งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ความหมายของงานประดิษฐ์
1. ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ
2. ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์
2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย
2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
2.3 ความเพลิดเพลิน
2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ
2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม
2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ
2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น
2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว
2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง
ประโยชน์ของ งานประดิษฐ์
1. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
2. มีความภูมิใจในผลงานของตน
3. มีรายได้จากผลงาน
4. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ
5. เป็นการฝึกให้รู้จักสังเกตสิ่งรอบๆ ตัว และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ลักษณะของงานประดิษฐ์
1. งานประดิษฐ์ทั่วไป เป็นงานที่บุคคลสร้างขึ้นมาจากความคิดของตนเองโดยอาศัยการเรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัว นำมาดัดแปลง หรือเรียนรู้จากตำรา เช่น การประดิษฐ์ของใช้จากเศษวัสดุ การประดิษฐ์ดอกไม้
2. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษในครอบครัวหรือในท้องถิ่น หรือทำขึ้นเพื่อใช้งานหรือเทศกาลเฉพาะอย่าง เช่น มาลัย บายศรี งานแกะสลัก
ประเภทของงานประดิษฐ์
งานประดิษฐ์ต่างๆ สามารถเลือกทำได้ตามความต้องการและประโยชน์ใช้สอย ซึ่งอาจแบ่งประเภทของงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยดังนี้
1. ประเภทใช้เป็นของเล่น เป็นของเล่นที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวทำให้ลูกหลานเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น งานปั้นดินเป็นสัตว์ สิ่งของ งานจักสานใบลานเป็นโมบาย งานพับกระดาษ
2. ประเภทของใช้ ทำขึ้นเพื่อเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การสานกระบุง ตะกร้า การทำเครื่องใช้จากดินเผา จากผ้าและเศษวัสดุ
3. ประเภทงานตกแต่ง ใช้ตกแต่งสถานที่ บ้านเรือนให้สวยงาม เช่น งานแกะสลักไม้ การทำกรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์
4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในงานเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น การทำกระทงลอย ทำพานพุ่ม มาลัย บายศรี
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์
การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการประดิษฐ์ชิ้นงานต้องเลือกให้เหมาะสมจึงจะได้งานออกมามีคุณภาพ สวยงาม รวมทั้งต้องดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตลอดเวลา และสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
1. ประเภทของเล่น
- วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ใบลาน ผ้า เชือก พลาสติก กระป๋อง
- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กรรไกร เข็ม ด้าย กาว มีด ตะปู ค้อน แปรงทาสี
2. ประเภทของใช้
- วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ ดิน ผ้า
- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น เลื่อย สี จักรเย็บผ้า กรรไกร เครื่องขัด เจาะ
3. ประเภทของตกแต่ง
- วัสดุที่ใช้ เช่น เปลือกหอย ผ้า กระจก กระดาษ ดินเผา
- อุปกรณ์ เช่น เลื่อย ค้อน มีด กรรไกร สี แปรงทาสี เครื่องตอก
4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี
- วัสดุที่ใช้ เช่น ใบตอง ดอกไม้สด ใบเตย ผ้า ริบบิ้น
- อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น เข็มเย็บผ้า เข็มร้อยมาลัย คีม ค้น เข็มหมุด
การเลือกใช้และบำรุงรักษาอุปกรณ์ มีหลักการดังนี้
1. ควรเลือกใช้ให้ถูกประเภทของวัสดุและอุปกรณ์
2. ควรศึกษาวิธีการใช้ก่อนลงมือใช้
3. เมื่อใช้แล้วเก็บไว้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
4. ซ่อมแซมเครื่องมือที่ชำรุดให้พร้อมใช้เสมอ

งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

       http://demhot088.blogspot.com/2010/09/blog-post.html

งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

บทที่ 2

 ประเภทของงานประดิษฐ์


วัตถุประสงค์

1.สามารถบอกความหมายของแต่ละประเภทของงานประดิษฐ์

2.สามารถนำไปประดิษฐ์ไว้ใช้งานได้

3.สามารถรู้ขั้นตอนการประดิษฐ์ผลงาน


    งานประดิษฐ์ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน มีทั้งงานที่สืบทอดต่อๆ กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และ งานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยใช้วัสดุต่างๆกัน เช่น เศษวัสดุเหลือใช้ วัสดุจากธรรมชาติ วัสดุสังเคราะห์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้

1 ประเภทเย็บปักถักร้อย มี 2 ประเภท คือ

      1.1 ประเภทเย็บปะและปัก ประกอบด้วยวัสดุ 2 ชิ้นชิ้นที่ 1 เป็นระนาบรองรับวัสดุที่ใช้ ได้แก่ ผ้ากระดาษหนัง วัสดุอีกชิ้นที่เป็นเส้น ได้แก่ เส้นด้าย หรือแผ่น เช่น เศษผ้ามาเย็บปะ และปักให้เกิดลวดลายบนพื้นระนาบ วิธีการปักนี้จะใช้ด้ายสีต่างๆ ดิ้นเงิน ดิ้นทอง เลื่อม มุก ลูกปัด ทำให้เกิดลวดลายสวยงาม สำหรับวิธีการเย็บปะจะใช้เศษผ้าสีมาติดเป็นรูปร่าง เช่น ลายดอกไม้ ตุ๊กตา แล้วเย็บตามขอบริมให้ติดกับพื้นระนาบรับรอง



งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

                               ภาพที่ 1 การปักด้วยมุกและเลื่อม                        ภาพที่ 2  การเย็บปะ


                                                                                                                      

วิธีการเย็บปักปะ



      วิดีโอที่ 1 การเย็บตะเข็บงานปักปะ


         1.2 ประเภทถักและร้อย เป็นการประดิษฐ์ที่ทำให้เกิดรูปทรงด้วยวัสดุในตัวเอง เช่น การถักไหมพรม การถักเชือก ป่าน ปอ การถักด้วยด้าย โดยใช้เข็มถักหรือมือถักให้เป็นแผ่นหรือเป็นเส้นหนา ส่วนการร้อย วัสดุที่ใช้จะมีรูตรงกลาง เช่น ลูกปัด ไข่มุก มาร้อยเป็นเส้นออกแบบ เลือกสี ทำลวดลาย ประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับต่างๆ เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ

2 ประเภททอและสาน เป็นศิลปะประดิษฐ์ ที่มีคุณค่าทางประโยชน์ใช้สอย โดยใช้วัสดุประเภท ด้าย ไหม เชือก กก หวาย มาขัดระหว่างเส้นยืนและเส้นนอน ให้เกิดเป็นความกว้าง ความยาว และความหนา เกิดเป็นรูปร่าง เช่น ตะกร้า




งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ภาพที่ 3 การทอผ้า


วิธีการทอผ้า



วิดีโอที่ 2 ขั้นตอนการทอผ้า


3. ประเภทการปั้นและแกะสลัก

       3.1 งานปั้นเป็นการสร้างสรรค์ที่มีความประณีตบรรจง ในการทำ เช่น การใช้แป้งขนมปังและดินญี่ปุ่น ปั้นเป็นดอกกุหลาบจิ๋ว ปั้นตุ๊กตา นำไปประดับตกแต่ง

        3.2 งานแกะสลัก หมายถึ งการแกะสลักและการฉลุให้เป็นลวดลายลงบนวัสดุเนื้ออ่อนหรือผักผลไม้


                 

งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ภาพที่ 4 การแกะสลัก


วิธีการแกะสลัก



วิดีโอที่ 3 แกะสลักใบไม้จากแตงกวา


4. ประเภทเขียนลวดลาย  ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการเขียนให้เกิดลวดลายมีทางที่เลียนแบบจากธรรมชาติ และลวดลายที่ประดิษฐ์ใหม่ด้วยดินสอ พู่กัน และสีต่างๆ ลวดลายที่เขียนนอกจากจะเขียนให้เกิดลวดลายตามที่ต้องการแล้วยังสามารถใช้วิธีอื่นๆได้อี กเช่น การพิมพ์การขีด การขูด


                     


งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ภาพที่ 5 การเพ้นผ้า


วิธีการเพ้นสี


วิดีโอที่ 4 D.I.Y เพ้นกระเป๋า


5 ประเภทดอกไม้ งานประดิษฐ์กลุ่มนี้แบ่งออกได้ 2 ประเภทคือ

        5.1 ประเภทใช้วัสดุจากธรรมชาติงานประดิษฐ์ประเภทนี้ใช้ดอกไม้สด ใบไม้ เช่น ดอกกุหลาบมอญ ดอกพุด ดอกรัก ดอกมะลิ ดอกบานไม่รู้โรย ใบตอง ใบแก้ว ใบกระบือ มาประดิษฐ์ตกแต่งโดยใช้วิธีการร้อยการกรอง การเย็บแบบ การปักแจกัน

       5.2 ประเภทงานที่ใช้วัสดุสังเคราะห์ ประดิษฐ์เลียนแบบดอกไม้จากธรรมชาติ ซึ่งความคงทนถาวรกว่าและสีสันสวยงามใกล้เคียงธรรมชาติ วัสดุที่ใช้ประดิษฐ์ได้แก่ ผ้า กระดาษ พลาสติก


    

งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ภาพที่ 6 พานไหว้ครูจากวัสดุธรรมชาติ


วิธีการทำพานไหว้



วิดีโอที่ 5 วิธีการทำพานไหว้ครูแบบง่ายๆ


6 ประเภทวัสดุเหลือใช้ การนำวัสดุเหลือใช้มาออกแบบใช้กับงานประดิษฐ์ไม่จำกัดว่าต้องเป็นวัสดุประเภทใดสามารถใช้ได้ทุกชนิดอยู่ที่ความสามารถในการออกแบบของผู้ผลิตที่จะทำให้เกิดผลงานที่มีคุณค่าและประโยชน์ใช้สอย



งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

ภาพที่ 7 งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้


วิธีการประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุเหลือใช้


วิดีโอที่ 6 ประดิษฐ์ของเล่นจากแก่นกระดาษทิชชู่


งานประดิษฐ์แบ่งตามประโยชน์ใช้สอย

  1 ประเภทของเล่น เช่น รถลาก ตุ๊กตา พับกระดาษเป็นรูปสัตว์ 

  2 ประเภทของใช้หรือเครื่องใช้ เช่น หมอนอิง กระเป๋าผ้า กล่องใส่เครื่องประดับ

  3 ประเภทประดับตกแต่ง เช่น กรอบรูป นาฬิกา ลวดลายบนกระจก โคมไฟ

  4 ประเภทของขวัญของที่ระลึก เช่น บ้านทรงไทยจำลอง ดอกไม้จากดิน


ขั้นตอนการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์

    1 ขั้นการออกแบบ ควรดูวัสดุของผลิตภัณฑ์ที่จะประดิษฐ์ว่าต้องการนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร เช่นื ใช้เป็นของเล่น ใช้เป็นตกแต่งบ้านหรือเครื่องแต่งกาย ใช้เป็นของใช้

    2 ขั้นการเลือกวัสดุ ในขั้นตอนนี้ควรคำนึงถึงความปลอดภัย ความคุ้มค่า และงบประมาณ นอกจากนี้ควรพิจารณาความเหมาะสมกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบ

   3 ขั้นตอนการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ เริ่มจากการสร้างแบบ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ลงมือปฏิบัติงานจนสำเร็จทดสอบการใช้งาน 

   4 ขั้นตอนการประเมินผล เป็นขั้นตอนการตรวจสอบชิ้นงานว่ามีคุณภาพตามที่ตั้งวัสถุประสงค์ไว้หรือไม่ ควรมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร




อ้างอิงหนังสือ 

นางสาวสุชาดา วราหพันธ์.  (2557).  ประเภทของงานประดิษฐ์:  งานประดิษฐ์.  พิมพ์ครั้งที่ 1.  กรุงเทพมหานคร:  บริษัท สำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกัด.


อ้างอิงภาพที่ 1 

http://www.blisby.com/blog/howto-reverse-applique/


อ้างอิงภาพที่ 2

http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2006/07/J4550896/J4550896.html


อ้างอิงภาพที่ 3

https://oranutboonchan.wordpress.com/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2/

งานประดิษฐ์แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้มีกี่ประเภท

150cm 2 Page 12 BRBRE งานประดิษฐ์แบ่งได้หลายประเภท ๑. แบ่งตามวิธีการสร้างสรรค์และวัสดุที่ใช้ ได้แก่ O ประเภทเย็บปักถักร้อย O ประเภททอและสาน ประเภทปั้นและแกะสลัก O ประเภทเขียนลวดลาย 0 ประเภทวัสดุเหลือใช้ ประเภทของใช้หรือเครื่องใช้จากวัสดุต่าง ๆ ได้แก่ ผ้า กระดาษ ไม้ วัสดุ ธรรมชาติ วัสดุเหลือใช้ แก้ว

งานประดิษฐ์แบ่งตามประโยชน์ใช้สอยได้กี่ประเภทอะไรบ้าง

ประเภทของงานประดิษฐ์แบ่งตามประโยชน์ใช้สอย สามารถแบ่งได้3 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภทของเล่น หรือเครื่องเล่น เป็นผลงานที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อสนองตอบความต้องการ ด้านความ สนุกสนาน เพลิดเพลิน และของเล่นบางชนิดยังช่วยเสริมสร้างทักษะด้านการเคลื่อนไหว และด้านสติปัญญาให้แก่ผู้ เล่นอีกด้วย

งานประดิษฐ์แบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง

งานประดิษฐ์ต่างๆ สามารถเลือกทำได้ตามความต้องการและประโยชน์ใช้สอย ซึ่งอาจแบ่งประเภทของงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยดังนี้.
ประเภทของเล่น - วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ใบลาน ผ้า เชือก พลาสติก กระป๋อง ... .
ประเภทของใช้ ... .
ประเภทของตกแต่ง ... .
ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี.

วิธีการสร้างงานประดิษฐ์มีอะไรบ้าง

ภาพที่ 1 ขั้นตอนในการประดิษฐ์ 1. ศึกษารูปแบบ ขั้นตอน วิธีการประดิษฐ์ 3. ศึกษาวิธีการปฏิบัติ จากการสาธิตของครู 2. เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ 4. ลงมือปฏิบัติ โดยทําตามแบบหรือดัดแปลง 5. นําเสนอผลงาน และประเมินตนเอง 6. ปรับปรุงผลงาน 7. สรุปและประเมินผลการปฏิบัติงาน