พี่ทุยได้ยินหลาย ๆ คนที่กำลัง “ผ่อนบ้าน” หรือคอนโด มาบ่นอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่จะผ่อนบ้านหมดสักที อยากผ่อนบ้านหมดไว ๆ มีวิธีแนะนำมั้ย ถ้าพี่ทุยบอกไปว่า “ขายไตไปโปะเลย จะได้หมดไว ๆ” พี่ทุยคงโดนเพื่อนเขวี้ยงหนามทุเรียนใส่แน่นอน (ฮ่า) Show
แต่ความเป็นจริงแล้ว พี่ทุยมีเทคนิคที่จะช่วยทำให้โปะได้เร็วขึ้น เพื่อที่จะทำให้เราผ่อนบ้านหรือคอนโดให้หมดไวแบบรวดเร็วทันใจ เทคนิคที่ 1 : โปะเพิ่มทุก ๆ เดือนก่อนซื้อบ้านหรือคอนโดทุกครั้ง พี่ทุยมักจะแนะนำเสมอว่า ถ้าอยากผ่อนบ้านให้หมดไว ๆ ต้องโปะไปอีกเท่าตัวเสมอถ้าทำได้ เช่น เราจะต้องผ่อน 12,000 บาท/เดือน ก็จ่ายธนาคารไปเป็น 24,000 บาทไปเลย เทคนิคนี้จะช่วยทำให้เราผ่อนบ้านหมดภายใน 8 – 9 ปีเท่านั้น จากเดิม 30 ปี การโปะเพิ่ม 1 เท่าจะช่วยทำให้เราผ่อนบ้านเสร็จเร็วได้มากกว่า 70% พี่ทุยว่าเจ๋งมาก ๆ เลยนะ ดังนั้น ข้อควรระวังในการซื้อบ้านหรือคอนโดอย่างหนึ่ง ก็คือ เราควรเลือกบ้านให้เหมาะกับสถานะการเงินของเรา ไม่ควรเลือกบ้านที่ราคาสูงเกินว่าที่จะผ่อนไหว แต่ถ้าใครพลาดตรงนี้ไปแล้ว พี่ทุยบอกเสมอว่ายาผีบอกสำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องเงิน คือ การหารายได้เพิ่ม! คำนี้พูดง่ายแต่ทำยากสักหน่อยแต่ไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับตัวเราคนเดียวเท่านั้น เพราะถ้าเรามองจากตัวอย่างในการผ่อนช่วงแรก ๆ เงินที่ผ่อนไป 12,000 บาท กลายเป็นดอกเบี้ยไปแล้วประมาณ 10,000 บาท เหลือไปลดเงินต้นแค่ 2,000 บาทเอง ซึ่งถ้าเราโปะเงินเพิ่มไป 2 เท่าหรือ 24,000 บาท ส่วนนี้จะไปช่วยลดเงินต้นลง และช่วยลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนถัด ๆ ไปลงตามไปด้วย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดระยะเวลาการผ่อนจาก 30 ปี เหลือแค่ 8-9 ปีเท่านั้น แต่ถ้าใครคิดว่าวิธีนี้มันดูทรมานเกินไปหรืออยากผ่อนบ้านแบบมีความสุข ไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ก็อาจจะไม่ต้องโปะเยอะขนาดที่พี่ทุยบอกไปก็ได้ แต่อาจจะโปะเพิ่มขึ้น 10 – 20% ของเงินผ่อนไปทุกเดือนแทน เช่น โปะเพิ่ม 10% ก็ผ่อนเดือนละ 13,200 บาท และถ้าสิ้นปีมีโบนัส ก็อาจจะเอาเงินก้อนมาโปะไปบางส่วน ก็จะช่วยร่นระยะเวลาในการผ่อนบ้านของเราได้เช่นกัน เทคนิคที่ 2 : รีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือขอปรับอัตราดอกเบี้ยผ่อนบ้านหรือคอนโดกับธนาคารเดิม (Retention)อธิบายการรีไฟแนนซ์ง่าย ๆ คือ การไปกู้เงินจากธนาคารอื่นที่จ่ายดอกเบี้ยถูกกว่ามาจ่ายคืนธนาคารเดิมที่เคยกู้ เพราะเมื่อเราผ่อนครบ 3 ปี เราจะหมดโปรโมชันดอกเบี้ยต่ำกับธนาคารแล้ว ในปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะลอยตัวขึ้นตาม MRR แต่เราจะทำรีไฟแนนซ์ได้ตอนไหนอย่าลืมดูเงื่อนไขสัญญาที่ทำกับธนาคารเดิมนะ ส่วนใหญ่จะทำได้ตอนหลัง 3 ปี หากเรารีไฟแนนซ์ก่อนระยะเวลาที่กำหนดในสัญญากู้ก็จะเสียค่าปรับ แบบนี้ถือว่าไม่คุ้มเลยล่ะ ทีนี้ตอนเราหาธนาคารใหม่ก็ทำเหมือนเดิม เหมือนตอนที่กู้ซื้อบ้านครั้งแรก คือ หาโปรโมชันจากแต่ละธนาคารมาเปรียบเทียบดูว่าธนาคารไหนดอกเบี้ยถูกที่สุด และถูกกว่าดอกเบี้ยที่เราจ่ายอยู่ปัจจุบัน เราก็ย้ายไปกู้กับธนาคารนั้น แต่อย่าลืมดูเงื่อนไขค่าธรรมเนียมและค่าจดจำนองด้วยว่าย้ายไปแล้วจ่ายน้อยลงจริงหรือไม่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่พี่ทุยอยากแนะนำสำหรับคนที่ผ่อนบ้านหรือคอนโด คือพยายามสร้างประวัติการผ่อนที่ดีไว้เสมอ เพราะหากเรามีประวัติการผ่อนดีอย่างน้อย 3 ปี เราสามารถเข้าไปคุยเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้จ่ายถูกลงได้เลย โดยเราไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ เสียค่าธรรมเนียมค่าจดจำนองอีกครั้งกับธนาคารอื่น เราสามารถที่จะคุยขอลดดอกเบี้ยได้ ถ้าคุยดี ๆ ไม่แน่อาจจะได้ดอกเบี้ยถูกกว่าย้ายไปรีไฟแนนซ์ธนาคารอื่นอีกด้วยนะ ยิ่งเครดิตเราดีเท่าไหร่ เราก็สามารถที่จะต่อรองได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เทคนิคที่ 3 : “ผ่อนบ้าน” ควรจ่ายชำระให้ตรงเวลาเสมออีกหนึ่งเรื่องที่หลาย ๆ คนมักจะมองข้ามไปก็อื่นการจ่ายให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างเครดิตที่ดี จะช่วยเวลาที่ขอรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชันกับธนาคารเดิม ถ้าเขาเห็นว่าเราจ่ายหนี้ตรงมาโดยตลอด การเสนอดอกเบี้ยมาให้กับเราก็มีโอกาสที่จะได้รับข้อเสมอที่ดีมากขึ้น ยิ่งเรามีเครดิตที่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอำนาจในการต่อรองที่มากขึ้น เป็นอย่างไรกันบ้าง 3 เทคนิคที่พี่ทุยแนะนำ ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลยใช่ไหม สิ่งสำคัญคือเราต้องมีวินัยทางการเงินอยู่ไม่ขาด เมื่อถึงเวลาชำระก็ต้องชำระให้ครบ ระหว่างเดือนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง มีแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้ “ผ่อนบ้าน” และควรมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อที่เราจะได้มีบ้านในฝันแบบไม่มีภาระเกินตัว รูปบน ของ desktop “หนี้บ้าน 30 ปี” เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ผ่อนกันอย่างยาวนาน ทำยังไงนะเราถึงจะปลดหนี้ได้ไวขึ้น จะได้มีเงินไปทำอย่างอื่นได้ซะที แล้วรู้ไหมคะ? ว่าหากเราตัดสินใจผ่อนกับธนาคารถึง 30 ปี จริงๆ นะ ราคาบ้านหลังนั้นที่คุณซื้อมันเกือบจะเท่านึงเลยทีเดียว จากที่ซื้อบ้าน 5 ล้านบาท ลองบวกดอกเบี้ยดูสิคะ ราคามันเกือบเป็น 10 ล้านบาท เลยนะ วันนี้เรารวม “เทคนิค โปะบ้าน 3 วิธี” ง่ายๆ ที่ถ้าทำทั้ง 3 วิธีนี้แล้วรับประกันได้เลยว่า เราจะหมดภาระหนี้กับธนาคารเร็วขึ้น ความฝันที่จะผ่อนธนาคารจาก 30 ปี ให้เหลือ 15 ปี อยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ มาดู 3 วิธีที่จะช่วยให้ทุกคนหมดภาระนี้บ้านได้เร็วขึ้นกันเลยค่ะ
1. โปะเงินต้นเนื่องจากการผ่อนบ้านเป็นการ “ผ่อนแบบลดต้นลดดอก”การโปะจึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถลดเงินต้นได้มากที่สุดและเมื่อเงินต้นลด ดอกเบี้ยที่จะตามมาก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน หรือพูดง่ายๆ ว่ายิ่งผ่อนมากเท่าไหร่จึงยิ่งหมดไวเท่านั้น และถ้าเรายิ่งผ่อนในช่วงเวลาที่ดอกเบี้ยถูกด้วยนะ เงินที่เราจ่ายไปก็จะไปช่วยลดเงินต้นได้มากขึ้นค่ะ สำหรับมือใหม่ที่สงสัยว่า “ผ่อนแบบลดต้นลดดอก” เป็นอย่างไร ไปดูตัวอย่างของคุณเฮเคียวกันเลยค่ะ
เรามาลองคิดกันเล่นๆ ดีกว่าว่า ถ้าเราผ่อนบ้านโดยไม่โปะเลย เงินที่เราต้องจ่ายไปกับค่าบ้านทั้งหมดจะเป็นราคาเท่าไหร่ คำนวณให้ดูว่าถ้าจ่ายตามแผนปกติของธนาคารที่ 30 ปี คุณเฮเคียวจะต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านไปทั้งหมด เท่ากับ 9,467,673 บาท ประมาณเท่านึงของราคาบ้านเลยนะคะ เราจึงแนะนำว่าหากใครอยากผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆ เนี่ย ก็ใช้วิธีโปะช่วยได้นะคะ แล้วโปะกี่ % จะช่วยลดภาระได้เท่าไหร่บ้าง เราคำนวณมาให้แล้ว ไปดูกันเลยค่ะ เราลองคำนวณการโปะเพิ่มออกมาให้ดูตั้งแต่ 10% – 50% นะคะ จากแบบผ่อนปกติ ถ้าไม่โปะเลย จะใช้เวลาผ่อน 30 ปี ต้องจ่ายเงินทั้งหมด 9,467,673 บาท
2. Retention or Refinanceวิธี Retention และ Refinance มีเป้าหมายเพื่อลดดอกเบี้ยในการผ่อนบ้านเหมือนกัน จะต่างกันแค่ Retention เป็นการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้เราปัจจุบัน ส่วน Refinance เป็นการขอย้ายไปผ่อนกับธนาคารอื่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารเดิมของเรา ซึ่งทั้ง 2 แบบก็มีข้อดีข้อเสีย ดังนี้
*ค่าธรรมเนียมสำหรับการ Refinance ก็จะมี
**แต่ส่วนใหญ่ธนาคารจะมีโปรโมชั่น ฟรีค่าประเมินราคา, ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น ตัวอย่างของคุณเฮเคียวคนดีคนเดิม ผ่อนบ้านกับธนาคาร A ยอดเงินต้นอยู่ที่ 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1-3 ปีแรก อยู่ที่ 3% ต่อปีคงที่ จากนั้นปีที่ 4 เป็นต้นไปอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็น 5.5% คงที่ คุณเฮเคียวจะต้องจ่ายเงินผ่อนทั้งหมด 30 ปีอยู่ที่ 9,467,673 บาท แต่ถ้าคุณเฮเคียวเลือก Refinance กับธนาคารใหม่ สมมติว่าต่อรองได้อัตราดอกเบี้ยเขยิบขึ้นมาจากเดิมนิดหน่อยที่ 4% ต่อปีคงที่ แล้วเมื่อครบทุกๆ 3 ปี ก็ทำการ Refinance ใหม่ จะช่วยให้คุณเฮเคียวผ่อนบ้านได้หมดภายใน 23 ปี 9 เดือน และประหยัดเงินไปได้ 1,963,362 บาท เลยนะคะ อย่างไรก็ตามก็จะมีค่าธรรมเนียมในการ Refinance ด้วย ก็ลองเทียบดูว่าจะคุ้มกันไหม ซึ่งต้องดูเป็นทีละกรณีไปนะคะ 3. จ่ายหนี้ให้ตรงเวลาข้อนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนเหมือนแบบวิธีในข้อ 1 และ 2 นะคะ แต่เป็นวิธีที่จะทำให้เราไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มอีก ก็จ่ายให้ตรงเวลาไปนะคะ เราจะได้มีเงินเหลือมาโปะเงินต้นได้เยอะๆ แถมการจ่ายหนี้ให้ตรงเวลาเนี่ย ก็จะช่วยให้เรามีเครดิต มีประวัติการจ่ายเงินที่ดี ทำให้เรามีโอกาสต่อรองเวลาที่ต้องการ Refinance หรือ Retention ได้ง่ายด้วยค่ะ สำหรับบทความนี้เรามีตัวอย่างของคุณยูจินที่ใช้ทั้ง 3 วิธีควบคู่กัน คือทั้งโปะเพิ่ม, Refinance ทุกๆ 3 ปี และจ่ายหนี้ให้ตรงเวลา ทำให้สามารถปลดภาระหนี้บ้านได้ภายใน 15 ปีค่ะ ตัวอย่างของคุณยูจิน กู้ธนาคารซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท ธนาคารให้ผ่อนงวดละ 26,350 บาท ซึ่งคุณยูจินตัดสินใจโปะเพิ่มงวดละ 9,650 บาท (ประมาณ 27%) รวมเป็นเงินผ่อนงวดละ 36,000 บาท ใน 1-3 ปีแรกธนาคารให้อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปีคงที่ ผ่อนมา 3 ปี คุณยูจินได้ทำการ Refinance กับธนาคารใหม่ ได้อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปีคงที่ และเมื่อครบ 3 ปีก็จะ Refinance ใหม่เรื่อยๆ ซึ่งคุณยูจินบอกว่าเธอจ่ายหนี้ตรงตามเวลาตลอดเลยนะคะ ทำให้เธอสามารถทำเรื่อง Refinance ได้อัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากได้อยู่ตลอด คุณยูจินสามารถหมดภาระหนี้บ้าน 5 ล้านภายใน 15 ปี โดยเสียค่าผ่อนบ้านทั้งหมด 6,457,045 บาท และมีค่าธรรมเนียมในการ Refinance ประมาณ 125,911 บาท (เป็นยอดที่ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าทำประกัน MRTA และค่าประกันอัคคีภัย เพราะแล้วแต่เรทของธนาคารนั้นๆ) รวมทั้งหมดเป็นราคาบ้านที่แท้จริง คือ 6,582,956 บาท เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 3 วิธีดีๆ ที่จะช่วยให้หมดภาระหนี้บ้านได้รวดเร็ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ผู้ที่กำลังหาวิธีผ่อนบ้านให้ประหยัดดอกเบี้ยมากที่สุด และอยากปิดหนี้บ้านให้ได้ไวที่สุด และหากผู้อ่านคนไหนที่เคยมีประสบการณ์ในการโปะบ้านและ Refinance ก็สามารถมาแชร์กันได้นะคะ ^^ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ได้แน่นอนค่ะ ผ่อนบ้านกันยังไง8 เทคนิคผ่อนบ้านให้หมดไวในชาตินี้ ใครๆ ก็ทำได้. 1.ผ่อนเกินค่างวดทุกงวด หรือบ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ... . 2.มีความสม่ำเสมอในการผ่อน อย่าดึงหนี้นาน ... . 3. มีเงินก้อนต้องโปะบ้าน ... . 4.รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance Home) ช่วยได้ ... . 5.เลือกรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้านกับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ. ผ่อนบ้านยังไงให้หมดเร็ววิธีการหนึ่งที่จะช่วยทำให้ภาระดอกเบี้ยลดลงและทำให้เราปิดหนี้ได้เร็วมากขึ้นนั้นก็คือ "การโปะ" หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการชำระคืนในแต่เดือนให้มากกว่าเงินงวดปกติ หรือกรณีนี้ คือ มากกว่า 6,000 บาทต่อเดือน เพราะเงินที่จ่ายหรือโปะเพิ่มเข้าไปนั้นจะไปหักเงินต้น 100% ก็จะทำให้ยอดหนี้เราลดลงเร็วมากขึ้น แล้วก็จะทำให้เราโดนคิดดอกเบี้ย ...
ผ่อนบ้านโปะได้ไหมโปะเงินต้น คือ การจ่ายค่าผ่อนบ้านให้มากขึ้นในทุกๆ เดือน หรือจะจ่ายปีละ 1-2 ครั้งในช่วงโบนัสออกก็ได้ เช่น หากธนาคารกำหนดให้ผ่อนเดือนละ 20,000 บาท เราก็โปะเพิ่มลงไป 10-50% เอาตามที่เราจ่ายไหวนะคะ จากที่ลองคำนวณดูหากเราโปะเพิ่มทุกๆ เดือน เดือนละ 50% ถ้าจากเดิมเคยผ่อน 20,000 บาทก็เพิ่มเป็น 30,000 บาท จะสามารถลดเวลาผ่อนบ้าน ...
กู้เงินซื้อบ้านอย่างไรให้ผ่านเทคนิคในการขอกู้สินเชื่อให้ผ่าน. 1. ประเมินรายได้ ... . 2. ควรมีเงินเก็บ ... . 3. สร้างประวัติทางการเงินให้สวย ... . 4. สร้างประวัติทางการเงินให้ดี ... . 5. เคลียร์หนี้ให้หมด ... . 6. หลีกเลี่ยงการมีประวัติค้างชำระ ... . 7. ห้ามเผลอไปผ่อนสินค้าก่อนกู้ ... . 8. เตรียมเอกสารให้พร้อม. |