อายุ การ ใช้ งาน รถยนต์ กี่ กิโล

การตรวจเช็คระยะรถยนต์ เหมือนกับการบำรุงรักษารถ หากเราต้องใช้รถยนต์อยู่ทุกวัน ยิ่งจำเป็นจะต้องตรวจเช็คสภาพรถยนต์อยู่เป็นประจำ หรือเช็คเพิ่มขึ้นจากปกติที่เช็คลมยาง เช็คแบตเตอรี่ ไฟรถยนต์ น้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระยะรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำ 

เช็คระยะรถยนต์ จำเป็นไหม ทำไมต้องเช็ค

ถามว่า ทำไมต้องเช็ค ตอบว่า เพราะการไม่ตรวจเช็คระยะรถยนต์ อาจส่งผลเสียต่อรถยนต์ เนื่องจากเราจะไม่มีทางรู้เลยว่า รถยนต์ผิดปกติตรงไหนบ้าง รู้ตัวอีกทีเมื่อรถเกิดความผิดปกติ กลายเป็นปัญหาต่อเนื่อง ดังนั้น ควรส่งรถเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะรถยนต์ทุกครั้งเมื่อครบกำหนด

การตรวจเช็คระยะรถยนต์ ต้องตรวจอะไรบ้าง ? 

การตรวจเช็คระยะรถยนต์ เวลาการตรวจเช็คในระยะเวลา 1- 6 เดือน หรือทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร

• ยางรถยนต์ พร้อมกับการตั้งศูนย์ล้อ จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร
• ระบบจานเบรคและผ้าเบรคหน้า จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 5,000 กิโลเมต
• น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์และไส้กรอง จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร

ตรวจเช็คในระยะเวลา 6 – 12  เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร

• ระบบคลัช จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• การสลับยาง การถ่วงล้อ จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• ที่ปัดน้ำฝน และที่ฉีดน้ำยาล้างกระจก จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• ระบบจานเบรคและผ้าเบรคหลัง พร้อมตรวจดูการรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันเบรก จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• ระบบคลัช พร้อมตรวจดูการรั่วซึมของท่อและสายน้ำมันคลัช จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• ระบบช่วงล่าง ควรอุดจารบี ในระยะเวลา 6 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• โช๊คอัพ หน้า-หลัง จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 12 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร
• น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์และไส้กรอง จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 12 เดือน หรือทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร

ตรวจเช็คในระยะเวลา 12 – 24  เดือน หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร

• ล้างเครื่อง จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 12 เดือน หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร
• น้ำมันเกียร์ ระบบธรรมดา จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 12 เดือน หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร
• สายพานขับและสายพานเครื่องยนต์ จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร
• ระบบบังคับเลี้ยว สายพานพวงมาลัยพาวเวอร์ จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร
• ระบบบังคันชักคันส่ง ลูกหมาก ยางกันฝุ่น จะต้องตรวจเช็คในระยะเวลา 12 เดือน หรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร

ตรวจเช็คในระยะเวลา 12 – 24  เดือน หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร

• น้ำมันเบรค จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร
• น้ำมันคลัช จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร
• น้ำมันพวงมาลัย จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร
• น้ำมันเกียร์ออโต้ จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร
• น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ จะต้องเปลี่ยนในระยะเวลา 24 เดือน หรือทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร

การเช็คระยะรถยนต์ เป็นวิธีดูแลรักษา ช่วยยืดเวลาให้รถยนต์ของเราใช้งานได้ยาวนานที่สุด ยิ่งหมั่นดูแล ยิ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย 
ที่มา promotions

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car

เมื่อนึกถึง รถยนต์มือสองหรือรถเก่า แล้ว หลายคนมักจะนึกถึงปัญหาที่จะตามมา รถมีปัญหา ซื้อมาเพื่อซ่อม เสียเวลาทำงาน เสียเงิน ซื้อรถใหม่ย่อมจะดีกว่า แต่หากได้ทำความรู้จักกับรถมือสองทุกมุมมอง ทุกเรื่องแล้ว ผู้อ่านจะเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ ในเรื่องอายุการใช้งานของรถยนต์มือสองนั้นเกิน 15 ปีมีมากมาย ไม่เชื่อก็ลองมองดูรอบตัว ว่ายังมีรถอายุเกิน 15 ปีมากน้อยเพียงใด

เครื่องบินแต่ละลำจะมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี รวมทั้ง เรือดำน้ำ รถยนต์โดยสาร รถเมล์สาย 8 ในกรุงเทพ รถเมล์ในต่างจังหวัด และอีกหลายสาย แต่เราก็ยังกล้าเอาชีวิตไปเลี่ยง ไปโดยสารในยานพาหนะเหล่านี้ อย่างเครื่องบินนั้น ถ้าตกลงมาก็ตายอย่างเดียว รถ ยนต์ยังจอดข้างทางได้ ยังมีโอกาสรอดชีวิตสูงกว่ามาก

ยานพาหนะเหล่านี้เป็นวัตถุ มีอะไหล่ให้เปลี่ยน แต่พฤติกรรมการใช้งาน รถมือสอง นั้น หลายคนใช้อย่างเดียว เมื่อเก่าแล้วก็ขายทิ้ง บางคนเปลี่ยนรถทุก 3-5 ปี เพราะจะเข้าสู่การซ่อมบำรุงครั้งใหญ่แล้ว สำหรับคนที่ทำธุรกิจ ใช้รถเพื่อทำมาหากิน การเปลี่ยนรถบ่อย ถือว่าคุ้มกับผลตอบแทนที่ได้ เพราะรถทำเงิน ทำกำไรให้มากพอแล้ว จึงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเพราะการเสียเวลาซ่อมหมายถึง การขาดรายได้

แต่หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่เน้นใช้รถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวก ขับรถไปทำงาน การที่รถยนต์อาจจะเสียบ้าง ต้องซ่อมบ้าง ก็ ไม่ได้สร้างความเสียหายให้การงานของตัวเองมากนัก เพียงแต่ไม่สะดวกในการเดินทางเท่านั้นเอง

การใช้งานรถมือสองก็สามารถใช้งาน ได้เกินสิบปี หากทำการซ่อมบำรุงอย่างดี เปลี่ยนอะไหล่ไหม่ และต้องใช้ของแท้ แต่หลายคนซ่อมตามอาการ ไม่เสียไม่ซ่อม หรือใช้รถ จนกว่าจะไม่ไหว ก็จะขายไปในสภาพที่หนักหนาสาหัสแล้ว เช่น ใกล้ต่อภาษี ยางหมดอายุ โช้คเสีย น้ำมันเครื่องได้เวลาเปลี่ยน น้ำยา แอร์หมด ฯลฯ มีแต่รายการต้องซ่อมรออยู่มากมายหลายรายการ คนที่ซื้อรถรับช่วงต่อมา ต้องซ่อมชุดใหญ่ ก็เลยกลายเป็นว่า รถมือ สองไม่ดี มีแต่ปัญหา จริงๆ แล้วปัญหาเกิดจากคนใช้ต่างหาก

การซ่อมบำรุงอย่างดี ตัวแปรสำคัญยืดอายุใช้งานรถมือสอง

รถยนต์มือสองหลายรุ่นสามารถใช้งานได้นาน ลองมองไปรอบตัว จะพบว่า มีหลายรุ่นที่ยังใช้งานกันอยู่ การเลือกรถสักคันจึงต้อง พิจารณาแต่ละยี่ห้อ เครื่องยนต์ ปัญหายิบย่อยในแต่ละรุ่น บางรุ่นนั้นเป็นรถดีมาก อย่างกระบะรุ่นเก่าส่วนใหญ่เลขไมล์เกิน 500,000 กิโลเมตรกันแล้ว อย่าง Nissan Big M, Mitsubishi L200, Toyota Might X รถเหล่านี้อายุเกิน 20 ปีแทบทั้งสั้น อีกสิบปีข้างหน้า ก็ยัง อยู่แน่นอน

รถเก๋งบางรุ่นที่เป็นแท็กซี่ยอดนิยมอย่าง Toyota Corolla รุ่น 3 ห่วง หรือ Altis รถเหล่านี้เลขไมล์ก็ใช้กันเกิน 500,000 กิโลเมตรก็ มาก เพราะขับทั้งวัน ทั้งคืน ส่วนรถบ้าน ก็มี Honda CIty รุ่นแรกๆ มีหลายรุ่นที่อายุเกินหรือใกล้เคียง 20 ปี เลขไมล์เกิน 400,000 กิโลเมตร ในขณะที่บางยี่ห้อ กลายเป็นปุ๋ยไปหมดแล้ว

นอกจากการซ่อมบำรุงอย่างดีแล้ว ในบางรุ่นที่มีระบบการทำงานไม่ซับซ้อน ไม่มี อุปกรณ์อีเล็คทรอนิกหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าหรือออพชันเสริมมากนัก จะมีโอกาสใช้งานได้นาน เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน ซ่อมบำรุงรักษาง่าย เปลี่ยนอะไหล่หม่ รถก็จะมีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม

รถมือสองที่สามารถใช้งานได้นานนั้น ไม่ใช่ทุกคัน ต้องพิจารณาในหลายๆ ด้าน ยกตัวอย่าง รถยี่ห้อ Honda อย่าง Honda City ตั้งแต่รุ่นแรกกันเลยหรือปี 1996 รถรุ่นนี้จะไม่หายไปจากตลาดหรือหายไปจากท้องถนนยังคงอยู่อีกหลายปี แม้รถจะเก่ามาแล้ว แต่ อะไหล่แท้ยังหาได้ หากตัวถังไม่ผุ ส่วนเครื่องยนต์นั้น จะมีเครื่องยนต์รองรับมากมาย สามารถนำมาเปลี่ยนได้ อะไหล่อื่นๆ ก็เช่นกัน นี่ คือตัวอย่างของรถมือสองที่ยังใช้งานได้อีกนาน แถมความประหยัดก็ไม่ต่างจากรถรุ่นใหม่ หากทำเครื่องใหม่หรือเปลี่ยนเครื่อง ความแรง กำลังเครื่องก็ใกล้เคียงรถรุ่นใหม่

ในรถกระบะรุ่นเก่าหลายรุ่นก็เช่นเดียวกัน ยังสามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนสำคัญเพื่อยืดอายุได้อีกนาน นี่คือตัวอย่างรถที่ ยังสามารถใช้งานได้อีกนาน และใช้ในชีวิตประจำวันได้

รถยนต์รุ่นใหม่จะสามารถใช้งานได้อีกนานหรือไม่

การหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จำเป็นต้องศึกษาย้อนหลังเกี่ยวกับรถแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่น เช่น Honda City รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเครื่องยนต์ จะใช้ตัวเดียวกันรถก่อนหน้าซึ่งมีอายุการใช้งานหลายปีแล้ว ก็เพียงพอที่จะหาข้อมูลในหลายๆ ด้าน เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ และระบบ อื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือก เพราะรถเหล่านี้ยังใช้งานได้ไม่เกิน 15 ปี แต่ก็พอจะหาข้อมูลได้ไม่ยาก

ตัวอย่าง Honda CIty ปี 2008 คันนี้ลงประกาศขายที่ Kaidee.com ปัจจุบันปี 2017 รวมอายุรถประมาณ 9 ปี เลขไมล์ประมาณ 110,000 กิโลเมตร น้อยมาก ใช้งานปีละหมื่นกว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง ซึ่งในระยะเวลาประมาณ 9 ปีเหมือนกัน ก็จะมีบางคันที่ใช้งาน มากกว่านี้ อาจจะเกิน 250,000 กิโลเมตร ซึ่งก็จะเป็นข้อมูลได้อย่างดีเกี่ยวกับคุณภาพของเครื่องยนต์ และปัญหายอดนิยมหรือปัญหา จุกจิกในรถรุ่นนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อ

หากเครื่องยนต์มีความถึกทนทานเหมือน Honda CIty รุ่นแรกปี 1996 เลขไมล์ 470,000 กิโลเมตร แบบนี้ การเลือกคันดังกล่าว ในระยะยาวนั้น หากเครื่องยนต์ไม่มีปัญหา รับรองว่าจะสามารถใช้งานรถคันนี้ไปอีกสิบกว่าปีได้สบายๆ แต่ต้องบำรุงรักษาตามระยะทาง และซ่อมบำรุงตามกำหนด ไม่ใช่ใช้อย่างเดียว เพราะเลขไมล์เพียง 110,000 ถือว่าน้อยมาก รถยอดนิยมแบบนี้ อะไหล่ยังมีสำรองไว้ อีกมาก ไม่ต้องห่วงเลย

l

การตัดสินใจเลือกรถแต่ละรุ่นปัจจุบันหาข้อมูลได้ไม่ยาก เพราะมีการแชร์ข้อมูลกันมาก อยากรู้เรื่องเครื่องยนต์ ตัวถัง หรืออะไหล่ หรือปัญหายอดนิยมในแต่ละรุุ่นที่ส่งผลให้ใช้งานได้ไม่นาน หาข้อมูลได้ไม่ยาก

ไม่ใช่รถมือสองทุกคันจะสามารถใช้งานได้เกินสิบปี

รถยนต์มือสองสามารถใช้งานได้นาน แต่ไม่ใช่ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่จะสามารถใช้งานได้นาน เพราะบางรุ่นอาจจะมีตัวแปรสำคัญที่ทำให้ รถมีปัญหา เมื่อมีอายุการใช้งานในระยะเวลาหนึ่ง เช่น ระบบเกียร์ออโต้ในบางรุ่นใช้งานได้ประมาณ 200,000 กิโลเมตร ก็ต้องเปลี่ยน เกียร์แล้ว หรือมีชิ้นส่วนใดๆ ที่ไม่สามารถซ่อมได้ เป็นต้น

บางรุ่นอาจจะมีปัญหาที่ชิ้นส่วนอื่น อย่างรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุชนหนัก ต้องตัดครึ่งคัน แล้วหาอีกครึ่งคันมาเชื่อมต่อ รถเหล่านี้ หาก เจ้าของรู้ว่า รถเคยเกิดอุบัติเหตุอย่างไร มักจะขายทิ้ง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง มีโอกาสูงมากที่ตัวรถจะขาดครึ่ง ผู้โดยสารเท กระจาดบนท้องถนน อันตรายมาก

รถประเภทนี้ยังมีอีกหลายมาก เป็นรถมือสองที่ไม่สามารถใช้งานได้นานนัก อาจจะอยู่ได้เกินสิบปี แต่เปลี่ยนเจ้าของบ่อยกว่ารถประเภทอื่น เพราะเป็นรถมีปัญหา ใครๆ ก็ไม่ต้องการ ใครๆ ก็ส่ายหน้าหนี คิดไปแล้วก็น่ากลัว บรรดารถท้ายสั้นเหล่านี้ เช่น Jazz, Mirage, March ซึ่งไม่มีบั้นท้ายไว้กันกระแทกกรณีถูกชนท้าย กรณีชนหนักจะยุบถึงครึ่งคัน ต้องตัดทิ้งอย่างเดียว 

รถมือสองบางรุ่นที่ซ่อมบำรุงอย่างดีแต่ใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ได้

รถมือสองที่อยู่ในสภาพดี ไม่มีปัญหา แต่ใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ได้ รถเหล่านี้ก็มีอยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ใช้เฉพาะกิจ เฉพาะทาง เช่น รถขับเคลื่อนสี่ล้อยกสูง เครื่องยนต์ดีเซล ทนทาน ใช้งานหนักๆ ได้สบาย แต่การใช้ยางขนาดใหญ่ การใช้งานในชีวิต ประจำวัน คงจะไม่ไหว นั่งไม่สบาย กินน้ำมัน ขาดความคล่องตัว เป็นต้น

รถเหล่านี้บางรุ่นนอกจากทนทาน ใช้งานได้นานแล้วราคาก็ไม่ตกอีกต่างหาก บางคันเมื่อสิบปีที่แล้วราคาเกิน 300,000 บาท ปัจจุบันปรับราคาขึ้นก็มี หากใช้รถไม่บ่อยนัก รถแบบนี้ ก็น่าสนใจไม่ น้อยเลย แต่รุ่นนี้ไม่มีเงิน คงจะสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว และเหมาะสำหรับใช้งานในต่างจังหวัดมากกว่า เพื่อนผู้เขียนมีรถแบบนี้อยู่หนึ่งคัน เอา ไว้ลากรถที่ติดหล่มในไร่ ส่วนใหญ่ใช้แค่นั้นจริงๆ ขับบ้างแต่น้อยมาก 

หากต้องการ รถยนต์มือสอง ไว้ใช้งานระยะยาว ใช้งานได้นาน จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูล รู้จักวิธีเลือกรถ ซื้อรถ ซ่อมรถ และใช้งาน รถอย่างถูกต้อง ก็จะใช้งานรถยนต์ได้อีกนาน ประสบการณ์เกี่ยวกับรถนั้น ต้องใช้เงิน การศึกษาหาข้อมูลรถแต่ละประเภทก่อนตัดสินใจ ซื้อจึงเป็นเรื่องสำคัญ ยกเว้นจะใช้รถยี่ห้อและรุ่นยอดนิยม มักจะไม่มีปัญหาหนักหนาสาหัสที่เกินแก้ไข หากจะมีก็มักจะเกิดจากตัวผู้ใช้รถ เช่น การเป็นผู้บันเทิง เที่ยวเก่ง ใช้เงินเก่ง กรณีนี้รถอะไร ก็ใช้ได้ไม่นาน จำเป็นต้องขาย เมื่อเงินหมด ชีวิตขาดความสดชื่น ก็จำเป็นต้อง ชาย

เครื่องรถยนต์ใช้ได้กี่กิโล

รถกี่ปีถึงจะเก่า

กี่กิโลถึงเอารถเข้าศูนย์

ซื้อรถมือสองกี่ปีดี