วิธีเชื่อมต่อโทรศัพท์กับจอรถยนต์

หากใช้ Android Auto เป็นครั้งแรก ให้ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มต้นใช้งาน

Android Auto ในจอแสดงผลของรถ (เมื่อใช้สาย USB)

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมโทรศัพท์และรถของคุณให้พร้อม

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำ
  2. ตรวจสอบว่ารถเข้ากันได้กับ Android Auto และ Android Auto เปิดอยู่ในการตั้งค่าของรถ หากไม่แน่ใจ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่ของคุณ
  3. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือที่แรงและเร็ว 

ขั้นตอนที่ 2 เชื่อมต่อโทรศัพท์

สตาร์ทรถก่อนเชื่อมต่อโทรศัพท์เป็นครั้งแรก ตรวจสอบว่ารถอยู่ในโหมดจอด (P) และมีเวลาในการตั้งค่า Android Auto ก่อนเริ่มขับรถ

  1. เสียบสาย USB กับพอร์ต USB ของรถยนต์ แล้วเสียบปลายสายอีกด้านกับโทรศัพท์ Android 
  2. โทรศัพท์อาจขอให้ดาวน์โหลดแอป Android Auto หรืออัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุด
  3. ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์

บลูทูธโทรศัพท์จะเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อ Android Auto กับรถผ่าน USB

ขั้นตอนที่ 3 เริ่มใช้ Android Auto

ในจอแสดงผลของรถ ให้เลือก Android Auto

วิธีเชื่อมต่อโทรศัพท์กับจอรถยนต์
ทำตามวิธีการเพื่อเริ่มต้นใช้งาน

ขับขี่อย่างปลอดภัย โปรดมองที่ถนนและระมัดระวังในสภาพการขับขี่ต่างๆ รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเสมอ

Android Auto ในจอแสดงผลของรถ (ไร้สาย)

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมโทรศัพท์และรถของคุณให้พร้อม

  1. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำ
  2. ตรวจสอบว่ารถเข้ากันได้กับ Android Auto แบบไร้สาย หากไม่แน่ใจ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่ของคุณ
  3. ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือที่แรงและเร็ว 

ขั้นตอนที่ 2 เชื่อมต่อโทรศัพท์

สําคัญ: ครั้งแรกที่เชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถ คุณจะต้องจับคู่โทรศัพท์กับรถผ่านบลูทูธ ให้เปิดบลูทูธ Wi-Fi และบริการตำแหน่งระหว่างการตั้งค่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตรวจสอบว่ารถอยู่ในโหมดจอด (P) และมีเวลาตั้งค่า Android Auto ก่อนเริ่มขับรถ

  1. เสียบสาย USB กับพอร์ต USB ของรถยนต์ แล้วเสียบปลายสายอีกด้านกับโทรศัพท์ Android 
  2. โทรศัพท์อาจขอให้ดาวน์โหลดแอป Android Auto หรืออัปเดตแอปเป็นเวอร์ชันล่าสุด
  3. ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนที่ 3 เริ่มใช้ Android Auto

การเชื่อมต่อแบบไร้สายอาจใช้เวลาสักครู่ในการเริ่มต้น คุณอาจต้องแตะ Android Auto

วิธีเชื่อมต่อโทรศัพท์กับจอรถยนต์
ในจอแสดงผลของรถ

หากรถยนต์ของคุณใช้งานร่วมกับ Android Auto บนจอแสดงผลของรถไม่ได้

ขับขี่อย่างปลอดภัย โปรดมองที่ถนนและระมัดระวังในสภาพการขับขี่ต่างๆ รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเสมอ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชุมชน Android Auto 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หมายเลข ID หัวข้อ : 00225279 / ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 26/11/2019

พิมพ์

การจับคู่ Bluetooth และเชื่อมต่ออุปกรณ์ของท่าน

ในตัวอย่างนี้ เราจะอธิบายขั้นตอนการจับคู่ระหว่างชุด/ระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ และโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Bluetooth pairing จำเป็นต้องทำในกรณีที่ท่านต้องการจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่เข้ากับระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ของท่านในครั้งแรกเท่านั้น ชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์นี้และโทรศัพท์สมาร์ทโฟนจะรองรับและเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติในครั้งถัดไป

โปรดทราบว่าท่านสามารถตรวจเช็คดูกระบวนการจับคู่ได้ในคู่มือของเครื่องของท่านตลอดเวลา ซึ่งจะมีอยู่ในหน้าของผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์สนับสนุนนี้ 

  1. เปิด Bluetooth ในเครื่องเสียงติดรถยนต์ของท่านโดยการกดที่HOMEและไปที่ เมนู [Settings]  
     
  2. ในเมนู [Settings] ให้หา [Bluetooth Connection] 
     
  3. เลือกที่  [Pairing] 
    • ขั้นตอนนี้จะทำให้อุปกรณ์ของท่านเข้าไปสู่โหมดการจับคู่ ทำให้อุปกรณ์ Bluetooth อื่นๆสามารถหาพบได้ ซึ่งก็หมายความว่าท่านจะสามารถตรวจพบได้ด้วยโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน ดูในรายการของ“Available devices” ในเมน Bluetooth ของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน 
       
    • ต้องมั่นใจว่าท่านได้เปิด Bluetooth ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่านไว้ด้วย โทรศัพท์สมาร์ทโฟนโดยทั่วไปจะเข้าสู่โหมดการจับคู่โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการเปิด Bluetooth ขึ้นมา แต่เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นในระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ ท่านจำเป็นต้ัองทำให้ตัวเครื่องสามารถตรวจพบได้ 
       
  4. ระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ จะต้องมีแสดงในส่วนของ “Available devices” ในเมนู Bluetooth ของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน คลิกเพื่อทำการเลือก และจับคู่ 

    หมายเหตุ: ขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องของท่าน ท่านอาจจะต้องดูในส่วนของ “Available devices” ของระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ของท่านเพื่อหาชื่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน
    คลิกเพื่อทำการเลือก และจับคู่

  5. ขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องของท่าน ท่านอาจจะได้รับการขอให้ใส่รหัสผ่าน (0000) หรือตรวจสอบรหัสผ่านที่แสดงว่าตรงกันทั้งสองเครื่องหรือไม่

    เป็นวิธีการควบคุมเพื่อให้มั่นใจว่าท่านได้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ถูกต้องแล้ว

  6. เมื่อการจับคู่เสร็จสิ้น ระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์และอุปกรณ์เครื่องเล่น Bluetooth (เช่น โทรศัพท์สมาร์ทโฟน) จะจำข้อมูล Bluetooth ของอีกเครื่องหนึ่งไว้ ทำให้การเชื่อมต่อกันในอนาคตทำได้ง่ายขึ้น

    ถ้าหาก Bluetooth มีการเปิดไว้ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน เมื่อท่านติดเครื่องยนต์ ระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์นั้นจะค้นหาอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่อกันตัวล่าสุด และเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน

  7. เมื่อการเชื่อมต่อทำได้เสร็จสิ้น ท่านจะเห็นข้อความการยืนยัน
    โปรดสังเกตุว่าสัญลักษณ์ของ Bluetooth ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่านมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ 

คำแนะนำเพิ่มเติมในการจับคู่ Bluetooth

  1. ท่านสามารถใช้งานการเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ทีละหนึ่งคู่เท่านั้น ถ้าหากท่านเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่น จะเป็นการเข้ามาแทนที่การเชื่อมต่อ Bluetooth ตัวก่อนหน้านั้น
     
  2. ถ้าหากอุปกรณ์ Bluetooth เชื่อมต่ออยู่กับระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์อยู่ จะต้องตัดการเชื่อมต่อก่อน จึงจะสามารถตรวจพบอุปกรณ์ใหม่ได้
     
  3. ท่านสามารถมีข้อมูลการจับคู่ของอุปกรณ์ Bluetooth ได้หลายตัวในรายการ Bluetooth ของท่าน
    เมื่อท่านเก็บไว้มากกว่าแปดอุปกรณ์ ข้อมูลที่เป็นตัวเก่าที่สุดจะถูกลบออกไป
     
  4. หน้าต่างแสดงเวลาสำหรับการจับคู่ปกติจะมีการแสดงไว้สองสามนาที ถ้าหากท่านทำหน้าต่างนี้หายไป กรุณาทำเปิดโหมดการจับคู่ขึ้นมาใหม่
     
  5. ถ้าหากท่านไม่สามารถหาระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ของท่าน ในรายการอุปกรณ์ Bluetooth ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่าน (แม้จะอยู่ในโหมดการจับคู่ก็ตาม) ให้ทำการปิดและเปิด Bluetooth ในโทรศัพท์ของท่านโดยเร็ว จะเป็นการ Refresh รายการนั้นใหม่ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนบางเครื่องจะมีฟังก์ชัน Refresh ให้ด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากทำแล้วแต่ไม่ดีขึ้น กรุณาลองทำการปิดและเปิด Bluetooth ในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของท่านใหม่ทั้งหมด
     
  6. ถ้าหากอุปกรณ์การเล่นของท่านรองรับ A2DP (Advanced Audio Distribution Profile) ท่านสามารถจะรับฟังเพลงจากเครื่องเสียงติดรถยนต์ของท่านได้ ท่านจะต้องเลือก “Bluetooth” ในรายการ แหล่งที่มาของเพลง (ตัวเลือกอื่นอาจจะเป็น วิทยุ AM/FM) หรือ CD โทรศัพท์สมาร์ทโฟนสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะมี A2DP ซึ่งได้กลายเป็นฟีเจอร์หลักตั้งแต่ปี 2552
     
  7. ถ้าหากท่านพบกับปัญหาในการจับคู่ Bluetooth เกิดซ้ำๆกัน ให้ลองทำการลบข้อมูลการจับคู่ในปัจจุบันในชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแนะนำให้ทำตามขั้นตอนการจับคู่ใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง