนำในบทความนี้ จะรวมวิธีใช้ฟังก์ชั่นของ Windows 10 และ macOS เอาไว้ให้ในบทความนี้เลย และโปรแกรมสำหรับเช็คสเปคแบบเจาะลึกให้ใช้ด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับ macOS ในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนมาใช้ซีพียู Apple M1 แล้ว ถึงจะเช็คสเปคได้ก็ตามแต่ก็คงจะอัพเกรดสเปคไม่ได้อย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะทาง Apple เลือกฝังชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมเอาไว้บนเมนบอร์ดเป็นหลัก เพื่อให้ MacBook รุ่นใหม่ ๆ ทำงานได้เร็วกว่าเดิม แต่ใจความของการเช็คสเปคนั้น เพื่อให้เรารู้ขีดจำกัดของตัวเครื่องเป็นหลัก ว่าสเปคเครื่องของเราแรงในระดับไหนสามารถใช้ทำงานกับโปรแกรมระดับไหนได้บ้าง 7 วิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คด้วยตัวเอง ทำได้ง่ายไม่กี่ขั้นตอนวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ด้วยฟีเจอร์ในเครื่องกับโปรแกรมเสริมที่จำเป็นและควรโหลดมาใช้ทั้ง 7 วิธี แบ่งออกเป็นฟังก์ชั่นและคำสั่งในเครื่อง 5 วิธีและอีก 2 โปรแกรมพร้อมลิ้งค์ดาวน์โหลดแบบครบเครื่อง โดยทั้ง 7 วิธีได้แก่
1. System Information เช็คทุกรายละเอียดในเครื่องแบบครบ ๆวิธีการเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คและพีซีของเราด้วยการดูผ่านทาง System Information ของ Windows หรือ About This Mac ของระบบปฏิบัติการ macOS ได้ด้วย โดยฝั่ง Windows สามารถเปิดได้ 2 วิธีคือ
โดยในหน้า System Information จะรวมรายสเปคทั้งหมดของคอมเครื่องนั้น ทั้งเวอร์ชั่นของ Windows, ชื่อโน๊ตบุ๊คของเรา, รุ่นและสเปคของซีพียูว่ามีกี่คอร์กี่เธรดที่หัวข้อ Processor, ปริมาณ RAM ในเครื่อง ฯลฯ และข้อดีของการดูใน System Information จะเห็นเวอร์ชั่นไบออสของโน๊ตบุ๊คด้วย นอกจากนี้ยังเปิดหัวข้อย่อยเพื่อดูสเปคส่วนอื่น ๆ ของโน๊ตบุ๊คได้ด้วย ส่วนของการ์ดจอในโน๊ตบุ๊คไม่ได้อยู่รวมหน้าเดียวกับหน้า System Summary หลัก แต่แยกลงไปในหัวข้อย่อย Components > Multimedia > Display โดยหัวข้อหลัก ๆ ที่ System Information โชว์รายละเอียดเกี่ยวสเปคเกี่ยวกับการ์ดจอ ได้แก่
ส่วนวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊ค Apple ให้กดที่ไอคอนรูป Apple ตรงมุมบนซ้ายของหน้าจอแล้วเลือก About This Mac แล้วตัวเครื่องจะแสดงสเปคทั้งหมดออกมาแล้วแยกออกเป็นแท็บย่อย ๆ ได้แก่
2. About ของ Windows 10 ก็ดูได้เหมือนกันหัวข้อ About ของ Windows 10 ก็เป็นอีกวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คเช่นกัน และเปิดได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่ม Windows แล้วพิมพ์คำว่า About เข้าไปก่อนกด Enter ก็สามารถเปิดฟังก์ชั่นนี้ขึ้นมาได้ทันที แต่จะให้รายละเอียดในส่วนอื่นแทน ได้แก่
นอกจากนี้ข้อดีของการดูใน About จะรู้ข้อมูลของ Windows ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องได้ด้วย โดยแต่ละหัวข้อจะบอกรายละเอียดดังนี้
ซึ่งจะเห็นว่าหน้าต่าง About ก็เป็นวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คได้ละเอียดเช่นกัน แค่แสดงรายละเอียดส่วนอื่นของ Windows ให้เราเท่านั้น ซึ่งถ้าต้องการดูรายละเอียดรวม ๆ ของโน๊ตบุ๊คจะดูผ่านทางนี้ก็ได้ 3. Device Manager ดูสเปคเครื่องไปพร้อมกับไดรเวอร์ในเครื่องDevice Manager ที่หลาย ๆ คนอาจจะเอาไว้ดูว่า Driver ส่วนไหนของตัวเครื่องหายไปบ้าง แต่ก็เป็นวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คเช่นกัน และได้รายละเอียดของชิ้นส่วนที่ติดตั้งไว้ในเครื่องค่อนข้างครบเครื่องกว่าการดูผ่านทาง System Information หรือ About เสียอีก โดยส่วนที่แนะนำให้เช็คโฟกัสจะมีดังนี้
ด้านของแบตเตอรี่ในเครื่องก็สามารถเปิดดูในหัวข้อนี้ได้ แต่บอกรายละเอีดยอะไรนัก ซึ่งถ้าจะดูรายละเอียดด้านแบตเตอรี่แนะนำให้ดูผ่านทางคำสั่ง powercfg แทนจะละเอียดกว่า 4. DirectX Diagnostic Tool ก็เช็คสเปคเครื่องได้ละเอียดเหมือนกันหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่า DirectX นอกจากเอาไว้ใช้ตอนเล่นเกมแล้ว ก็เป็นอีกวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คและพีซีของเราได้เหมือนกัน ซึ่งจะให้รายละเอียดเน้นเรื่องการ์ดจอเป็นหลัก สำหรับวิธีการเปิดให้เรากดปุ่ม Windows บนคีย์บอร์ดแล้วพิมพ์คำว่า dxdiag กด Enter แล้วเครื่องจะรันหน้าต่าง DirectX Diagnostic Tool ขึ้นมาให้ โดยในหน้าโปรแกรม DirectX Diagnostic Tool จะแสดงข้อมูลตัวเครื่องทั้งหมดที่หน้า System ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คแบรนด์ไหน, ใช้ Windows เวอร์ชั่นใด, ซีพียูรุ่นไหน, มีแรมกี่ GB ในเครื่อง ส่วนบรรทัดสุดท้ายจะบอกเวอร์ชั่นของ DirectX ที่ติดตั้งในเครื่องของเรา ส่วนการแสดงผล แท็บ Display จะเอาไว้แสดงข้อมูลการ์ดจอออนบอร์ดในเครื่อง ในตัวอย่างจะเป็น Intel UHD Graphics 620 ส่วนหน้า Render จะมีเฉพาะเครื่องที่มีการ์ดจอแยกเท่านั้น เช่นในตัวอย่างจะเป็นการ์ดจอ AMD Radeon 535 และบอกปริมาณแรมการ์ดจอในหัวข้อ Display Memory (VRAM) ว่ามีกี่ MB เช่นในภาพมี 2038 MB หรือ 2GB 5. CPU-Z โปรแกรมเช็คสเปคซีพียู, แรมในเครื่องยอดนิยมส่วนของโปรแกรมแยกสำหรับเช็ครายละเอียดของซีพียูโดยเฉพาะ แนะนำให้ ดาวน์โหลด CPU-Z มาใช้งานจะแสดงข้อมูลได้ละเอียดกว่าการเปิดฟังก์ชั่นต่าง ๆ ใน Windows 10 ขึ้นมาดู ซึ่งนอกจากชื่อรุ่นซีพียูแล้ว CPU-Z จะมีข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม CPU, ขนาดนาโนเมตรของทรานซิสเตอร์, ชุดคำสั่งในตัวซีพียูที่หัวข้อ Instructions ฯลฯ รวมไปถึง L1-L3 Cache อีกด้วย นอกจากซีพียู ถ้าคอมเครื่องนั้นเป็นคอมประกอบเองก็ดูรุ่นของซีพียูได้ที่แท็บ Mainboard, จำนวนแรมและบัสแรมได้ในหน้า Memory และแสดงค่า CL ได้ด้วย ส่วนของ SPD จะบอกรุ่นของแรมว่าเป็น DDR ไหน บัสกี่ MHz รวมทั้งผู้ผลิตแรมและความจุของแรมได้ด้วย และถ้าเราเปิดดูหน้า Memory แล้วเห็นจำนวนแรม แต่ที่หน้า SPD เมื่อกดตรง Slot #1-#4 แล้วไม่เห็นว่าเป็นแรมรุ่นไหน ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นแรมฝังติดกับเมนบอร์ด ส่วนหน้า Graphics จะแสดงรายละเอียดคร่าว ๆ ของการ์ดจอในเครื่องว่ามีการ์ดจอออนบอร์ดกับการ์ดจอแยกรุ่นไหนบ้าง 6. GPU-Z โปรแกรมสำหรับเช็คสเปคการ์ดจอในเครื่องถ้า CPU-Z เอาไว้เช็คสเปคของซีพียูโดยละเอียด โปรแกรม GPU-Z เองก็เป็นโปรแกรมสำหรับเช็คสเปคการ์ดจอพีซีและโน๊ตบุ๊คได้เช่นกัน โดยแสดงรายละเอียดของการ์ดจอออนบอร์ดและแยกได้ครบถ้วน โดยเลือกที่กล่อง Drop down box ที่เขียนชื่อการ์ดจออยู่ด้านล่างแล้วเลือกการ์ดจอรุ่นที่ต้องการดูข้อมูลได้เลย สำหรับคนที่อยากดาวน์โหลด GPU-Z สามารถคลิกได้ที่นี่ ตัวโปรแกรม GPU-Z ก็จะเป็นโปรแกรมที่ให้รายละเอียดของการ์ดจอรุ่นนั้น ๆ ได้ละเอียดไม่แพ้กับตัว CPU-Z โดยจะโชว์ทั้งชื่อรุ่นการ์ดจอ, สถาปัตยกรรมของการ์ดจอรุ่นนั้น ๆ รวมั้งแสดงปีของสถาปัตยกรรมด้วยในช่อง Release Date, แสดงเวอร์ชั่นของ DirectX และอื่น ๆ ได้ละเอียดมาก ส่วนหน้า Sensors จะเอาไว้เช็คการทำงานของการ์ดจอว่าตอนนี้ GPU Clock, Memory Clock ทำงานอยู่กี่ MHz และดูอุณหภูมิของการ์ดจอจากแท็บนี้ได้ด้วย 7. เช็คแบตเตอรี่ด้วยคำสั่งใน Windows PowerShellส่วนใครที่ใช้โน๊ตบุ๊คมาสักพักหนึ่งแล้วไม่แน่ใจว่าแบตเตอรี่ในเครื่องมีความจุกี่ mAh หรือแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปแล้วหรือยัง ก็สามารใช้คำสั่ง powercfg เพื่อเช็คได้ด้วย ซึ่งผู้เขียนเคยพูดถึงไปแล้วในบทความ “เปลี่ยนแบตโน๊ตบุ๊คเมื่อไหร่ดี แบต 1-2 ปี ควรเปลี่ยนหรือยัง? ดูได้ทั้ง Windows และ MacOS” ส่วนวิธีการเช็คแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คว่าสภาพของแบตเตอรี่เป็นอย่างไร เสื่อมสภาพแล้วหรือยังใช้งานได้ดีอยู่ ต้องเปิด Windows PowerShell ขึ้นมาด้วยสิทธิ์ Administrator แล้วพิมพ์คำสั่ง
ถึงจะสั่งให้ตัวเครื่องเช็คสภาพแล้วสร้างรายงานสภาพแบตเตอรี่เป็นไฟล์ html ซึ่งเปิดอ่านได้ในเบราเซอร์ในเครื่อง โดยไฟล์จะอยู่ในไดรฟ์ C:\ ใช้ชื่อไฟล์ battery-report มีโลโก้เป็นรูปเว็บเบราเซอร์ตัวหลักของเครื่อง เมื่อคลิกเปิดขึ้นมา จะเห็นข้อมูลแบตเตอรี่ที่เบราเซอร์ทำขึ้นมาให้ ซึ่งจะแสดงรายละเอียดแบตเตอรี่และพฤติกรรมการใช้งานของเราแยกโดยละเอียด ส่วนรายละเอียดแต่ละส่วนในรายงาน Battery report นั้นพูดถึงอะไรบ้างสามารถอ่านได้ในบทความเปลี่ยนแบตโน๊ตบุ๊คที่ผู้เขียนทำลิ้งค์เอาไว้ข้างบนได้เลย สรุป – 7 วิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คเอาไว้ดูอะไรบ้างจะเห็นว่าวิธีเช็คสเปคโน๊ตบุ๊คนั้นมีอยู่ถึง 7 แบบด้วยกัน ซึ่งดูได้ตั้งแต่ซีพียูไปจนเวอร์ชั่น BIOS กับสภาพการใช้งานแบตเตอรี่ในเครื่องของเราได้ด้วย โดยวิธีการเช็คจะมีคำสั่งดังนี้
ซึ่งหลังจากเช็คสเปคของโน๊ตบุ๊คเสร็จแล้ว เราก็วางแผนต่อได้ว่าถ้าเราจะใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ต่ออีก 1-2 ปี แล้วควรจะอัพเกรดสเปคส่วนไหนเพิ่ม หรือถ้าเครื่องเก่ามากแล้วควรเปลี่ยนเครื่องเป็นรุ่นใหม่ขึ้นจะได้ทำงานได้ดีขึ้นแทน สำหรับการตัดสินใจอัพเกรดหรือเปลี่ยนเครื่องก็ควรอิงตามพฤติกรรมการใช้งานและการตัดสินใจของผู้ใช้แต่ละคน ว่าโปรแกรมที่ใช้งานบ่อย ๆ เมื่ออัพเดทแพทช์แล้วเครื่องเราสามารถรันได้ลื่นหรืออืดลง ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าถ้าเครื่องช้าแล้วก็ควรเปลี่ยนไปเลยไม่ควรเสียดายมากนัก เพราะถ้าเครื่องทำงานได้เร็วขึ้นก็ทำให้เราทำงานเสร็จเร็วกว่าเดิมและมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้นนั่นเอง บทความที่เกี่ยวข้อง
|