เพื่อนๆ หลายคน เมื่อกลับมาบ้านแล้วก็ต้องทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือในช่วงเวลาสอบก็ต้องใช้เวลาตลอดทั้งคืนเพื่อติวหนังสือ ซึ่งในช่วงเวลานั้นเพื่อนๆ รู้ไหมว่า แสงไฟ ก็มีส่วนในการทำให้เราอ่านหนังสือได้ดีขึ้น หรือแย่ลงด้วยนะ เคยลองสังเกตกันบ้างรึเปล่า? ว่าเรามีการอาการเช่น แสบตา ตาล้า ตาเพลีย ง่วงนอน กันบ้างไหม ถ้ามีนั่นแสดงว่าหลอดไฟที่เพื่อนๆ ใช้นั้นไม่เหมาะสมในการอ่านหนังสือ เราลอง
มาดู! แสงไฟแบบไหนช่วยให้อ่านหนังสือได้ดีขึ้น กันดีกว่าค่ะ ^^ มาดู! แสงไฟแบบไหนช่วยให้อ่านหนังสือได้ดีขึ้นการเลือกประเภทหลอดไฟสำหรับอ่านหนังสือ ในปัจจุบันหลอดไฟที่นิยมนำมาติดตั้งในโคมไฟอ่านหนังสือ มีแบบ หลอดใส้ , หลอดฟลูออเรสเซนต์ , หลอดตะเกียบ , หลอด LED แต่แบบไหนที่เหมาะกับการอ่านหนังสือจริงๆล่ะ? เราควรเลือกใช้แบบหลอดใส้ซึ่งเป็นแสงแบบ Continuous Spectrum เหมือนแสงอาทิตย์ แม้จะเปลืองไฟกว่า และร้อนกว่า แต่มีข้อดีคือ ราคาถูก และแสงสว่างต่อเนื่องไม่กระพริบ และไม่ควรเลือกโคมไฟแสงสีขาวเกินไป หรือเหลืองจนเกินไป เพราะแสงแบบนี้จะแยงตาไม่ เหมาะกับการอ่านหนังสือ ซึ่งหลอดอีกประเภท คือหลอดที่มีแสงสีขาว (Cool Daylight) นั้นก็ไม่เหมาะเช่นกัน ควรใช้หลอดตะเกียบที่มีแสงสีนวล (warm white) ซึ่งโคมไฟอ่านหนังสือทั่วๆ ไปจะใช้หลอดไส้ แต่ตัวหลอดจะออกสีฟ้าๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะ หลอดไส้จะให้แสงสีเหลือง พอแสงตัดกับผิวหลอดที่เป็นสีฟ้า สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองอ่อนเหมาะสมกับการอ่านหนังสือที่สุด สำหรับการอ่านหนังสือกับแสงจากธรรมชาติ หรือแสงอาทิตย์ ควรเลี่ยงแสงสว่างจ้าเกินไป เพราะสายตาเสีย และไม่ควรมืดเกินไปเพราะจะทำให้ต้องเพ่ง ทำให้สายตาอ่อนล้า จึงควรหาโคมไฟติดไว้ เพื่อช่วยปรับแสงให้พอดีกับสภาพแวดล้อมแต่ละวัน ส่วนหลอดฟลูออเรสเซนต์ , หลอดตะเกียบ , หลอด LED มีจะมีข้อดีกว่าคือประหยัดไฟ และไม่ร้อน แต่ก็มีข้อเสียคือมีการกระพริบ ปกติประมาณ 50-60 ครั้งต่อวินาที แม้ตาเราจะไม่รู้สึกว่ามันกระพริบ แต่ถ้าอ่านหนังสือไปนานๆ ก็จะทำให้ตาล้าได้ง่ายกว่า ปัจจุบันมีการผลิตหลอด ฟลูออเรสเซนต์ , หลอดตะเกียบ , หลอด LED แบบพิเศษที่มีอัตราการกระพริบที่สูงขึ้น เช่น 100-120 ครั้งต่อวินาที สำหรับใช้อ่านหนังสือโดยเฉพาะ แต่ก็มีราคาแพงและหาซื้อยาก ถ้าเลือกใช้หลอดประเภทนี้ควรเลือกสี Warm white หรือขาวนวล (ไม่ควรใช้ Cool white หรือ Day light) ตำแหน่งการฉายไฟที่ถูกต้อง เพื่อให้แสงที่ตกสะท้อนจากกระดาษไม่ตกเข้าตา และไม่เกิดเงาบังขณะเขียนหนังสือ สำหรับคนถนัดขวา ถ้าเลือกใช้โคมไฟแบบตั้งโต๊ะ ควรให้แสงไฟเข้าจากทางด้านหน้า-ซ้าย แต่ถ้าเลือกใช้โคมไฟแบบอ้อมด้านหลัง ควรให้โคมฉายไฟจากเยื้องหลังข้ามไหล่ซ้าย เพื่อมิให้เกิดเงาบังขณะเขียนหนังสือ มาดู! แสงไฟแบบไหนช่วยให้อ่านหนังสือได้ดีขึ้นเมื่อเตรียมแสงสว่างพร้อมแล้ว ก็อ่านหนังสือกันเยอะๆ การวางหนังสือที่ดี หนังสือควรอยู่ในแนวตั้ง ทำมุมประมาณ 40 – 80 องศากับโต๊ะ แล้วแต่ลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นมุมมองที่ทำให้อ่านหนังสือ ง่าย สบายตาที่สุด โดยไม่ต้องก้มหน้าอ่าน ไม่ปวดคอ หรือจะใช้ที่ตั้งวางหนังสือสำเร็จรูปก็ได้ หลังควรพิงพนักเก้าอี้ หลังจะได้ตรง ร่างกายจะผ่อนคลาย ทำให้อ่านหนังสือได้นานและดีต่อสุขภาพ ขอบคุณข้อมูล http://office.dpt.go.th/
เวลาที่อ่านหนังสือหรือทำงานโดยอาศัยเพียงแสงจากไฟเพดานอย่างเดียวอาจไม่สว่างเพียงพอ ทำให้สายตาต้องทำงานหนักขึ้น จนเกิดอาการตาล้า แสบตา หรืออ่อนเพลียตามมา และส่งผลให้ไม่สามารถอ่านหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน หากเรามีแสงไฟที่สว่างมากพอ ก็จะยิ่งช่วยให้สามารถอ่านหนังสือได้ดีขึ้น ดังนั้น โคมไฟสำหรับอ่านหนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่ใครหลายคนคิด แต่โคมไฟสำหรับอ่านหนังสือก็มีสีของแสงไฟ ฟังก์ชัน และดีไซน์แตกต่างกันอยู่มากมายจนเลือกซื้อไม่ถูกเลยทีเดียว ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อโคมไฟมาแนะนำให้กับทุกคน รวมถึง 10 อันดับ โคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ รุ่นยอดฮิตจากยี่ห้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น PHILIPS, MINISO และ Xiaomi ที่คัดมาแล้วว่ามีคุณภาพจริง ๆ เพียงแค่ติดตามอ่านบทความของเราจนจบคุณก็จะได้ไอเดียในการเลือกซื้อโคมไฟอย่างเหมาะสม หรืออาจได้โคมไฟดี ๆ โดนใจไปไว้ใช้งานกันอีกด้วยนะคะ !
วิธีเลือกโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือการจะเลือกโคมไฟที่เหมาะกับการทำงานหรืออ่านหนังสืออย่างแท้จริงมาใช้งานได้นั้น จำเป็นต้องรู้ความแตกต่างและข้อดีข้อเสียของโคมไฟแต่ละแบบก่อน เพื่อที่เราจะได้เปรียบเทียบโคมไฟแต่ละรุ่น แล้วเลือกรุ่นที่ดีที่สุดมาใช้ได้ค่ะ เลือกโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือจากประเภทของหลอดไฟฟ้าที่ให้แสงสว่างโคมไฟแบ่งอย่างคร่าว ๆ ได้ 2 แบบ คือ แบบที่ใช้หลอดไฟ LED และหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent) ซึ่งเราจะมาอธิบายความแตกต่าง รวมถึงข้อดี-ข้อเสียของแต่ละประเภทให้ทุกคนได้อ่านกัน ดังนี้ หลอดไฟ LED ให้ความสว่างได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าโคมไฟที่ใช้หลอด LED มีข้อดีที่เด่นชัดมากในแง่ของการให้แสงสว่างยาวนาน และประหยัดพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งมีอายุการใช้งานยาวนานยาวนานถึง 40,000 ชั่วโมง ในขณะที่หลอดไฟฟลูออเรสเซนส์มีอายุการใช้งานเพียง 3,000 ชั่วโมง ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานมากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์กว่า 10 เท่าเลยทีเดียวค่ะ ส่วนในเรื่องการให้แสงสว่างนั้น หลอด LED มีคุณสมบัติส่องสว่างได้ดีกว่าแบบฟลูออเรสเซนต์ โดยให้ความสว่างคงที่ แสงไฟไม่ตก เหมาะกับการใช้อ่านหนังสือทั่วไปตลอดจนตัวหนังสือขนาดเล็ก ที่สำคัญ หลอดไฟไม่ร้อนเพราะไม่มีการเผาไหม้เพื่อให้แสงสว่างเหมือนกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ จึงปลอดภัยแม้กระทั่งกับเด็กอายุน้อย ๆ ค่ะ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ให้แสงฟุ้งกระจาย อายุการใช้งานสั้นหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เป็นชนิดที่นิยมใช้งานมาก่อนหน้าที่จะมีการพัฒนา LED ขึ้น มักให้แสงสว่างจ้าเหมาะกับผู้ทำงานออกแบบที่ต้องการเห็นสีสันต่าง ๆ คมชัด แต่ข้อเสียของการใช้หลอดไฟประเภทนี้คือแสงสว่างที่ได้จะเป็นแบบฟุ้งกระจาย 360 องศา ทำให้สะท้อนเงาตัวหนังสือจนสายตาต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อโฟกัสภาพ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อดวงตาในระยะยาวได้ นอกจากนี้ อายุการใช้งานของหลอดฟลูออเรสเซนต์สั้นกว่าหลอด LED มาก จึงต้องเสียเงินเปลี่ยนหลอดไฟใหม่บ่อย ๆ อีกทั้งในหลอดฟลูออเรสเซนต์ยังมีสารปรอทที่อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จึงไม่นิยมใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์กันแล้วค่ะ เลือกความสว่างของแสงให้เหมาะสมกับการอ่านหนังสือการใช้งานโคมไฟให้เกิดประสิทธิผลดีเยี่ยมต้องคำนึงถึงเรื่องการถนอมสายตาเป็นสำคัญ โดยก่อนตัดสินใจซื้อโคมไฟรุ่นใด ๆ ต้องพิจารณาถึงสิ่งต่อไป เช่น แสงไฟ, ระดับความสว่าง, โทนของแสง เป็นต้น ค่าแสดงความสว่างของหลอดไฟค่าแสดงความสว่าง หรือ "ลูเมน (lm)" เป็นค่าที่ยิ่งมากเท่าไรหลอดไฟก็จะยิ่งให้ความสว่างได้มากเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ค่าดังกล่าวมักจะถูกระบุอยู่ที่ข้างกล่อง สำหรับค่าความสว่างที่เหมาะสมกับการอ่านหนังสือจะอยู่ที่ประมาณ 300 – 400 lm (ลูเมน) ซึ่งเป็นความสว่างที่กำลังพอดีกับสายตา ไม่มืดหรือสว่างเกินไปจนทำให้สายตาต้องทำงานหนัก แต่ถ้าเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ก็ให้เลือกหลอดไฟที่มีความสว่างประมาณ 30 – 40 วัตต์ค่ะ ค่าส่องสว่าง (Illuminance)ค่าส่องสว่าง หรือ ค่า Illuminance สำหรับการอ่านเขียนหนังสือ, ทำงานเอกสาร หรืองานพิมพ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ จะอยู่ที่ 400-500 lx ส่วนงานที่ต้องการความละเอียดสูงอย่างงานออกแบบ หรือเขียนแบบที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ ควรเลือกที่มีค่าส่องสว่างประมาณ 600-700 lx ขึ้นไป ตามการอ้างอิงจากมาตรฐานของงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Safety and Health) ที่เป็นหน่วยงานภายใต้องค์การอนามัยโลก ดังนั้น ค่าส่องสว่างที่ถนอมสายตาและเหมาะสมกับการอ่านหนังสือ จะอยู่ที่ประมาณ 500 lx ซึ่งเป็นความสว่างที่ช่วยให้อ่านตัวหนังสือขนาดเล็ก หรือใช้สายตาเป็นเวลานานได้โดยไม่ทำให้ปวดตา แต่ถ้ายังรู้สึกว่าแสงมืดเกินไป ก็สามารถปรับเพิ่มค่าความสว่างนี้ขึ้นได้อีกตามต้องการ เมื่อได้รู้จักกับค่านี้แล้วก็อย่าลืมเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ที่จะใช้งานกันด้วยนะคะ เลือกสีของแสงไฟให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้สายตาทำงานหนักเกินไปนอกจากความสว่างแล้ว สีของแสงไฟก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการทำงานของสายตา จึงควรคำนึงถึงสีของแสงไฟให้เหมาะสมกับการอ่านหนังสือ เพื่อไม่ให้ต้องใช้สายตาหนักเกินไปค่ะ สีของหลอดไฟหน่วยวัด ra เป็นค่าดัชนีความถูกต้องของสีจากดวงไฟ (Color rendering index/CRI) มีค่าไม่เกิน 100 ra โดยยิ่งค่าสูงเท่าไรก็จะยิ่งใกล้เคียงกับแสงพระอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้ดวงตาเหนื่อยล้าได้ง่ายมากขึ้น แต่ถ้าค่าต่ำเกินไปก็จะทำให้แสงสีที่ได้ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นไปตามจริง ดังนั้น หากให้ระบุเฉพาะเจาะจงค่าที่เหมาะสมกับการเรียน เขียน-อ่านหนังสือมากที่สุดก็ควรอยู่ที่ 80 ra เพราะเป็นค่าที่แม้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานก็ไม่ทำให้ดวงตาอ่อนล้า สายตาไม่เสียจากการใช้งานหนักค่ะ อุณหภูมิสีของแสง (Color Temperature)อุณหภูมิสีของแสง มีหน่วยวัดเป็น k ที่มาจากองศาเคลวิน โดยเป็นค่าที่ทำให้สีของแสงไฟแตกต่างกัน และจะส่งผลต่อการทำงานของสายตาโดยตรง ซึ่งอุณหภูมิสีที่เหมาะกับการอ่านหนังสือและช่วยถนอมสายตาได้ควรจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 6,000 k เพราะจะให้แสงโทนสีอ่อน ๆ ที่อบอุ่นกำลังดี ไม่เหลืองเกินไปจนชวนง่วง หรือขาวสว่างจนปวดตา อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิสีที่แต่ละคนชอบนั้นจะแตกต่างกันไป ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกโคมไฟที่สามารถปรับค่าตรงส่วนนี้ได้ด้วยนะคะ เลือกชนิดของโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือตามการใช้งานวิธีการติดตั้งโคมไฟก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งในการเลือกซื้อโคมไฟ โดยควรคำนึงถึงการใช้งานของตนเองเป็นสำคัญ ซึ่งโคมไฟอ่านหนังสือที่มีให้เห็นส่วนใหญ่จะเป็นแบบตั้งโต๊ะ, ติดกับโต๊ะ, แบบหนีบ และแบบไร้สาย ไปดูกันเลยค่ะว่าแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง โคมไฟชนิดวางตั้ง: ใช้งานกันมากที่สุด เหมาะกับโต๊ะที่มีพื้นที่มากโคมไฟตั้งโต๊ะชนิดวางตั้งนี้เป็นแบบที่เราขอแนะนำอย่างยิ่งสำหรับใครที่ต้องการโคมไฟไว้อ่านหนังสือ/ทำงาน/ให้ลูกทำการบ้าน เพราะเป็นชนิดที่ใช้งานง่าย ให้แสงสว่างอย่างเหมาะสม มีความมั่นคงเพราะมีฐานตั้งที่แข็งแรง สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศของโต๊ะหนังสือ อีกทั้งสามารถปรับทิศของแสงไฟได้อย่างอิสระ เช่น ปรับให้ส่องจากด้านซ้ายเวลาเรียน ทบทวนตำรา หรือส่องจากด้านขวาเวลาอ่านหนังสือ โคมไฟแบบยึดเข้ากับโต๊ะ: ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย ไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอยโคมไฟชนิดนี้เป็นแบบที่เหมาะสมกับคนที่มีพื้นที่โต๊ะหนังสือ/โต๊ะทำงานไม่มาก เพราะเป็นแบบที่ไม่มีฐานวางตั้ง แต่ใช้การยึดติดเข้ากับขอบโต๊ะจึงไม่กินพื้นที่ใช้สอยบนโต๊ะ แต่ข้อเสียคือไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก เพราะบางรุ่นอาจต้องใช้น็อตยึดติดหรือใช้สกรูเจาะ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถใช้ร่วมกับโต๊ะที่เป็นกระจก รวมถึงโต๊ะที่มีหน้าโต๊ะหนาได้ เพราะช่องกว้างสำหรับยึดนั้นออกแบบมาอย่างจำกัด ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรวางแผนการจัดวางให้แน่ใจก่อน และต้องวัดขนาดหน้าโต๊ะให้ดีด้วยนะคะ โคมไฟแบบคลิปหนีบ: เคลื่อนย้ายง่าย น้ำหนักเบา ปรับเปลี่ยนทิศได้ตามความต้องการโคมไฟแบบคลิปหนีบเหมาะกับคนที่ชอบเคลื่อนย้ายพื้นที่การทำงานอยู่เป็นนิตย์ เพราะออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มีตัวยึดเป็นคลิปหนีบซึ่งติดตั้งและถอดออกได้ง่าย สามารถย้ายสถานที่ที่จะใช้งานได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องหนังสือ หรือห้องนั่งเล่น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้หนีบเข้ากับหัวเตียงหรือชั้นวางของได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เวลาที่เลือกซื้ออย่าลืมตรวจสอบความหนาของตัวหนีบให้ดีด้วยว่ามีขนาดพอดีกับสิ่งที่จะใช้ยึดหรือไม่ โคมไฟแบบไร้สาย: พกพาสะดวก ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาโคมไฟชนิดนี้เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ หรือใช้งานในบริเวณที่ไกลจากปลั๊กไฟ โดยมีให้เลือกทั้งแบบใช้ถ่านก้อน และแบตเตอรี่ชาร์จไฟ ข้อดีของโคมไฟแบบไร้สายคือ มีความสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะสามารถใช้งานได้ทุกสถานที่ทุกเวลาที่ต้องการ แต่บางคนก็อาจจะเผลอใช้งานเป็นเวลานานจนแบตหมดได้ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำโคมไฟแบบใช้สาย USB ที่สามารถต่อกับพาวเวอร์แบงค์หรือคอมพิวเตอร์ในการชาร์จไฟได้ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดอีกต่อไปค่ะ 10 อันดับ โคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ ยี่ห้อไหนดี หลากดีไซน์ ปรับแสงได้ ช่วยถนอมสายตาอันดับต่อไป เรามีโคมไฟสำหรับไว้ใช้อ่านหนังสือ/ทำงาน ยอดฮิตที่ผ่านการเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา สรุปมาแบบที่เข้าใจได้ง่ายให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อกันแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปติดตามกันต่อเลยดีกว่าค่ะ TOP 5 แนะนำสำหรับโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ ได้แก่ :
10
9
8
7
6
5
4
3
2
1
บทส่งท้ายเมื่อได้รู้ความแตกต่างของโคมไฟอ่านหนังสือและแสงไฟที่เหมาะสมแล้ว หากเป็นไปได้ก็อยากแนะนำให้ทุกคนเลือกใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ เนื่องจากหลอดไฟ LED สามารถประหยัดพลังงานได้ดีกว่า อีกทั้งยังไม่เกิดประจุความร้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังเมื่อสัมผัสโดน รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายกับดวงตาและร่างกายน้อยกว่าหลอดที่มีสารปรอทอีกด้วยค่ะ บทความที่เกี่ยวข้องบทความยอดฮิต10 อันดับ กระเบื้องยาง ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 รวมแบบคลิ๊กล็อก ยางม้วน มีกาวในตัว วงการก่อสร้างในปัจจุบันนิยมเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่มีลักษณะเลียนแบบไม้จริงมากขึ้น เพราะให้สัมผัสที่ดีและเกิดความรู้สึกอบอุ่นกับผู้อยู่อาศัย จนในช่วงหนึ่งได้มีการผลิตไม้เทียมหรือพื้นไม้ลามิเนต ที่เป็นไม้อัดผสมกับวัสดุขึ้นรูปอื่น ๆ แต่ก็ยังพบว่าลามิเนตมีปัญหาเรื่องความชื้นและปลวก ทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงมีการพัฒนาวัสดุปูพื้นที่เป็นพลาสติก 100% มาไว้ใช้งาน ซึ่งมีชื่อเรียกว่า กระเบื้องยาง หรือบางคนเรียกกระเบื้องไวนิลหรือกระเบื้อง PVCคุณสมบัติเด่นของกระเบื้องยางคือสามารถปูทับพื้นเดิมได้ง่ายดาย แม้แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานงานช่างก็สามารถทำเองได้และมีราคาถูกกว่าวัสดุปูพื้นอื่น ๆ ทั้งยังทนทานสามารถใช้งานได้ถึง 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีลวดลายสวยงามให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ ลายหิน และลายสีพื้น ผู้ที่สนใจจึงควรทำความเข้าใจถึงวิธีการเลือกซื้อกระเบื้องยางแต่ละชนิด ซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วในบทความนี้ พร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ กระเบื้องยางยอดนิยมที่มีคุณภาพดีในร้านค้าออนไลน์มาให้คุณตัดสินใจและเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ 10 อันดับ โคมไฟดาวน์ไลท์ แบบไหนดี ปี 2022 LED ติดลอย สำหรับห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัว โคมไฟดาวน์ไลท์ที่พบเห็นได้ในบ้านหรืออาคารทั่วไปนั้น นอกจากจะให้ความสว่างขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกหรือบรรยากาศภายในสถานที่นั้น ๆ อีกด้วย เช่น แสงสว่างโทนสีส้มจะช่วยให้ผ่อนคลายนอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะที่แสงสว่างโทนขาวจะช่วยให้รู้สึกสบายตาและเห็นภาพได้ชัดเจน เหมาะกับการอ่านหนังสือ เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนหันมาติดตั้งโคมไฟประเภทดาวน์ไลท์ภายในบ้าน สำนักงานหรือโรงแรมกันมากขึ้นหากใครที่กำลังสร้างบ้านหรือตกแต่งที่พักอาศัยอยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าโคมไฟดาวน์ไลท์แต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร หรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อโคมไฟดาวน์ไลท์แบบไหนดี บทความนี้จะแนะนำวิธีการเลือกโคมไฟดาวน์ไลท์รูปแบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการติดตั้งโคมไฟดาวน์ไลท์ในแต่ละห้อง พร้อมทั้งรวบรวม 10 อันดับ โคมไฟดาวน์ไลท์ ที่น่าสนใจมาฝากทุกคนกันด้วย ไปติดตามกันเลยค่ะ 10 อันดับ กระเบื้องลายไม้ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 สำหรับปูพื้น ปูผนัง ใครที่กำลังมองหากระเบื้องสำหรับปูพื้นบ้าน การเพิ่มความคลาสสิกให้กับบ้านด้วยกระเบื้องลายไม้ที่มีลายสวยสบายตา สีไม้ไม่เพี้ยน ต่อลายได้ง่ายและไม่ต้องกังวลเรื่องของแมลงกินไม้เหมือนการปูพื้นด้วยไม้จริงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราอยากจะแนะนำ แม้กระเบื้องลายไม้จะมีลายเส้นที่สมจริงแต่กลับดูแลรักษา ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าพื้นไม้ ทนทานต่อการขูดขีดได้ดี ที่สำคัญคือ คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการผิวสัมผัสแบบด้านหรือลายไม้ที่เรียบลื่นสำหรับใครที่กำลังมองหากระเบื้องลายไม้มาใช้ในการตกแต่งบ้าน บทความนี้เรามี 10 อันดับ กระเบื้องลายไม้จากหลากหลายแบรนด์คุณภาพมาแนะนำ โดยมีให้เลือกทั้งกระเบื้องลายไม้ปูพื้น กระเบื้องติดผนัง ทั้งกระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องยางและกระเบื้องเกลซพอร์ซเลนซ์ ซึ่งเราได้นำความโดดเด่นของแต่ละยี่ห้อมาไว้ให้แล้ว นอกจากนี้ยังมีวิธีการเลือกกระเบื้องลายไม้ให้เหมาะสมกับการใช้งานมาฝากกันอีกด้วยค่ะ 10 อันดับ วอลเปเปอร์ติดผนัง ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 มีกาวในตัว กันน้ำ ผนังบ้านนั้นมีอายุขัยที่เก่าและโทรมลงตามกาลเวลา แถมบางครั้งเราเองก็เป็นคนเผลอทำให้ผนังสกปรกและเป็นรอย บางคนอาจเบื่อบรรยากาศเดิม ๆ ภายในบ้าน อยากตกแต่งใหม่แต่ก็ไม่อยากลงทุนสูง บางคนเช่าคอนโดอยู่ก็ไม่อยากทำให้ห้องต้องมีตำหนิ สำหรับคนที่มีปัญหาเหล่านี้ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วย “วอลเปเปอร์ติดผนัง” ซึ่งเป็นไอเทมหนึ่งที่ช่วยให้คุณแปลงโฉมบ้านให้กลับมาสวยงามได้อีกครั้งวอลเปเปอร์ คือ กระดาษปิดผนังที่มีลวดลาย ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง ซึ่งได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้านเป็นอย่างมาก เพราะติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว มีความสวยงามและมีหลากหลายสไตล์ให้เลือกซื้อ แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าควรซื้อแบบใด เลือกซื้อจากหลักอะไรดี วันนี้ทีมงานมายเบสท์จึงได้รวบรวมข้อมูลวิธีการเลือกวอลเปเปอร์ติดผนังที่เหมาะสมมาให้ศึกษากัน รวมไปถึง 10 อันดับวอลเปเปอร์ที่มีคุณภาพมาเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจของทุกคนด้วยค่ะ 10 อันดับ ผ้าม่าน ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 รวมม่านทึบแสง ม่านสำเร็จรูป ผ้าม่านนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอันดับต้น ๆ เวลาที่เราซื้อบ้านหรือย้ายบ้าน เพราะถือเป็นไอเทมจำเป็นที่ต้องมีไว้เพื่อป้องกันแสงแดด, ป้องกันฝุ่น อีกทั้งช่วยเรื่องความปลอดภัยและรักษาความเป็นส่วนตัวกับคนภายนอกที่ผ่านไปผ่านมา ไม่ให้มองเข้ามาเห็นในบ้านของเราอย่างไรก็ตาม การเลือกผ้าม่านมาใช้งานในบ้านก็ มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงอยู่ไม่น้อย เพราะถือเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ห้องแต่ละห้องในบ้านดูสวยงามขึ้น และที่สำคัญ ในปัจจุบันมีผ้าม่านออกมาวางจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อ ละลานตาไปหมด จนผู้ใช้งานอย่างเราไม่รู้ว่าควรจะเลือกซื้อยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี วันนี้ ทีมงานของเราเลยจะมาแนะนำวิธีการเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านของทุกคน และเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นด้วยการแนะนำ 10 อันดับ ผ้าม่านที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ ถ้าอยากรู้กันแล้ว ตามมาอ่านกันเลยค่ะ ! 10 อันดับ ของตกแต่งบ้าน สไตล์ญี่ปุ่น ปี 2022 มินิมอล เรียบง่าย เชื่อว่าทุกคนที่มีบ้านเป็นของตัวเอง ย่อมมีแนวคิดในการแต่งบ้านที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการแต่งบ้านรูปแบบหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมกันมากขึ้นก็คือการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น โดยการแต่งบ้านสไตล์นี้จะมีความใกล้เคียงกับการแต่งบ้านในสไตล์มินิมอล แต่จะมีการนำเอาแนวคิดหรือวัฒนธรรมของญี่ปุ่นบางอย่างมาเสริมลงไป เพื่อให้บ้านมีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดขึ้น อีกทั้งการแต่งบ้านในสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นไปที่ความสะอาด สบายตา และของแต่งบ้านต้องดูเป็นของที่มาจากธรรมชาติ โดยคุณสามารถประยุกต์ความเป็นตัวเองลงไปได้ ซึ่งนั่นจะทำให้บ้านของคุณแสดงออกถึงตัวตนของคุณได้มากขึ้นอีกด้วยครับสำหรับใครที่วางแผนอยากจะแต่งบ้านในสไตล์ญี่ปุ่น แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรดี วันนี้เราได้ทำการรวบรวม 10 ของแต่งบ้าน สไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกของแต่งบ้านมาแนะนำกัน ใครที่รู้สึกว่าบ้านของคุณถึงเวลาที่ต้องตกแต่งใหม่แล้ว ก็ลองมาเลือกดูของแต่งบ้านจากบทความนี้กันได้เลยครับ Item Lists ยอดฮิตค้นหาจากหมวดหมู่
|