รถที่ไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนดจะต้องเสียงเงินเพิ่มเท่าใด

ยุคปัจจุบันมีการซื้อขายรถยนต์เป็นจำนวนมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นหรือเหตุผลอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญที่ตามมาคือ “การต่อภาษีรถยนต์” หรือเรียกง่ายๆ คือการต่อทะเบียนในแต่ละปี ภาษีรถยนต์ตัวนี้มีความสำคัญมากขนาดไหน แล้วถ้าจะต่อภาษีง่ายที่สุดสามารถทำได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

ความสำคัญของการต่อภาษีรถยนต์

“ทำไมต้องต่อภาษีรถยนต์” อาจจะเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัย ซึ่งคำตอบที่ได้มาแบบทั่วๆ ไป ก็คือเป็นการทำตามกฎหมาย แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป การใช้รถบนท้องนั้นจะก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของถนนหนทาง รวมไปถึงต้องสร้างถนนเส้นใหม่ เพิ่มเติม

การจ่ายภาษีรถยนต์ก็เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนหน่วยงานคมนาคมให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และทำถนนหนทางทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงปรับปรุงการคมนาคมอื่นๆ

รถที่ไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนดจะต้องเสียงเงินเพิ่มเท่าใด

ถ้าไม่ต่อจะเป็นอย่างไร

หากละเลยการต่อภาษีรถยนต์ย่อมถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนใช้รถควรรู้ แต่ถ้าหาไม่ต่อภาษีจะมีกฏหมายที่้เข้ามาดูแลดังนี้

  1. เสียค่าปรับ

    ตามปกติแล้วการต่อภาษีสามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนทะเบียนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน แต่ถ้าต่อภาษีล่าช้าจะโดนค่าปรับ 1% ของภาษีรถยนต์ต่อเดือน ยิ่งปล่อยไว้นาน ค่าปรับก็จะยิ่งเพิ่ม หากปล่อยไว้นานอาจโดนค่าปรับย้อนหลังอ่วมได้ไม่ยาก

  2. ถูกระงับทะเบียน

    เมื่อปล่อยรถไว้นานโดยไม่ได้ทำการต่อทะเบียนเกิน 3 ปี ทางขนส่งจะดำเนินการระงับทะเบียนทันที หากจะใช้รถคันเดิมจะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่พร้อมคืนป้ายทะเบียน รวมถึงดำเนินการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลัง สำหรับรถใครที่มีการซ่อมเป็นเวลายาวนาน หรือจอดไว้ไม่ได้ใช้งาน ขนส่งก็ไม่ได้ใจร้ายสามารถยื่นแสดงการระงับใช้รถชั่วคราวล่วงหน้าที่ขนส่งได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียภาษีในช่วงนั้นๆ

  3. เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะ

    นอกจากค่าปรับแล้ว การไม่ต่อภาษีรถยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก เช่น ค่าตรวจสภาพ ค่าป้ายใหม่ เป็นต้น ยังไม่นับค่าเดินทางไปๆ มาๆ กรณีเตรียมเอกสารไม่ครบหรือโดนเรียกเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งเทียบแล้วการยื่นต่อภาษีตามปกติยังมีความคุ้มค่าเสียกว่า

โดยสรุปแล้ว ทุกคนควรดำเนินการต่อภาษีรถยนต์เป็นประจำทุกปี เพื่อที่จะให้ไม่ต้องเสียค่าปรับเพิ่มเติม รวมถึงประหยัดเวลาอีกด้วย

การต่อภาษีรถยนต์ทำอย่างไร

หลังจากเข้าใจความสำคัญของการต่อภาษีแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการดำเนินการซึ่งต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นก่อน ดังนี้

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ หรือเล่มทะเบียน
  • เอกสาร พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
  • หลักฐานการผ่านการตรวจสภาพรยนต์ แต่ถ้าหากขาดต่อภาษีเกิน 3 ปีจะต้องมีเอกสารเพิ่ม ดังนี้
    • สำเนาบัตรประชาชน
    • หลักฐานการระงับทะเบียน (กรณียื่นขอระงับ)
    • เอกสารอื่นๆ ตามที่ขนส่งต้องการ

วิธีการต่อภาษี

  1. ยื่นขอคำขอต่อทะเบียนรถ (หรือจดทะเบียนใหม่) ณ สถานที่ที่รับต่อภาษีรถยนต์ เช่น กรมขนส่งทางบก ไปรษณีย์ 
  2. ดำเนินการตรวจสภาพรถ ณ จุดที่กำหนด (หากดำเนินการนอกขนส่ง จำเป็นต้องขอเอกสารตรวจสภาพรถก่อน)
  3. ชำระเงินค่าธรรมเนียม
  4. รับหลักฐานการเสียภาษี (และป้ายทะเบียน หากเป็นกรณีจดใหม่)

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าหากคุณขาดการต่อภาษีไปเป็นเวลานานเกิน 3 ปี จะต้องไปดำเนินการที่ขนส่ง การต่อ พ.ร.บ. ตรวจสภาพก็เช่นกัน และทางขนส่งอาจมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับการใช้รถ หลังจากนั้นก็สามารถต่อภาษีได้แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดความสับสนสำหรับผู้ใช้รถมือใหม่คือเข้าใจว่าภาษีรถยนต์ (หรือการต่อทะเบียน) และการต่อพ.ร.บ. นั้นเหมือนกัน แต่จริงๆ ไม่ใช่

รถที่ไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนดจะต้องเสียงเงินเพิ่มเท่าใด

ความแตกต่างระหว่างภาษีกับพ.ร.บ.

ภาษีรถยนต์ คือ ค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนต้องดำเนินการชำระทุกปี ทำนองเดียวกับภาษีเงินได้หรือภาษีโรงเรือน เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปดูแลรักษาระบบคมนาคมและภาคส่วนอื่นๆ

พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ชื่อเต็มว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คือการทำประกันภัยรถยนต์ขั้นต้นที่ผู้ใช้รถทุกคนจำเป็นต้องทำ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งจะให้การช่วยเหลือในแง่ค่ารักษาและค่าชดเชยอื่นๆ

สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองอย่างนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างมากหากต้องซื้อรถสักคัน

สรุป

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือความสำคัญและวิธีการดำเนินการต่อภาษีรถยนต์อย่างง่ายครับ ซึ่งนอกจากจะเป็นข้อกฎหมายแล้วยังนับเป็นหน้าที่ของทุกคนที่สมควรทำเพื่อช่วยดูแลรักษาถนนหนทางของเราให้ดียิ่งขึ้น

หากคุณต้องดำเนินการต่อพ.ร.บ. และภาษี ลองปรึกษาทางเงินติดล้อดูครับ เรามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์เงินติดล้อ หรือสอบถามพวกเราได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาทั่วประเทศ พวกเรายินดีให้บริการครับ!

     
 

o

แบบเฉลยแบบทดสอบ เป็นเพียงนำข้อสอบมาเฉลยบางครั้งข้อความอาจไม่ครบถ้วน โปรดดู พ.ร.บ.ตัวจริงอีกครั้ง
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ข้อใดสามารถจอดรถได้ 5 เมตร จากปากทางเข้าออกอาคาร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทาง ผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณให้ผู้ขับขี่รถอื่นเห็นสัญญาณได้ไม่น้อยกว่า 60 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อผู้ขับขี่ได้รับใบสั่งสามารถใช้แทนใบขับขี่ได้กี่วัน 7 วัน
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขับขี่ต้องขับขี่รถห่างจากคันหน้าเท่าไร ห่างจากรถคันหน้าพอสมควรในระยะที่หยุดรถได้โดยปลอดภัยในเมื่อจำเป็นต้องหยุด
 

o

สัญญาณไฟจราจร(เขียว เหลือง แดง)เมื่อท่านเห็นสีเหลืองต้องปฏิบัติอย่างไร เตรียมตัวหยุดรถหลังเส้นให้หยุด
 

o

การหยุดรถต้องให้สัญญาณด้วยมือและแขน หรือสัญาณไฟก่อนหยุดรถอย่างน้อยกี่เมตร 30 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ห้ามผู้ขับขี่รถแซงรถคันอื่น ที่มีหมอก ฝุ่น หรือควัน จนไม่อาจเห็นข้างหน้าได้ระยะ 60 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในการขับรถ ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำเส้นกลางทางเดินรถเว้นแต่ ทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึง 6 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขับขี่ต้องจอดรถห่างจากท่อน้ำดับเพลิงอย่างน้อย 3 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การขับรถเพื่อเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาผู้ขับขี่ต้องเลี้ยวเข้าช่องทางที่จะเลี้ยวไม่น้อยกว่าระยะเท่าใด30 เมตร
 

o

ข้อใดเป็นเครื่องหมายจราจรประเภทบังคับ เครื่องหมายให้ทาง
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขับขี่ต้องจอดรถชิดขอบทางหรือไหล่ทางในระยะห่างไม่เกินกี่เซ็นติเมตร 25 เซ็นติเมตร
 

o

เครื่องหมาย"ขาว-เหลือง" หมายถึง หยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารได้ชั่วคราว
 

o

เครื่องหมายจราจรที่เป็นเครื่องหมายสีขาวสลับแดง มีความหมายว่า ห้ามหยุดห้ามจอด
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ตามหลังรถฉุกเฉินอย่างน้อยระยะเท่าใด 50 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ โคมไฟท้ายรถยนต์มีกี่ประเภท 3 ประเภท
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อบรรทุกของยื่นเกินความยาวของตัวรถท่านต้องติดธงหรือไฟสัญญาณให้เห็นในระยะไม่น้อยกว่า150 เมตร
 

o

จงบอกสีของไฟสัญญาณจราจรจากข้างบนลงข้างล่าง แดง-เหลือง-เขียว
 

o

เมื่อขับรถมาถึงวงเวียนไม่มีไฟสัญญาณจราจร ผู้ขับบี่รถต้องปฏิบัติอย่างไร ให้รถด้านขวาไปก่อน
 

o

ข้อใดห้ามแซง เมื่อมีหมอก ฝน ฝุ่นควัน จนไม่อาจเห็นข้างหน้าได้ 60 เมตร
 

o

ในเวลาที่แสงสว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถ หรือสิ่งกีดขวางได้โดยชัดแจ้งไม่น้อยกว่ากี่เมตร ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหรือใช้แสงสว่างตามประเภท ลักษณะ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง 150 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ โคมไฟแสงพุ่งไกลของรถยนต์ให้ติดสูงจากพื้นทางราบถึงจุดกลางดวงโคมไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร
 

o

ข้อใดผู้ขับขี่สามารถแซงได้ แซงรถด้านซ้ายในขณะที่รถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวาหรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การจอดบริเวณป้ายรถประจำทาง จะต้องจอด 15 เมตร ก่อนถึงเครื่องหมายหยุดรถประจำทาง และเลยอีก 3 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขับขี่ต้องจอดรถห่างจากทางข้ามอย่างน้อย 3 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขับขี่ต้องจอดรถห่างจากทางแยกอย่างน้อย 10 เมตร
 

o

การจอดรถ จอดห่างจากท่อน้ำดับเพลิงอย่างน้อย 3 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขับขี่"ต้องจอด"รถห่างจากทางรถไฟผ่านไม่น้อยกว่า 15 เมตร
 

o

เมื่อจะลดความเร็วของรถ ผู้ขับขี่ให้สัญญาณด้วยมือหรือแขนอย่างไร ยื่นแขนขวาออกไปนอกรถระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง
 

o

รถยนต์ที่กำหนดให้ใช้เข็มขัดนิรภัย ผู้ขับขี่และคนโดยสารต้องปฏิบัติอย่างไร ผู้ขับขี่และผู้โดยสารแถวเดียวตอนหน้ากับผู้ขับขี่ต้องรัดเข็มขัดนิรภัย
 

o

โคมไฟแสงพุ่งไกลของรถยนต์"แสงสว่างเห็นพื้น"ไม่น้อยกว่า100 เมตร
 

o

โคมไฟแสงพุ่งต่ำ แสงเห็นพื้นไม่น้อยกว่า 30 เมตร
 

o

รถยนต์ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ หมายความว่า รถที่มีล้อตั้งแต่ 3 ล้อขึ้นไปที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้าหรือพลังงานอย่างอื่นยกเว้นรถที่เดินบนราง
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ รถแทกซี่ ใช้รับจ้างบรรทุกคนโดยสารได้ไม่เกิน 7 คน
 

o

ข้อใดคือ"รถ"ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ รถถังในราชการสงคราม
 

o

ถนนที่ไม่มีทางเท้า คนเดินเท้าต้องปฏิบัติอย่างไร เดินทางด้านขวาให้สวนทางกับรถ และสามารถมองเห็นรถได้สะดวก
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เสียงแตรต้องได้ยินไม่น้อยกว่า 60 เมตร
 

 o

ผู้ขับขี่เมื่อพบไฟกระพริบสีแดงติดตั้งอยู่ทางร่วมทางแยกกระพริบทางด้านที่ขับไปต้องปฏิบัติอย่างไร หยุดหลังเส้นให้หยุดเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับต่อไปด้วยความระมัดระวัง
 

o

คำว่า "ทาง" ตามความหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ คือ ทางเท้า,ทางเดินรถ,ทางข้าม
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การจอดรถผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณก่อนจอดไม่น้อยกว่า 30 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การหยุดรถหรือจอดรถนอกเขตเทศบาลผู้ขับขี่ต้องหยุดหรือจอดให้ผู้ขับขี่รถอื่นมองเห็นได้ระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อมีเสียงสัญญาณรถไฟหรือรถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้อาจเกิดอันตราย ผู้ขับขี่ต้อง ลดความเร็วลงและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ห้ามมิให้เจ้าของรถบรรทุกคนโดยสารรับคนที่เป็นโรค เรื้อน
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การนับจำนวนคนโดยสารเด็กอายุไม่เกินเท่าใด นับจำนวน 2 คน เท่ากับผู้ใหญ่ 1 คน 10 ปี
 

o

เมื่อเจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งแล้วต้องนำใบอนุญาตขับขี่ให้พนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจ ภายใน 8 ชั่วโมง
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การกลับรถหรือเลี้ยวรถทางขวาในทางเดินรถที่มีรถสวนกันได้ ต้องไม่กลับรถหรือเลี้ยวขวาในเมื่อรถคันอื่นสวนมาหรือตามมาในระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อได้รับสัญญาณหยุดรถจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถห่างจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่ากี่เมตร กรณีไม่มีเส้นให้รถหยุด 3 เมตร
 

o

เมื่อขับรถมาถึงทางแยกพร้อมกันไม่มีเครื่องหมายจราจรบอกทางเอกทางโท ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ให้ผู้ขับรถด้านซ้ายไปก่อน
 

o

ในทางเดินรถที่แคบและไม่อาจสวนกันได้อย่างปลอดภัย เมื่อขับรถสวนกัน ผู้ขับขี่รถคันที่ใหญ่กว่าต้องปฏิบัติอย่างไร ลดความเร็วและหยุดให้รถเล็กกว่าผ่านไปก่อน
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ "จอดรถห่างจากที่ติดตั้งสัญญาณจราจรไม่น้อยกว่า" 10 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ หากเจ้าพนักงานยึดรถที่กระทำความผิดเจ้าของหรือผู้ครอบครองต้องแสดงตัวภายในกี่เดือน 6 เดือน นับจากวันที่เกิดเหตุ
 

o

กรณีผู้กระทำความผิดถูกยึดใบอนุญาตเพื่อนำไปบันทึกคะแนน จะถูกยึดครั้งละไม่เกินกี่วัน 60 วัน
 

o

ผู้ขับขี่ที่กระทำความผิด ใน 16 ฐานความผิด จะต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบในกรณีใด กระทำความผิด ซ้ำ 2 ครั้ง ในข้อหาเดียวกันภายในหนึ่งปีนับจากการกระทำความผิดครั้งแรก
 

o

เมื่อใบอนุญาตขับรถชำรุดหรือสูญหาย จะต้องยื่นคำขอรับใบแทนต่อนายทะเบียน ภายในกี่วัน 15 วัน นับแต่วันทราบเหตุ
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ สัญญาณไฟจราจรควบคุมคนเดินเท้าที่จะข้ามถนนมี กี่สีอะไรบ้าง 2 สี แดง-เขียว
 

o

การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่แต่ละครั้งมีกำหนดครั้งละ"ไม่เกิน"กี่วัน 90 วัน
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ พื้นที่สำหรับคนเดินเท้า กี่ระดับ ระดับใดบ้าง 3 ระดับ ระดับพื้นดิน ระดับใต้พื้นดิน ระดับเหนือพื้นดิน
 

์o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การจราจรหมายความว่า การใช้ทางของผู้ขับขี่ คนเดินเท้า คนที่จูงที่ขี่หรือไล่ต้อนสัตว์
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เขตปลอดภัยมีไว้สำหรับ ให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถ หยุดรอก่อนข้ามทางต่อไป
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในทางเดินรถที่สวนกันได้ ห้ามกลับรถหรือเลี้ยวรถทางขวา ในระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 90 ซีซี จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าเท่าไร 15 ปี บริบูรณ์
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ยืน และยกแขนขวาท่อนล่าง ตั้งฉากกับแขนท่อนบน และตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาทางด้านหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องหยุดรถ
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ยืน และยกแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบน และตั้งฝ่ามือขึ้นส่วนแขนซ้ายเหยียดออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ ซึ่งขับรถมาทางด้านหน้า และด้านหลังพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องหยุดรถ
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ สายพ่วงที่ใช้ลากหรือจูงรถ ต้องมีความยาวเท่าไร ยาวไม่น้อยกว่า 3 เมตร แต่ไม่เกิน 5 เมตร
 

o

พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ หากเจ้าของรถไม่เสียภาษีประจำปี ในเวลาที่กำหนด จะต้องชำระเงินเพิ่มอีกเท่าไร ร้อยละ 1 ต่อเดือน
 

o

รถที่มีไว้ขายหรือซ่อม อนุญาตให้ขับได้เวลาใด เวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก
   

พรบ.รถยนต์ มีข้อหาอะไรบ้าง

ข้อหา และอัตราโทษ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์.
ใช้รถไม่จดทะเบียน อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 10,000 บาท.
ใช้รถไม่เสียภาษีประจำปีภายในเขตกำหนด อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 2,000 บาท.
ใช้รถไม่แสดงเครื่องหมายเสียภาษี อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 2,000 บาท.
ใช้รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 2,000 บาท.

ต้องพ้นโทษกี่ปีถึงจะทำใบขับขี่ได้

กรณีจำคุกเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องพ้นโทษมาไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน กรณีจำคุกเกิน 3 ปี ต้องพ้นโทษมาไม่น้อยกว่า 3 ปี กรณีอื่น ๆ เช่น โดนปรับ รอลงอาญา รอขึ้นศาล ต้องมีเอกสารทางคดีจากสถานีตำรวจมายืนยันชี้แจงเกี่ยวกับคดีความ

ไม่มีใบขับขี่เสียค่าปรับเท่าไร

หากขับรถแต่ไม่มีใบขับขี่ จะถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุก 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64 ความว่า “ผู้ใดขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 รถยนต์ หมายความว่าอย่างไร

มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ "รถ" หมายความว่า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง"รถยนต์" หมายความว่า รถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการและรถยนต์ ส่วนบุคคล