สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 มีความสำคัญต่ออาณาจักรอยุธยาอย่างไร

เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนาอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้วมีกษัตริย์ปกครองถึง34 พระองค์ 5 ราชวงศ์เป็นเวลายาวนานถึง 417 ปี ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้ คือ ในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนต้นตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ถึงสมเด็จ บรมราชาธิราชที่ 2(เจ้าสามพระยา) เป็นช่วงของการก่อสร้างและวางรากฐานความมั่นคงของอาณาจักรอยุธยา คือตั้งแต่ปี พ.ศ. 1893-1991 โดยมีพระมหากษัตริย์ปกครอง 8 พระองค์ สมัยอยุธยาตอนกลางระหว่าง พ.ศ. 1991-2231 มีพระมหากษัตริย์ปกครองรวม 21 พระองค์ คือช่วงกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในสมัยอยุธยาตอนปลายระหว่าง พ.ศ. 2231-2310 คือตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเพทราชา จนถึงสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ รวม 6 พระองค์ 

1. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) 
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง)ครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 1893 - 1912 รวมเวลาที่ครองราชย์ 19 ปี สำหรับพระราชประวัติโดยทั่วไปไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญสามารถสรุปได้ดังนี้
1. ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
2. การจัดระเบียบการปกครองแบบจตุสดมภ์
3. การประกาศใช้กฎหมายและจัดระบบการศาล
4. การขยายอำนาจไปยังอาณาจักรสุโขทัย
5. การขยายอำนาจไปยังอาณาจักรเขมร
6. มีการติดต่อค้าขายกับจีน 
2. สมเด็จพระราเมศวร
ขึ้ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1912 - 1913 เป็นการครองราชสมบัติครั้งที่ 1 ได้ไม่ถึงปีก็ถูกขุนหลวงพงั่วแย่งชิงพระราชสมบัติ 
3. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) 
ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1913 - 1931 โดยการแย่งชิงราชสมบัติจากสมเด็จพระราเมศวร ขุนหลวงพะงั่วเป็นพี่มเหสีของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 สวรรคตขณะไปโจมตีเมืองชากังราว (กำแพงเพชร) ใน พ.ศ. 1931 โโยมพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1. ขยายอาณาเขตไปยังสุโขทัยและใน พ.ศ.1921 สามารถมีอิทธิพลเหนือสุโขทัย
2. ขยายอำนาจไปถึงล้านนา และทำสงครามกับอาณษจักรล้านนาเป็นครั้งแรก
4. สมเด็จพระเจ้าทองลัน (เจ้าทองจันท์)
ครองราชย์ปี พ.ศ.1931 เป็นพระราชโอรสของขุนหลวงพะงั่ว ขณะครองราชสมบัตินั้นมีอายุเพียง 15 พรรษา เท่านั้น ขณะที่ขึ้นครองราชย์นั้น สมเด็จพระราเมศวรได้ยกทัพมาจากลพบุรีและจับพนะเจ้าทองลันสำเร็จโทษซึ่งขึ้นครองราชย์
ได้เพียง 7 วันเท่านั้น แล้วสมเด็จพระราเมศวรขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่ 2
5. สมเด็จพระราเมศวร
ขึ้นครองราชสมบัติระหว่างปี พ.ศ. 1931 - 1938 เป็นการขึ้นครองราชย์ครั้งที่ 2 ด้วยการชิงราชสมบัติและสำเร็จดทษพระเจ้าทองลัน ในการครองราชย์ครั้งนี้ พระองค์ครองราชสมบัติได้ 7 ปี โดยสวรรคตในปี พ.ศ. 1983 พระราชกรณียกิจที่สำคัญได้แก่
1. การขยายอำนาจไปยังอาณาจักรล้านนาและยกทัพไปตีเชียงใหม่
2. การขยายอำนาจไปยังเขมรด้วยการยกทัพไปตีนครธมเมืองหลวงของอาณาจักรเขมรได้
6. สมเด็จพระรามราชาธิราช(พระรามราชา)
เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระราเมศวรขึ้นครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 1938 -1952 รวมระยะเวลาครองราชย์ 14 ปี จึงถูกเจ้านครอินทร์แย่งชิงราชสมบัติ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือพยายามขยายอาณาจักรไปยังล้านนาแต่ไม่สำเร็จ
7. สมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์)
เป็ญพระราชนัดดาของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) ขึ้นครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 1952-1967 เป็นเวลา 15 ปี โดยมีพระราชกรณียกิจสำคัญดังนี้
1. การขยายอำนาจไปยังอาณาจักรสุโขทัยจนทำให้อาณาจักรอยุธยามีอำนาจเหนืออาณาจักรสุโขทัย
ในปี พ.ศ. 1962
2. ทรงสร้างความสัมพันธไมตรีกับจีน ทำให้การค้าระหว่างไทยกับจีนรุ่งเรืองมาก
8. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา)
เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 3 ของสมเด็จพระอินทราชา(ได้ขึ้นครองราชสมบัติเพราะพระเชษฐาสองพระองค์ คือ เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยาสวรรคต) ขึ้นครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 1967-1991 รวมระยะเวลา 24 ปี โดยมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ 
1. การขยายอำนาจไปยังอาณาจักรเขมร และตีเมืองหลวงของเขมร คือนครธมได้สำเร็จ เมื่อปี พ.ศ. 1974
2. รวมอาณษจักรสุโขทัยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในปี พ.ศ.1981
3. ขยายอำนาจไปยังล้านนาและยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ แต่ไม่สำเร็จ
4. ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยการสร้างและบูรณะวัดวาอารามต่าง ๆ เช่น วัดราชบูรณะ เป็นต้น
9.สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ 
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 1991-2031 มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1.ทรงปฏิรูปการปกครองราชอาณาจักร โดยแยกการบริหารราชการแผ่นดินเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพลเรือนมีสมุหนายกเป็นหัวหน้าและฝ่ายทหาร มีสมุหกลาโหม เป็นหัวหน้า
2. ทรงประกาศใช้กฎหมายลักษณะสำคัญหลายอย่าง เช่น ทำเนียบศักดินาซึ่งกำหนดสิทธิหน้าที่ของมูลนายและไพร่
3. ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและอักษรศาสตร์ มีวรรณคดีที่สำคัญ เช่น มหาชาติคำหลวง และลิลิตยวนพ่าย
4. ทรงทำสงครามกับอาณษจักรล้านนาหลายครั้ง
10. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระอินทราชาที่ 2)
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3(พระอินทราชาที่ 2) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2031-2034 มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1. ทรงยกทัพไปตีเมืองทวายแต่ไม่สำเร็จ
2. ทรงปกครองกรุงศรีอยุธยาในระหว่างที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถประทับที่พิษณุโลกเป็นเวลา
นานถึง 25 ปี
11. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐาธิราช)
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐาธิราช.) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.2034-2072 โดยมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญคือ
1. ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยโปรดเกล้า ฯ ให้หล่อพระศรีสรรเพชญ์ขึ้นมีความสูงถึง 16 เมตร (8 วา)
2. ทรงทำสงครามกับอาณาจักรล้านนาหลายครั้ง
3. ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับโปรตุเกสซึ่งเป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาสัมพันธไมตรีกั
บไทย
4. ทรงจัดให้มีการทำบัญชีสำรวจประชากรและสัตว์เลี้ยง
12.สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระอาทิตยวงศ์หรือหน่อพุทธางกูร)
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระอาทิตยวงศ์หน่อพุทธางกูร) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2072-2076 โดยมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
ทรงแต่งตั้งพระไชยราชา พระอนุชาต่างมารดาไปปกครองเมืองพิษณุโลก เพื่อป้องกันการขยายอำนาจของอาณาจักรล้านนา
13. พระรัชฎาธิราช
พระรัชฎาธิราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2076-2077 โดยมีอายุขณะขึ้นครองราชย์เพียง 5 พรรษา ครองราชเพียง 5 เดือน พระไชยราชาธิราชยกทัพจากเมืองพิษณุโลกมาแย่งราชสมบัติ และสำเร็จโทษพระรัชฎาธิราช
14. สมเด็จพระไชยราชาธิราช
สมเด็จพระไชยราชาธิราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2077 - 2089 มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1. ทรงจ้างทหารโปรตุเกสเป็นทหารองครักษ์และสอนวิชาการใช้ปืนไฟให้กับทหารไทย
2. ทรงทำสงครามกับพม่าครั้งแรกใน พ.ศ. 2081 โดยที่พม่ายกทัพมาตีเมืองเชียงกรานของไทย
3. ทรงทำสงครามกับอาณาจักรล้านนาและอาณาจักรล้านนายอมเป็นเมืองประเทศราชของอาณาจักรอยุ
ธยา
15. สมเด็จพระยอดฟ้า(พระแก้วฟ้า)
สมเด็จพระยอดฟ้า (พระแก้วฟ้า) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระไชยราชาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์ ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2089-2091 ขณะขึ้นครองราชย์มีพระชนม์เพียง 11 พรรษา ขึ้นครองราชย์เพียง 2 ปี ถูกขุนวรวงศาธิราชปลงพระชนม์และตั้งตนเป็นกษัตริย์
16. ขุนวรวงศาธิราช
ขุนวรวงศาธิราช ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ.2091 ครองราชย์เพียง 42 วัน ก็ถูกขุนนางกลุ่มหนึ่งจับประหารชีวิต
17. สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ(พระเฑียรราชา)
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พระเฑียรราชา) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และทรงเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระไชยราชาธิราช ได้ขึ้นครองราชย์เพราะขุนนางประหารชีวิตขุนวรวงศาธิราชแล้วอัญเชิญขึ้นครองราชย์เมื่
อพระองค์ทรงผนวชอยู่ โดยครองราชย์ระหว่างปี 2091 - 2111 เป็นเวลา 20 ปี โดยมีเหตุการณ์ที่สำคัญ ที่เกิดขึ้นดังนี้
1. ใน พ.ศ. 2091 พม่ายกทัพมาตีไทย โดยพระเจ้าหงสาวดี(บุเรงนอง) สมเด็จพระศรีสุริโยทัยพระมเหสีถูพระแสงง้าวเสียชีวิตในสนามรบ
2. ใน พ.ศ. 2106 ไทยต้องเสียช้างเผือกและเงินให้กับพม่า เพราะพระเจ้ากรุงหงสาวดี(บุเรงนอง ทรงขอต่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
3. ทรงสถาปนาขุนพิเรนทรเทพ เป็นสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าและให้ไปปกครองเมืองพิษณุโลก
18. สมเด็จพระมหินทราธิราช
สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2111-2112 ครองราชเพียง 1 ปี เหตุการสำคัญเกิดขึ้น ได้แก่ การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกให้กับพม่าในปี พศ. 2112
19. สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ทรงเป็นเชื้อสายของราชวงศ์พระร่วง และเป็นพระราชบุตรของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ขึ้นครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2112-2133 รวมเวลา 21 ปี ปกครองกรุงศณีอยุธยาอยู่ในฐานะเป็นประเทศราชของพม่าเป็นเวลานานถึง 15 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2112-2127
20. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ขึ้นครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2133-2148 รวมเวลาในการครองราชย์เป็นเวลา 15 ปี โดยมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1. ทรงกอบกู้อิสรภาพให้กับกรุงศรีอยุธยาและทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาของพม่าในปี พ.ศ.2135
2. ทรงขยายเขตแดนของกรุงศณีอยุธยาได้อย่างกว้างขวาง ได้ล้านนา ล้านช้าง เขมร และพม่าบางส่วน
3. ทรงส่งทูตไปจีนและติดต่อค้าขายกับสเปน ซึ่งปกครองฟิลิปปินส์อยู่ในขณะนั้น
21. สมเด็จพระเอกาทศรถ
สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช คือ ทรงเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขึ้นครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2148-2153 รวมเวลาในการครองราชสมบัติ 5 ปี มีพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1. ทรงทำนุบำรุงประเทศให้ฟื้นฟูภายหลังจากการทำสงครามกับพม่า
2. ทรงทำสงครามกับพม่าร่วมกัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
3. ทรงส่งเสริมการค้ากับต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น โปรตุเกส และฮอลันดา เป็นต้น
4. ทรงส่งทูตไปยุโรปเป็นครั้งแรกที่กรุงอัมเตอร์ดัมเมืองหลวงของฮอลันดา
22. สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์(เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์)
สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์(เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถ ขึ้นครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2148-2153 รวมเวลาในการครองราชสมบัติ 1 ปี 2 เดือน เพราะถูกพระศรีศิลป์หรือพระพิมล(ขณะนั้นเป็นพระภิกษุสงฆ์) และกลุ่มขุนนางบางองค์ร่วมกันแย่งชิงราชสมบัติและสำเร็จโทษสมเด็จพระศรีเสาวภาคย์
23. สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พระอินทราชา)
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พระอินทราชา) ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถที่ประสูติจากพระสนม ขึ้นครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2154-2171 รวมเวลาครองราชสมบัติ 17 ปี โดยมีพระราชกรณียกิจสำคัญดังนี้
1. ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ทรงนิพนธ์กาพย์มหาชาติและสร้างพระไตรปิฎก
2. ทรงส่งเสริมการค้ากับต่างประเทศอย่างกว้างขวาง และทำให้กรุงศณีอยุธยาเป็นเมืองท่าที่สำคัญของชาติ
3. ทรงรับทหารอาสาชาวญี่ปุ่นชื่อ ยามาดา นางามาซา มาช่วยราชการ และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นออกญาเสนาภิมุข
24. สมเด็จพระเชษฐาธิราช
สมเด็จพระเชษฐาธิราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมและทรงเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระเชษฐาธิราช
ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2172 และครองราชสมบัติได้เพียง 28 วัน ก็ถูกออกญากลาโหมสุริยวศ์สำเร็จโทษ
25. สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (ออกญากลาโหม)
สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (ออกญากลาโหมสุริยวงศ์หรือศรีวรวงศ์) ดมื่อได้สำเร็จโทษสมเด็จพระอาทิตยวงศ์แล้วได้ปราบดาภิเษกตนเองขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห
่งราชวงศ์ปราสาททอง ขึ้นครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. 2172-2199 รวมเวลาครองราชสมบัตินายถึง 27 ปี โดยมีพระราชกรณียกิจสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ทรงประกาศใช้กฎหมายเพิ่มเติมหลายฉบับ เช่น กฎหมายลักษณะทาส กฎหมายพระธรรมนูญ เป็นต้น
2. ทรงส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และเปิดเมืองท่ามะริดเป็นเมืองท่าด้านอ่าวเบงกอล
26. สมเด็จเเจ้าฟ้าไชย
สมเด็จเจ้าฟ้าไชย ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2199 ครองราชย์ได้เพียง 2 - 3 วัน ก็ถูกสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกับพระสุธรรมราชาสำเร็จโทษ
27. สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา
สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา ทรงเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2199 และครองราชสมบัติได้เพียง 2 เดือน ก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างพระนารายณ์กับสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาและสมเด็จพระศ
รีสุธรรมราชาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
28. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
สมเด็จพระนารายร์มหาราชทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าปราสาททองขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2199-2231 รวมเวลาในการครองราชสมบัตินายถึง 32 ปี โดยมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญดังนี้
1. ทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับกรุงศรีอยุธยาหลายด้าน เช่น ด้านการค้า ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ทั้งด้านการค้าและด้านอื่น ๆ อีกหลายประการ
2. ทรงเชิญชาวต่างประเทศมารับราชการในกรุงศณีอยุธยา ที่สำคัญคือ คอนสแตนติน ฟอนคอล ชาวกรีก ต่อมาคือ ออกญาวิไชเยนทร์
3. ทรงประกาศใช้กฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎหมายลักษณะรับฟ้องเพิ่มเติม พระราชกำหนดว่าด้วยการฟ้องคดี เป็นต้น
4. เป็นยุคทองทางวรรณคดี โโยมีนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง เช่น พระมหาราชครู ศรีปราชญ์ สำหรับวรรณกรรมที่สำคัญ ได้แก่ สมุทรโฆษคำฉันท์
29. สมเด็จพระเพทราชา
สมเด็จพระเพทราชา ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2231-2246 รวมเวลาในการครองราชสมบัติเป็นเวลา 15 ปี พระเพทราชาเป็นผู้นำขุนนางได้ขจัดอิทธิพลของออกญาวิไชเยนทร์และฝรั่งเศส ต่อมาได้สังหารพระปีย์พระราชบุตรบุญธรรมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ เหตุการณ์และพระราชกรณียกิจที่สำคัญ มีดังนี้
1. ทำให้สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับฝรั่งเศสสิ้นสุดลง
2. ทำให้การค้ากับต่างประเทศลดลง
3. เกิดกบฎรุนแรงขึ้นถึง 4 ครั้ง
30. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ)
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ) ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2246-2251 รวมระยะเวลาที่ครองราชสมบัติ 5 ปี ทรงเป็นพระโอรสบุญธรรมของสมเด็จพระเพทราชา พระนามเดิมคือขุนหลวงสรศักดิ์ และเป็นอุปราชในสมัยพระเพทราชา
เหตุการณ์สำคัญและพระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ เหตุการณ์เกี่ยวกับพันท้ายนรสิงห์ ส่วนบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดี
31. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 (พระเจ้าท้ายสระ)
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 (พระเจ้าท้ายสระ) ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2251-2275 รวมระยะเวลาในการครองราชสมบัติ 24 ปี เป็นพระโอรสของพระเจ้าเสือ มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าเพชร เหตุการณ์สำคัญและพรราชกรณียกิจสำคัญ คือ
1. มีการขุดคลองมหาไชยเชื่อมแม่น้ำแม่กลองกับแม่น้ำท่าจีน
2. เขมรยอมเป็นเมืองประเทศราชของไทย
3. การค้ากับจีนรุ่งเรืองมาก
32. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าท้ายสระ มีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้าพร ขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2275-2301 รวมระยะเวลาครองราชสมบัติ 26 ปี มีเหตการณ์และพระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ
1. เกิดสงครามกลางเมืองเพื่อชิงราชสมบัติระหว่างเจ้าฟ้าพรกับเจ้าฟ้าอภัย
2. เกดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
3. ส่งสมณทูตไปช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่ลังกา
4. ความเจริญรุ่งเรืองด้านวรรณกรรมกวีที่มีชื่อเสียง เช่น เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) โดยมีผลงานสำคัญ เช่น กาพย์เห่เรือ พระมาลัยคำหลวง เป็นต้น
5. มีการประกาศใช้กฎหมายเพิ่มเติมหลายฉบับ
33. สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด)
สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2301 แต่ทรงครองราชสมบัติเพียง 2 เดือน ก็ถวายสมบัติแก่พระเชษฐาแล้วเสด็จออกผนวช สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีพระนามเดิมว่า กรมขุนพระพินิจ
34. สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์)
สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) เป็นพระเชษฐาของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์มนตรี ทรงขึ้นครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2301 - 2310 รวมเวลาในการครองราชสมบัติ 9 ปี เหตุการสำคัญและพระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 และเหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นการสิ้นสุดของกรุงศณีอยุธยาหลังจากเป็นราชธานีนานถึง
417 ปี

http://www.thaisamkok.com/forum/index.php?showtopic=7828