ไม่รู้ น้อง S3 ของเราเป็นอะไร ชาร์ตแบตไว้ ไม่เต็มสักที เริ่มแรก เราใช้จนแบตมันเหลือ 19% เริ่มชาร์ตไว้ตั่งแต่ประมาน ตี1 พอตอนเช้าประมาน 10 โมง มาดูได้แค่ 50% ก็เลยเสียบชาร์ตค้างไว้ ทั้งวันก็ยังไม่มีวี่แวว ว่าจะเต็มสักที ก็เลยชาร์ตไว้ทั้งคืนตื่นเช้ามาดู ประมาน 7 โมง ก็เต็ม พอมาเมื่อวาน แบตเหลือประมาน 50% ก็เริ่มชาร์ตตอน 2 ทุ่ม พอตอนเช้าวันนี้ 7 โมง มาดู ได้แค่ 80% งงมาก
เพราะปกติไม่เคยเป็นแบบนี้เลย แบบนี้มันเป็นอะไรหรอค่ะ เกี่ยวกับตัวสายชาร์ตหรือเปล่า โทรศัพท์ชาร์ตแบตไม่เข้า แบตเต็มช้า เกิดจากอะไร พร้อมดูวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นปัญหา โทรศัพท์ชาร์ตแบตไม่เข้า หรือ แบตเตอร์รี่เต็มช้า นั้นเรียกได้ว่าเป็นปัญหายอดฮิตของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ซึ่งเกิดมาจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนมากพบว่ามักจะเกิดจากการเสื่อมสภาพหรือเกิดความเสียหายของอุปกรณ์ ซึ่งพูดง่ายๆว่าเมื่ออุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเกิดเสียหรือเสื่อมสภาพ การจ่ายกระแสไฟไปยังโทรศัพท์ที่จะทำการชาร์ตนั้นจึงได้กระแสไฟที่ไม่เต็มที่หรือไม่ได้กระแสไฟเลยนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราได้นำสาเหตุต่างๆที่มักพบเจอบ่อยๆมาให้เพื่อนๆดูกันครับ สาเหตุที่โทรศัพท์ชาร์ตแบตไม่เช้า หรือ ชาร์ตแบตเต็มช้า1. สายชาร์ตเสียหรือมีปัญหา เรียกได้ว่าเป็นเรื่องยอดฮิลเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งเราสามารถมีวิธีตรวจสอบง่ายๆ ว่าสายชาร์ตเรามีปัญหารึปล่าวโดยการลองนำโทรศัพท์เครื่องอื่นๆที่สามารถเสียบกันได้กับสายชาร์ตของเรามาลองเสียบดู หากว่าไม่เข้าเหมือนกัน ก็แสดงว่าสายชารต์พัง 100% ครับ เตรียมตัวซื้อสายชาร์ใหม่ได้เลย 2. อแดปเตอร์เสีย ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนหลายรุ่นนั้น ได้ผลิตสายชาร์ทออกมาใรลักษณะของ หัวชารต์อแดปเตอร์ และสาย USB ซึ่งสามารถถอดหรือประกอบกันได้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์ตัวใดหนึ่งนั้นอาจจะเสียนั่นเอง ซึ่งวิธีทดสอบเราอาจลองนำสาย USB ไปลองต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อชาร์ตดู ซึ่งถ้ายังสามารถชาร์ตได้ก็แสดงว่าอแดปเตอร์ของเรานั่นเองที่เสีย 3.แบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพ ข้อนี้อาจจะพบในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างจะมีอายุการใช้งานมานานพอสมควร ซึ่งบางรุ่นก็สามารถซื้อแบตเตอร์รี่มาเปลี่ยนได้ง่ายๆเลย แต่ถ้าสำหรับที่ใช้มือถือที่ถอดเปลียนแบตด้วยตนเองไม่ได้ก็คงต้องส่งเข้าศูนย์ หรือหาร้านที่รับเปลี่ยนแบตโดยเฉพาะนั่นเองครับ 4. ช่องเสียบ USB เสียหาย ปัญหานี้เรียกได้ว่าเกินควมสามารถของผุ้ใช้ที่จะแก้ไขได้เองเลย ช่องเสียบ USB จะเสียหายได้ต้องเกิดจากการกระทบกระเทือน เช่น ทำหล่น หรือ ตกน้ำมา ถ้าหากว่ามือถือยังอยู่ในประกันก็สามารถส่งซ่อมได้อย่างสบายใจ แต่ถ้าหมดประกันแล้วก็ต้องเสียเงินค่าซ่อมแน่นอน 5. ปลั๊กไฟให้กำลังไฟไม่เพียงพอ ตรวจสอบว่าแหล่งจ่ายไฟของเรามีกำลังไฟเพียงพอหรือเปล่า ซึ่งบางครั้งปลั๊กไฟตัวนั้นอาจเกิดการชำรุด หรือเพื่อนๆอาจจะชาร์ตกับสาย USB ที่ต่อจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่าแบตของเราจะเต็มช้ากว่าการชาร์ตแบบปลั๊กไฟตามผนังแน่นอน 6. ชาร์ตไปเล่นไป อันนี้ทำให้แบตเตอร์รี่เต็มช้าแน่นอนครับ เพราะโทรศัพท์มีการทำงานตลอดเวลา ซึ่งไม่แนะนำให้ทำเลยครับ ซึ่งนอกจากจะทำให้อุปกรณ์เสื่อมไวแล้ว ยังอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้อย่างเช่น แบตเตอร์รี่ร้อนจนระเบิด อีกด้วย 7. มีแอพพลิเคชันที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา แอพพลิเคชันเหล่านี้นั่นเองที่เป็นตัวดูดแบตเตอร์รี่ของเราเรื่อยๆ ทำให้ชาร์ตแบตได้เต็มช้านั่นเองครับ ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆไม่ค่อยได้ใช้งานอาจจะปอดไปก่อน หรือ ถอนการติดตั้งไปเลยก็ได้ บทความที่เกี่ยวข้อง (Related Posts)
iPhone-Droidวิธีเปิดการปกป้องแบตเตอรี่ให้ชาร์จจำกัดได้ที่ 85% บน One UI 4 ในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟนก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอายุของแบตเตอรี่เช่นกันครับ ซึ่งปกติแล้วหากชาร์จเต็ม 100% รวดเดียวก็อาจทำให้เกิดความร้อนและลดอายุของแบตลงได้ครับ (คล้ายกับที่ iPhone ชาร์จค้างที่ 80%) แต่ใครที่ใช้สมาร์ทโฟน Samsung ที่ได้อัปเดทเป็น Android 12 และ One UI 4 แล้วก็สามารถตั้งค่าการป้องกันได้ครับ วิธีเปิดการปกป้องแบตเตอรี่ให้ชาร์จจำกัดได้ที่ 85%
เพียงเท่านี้เราก็สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ได้มากขึ้นครับ แต่ก็อาจจะแลกด้วยการใช้งานระหว่างวันที่ลดลงเล็กน้อยครับ |