วิธี การ ดูแล รักษา ห้อง นอน

ห้องสะอาดๆ ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสงบเวลาอยู่บ้าน และทำให้พ่อแม่หรือรูมเมตไม่ต้องมาคอยบ่นให้คุณทำความสะอาดห้องด้วย! แม้ว่าการรักษาห้องให้สะอาดอาจดูเป็นงานช้าง แต่การสร้างนิสัยที่ถูกต้องจะทำให้การรักษาความสะอาดของห้องรวดเร็วและง่ายขึ้น

1. 

   1

   เก็บเสื้อผ้าบนพื้นและบนเตียง. เสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้น เตียง และพาดไว้ที่เก้าอี้ทำให้ห้องสะอาดๆ ดูสกปรกได้

   เก็บเสื้อผ้าจากพื้นแล้วแยกออกเป็นผ้าที่ใส่แล้วกับผ้าที่ยังไม่ได้ใส่

   นำเสื้อผ้าที่ใส่แล้วใส่ลงในตะกร้าผ้า ส่วนผ้าที่ยังไม่ได้ใส่ให้พับเก็บไว้[1]

   เคล็ดลับ: อย่าลืมดูใต้เตียง บนพื้นตู้เสื้อผ้า และบนเฟอร์นิเจอร์ตอนเก็บด้วย

2. 

   2

   เก็บและเอาขยะไปทิ้ง. เวลาที่คุณยุ่งๆ กับเรื่องที่ทำงาน โรงเรียน และเรื่องอื่นๆ คุณอาจจะปล่อยให้ขยะกองสุมอยู่ในห้องโดยไม่รู้ตัว

   หยิบถุงขยะเดินไปรอบห้อง

   แล้วเก็บห่อขนม อาหาร กระดาษเก่าๆ และขยะอื่นๆ ที่คุณพบในห้อง[2]

   • พอคุณเก็บขยะหมดแล้ว ให้นำขยะที่อยู่ในถังขยะในห้องนอนไปใส่ไว้ในถุงขยะ และนำถุงขยะลงไปวางรอวันที่เขามาเก็บ

3. 

   3

   เก็บจานและอุปกรณ์การรับประทานอาหารออกไปให้หมด. การเก็บจาน ถ้วย และอาหารค้างไว้ในห้องอาจทำให้มีแมลง หกเลอะเทอะ และทำให้ห้องรก เก็บทุกอย่างที่ควรอยู่ในครัวแล้วนำลงไปวางไว้ในอ่างล้างจานหรือเครื่องล้างจานข้างล่าง[3]

   สิ่งที่ต้องตรวจดูได้แก่
   - จานชาม
   - มีด ช้อน และส้อม
   - แก้วน้ำ
   - ห่ออาหารและกระป๋องอาหาร
   - ภาชนะเก็บอาหาร

4. 

   4

   ซักเครื่องนอน. ถอดผ้านวม ผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนออกจากเตียง โยนเครื่องนอนที่ซักได้ทั้งหมดลงในตะกร้าผ้าแล้วนำไปซักที่ห้องซักล้าง

   • ถ้าคุณสามารถซักเครื่องนอนได้เอง ให้นำเครื่องนอนใส่ลงในเครื่องซักผ้าโดยใช้โปรแกรมการซักปกติ หรือไม่ก็ทิ้งเครื่องนอนไว้ให้ผู้ใหญ่ซัก

5. 

   5

   ปูที่นอนด้วยเครื่องนอนที่ซักแล้ว. นำเครื่องนอนที่ซักแล้วแต่ยังไม่ได้ใช้มาปูที่นอน หรือจะรอจนกว่าเครื่องนอนที่เพิ่งซักไปจะแห้งก็ได้ ปูผ้าปูที่นอนกับฟูกก่อน จากนั้นปูผ้าปูที่นอนผืนบนและผ้าห่มที่คุณใช้เป็นประจำ แล้วค่อยใส่ปลอกหมอนแล้ววางหมอนลงบนเตียง สุดท้ายคลุมผ้าห่มหรือผ้านวมทับหมอนอีกที

   • เก็บที่นอนทุกวัน

     คุณไม่จำเป็นต้องเก็บผ้าปูเตียงและปลอกหมอนทุกวัน แต่คุณควรเก็บผ้าปูที่นอนผืนบนและผ้าห่มทุกวัน
   • เปลี่ยนเครื่องนอนทุก 2-3 สัปดาห์ ถ้าอากาศร้อนและคุณเหงื่อออกมาก คุณอาจจะต้องเปลี่ยนถี่กว่านั้น

6. 

   6

   ทำความสะอาดโต๊ะ. โต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนน่าจะเป็นที่ดึงดูดความรกรุงรังเพราะมันอาจจะเป็นที่ที่คุณทั้งอ่านหนังสือ ทำการบ้าน และใช้เวลาหน้าคอมพิวเตอร์ ในการทำความสะอาดโต๊ะนั้น ให้คุณ[4]

   วิธีทำความสะอาดโต๊ะ
   อย่าให้มีเศษกระดาษ: เก็บกระดาษ โน้ต และชีตที่กระจัดกระจายอยู่รอบห้อง
   จัดเอกสาร: จัดระเบียบและจัดเอกสารเข้าแฟ้ม ทิ้งกระดาษที่ใช้ไม่ได้แล้วทิ้งไป เพราะยังมีวิธีที่ดีอื่นๆ ในการนำกระดาษกลับมาใช้ใหม่
   จัดเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียน: เก็บปากกา ดินสอ และเครื่องเขียนอื่นๆ รวมกันแล้วใส่ไว้ในแก้ว กล่องดินสอ หรือลิ้นชักพิเศษ
   จัดเก็บหนังสือ: เก็บหนังสือหรือนิตยสารที่กระจัดกระจายอยู่ รวบรวมนิตยสารที่ไม่ได้อ่านแล้วไว้รีไซเคิล

7. 

   7

   จัดโต๊ะข้างเตียง. โต๊ะข้างเตียงของคุณอาจจะเป็นจุดที่คุณวางของที่คุณทำก่อนเข้านอนทิ้งไว้ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ฟังเพลง ถอดเครื่องประดับ และอื่นๆ ทำความสะอาดโต๊ะข้างเตียงของคุณและเก็บของอื่นๆ ที่ไม่ควรอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเข้าที่[5]

   • เพื่อให้ห้องของคุณดูสะอาดและเป็นระเบียบ

     ให้เก็บของข้างเตียงทั่วไปอย่างแท็บเล็ตและหนังสือไว้ในลิ้นชักของโต๊ะ

     แทนที่จะไว้บนโต๊ะข้างเตียงโดยตรง บนโต๊ะอาจจะมีของธรรมดาๆ อย่างโคมไฟหรือรูปภาพสักรูปก็พอแล้ว

8. 

   8

   จัดระเบียบตู้ลิ้นชัก. ตู้มีลิ้นชักของคุณก็อาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่คุณยัดหนังสือ ของเล่น เครื่องประดับ เครื่องเพชรพลอย และของกระจุกกระจิกลงไป เก็บเครื่องเพชรพลอยกลับเข้าไปในกล่องหรือในลิ้นชัก เก็บหนังสือไว้ที่ชั้นวางหนังสือ เอาขยะและของไม่ใช้แล้วที่สะสมไว้ไปทิ้ง เก็บเครื่องสำอางกลับไปไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งหรือกระเป๋าเครื่องสำอาง และเก็บเครื่องประดับและของอื่นๆ ไว้ในที่ที่มันควรอยู่[6]

   • จัดตู้ลิ้นชักให้เป็นระเบียบ ต้องพับผ้าให้เรียบร้อย อย่ายัดๆ เสื้อผ้าลงไป
   • เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งคุณควรเอาของออกจากลิ้นชักให้หมดแล้วแยกของที่คุณไม่ได้ใช้แล้วออก จากนั้นค่อยเก็บทุกอย่างกลับเข้าไปในลิ้นชักใหม่

9. 

   9

   จัดตู้เสื้อผ้า. ตู้เสื้อผ้ามักเป็นที่ที่คุณโยนทุกอย่างที่คุณยังไม่อยากจัดการตอนนั้นเข้าไป และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องจัดการของพวกนั้น จัดระเบียบรองเท้า แขวนเสื้อผ้า เอาขยะออกไปทิ้ง และจัดชั้นวางให้ดี

   วิธีจัดตู้เสื้อผ้า
   ทำให้เป็นประจำ: เช่นเดียวกับตู้ลิ้นชัก คุณควรจัดตู้เสื้อผ้าปีละ 1 หรือ 2 ครั้ง และนำของที่ไม่ได้ใช้แล้วออกมา
   ใช้พื้นที่ฝาตู้ให้เป็นประโยชน์: ใช้พื้นที่ฝาตู้ให้ใช้ประโยชน์ได้โดยการติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนู ชั้นหรือตะขอไว้แขวนเครื่องประดับ
   เลื่อนราวแขวนให้สูงขึ้น: เพิ่มพื้นที่โดยการแขวนราวให้สูงขึ้น นี่จะช่วยให้คุณวางชั้นวางรองเท้าใต้เสื้อผ้าที่แขวนบนราวได้
   คิดก่อนเก็บ: วางข้าวของที่คุณจะหยิบฉวยเป็นอย่างแรกอยู่ในส่วนที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด นี่จะช่วยให้คุณพร้อมเร็วขึ้น
   หาไม้แขวนแบบเรียวลง: ลองหาซื้อไม้แขวนแบบบางสำหรับแขวนทั้งเสื้อและกางเกงเพื่อกินพื้นที่น้อยลง[7]

10. 

    10

    ปัดฝุ่นทุกสิ่ง. ใช้

    ไม้ขนไก่หรือผ้าไมโครไฟเบอร์หมาดๆ

    ปัดฝุ่นมุมและจุดเชื่อมต่อระหว่างกำแพง พัดลมเพดาน ฐานยึดดวงไฟ ชั้นวาง จุดเชื่อมระหว่างกำแพงกับเพดาน และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในห้อง

    • ขณะปัดฝุ่น ให้หยิบของที่เป็นอุปสรรคต่อการปัดฝุ่นขึ้นมา เช่น โคมไฟบนตู้ลิ้นชัก แล้วปัดฝุ่นที่อยู่ข้างใต้ออก[8]

11. 

    11

    ดูดฝุ่นที่พื้น. ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดสิ่งสกปรกและฝุ่นออกจากพื้นที่ปูพรม หรือใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้ ใช้หัวเครื่องดูดฝุ่นแบบพิเศษทำความสะอาดมุมระหว่างพื้นกับกำแพง แผ่นกระดานที่ปิดขอบด้านล่างของผนัง รวมทั้งรอยแตกและร่องต่างๆ

    • อย่าลืมย้ายเฟอร์นิเจอร์เพื่อที่คุณจะได้ทำความสะอาดด้านใต้และด้านหลังของเตียง ตู้ลิ้นชัก และโต๊ะได้[9]

12. 

    12

    ทำความสะอาดหน้าต่างและกระจก. ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกลงบนหน้าต่าง หรือจะใช้ส่วนผสมจากน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำ 3 ส่วนก็ได้ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดๆ เช็ดกระจกให้แห้ง ทำอย่างนี้กับหน้าต่างภายในห้องทั้งหมดและกรอบรูปที่ฝุ่นเกาะหรือสกปรก[10]

    • เก็บน้ำยาทำความสะอาดหน้าต่างไว้ในที่ที่หาได้ง่ายเพื่อที่คุณจะได้ทำความสะอาดกระจกได้ตามต้องการหรือเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเริ่มสกปรก วิธีนี้จะมีประโยชน์มากเป็นพิเศษหากคุณมีสัตว์เลี้ยงหรือลูกๆ ที่สอดรู้สอดเห็น

    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    

    Filip Boksa

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด King of Maids

    ฟิลิป บอกซ่าเป็น CEO และผู้ก่อตั้ง King of Maids ผู้ให้บริการทำความสะอาดบ้านเรือนในสหรัฐที่ช่วยเหลือลูกค้าด้านการทำความสะอาดและจัดข้าวของให้เป็นระเบียบ

    

    Filip Boksa
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาด King of Maids

    ความลับของการทำความสะอาดได้หมดจดอยู่ที่การใส่ใจในรายละเอียด ไม่ใช่ที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เริ่มทำความสะอาดด้านหนึ่งของห้าง แล้วทำไล่ไปตามเข็มนาฬิกาจากบนถึงล่าง เก็บเสื้อผ้าและข้าวของ เปลี่ยนถังขยะ เปลี่ยนเครื่องนอน และปัดฝุ่นทุกอย่าง อย่าลืมเช็ดประตู ชั้นวางและของประดับห้องด้วย ปิดท้ายด้วยการทำความสะอาดพื้นและอย่าลืมใต้เตียง

    โฆษณา

1. 

   1

   เก็บที่นอนทุกวัน. หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ห้องของคุณสะอาดก็คือการเก็บที่นอนทุกเช้าหลังจากตื่นนอน ดึงผ้าปูที่นอนผืนบนสุดให้ตึงและสอดไว้ใต้หมอน ดึงปลอกหมอนให้ตึงแล้วตบหมอนเบาๆ สะบัดผ้าห่มหรือผ้านวมให้ตึงแล้วคลุมพาดเตียงหรือคลุมไว้เหนือหมอน[11]

   • พอคุณทำความสะอาดห้องแบบหมดจดแล้ว การรักษาความสะอาดก็จะง่ายขึ้น

     เพราะมันเป็นเรื่องของการเก็บกวาดเล็กๆ น้อยๆ ทุกวันมากกว่า

     เช่น เก็บที่นอน เพื่อรักษาความสะอาดของห้อง

2. 

   2

   แขวนผ้าไว้หลังจากกลับมาบ้าน. หลายคนชอบเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าสบายๆ เมื่อถึงบ้านหลังจากผ่านวันอันยาวนานที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน เวลาที่คุณเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้แขวนเสื้อคลุม เอาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วลงในตะกร้าผ้า และพับหรือเก็บเสื้อผ้าสะอาดที่คุณจะใส่ซ้ำให้เข้าที่[12]

   • หลังจากผ่านวันอันแสนยาวนาน คุณอาจจะอยากมาถึงบ้านแล้วโยนเสื้อคลุมกับเสื้อผ้าไว้บนพื้นหรือบนเตียง แต่ถ้าคุณอยากรักษาความสะอาดของห้องหลังจากอุตส่าห์ทำความสะอาดแล้ว คุณจะต้องเก็บเสื้อผ้าให้เข้าที่

3. 

   3

   นำเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไว้ในตะกร้าผ้า. อย่ากองเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไว้บนพื้น บนเตียง หรือกองอยู่ที่พื้นห้องน้ำหรือห้องซักรีดเด็ดขาด พอคุณถอดเสื้อผ้าที่ใส่แล้วออก

   คุณต้องนำไปไว้ในตะกร้าผ้าทันที[13]

   • เพื่อให้งานง่ายขึ้น คุณอาจจะนำตะกร้าผ้ามาวางไว้ทั่วบ้านในบริเวณที่คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นประจำ เช่น ในห้องน้ำ ในตู้เสื้อผ้า และใกล้ๆ ตู้ลิ้นชัก

4. 

   4

   เก็บเสื้อผ้าที่ซักแล้วเข้าที่ทันที. คุณอาจจะอยากทิ้งกองเสื้อผ้าที่ซักสะอาดแล้วไว้ในตะกร้าอยู่อย่างนั้นแทนที่จะเอาไปเก็บที่ แต่แน่นอนว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ห้องกลับมารกอีกครั้ง แล้วก็จะทำให้เสื้อผ้ายับด้วย พอคุณเก็บเสื้อผ้าหลังจากตากแดดจนแห้งแล้ว พับให้เรียบร้อยแล้วเอาไปเก็บที่หรือนำกลับไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า[14]

   • วิธีนี้รวมสิ่งของอื่นๆ อย่างผ้าปูที่นอนและผ้าขนหนูด้วย

5. 

   5

   อย่ารับประทานอาหารในห้อง. การรับประทานอาการในห้องจะดึงดูดแมลง ทำให้หกเลอะเทอะ ทิ้งเศษอาหารไว้ทั่วห้อง และทำให้จานกับถ้วยกองพะเนินอยู่ในห้อง

   เพราะฉะนั้นทำให้ห้องส่วนตัวเป็นเขตปลอดอาหาร

   และรับประทานอาหารกับขนมในครัวแทน

   • หากคุณรับประทานอาหารในห้อง ให้นำจาน ถ้วย อุปกรณ์การรับประทานอาหาร และเศษอาหารไปไว้ในครัวทันทีหลังรับประทานเสร็จ

6. 

   6

   จัดการของที่สุมอยู่เป็นประจำ. หนึ่งในสิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่ทำให้ห้องรกก็คือการมีของมากเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ให้คุณจัดการของทั้งหมดในห้องไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น เครื่องประดับ และของอื่นๆ จากนั้นตัดสินใจว่าจะเก็บอันไหนไว้และอันไหนที่คุณจะขาย บริจาค หรือทิ้งไป[15]

   • เพื่อช่วยตัดสินใจว่าจะเก็บอันไหนไว้และจะทิ้งอันไหนไป

     ให้ถามตัวเองว่ามีของอะไรที่คุณไม่ได้ใช้หรือไม่ได้ใส่เกิน 1 ปีแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ใช้ของชิ้นนั้นมาเป็นปีแล้ว

     ก็เป็นไปได้มากๆ ว่าคุณจะสามารถกำจัดมันทิ้งไปได้โดยที่ไม่คิดถึงมันทีหลัง
   • ของที่ยังดีอยู่ที่สามารถนำไปขายหรือบริจาคได้ได้แก่เสื้อผ้า ของเล่น และหนังสือ ทิ้งเฉพาะของที่แตกหัก เป็นรู หรือไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้

7. 

   7

   จัดที่ไว้สำหรับของทุกชิ้น. เวลาที่คุณมีของที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ไหนดี คุณก็มักจะทิ้งไว้ตามพื้นเพราะว่าคุณไม่มีที่พิเศษที่จะให้มันอยู่เวลาที่คุณจัดห้อง ดูของแต่ละชิ้นในห้องและแน่ใจว่าทุกชิ้นมีที่เฉพาะของมันเอง[16]

   • ใช้ตะกร้าหรือภาชนะเก็บของอื่นๆ ไว้เก็บของพิเศษให้เป็นระเบียบถ้าคุณไม่มีที่ให้มันอยู่
   • จัดหาพื้นที่ในโต๊ะหรือตู้ลิ้นชักสำหรับของชิ้นเล็กๆ ที่คุณไม่มีที่เฉพาะให้มัน

8. 

   8

   เก็บของเข้าที่หลังจากใช้เสร็จแล้ว. พอทุกอย่างมีที่เฉพาะของมันในห้องแล้ว การจัดห้องก็จะเป็นเรื่องง่ายเพราะว่าคุณรู้แล้วว่าจะต้องวางอะไรไว้ตรงไหน ตัวอย่างไอเดียการเก็บของเข้าที่ได้แก่[17]

   • เก็บหนังสือและนิตยสารไว้ที่ชั้นวางหนังสือหลังจากคุณอ่านเสร็จแล้ว
   • แขวนเสื้อผ้าไว้ในตู้เมื่อคุณไม่ใส่แล้ว
   • เก็บของเล่นไว้ในตู้ลิ้นชักหรือบนชั้นวางเมื่อเล่นเสร็จแล้ว
   • เก็บกระดาษและโน้ตเข้าแฟ้มในลิ้นชักหรือแฟ้มห่วงเมื่อไม่ได้ใช้
   • เก็บอุปกรณ์สำนักงาน เช่น ปากกาและคลิปหนีบกระดาษ ไว้ในลิ้นชักโต๊ะเมื่อใช้เสร็จแล้ว

   โฆษณา

1. 

   1

   เขียนรายการทำความสะอาดประจำวัน. การรักษาความสะอาดของห้องเป็นเรื่องของการสร้างกิจวัตรที่ดี และการทำความสะอาดบางอย่างนั้นก็ควรทำทุกวัน เขียนรายการทำความสะอาดในแต่ละวันแล้วติดรายการไว้ในที่ที่คุณมองเห็นได้ แบ่งเวลาวันละ 10 นาทีทำความสะอาดตามรายการที่วางไว้ทุกวัน การทำความสะอาดในแต่ละวันควรจะเป็นดังนี้[18]

   • เก็บที่นอน
   • เก็บเสื้อผ้าเข้าที่
   • เก็บของเล่น กระดาษ และของอื่นๆ ให้เป็นระเบียบ
   • เอาขยะไปทิ้ง

2. 

   2

   กำหนดตารางการทำความสะอาดประจำสัปดาห์. นอกจากรายการทำความสะอาดที่ต้องทำทุกวันแล้ว ก็ยังมีงานทำความสะอาดอื่นๆ ที่คุณควรทำเป็นประจำด้วย เขียนรายการทำความสะอาดเหล่านั้นลงไปทั้งหมด แล้วกำหนดตารางเวลาทำความสะอาดประจำสัปดาห์ที่ในแต่ละวันคุณจะทำความสะอาดในส่วนต่างๆ[19]

   ตัวอย่างตารางเวลา
   วันจันทร์: ดูดฝุ่นและปัดฝุ่น
   วันอังคาร: ถอดเครื่องนอนแล้วนำเครื่องนอนไปซัก
   วันพุธ: ซัก ตาก พับ และเก็บเสื้อผ้า
   วันพฤหัสบดี: ทำความสะอาดกระจกและหน้าต่าง
   วันศุกร์: นำขยะไปทิ้ง
   วันเสาร์: จัดโต๊ะ ตู้ลิ้นชัก และโต๊ะข้างเตียง
   วันอาทิตย์: ทำความสะอาดและจัดตู้เสื้อผ้า

3. 

   3

   ซักเครื่องนอนสัปดาห์ละครั้ง. ดึงผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าปูที่นอนรัดมุม ปลอกหมอน และเครื่องนอนอื่นๆ ออกจากเตียง ใส่ในตะกร้าผ้าแล้วนำไปซักที่ห้องซักรีด

   • คุณต้องซักเครื่องนอนสัปดาห์ละครั้งเพื่อไม่ให้มีฝุ่น สิ่งสกปรก และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้อื่นๆ[20]

4. 

   4

   ซักผ้าทันทีที่ผ้าเต็มตะกร้า. เราอาจจะเผลอสุมกองผ้าที่ใส่แล้วไว้ในห้องหลายสัปดาห์ แต่การรักษาความสะอาดของห้องคือการไม่ปล่อยให้มีเสื้อผ้าใส่แล้วมากเกินไป ทันทีที่ผ้าเต็มตะกร้าหรือมากพอที่จะใส่ในเครื่องซักผ้าได้ ให้นำผ้าไปซักที่ห้องซักรีด

   • บางคนอาจคิดว่าการกำหนดตารางทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น เช่น บางคนอาจจะซักรีดเสื้อผ้าในช่วงต้นเดือน

5. 

   5

   นำถังขยะมาไว้ในห้องแล้วใช้ด้วย. ขยะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ห้องรกอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ให้นำถังขยะมาไว้ในห้องนอนไม่ว่าจะเป็นข้างเตียงหรือข้างโต๊ะก็ตาม และคุณต้องทิ้งขยะลงในถังขยะแทนที่จะวางไว้เกลื่อนห้อง

   • ทันทีที่ถังขยะเต็ม ให้เอาไปไว้ที่โรงรถหรือเพิงจนกว่าจะถึงวันที่รถขยะมาเก็บ

6. 

   6

   ดูดฝุ่นและปัดฝุ่นทุกสัปดาห์. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หมาดๆ เช็ดฝุ่นออกจากพื้นผิวทุกอย่างในห้องไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ฐานที่แขวน พัดลม รูปภาพ ชั้นวางของ และโต๊ะ ดูดฝุ่นที่พื้นและแผ่นกระดานที่ปิดขอบด้านล่างของผนังเพื่อดูดสิ่งสกปรกและฝุ่นออกมา

   • ถ้าคุณเลี้ยงสัตว์หรือเป็นภูมิแพ้ ให้ดูดฝุ่นและปัดฝุ่นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

7. 

   7

   อย่าผัดวันประกันพรุ่งเรื่องทำความสะอาด. การละเลยไม่ทำความสะอาด 2-3 วันอาจสะสมรายการทำความสะอาดที่คุณต้องทำเป็นกองพะเนิน รู้ตัวอีกทีห้องคุณก็กลับมารกอีกแล้วและคุณก็จะต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่อีกครั้ง พอคุณกำหนดตารางการทำความสะอาดประจำวันและประจำสัปดาห์แล้ว

   คุณต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้สร้างนิสัยการทำความสะอาดที่จะติดตัวคุณไปอีกนาน

   • ถ้าคุณไม่ได้ทำความสะอาดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ทำงานบ้านที่ค้างไว้ในวันถัดไปทันทีเพื่อไม่ให้งานบ้านและความรกสะสม
   • พยายามเปลี่ยนการทำความสะอาดให้กลายเป็นเกมถ้าคุณไม่ชอบทำอย่างแรง ท้าทายตัวเองว่าจะทำความสะอาดห้องได้เร็วขนาดไหน และพยายามทำลายสถิติของตนเองให้ได้

   โฆษณา

เคล็ดลับ

• เพื่อให้มีแรงกระตุ้นในการทำความสะอาด ให้ทำรายการเพลงไว้ใน iPod แล้วตั้งชื่อว่าทำความสะอาดห้อง จากนั้นเลือกเพลงตื๊ดๆ ที่คุณชอบไว้เลย วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เวลาในการทำความสะอาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังทำให้คุณไม่เสียสมาธิไปกับการเปลี่ยนเพลงขณะทำความสะอาดด้วย
• เล่นเกมทำความสะอาดเพื่อให้งานบ้านสนุกขึ้น เช่น คุณอาจจะโยนเสื้อผ้าลงตะกร้าผ้าจากอีกมุมหนึ่งของห้องเพื่อดูว่าคุณจะทำคะแนนได้กี่ตะกร้า
• ลองจัดห้องใหม่ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปไว้ที่ใหม่ ติดโปสเตอร์ใหม่บนผนัง และทำให้ห้องเหมือนเป็นห้องใหม่เพื่อให้คุณมีกำลังใจในการรักษาห้องให้สะอาด
• ตั้งกฎสำหรับห้องของคุณเพื่อที่ว่าถ้าคนอื่นเข้ามา พวกเขาก็จะรู้ว่าเขาต้องทำความสะอาดสิ่งที่เขาทำเลอะเทอะไว้
• ถ้าคุณอยู่ห้องเดียวกับรูมเมตหรือพี่น้องที่ชอบทำห้องรก ให้แบ่งพื้นที่ในห้องเพื่อที่แต่ละคนจะได้มีพื้นที่ในห้องที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ
• ถามเพื่อนว่าเธอ/เขาช่วยคุณทำความสะอาดห้องได้หรือเปล่า เพราะจะช่วยคุณได้มากเลยทีเดียว
• เพื่อเสริมกำลังใจในการทำความสะอาด แกล้งทำเป็นนายกฯ จะมารับประทานอาหารมื้อเย็นที่บ้านแล้วก็ค้างสัก 2-3 คืน ว่าแต่คุณไม่ชอบนายกฯ เหรอ ถ้าอย่างนั้นทำเป็นว่ามีคนดังหรือคนพิเศษมาบ้านแทนก็แล้วกัน!

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,565 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

ห้องรับแขกดูแลรักษาอย่างไร

ห้องชนิดใดควรหมั่นทำความสะอาด

ควรทำความสะอาดห้องนอนเดือนละกี่ครั้ง

ควรทําความสะอาดห้องนอนสัปดาห์ละกี่ครั้ง