กษัตริย์ในสมัยสุโขทัยมีกี่พระองค์

กษัตริย์ในสมัยสุโขทัยมีกี่พระองค์

กษัตริย์พระองค์แรกของไทย มีพระนามว่าอะไร
 พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทยคือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หรือ พ่อขุนบางกลางหาว องค์ปฐมบรมกษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระราชบิดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงพระราชสมภพเมื่อปี พ.ศ. 1740 เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ. 1792 และเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 1822 (พระชนมายุ 82 พรรษา) ทรงอยู่ในราชสมบัติ 30 ปี

กษัตริย์ในสมัยสุโขทัยมีกี่พระองค์

พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงมีพระนามเต็มว่า กมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ มีพระมเหสีพระนามว่านางเสือง มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมทั้งสิ้น 5 พระองค์ พระราชโอรสที่เราคุ้นเคยกันดีคือ พ่อขุนบานเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

 

ราชวงศ์พระร่วง เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรสุโขทัยซึ่งเคยมีอำนาจครอบคลุมพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำปิง แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำเมย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำโขง และ จรดชายฝั่งทะเลทั้งสองด้าน

ศูนย์กลางของราชวงศ์พระร่วงอยู่ที่เมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัยในลุ่มแม่น้ำยม อันเป็นเมืองศูนย์กลางราชธานีของราชอาณาจักรสุโขทัยในพุทธศตวรรษที่ 19 ก่อนย้ายราชธานีไปยังเมืองสองแควหรือพิษณุโลกในพุทธศตวรรษที่ 20

ราชวงศ์พระร่วงนับจากรัชกาลพ่อขุนศรีอินทราทิตย์จนถึงรัชกาลพระมหาธรรมราชาที่ 4 ได้ปกครองราชอาณาจักรสุโขทัยอย่างต่อเนื่องโดยการสืบราชสันตติวงศ์เกือบ 200 ปี ก่อนที่จะมีการยกเลิกไปเมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จขึ้นมาครองอยู่ที่เมืองพิษณุโลก

พระมหากษัตริย์ราชวงศ์พระร่วงมีหลายพระองค์แต่ที่ทรงมีชื่อเสียงมีพระบรมเดชานุภาพมากและพระเกียรติคุณเป็นที่ปรากฏไปยังแว่นแคว้นดินแดนต่างๆมีอยู่ 2 พระองค์ คือพ่อขุนรามคำแหงมหาราชและพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไทย) ซึ่งเป็นสองรัชสมัยที่ทำให้ราชอาณาจักรสุโขทัยมีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านต่าง ๆ เป็นอันมากทั้งการปกครอง การสร้างบ้านแปงเมือง การแผ่ขยายดินแดน การส่งเสริมศาสนา การเกษตร อักษรศาสตร์ ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี เศรษฐกิจการค้า การทูตการต่างประเทศ ศิลปกรรม วัฒนธรรม และอื่นๆ ซึ่งทำให้ความเป็นอยู่ของอาณาประชาราษฎรในราชอาณาจักรสุโขทัยยุคนั้นสมบูรณ์พูลสุขเป็นอย่างยิ่ง จึงทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนบูชากันสืบมา

พระมหากษัตริย์ไทยสมัยสุโขทัย

สุโขทัยเป็นนครหลวงแห่งแรกของประชาชนเชื้อสายไทย สังคมไทยในยุคนี้มีลักษณะเป็นสังคมเผ่า มีความเกี่ยวพันและผูกพันกันอย่างหนาแน่นในสายโลหิต อาณาเขตของสุโขทัยในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์ประกอบด้วยเมืองสุโขทัยและศรีสัชชนาลัยเท่านั้น ต่อมาได้ขยายกว้างขวางขึ้นในสมัย พ่อขุนรามคำแหง ความสัมพันธ์ของประชาชนก็มีลักษณะเป็นความสัมพันธ์ทางใจอันเกิดจากความรู้สึกว่าเป็นคนสายเลือดเดียวกัน และอยู่ภายใต้การปกครองโดย “พ่อขุน” องค์เดียวกัน ตามหลักฐานศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

แนวคิดเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในสมัยสุโขทัยนี้ทรงเป็นผู้ครองนคร ซึ่งเป็นผู้ทรงสิทธิเหนืออาณาประชาราษฎร์ทั้งปวง สิทธิการเป็นพระมหากษัตริย์สืบทอดโดยการสืบสันตติวงศ์ ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงตัวผู้ปกครองแผ่นดิน พระมหากษัตริย์ยังคงเป็นพระมหากษัตริย์ของชาวพุทธแท้ๆ ไม่มีคตินิยมแบบพราหมณ์เข้ามาปะปน พอสิ้นรัชกาลพ่อขุนรามคำแหงจนถึงรัชกาลกษัตริย์องค์ต่อๆ มา เช่น พระมหาธรรมราชาลิไทย อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์เริ่มเข้ามา กษัตริย์เริ่มเป็นเทพยดา แต่ก็ยังยึดศาสนาพุทธอยู่ จึงเป็นแค่ “ธรรมราชา” ซึ่งเป็นคำในศาสนาพุทธ เหมือนที่ใช้เรียกพระเจ้าอโศก แต่หลังจากนั้นมาเริ่มเป็น “รามาธิบดี”

ดูเพิ่ม[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]

  • พระมหากษัตริย์

สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับเสริมการเรียนรู้ เล่ม 3 ได้กล่าวถึง "ลำดับ พระมหากษัตริย์ไทย" ไว้ ซึ่งผมใคร่ขอนำมาถ่ายทอดเพื่อความรอบรู้แก่ท่านผู้อ่านด้วย ดังต่อไปนี้

อาณาจักรสุโขทัย เกิดแต่เมื่อพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ้นพระชนม์ปีพุทธศักราช 1762 ดินแดนต่างๆ พากันตั้งตนเป็นอิสระ รัฐสุโขทัยอันมีเมืองสำคัญ คือ ศรีสัชนาลัย-สุโขทัย ได้รวบรวมกำลังก่อตั้งอาณาจักรสุโขทัยขึ้น ในตอนปลายศตวรรษที่ 18

อาณาจักรสุโขทัย ใกล้กับแม่น้ำน่าน ก่อตั้งเมื่อปีพุทธศักราช 1792 หลังพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ้นพระชนม์แล้ว นานถึง 30 ปี มีพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง รวม 9 พระองค์ คือ

1. พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระนามเดิม คือ พ่อขุนบางกลางหาว ได้รวมกำลังกับพ่อขุนผาเมือง ขับไล่ออกไปจากเมืองสุโขทัย จากนั้นพ่อขุนผาเมืองได้ให้ พ่อขุนบางกลางหาว ขึ้นครองเมืองสุโขทัยทรงพระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง

เป็นข้อน่าสังเกตว่าระยะแรกของสมัยสุโขทัยนั้น ฐานะของพระมหากษัตริย์เรียกว่า "พ่อขุน" รูปแบบการปกครองเชื่อได้ชัดเจนว่าเป็นการปกครองแบบพ่อปกครองลูก และต่อมาในระยะหลังฐานะของพระมหากษัตริย์เรียกว่า "พระยา" ซึ่งเริ่มแต่รัชสมัยของ พระยาเลอไทย-พระมหากษัตริย์ ลำดับที่ 4 ของราชวงศ์พระร่วง

2. พ่อขุนบานเมือง เป็นพระโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และพระนางเสือง เป็นพระเชษฐาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

3. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งอาณาจักรสุโขทัย เป็นพระโอรสพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และพระนางเสือง เสด็จขึ้นครองราชย์ในปีพุทธศักราช 1822

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นนักรบที่เข้มแข็ง อาณาจักรสุโขทัยแผ่ไพศาลออกไปอย่างกว้างขวางทรงเลือกพญามังรายแห่งเมืองเชียงรายเป็นพันธมิตร พร้อมด้วยพญางำเมืองแห่งเมืองพะเยา และในกาลครั้งนั้นทั้งสามพระองค์ได้รวมกำลังกันต่อสู้กับการขยายอำนาจของ จักรพรรดิกุบไลข่านจากประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีนเกิดขึ้นในรัชกาลนี้ โดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงส่งคณะทูตไปเฝ้าพระเจ้าหงวนสีโจ๊ว (กุบไลข่าน) จักรพรรดิมองโกลแห่งราชวงศ์หงวน (หยวน) เป็นครั้งแรกในปี 1835 พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ยังทรงนำพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ จากเมืองนครศรีธรรมราช มาเผยแผ่ที่กรุงสุโขทัย

ผมขอแทรกความบางตอนจากหนังสือ "นครศรีธรรมราชในอดีต" ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชจัดพิมพ์ในโอกาสกรุงเทพ ฯ 200 ปีพุทธศักราช 2525 ดังนี้ด้วยครับ

มีข้อความในศิลาจารึกหลักที่ 1 แห่งกรุงสุโขทัย ปรากฏดังนี้

"สังฆราชปราชญ์เรียนจบปิฎกไตรหลวกกว่าปู่ครูในเมืองนี้ ทุกคนลุกแต่เมืองศรีธรรมราชมา"

ข้อความนี้ ยืนยันว่านครศรีธรรมราชเกิดก่อนสุโขทัย มีความรุ่งเรืองทางวิชาการถึงระดับนักปราชญ์มีความฉลาดกว่าบรรดาชนชั้นปู่ครูของกรุงสุโขทัย

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ยังทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นในปีพุทธศักราช 1826 โปรดให้จารึกตัวอักษรบนศิลาจารึกหลักที่ 1 และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ทรงเอาพระทัยใส่ในทุกข์สุขของราษฎรตามการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ทรงส่งเสริมให้มีการค้าเสรี โดยไม่เก็บภาษีค่าผ่านด่าน ความรุ่งเรืองของกรุงสุโขทัยในรัชกาลนี้ย่อมเห็นได้จากคำที่กล่าวว่า

"ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"

รัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชสิ้นสุดลงใน ปี 1841

4. พระยาเลอไทย เป็นพระโอรสของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อาณาจักรสุโขทัยเริ่มเสื่อมอำนาจลงในรัชกาลนี้ หลายหัวเมืองต่างพากันตั้งตนเป็นอิสระ ทรงครองราชย์ได้ 25 ปี

5. พระยางั่วนำถุม เป็นพระโอรส พ่อขุนบานเมือง ครองราชย์ต่อมาอีก 24 ปี

7. พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย หรือ ลือไทย) เป็นพระโอรสของพระยาเลอไทย ทรงนำธรรมะในพระพุทธศาสนามาปกครองแผ่นดิน จึงมีพระนามว่า พระมหาธรรมราชา

ทรงสนพระทัยศึกษาพระธรรมคำสอน และทรงออกผนวชระหว่างครองราชย์ที่วัดป่ามะม่วงในกรุงสุโขทัย ทรงสร้างวัดขึ้นหลายวัด และสร้างพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ รวมทั้งทรงพระนิพนธ์วรรณคดี"ไตรภูมิพระร่วง" อันถือได้ว่าเป็นคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญ

ทรงได้รับการยกย่องเป็น "ปราชญ์และธรรมราชา"

ระหว่างการทรงครองราชย์ปี 1890 ถึงปี 1911 ในรัชกาลนี้ ได้มีการก่อตั้งอาณาจักรใหม่ของคนไทย คือ อยุธยา เมื่อ ปีพุทธศักราช 1893

7. พระมหาธรรมราชาที่ 2 เป็นพระโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 1 และพระศรีจุฬาลักษณ์ ได้ถูกอยุธยาเข้าโจมตีเมืองต่างๆ ของสุโขทัยหลายครั้ง จนในที่สุดก็ต้องยอมอ่อนน้อมต่อกรุงศรีอยุธยา เมื่อ ปี 1921

พระมหาธรรมราชาที่ 2 ทรงครองราชย์ระหว่างปีพุทธศักราช 1911 ถึง 1942

8. พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสยลือไทย) เป็นพระนัดดาของพระมหาธรรมราชาที่ 1 ทรงพยายามฟื้นอำนาจกรุงสุโขทัย
แต่ไม่ประสบผล เนื่องจากความเข้มแข็งทางอำนาจของกรุงศรีอยุธยาได้เพิ่มพูนขึ้นเป็นอันมาก ทรงครองราชย์จนถึงปี 1962

9. พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) ทรงครองราชย์ระหว่างปีพุทธศักราช 1962 ถึงปี 1981 รวมเวลาได้ 19 ปี ทรงเป็นพระโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 3

ได้เกิดการแย่งชิงอำนาจกันเองระหว่างพระโอรสของพระมหาธรรมราชาที่ 3 คือ บรมปาล กับ พระยาราม ในปี 1962 ซึ่งสมเด็จพระนครินทราธิราช กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาได้ทรงแต่งตั้งให้บรมปาลเป็นพระมหาธรรมราชาที่ 4 เป็นกษัตริย์ครองเมืองพิษณุโลก ส่วนพระยารามพระอนุชา ให้ไปครองเมืองสุโขทัย

และเมื่อพระมหาธรรมราชาที่ 4 สวรรคตลงในปีพุทธศักราช 1981 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาทรงแต่งตั้ง พระราเมศวร พระโอรสเกิดจากพระราชเทวี พระธิดาของพระมหาธรรมราชาที่ 3 ขึ้นปกครองเมืองพิษณุโลก

พระยายุธิษเฐียร พระโอรสของพระยาราม ได้ปกครองเมืองสุโขทัยต่อจากพระบิดา ต่อมาภายหลังได้หันไปฝักใฝ่กับ
พระเจ้าติโลกราช แห่งอาณาจักรล้านนา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงทรงส่งกองทัพไปตีเอาเมืองสุโขทัยกลับคืนมาได้ เมื่อ ปีพุทธศักราช 2005

และในปีถัดมา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงได้เสด็จขึ้นไปปกครองเมืองพิษณุโลก

เป็นการถือได้ว่า อาณาจักรสุโขทัยได้รวมเข้ากับอาณาจักรอยุธยาอย่างสมบูรณ์ ในปีพุทธศักราช 2006

รวมระยะเวลาอาณาจักรสุโขทัย-ปฐมอาณาจักรไทย-ได้ 214 ปี ก่อนจะรวมเข้ากับอาณาจักรอยุธยาในปีพุทธศักราช 2006

และอาณาจักรอยุธยานั้นรุ่งเรืองมานานถึง 417 ปี มีพระมหากษัตริย์ไทยรวมทั้งสิ้น 33 พระองค์ ใน 5 ราชวงศ์ ตามลำดับ คือ

ราชวงศ์อู่ทอง (3 รัชกาล-พระราเมศวร 2 ครั้ง) ราชวงศ์สุพรรณภูมิ (13 รัชกาล) ราชวงศ์สุโขทัย (7 รัชกาล) ราชวงศ์ปราสาททอง (4 รัชกาล) และราชวงศ์บ้านพลูหลวง (6 รัชกาล)

โดยพระมหากษัตริย์องค์สุดท้าย คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ หรือ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ ครองราชย์ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2301 จนถึง 2310 สิ้นสุดอาณาจักรอยุธยา ขึ้นต้นสมัยรัตนโกสินทร์ พระบรมราชวงศ์จักรี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2325 มี กรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี

มีพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชวงศ์จักรี ทรงปกครองบ้านเมืองสืบต่อมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน รวม 9 พระองค์

กษัตริย์องค์ใดที่ครองอาณาจักรสุโขทัยเป็นองค์สุดท้าย

พระมหาธรรมราชาที่ 4 ครองราชย์ช่วง พ.ศ. 1962 - 1981 เป็นกษัตริย์วงศ์สุดท้ายแห่งราชวงศ์สุโขทัย

พระมหากษัตริย์ไทยมีกี่ราชวงศ์

ประเทศไทย ก่อตั้งประเทศมาด้วยระบอบกษัตริย์ และยังรักษาสถาบันนี้อย่างมั่นคงมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง ๗๗๐ ปีแล้ว โดยมีกษัตริย์ผลัดเปลี่ยนครองราชย์สืบต่อ ๘ ราชวงศ์

พระมหากษัตริย์กรุงสุโขทัยคือใคร

พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทยคือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หรือ พ่อขุนบางกลางหาว องค์ปฐมบรมกษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระราชบิดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงพระราชสมภพเมื่อปี พ.ศ. 1740 เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ. 1792 และเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 1822 (พระชนมายุ 82 พรรษา) ทรงอยู่ในราชสมบัติ 30 ปี

ข้อใดคือชื่อพระมหากษัตริย์สมัยสุโขทัยทั้งหมด

ลำดับของพระมหากษัตริย์ไทยสมัยสุโขทัย.