วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

ภูมิปัญญาไืืทย หมายถึง ความรู้ ทักษะ ความเชื่อ และพฤติกรรมของคนไทย โดยแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน คนกับธรรมชาตกับสิ่งแวดล้อมและคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ถือเป็นกิจกรรมทุกอย่างในวิถีชีวิตของคนในการแก้ปัญหา การจัดการ การปรับตัว และการเรียนรู้เพื่อความอยู่รอดของบุคคล ชุมชนและสังคม ตลอดจนเป็นพื้นฐานความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่มีลักษณะเฉพาะหรือเอกลักษณ์ในตัวเองด้วยเหตุนี้ ถูมิปัญญาไทยจึงเป็นผลงานที่คนไทยได้ทำการศึกษาค้นคว้า รวบรวมและจัดเป็นความรู้ มีการถ่ายทอดและปรับปรุงจากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนคนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดเป็นผลผลิตที่ดี งดงาม มีคุณค่าเเละประโยชน์ รวมทั้งสามารถนำมาแก้ไขปัญหาและพัฒนาชีวิตได้ เช่นชาวนารู้จักขุดบ่อน้ำ หรือทำเหมืองฝายสำหรัเก็บน้ำและแจกจ่ายไปสู่ไร่นา หรือชาวบ้านมีความรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ธัญญาหาร ผักพื้นบ้าน เครื่งเทศ และสมุนไพร โดยสามารถแยกแยะสรรพคุณในการรักษาโรคด้วยเหตูนี้ เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมกับภูมิปัญญาไทย ก็จะเห็นได้ว่า ภูมิปัญญาไทยได้รับการสั่งสมสืบต่อกันมานั่นถือเป็นวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง

ที่มา ของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย

วัฒนธรรมเกิดขึ้นมาได้ด้วยอาศัยการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ดังนั้น วัฒนธรรมจึงเกิดมาจากคนไทย โดยคนไทยมีถิ่นฐานในดินแดนประเทศไทยมายาวนานได้ปฏิสัมพันธ์ต่อกันกับเชื้อชาติอื่นๆที่อยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งต่างก็รู้จักคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม มีการไปมาหาสู่ระหว่างชนชาติทั้งในเรื่องการซื้อขายกัน การทำสงคราม การอพยพโยกย้ายที่ทำมาหากิน ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้เกิดสิ่งที่เรียกว่า วัฒนธรรม ขึ้นหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คนไทยไม่ว่าจะย้ายไปอยู่แห่งใด ก็ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพื่อให้ตนเองดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคม สิ่งเหล่านี้จึงเป็นที่มาของวัฒนธรรมนั่นเอง สำหรับภูมิปัญญาไทย ก็มีความคล้ายกับวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทยมีที่มาจากคนและสิ่งที่คนทยประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาหรือสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อความสะดวกในการดำรงชีวิต รวมทั้งอาจได้จากบรรพบุรุษ ผู้ที่มีความรู้ด้านภูมิปัญญาไทย หรือได้มาจากชาวต่างชาติ แล้วนำมาผสมผสานกับวัฒนธรรมทำเดิมของไทยจนเกิดเป็นภูิมิปัญญาไทย

ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อภูมิปัญญาไทย 

(๑) ลักษณะทางภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยมีสภาพดินฟ้าอากาศที่หลากหลาย เช่นภาคเหนือ พืนที่เกือบทั้งหมดเป็นเทือกเขามีที่ราบน้อยใหญ่ระหว่างหุบเขาและสายน้ำไหลผ่านทำให้รู้จักเขื่อนเก็บน้ำที่ไหล จากที่สูงมาที่ราบหรือภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำหลายสายไหลออกทะเล จากการที่มีสายน้ำหล่อเลี้งพื้นที่จดฝั่งทะเล ทำให้เกิภูมิปัญญาต่อเรือเป็นพาหนะสำหรับการเดินทางและค้าขาย ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ราบสูงและมีแม่น้ำโขงไหลผ่านโดยมีสาขาคือแม่น้ำชีมูลทำให้บรเวณบางเเหงแล้งน้ำแต่บางแห่งมีน้ำชุ่มชื่นทำให้เกิดภูมิปัญญาเลือกหลักแหล่งทำไร่ทำนาในบริเวณที่ลุ่ม และมีบึง หรือหนองน้ำขนาดใหญ่บริเวณภาคใต้มีทะเลล้อมขนาบอยู่ทั้งทางตะวันออกและทางตะวันตก มีพื้นที่แหลมยาวไปจรดแหลมมลายูและมีฝนตกชุกมากภาคอื่นๆทำให้น้ำในนามีระดับสูง ขณะที่ฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวสุกเต็มท้องที่ ชาวใต้จึงคิดประดิษฐ์เครื่องมือเกี่ยวข้าวที่เก็บเอาเฉพาะรวงข้าวเท่านั้น จากสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันดังกล่าว ทำให้ความสามารถในการปรับตัวของคนไทยแตกต่างกัน รวมทั้งการสั่งสมประสบการณ์การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย สำหรับสืบทอดให้กับคนรุ่นหลัง

2. ลักษณะร่วมและลักษณะแตกต่างทางสังคมและวัฒนธรรม สามารถแบ่งออกได ้ 2 ลักษณะ ดังนี้

2.1 ลักษณะร่วมทางสังคมและวัฒนธรรม คนไทยมีลักษณะร่วมทางสังคมและวัฒนธรรมที่เหมือนๆกัน เช่น มีข้าวเป็นพื้นฐานของชีวิต หรือมีความเชื่อและพิธีกรรมดั้งเดิมเหมือนกัน คือ ความเชื่อเรื่องผีสางนางไม้ประเภทต่างๆ เช่น ผีฟ้า ผีบรรพบุรุษ หรือมีความเชื่อในอำนาจและอิทธิปาฏิหารย์ของเทวดาต่างๆ เช่น พระแม่คงคา พระแม่ธรณี หรือมีความศรัทธาและได้รับอิทธิพลจากการสั่งสอนของพระพุทธศาสนาในการดำรังชีวิต

 

2.2 ลักษณะที่แตกต่างทางสังคมและวัฒนธรรม เนื่องจากภูมิประเทศของเมืองไทยนั้นมีความแตกต่างกันทั้ง4 ภาค ดังนั้น ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมจึงแตกต่างกันไปด้วย เช่น คนทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือชอบรับประทานข้าวเหนียวแต่ภาคกลางและภาคใต้ชอบรับประทานข้่าวเจ้า เป็นต้น สภาพลักษณะปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ สืบเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย

อิทธิพลภายนอกที่มีผลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย

นอกจากปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวแล้วลักษณะของภูมิปัญญาไทยอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากภายนอกด้วยเช่นกัน เช่น การรับภูมิปัญญาจากชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อค้าขายด้วย โดยคนไทยได้รับมาเเละเรียนรู้ เช่น คนไทยในปัจจุบันได้รับวัฒธรรมภาษาไทยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยได้รับอิทธิพลมาจากอักษรขอม แต่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเขียนให้สอดคล้ิองกับสถานการณ์ในแต่ละยุคสมัยเป็นต้นด้วยเหตุนี้ในการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย นอกจากจะอาศัยวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทยแล้วต้องยังอาศัยอิทธิพลจากภายนอก เช่น ชาวต่างชาติต่างภาษา หรือจากบุคคลอื่นในชุมชนนั้นๆ 

ลักษณะของภูมิปัญญาไทย

ภูมิปัญญาไทยมีลักษณะของความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยและคนไทยอย่างได้ผลและยั่งยืน สอดคล้องกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนไทย ดังนั้นจึงต้องเข้าใจว่าภูมิปัญญาไทยในประวัติศาสตร์ไทยได้นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณ รวมทั้งภูมิปัญญาไทยบางอย่างได้มีการสืบสานเป็นมรดกตกทอดมายังคนไทยในสมัยปัจจุบันด้วย สำหรับลักษณะของภูมิปัญญาไทยที่เด่นๆ สามารถแยกออกได้ 4 ลักษณะ ได้ดังนี้

ภูมิปัญญาไทยทางด้านการเมืองการปกครอง

สำหรับภูมิปัญญาไทยทางด้านการเมือการปกครอง มีดังต่อไปนี้

1. ) การสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่คู่กับสังคมไทย ภูมิปัญญาทางด้านการเมืองการปกครองของประเทศทยที่สืบทอดมาถึงปัจจุบันนี้ คือ การสร้างสถาบันพระมหากษัตรย์ ใหมีการเข้มแข็ง และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของสังคมไทย รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางความร่วมมือร่วมใจของชาวไทยทั้งหมด 

2. ) การควบคุมกำลังคน การสร้างบ้านแปลงเมืองในสมัยโบราณ สิ่งสำคัญการหนึ่ง คือ การหาวิธีคุมกำลังคนให้ดำรงอยู่ร่วมกันเป็นบ้านเมืองอย่างมีระเบียบเพื่อความมั่นคงของอาณาจักร เนื่องจากสมัยโบราณไพร่พลยังมีไม่มากนัก จึงจำเป็นต้องมีแรงงานเอาไว้ใช้ในราชการ ดังนั้น การที่ผู้ปกครองของคนไทยในสมัยโบราณได้รู้จักการวางระบบควบคุมกำลังคน ที่เรียกว่า ระบบไพร่ จึงนับได้ว่าเป็นภูมิปัญญาไทยอย่างหนึ่งการรู้จักการแก้ปัญหาในการดำรงชีวิตในการดำรงชิตขิงคนไทยในสภาพแวดล้อมและธรรมชาติในสมัยสุโขทัยจนมาถึงสมัยปัจจุบัน มักจะพบปัญหาอยู่เสมอ เช่น สภาพภูมิประเทศสำหรับสร้างเมืองราชธานี การแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ หรือการรักษาโรคภัย เป็นต้น อย่างก็ตามคนไทยรู้จักการดัดแปลงแก้ไขสภาพแวดล้อมหรืออาศัยธรรมชาติเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี

1. ) การแสวงหาทำเลในการสร้างราชธานี ในการสร้างเมืองราชธานีนั้นนอกจะต้องคำนึงถึงยุทธศาสตร์การปกครองแล้ว ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงการดำรงชีวิตของพลเมืองด้วย เพราะพลเมืองจะต้องมาหากิน ทั้งในด้านการเพาะปลูก และการค้าขายแลกเปลี่ยนผลผลิตต่างๆ 

ในสมัยสุโทัยเป็นราชธานีมักอยู่ใกล้แม่น้ำยม และอยู่ใกล้เคียงแม่น้ำปิง และแม่น้ำวังซึ่งสะดวกแก่การค้าขายแลกเปลี่ยนกับแคว้นต่างๆ ทางตอนเหนือขึ้นไป และแคว้นทางใต้ลงมาที่ติดกับชายทะเลด้วย

ในสมัยอยุธยา มีการตั้งราชธานีบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ และอยู่ใกล้กับอ่าวไทยจึงแก่การเพาะปลูกและค้าขายกับต่างชาติ สำหรับสมัยรัตนโกสินทร์เป็นาชธานีอยู่ติดกีบแม่น้ำเจ้าพระยาและอ่าวไทย จึงเหมาะแก่การดำรงชีวิตของไพร่พลที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการเพาะปลูกและค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าและผลิตผลทั้งในและนอกอาณาจักร

                                          วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยที่สำคัญ

ตัวอย่างของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยที่สำคัญ
ลายสือไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหง
การประดิษฐ์ลายสือไทยของพ่อขุนรามคำแหงใน พ.ศ. 1826 ในศิลาจารึกหลักที่ 1 มีข้อความว่า "เมื่อก่อนลายสือไทยนั้น ปี 1205 ศกปีมะแม พ่อขุนรามคำแหงหาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทยนี้ ลายสือไทนี้จึงมีเพื่อขุนผู้นั้นใส่ไว้"
การที่คนไทยมีตัวหนังสือเป็นของตนเอง ทำให้ทราบถึงภูมิปัญญาไทยในการสร้างชาติและผนึกกำลังในการรวมชาติที่สำคัญ ตัวอักษรไทยทำให้คนไทยจากถิ่นต่าง ๆ มีความสามัคคี มีความรู้สึกในการเป็นชาติเดียวกัน ทำให้อาณาจักรเป็นปึกแผ่นมากขึ้น

 

 

 

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

การทำบุญบั้งไฟ
การทำบุญบั้งไฟของภาคอีสานมีจุดประสงค์เพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล แสดงถึงภูมิปัญญาไทยที่แสดงออกในด้านจิตใจ คือ การสร้างขวัญและกำลังใจแก่ชาวบ้านเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมด้านวัตถุที่แสดงออกถึงภูมิปัญญาไทยของการทำบุญบั้งไป คือ การรู้จักใช้กระบอกไม้ไผ่บรรจุเชื้อเพลิงทำด้วยดินปืน สำหรับจุดไฟพุ่งไปในอากาศ กระบอกท่อนหัวเป็นการบรรจุเชื้อเพลิงซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าช่วงกลาง เป็นต้น

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

เรือนไทย
เรือนไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ เรือนเครื่องผูกและเรือนเครื่องสับ เรือนเครื่องผูก หมายถึง เรือนที่ก่อสร้างแบบง่าย ๆ ใช้วัสดุส่วนใหญ่เป็นไม้ไผ่และหวายสำหรับผูกรัดส่วนต่าง ๆ ของตัวเรือน ฝาเรือนเป็นฝาขัดแตะ เรือนเครื่องสับ เป็นเรือนไม้จริง หรือที่เรียกกันว่า เรือนฝากระดาน ที่เรียกว่าเรือนเครื่องสับเพราะเครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่ ได้แก่ มีดเหน็บ หรือมีดตอกชนิดหัวใหญ่ ขวาน สิ่ว ชนิดต่าง ๆ จึงเรียกกันว่า เรือนเครื่องสับ
เรือนไทยแสดงถึงภูมิปัญญาไทยที่สร้างบ้านด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ การสร้างบ้านทรงไทยที่มีลักษณะหลังคาลาดลงรองรับการไหลของน้ำฝน และบ้านที่โปร่งมีใต้ถุน เพราะภูมิอากาศอยู่ในเขตร้อนชื้น มีฝนตกบ่อย
ในปัจจุบันรัฐบาลได้กำหนดเรื่องของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไว้ในสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ในมาตรา 7, มาตรา 23, มาตรา 27 และมาตรา 29
ในแต่ละท้องถิ่นของไทย มีวัตถุดิบที่สร้างเป็นผลผลิตมากมายจนรัฐบาลมีนโยบายโครงการต่าง ๆ ที่สนับสนุนภูมิปัญญาไทยให้ประชากรนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาแปรรูปสร้างคุณค่าออกขายนำรายได้เข้าสู่ท้องถิ่น และเป็นการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและภูมิปัญญาไทย

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

ผลิตผลภูมิปัญญาไทยหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
ปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายมากมาย ได้แก่
สินค้าจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
รายการ แหล่งผลิตภัณฑ์
1. ข้าวเกรียบสายรุ้ง บ้านท่ามะกา กาญจนบุรี
2. งานจักสานผักตบชวา บ้านลานแหลม นครปฐม
3. ดอกไม้ประดิษฐ์ดินหอม ต.ท่าศาลา ลพบุรี
4. ชาสมุนไพร เกษตรกรป่าโมก อ่างทอง
5. ดอกไม้ใยบัว ต.ห้วยกะปิ ชลบุรี
6. น้ำทานตะวัน เขื่อนป่าสัก ลพบุรี
7. ทอผ้าตีนจก ต.หนองมะโมง ชัยนาท
8. เพาะเห็ดนางฟ้าแปรรูป ต.ป่าคา น่าน
9. จักสานทองเหลือง ต.ท่าไข่ ฉะเชิงเทรา
10. หัตถกรรมผ้าบาติก ต.กะลุวงเหนือ นราธิวาส
11. ผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว ต.ปาดังเบซาร์ สงขลา
12. ผลิตภัณฑ์จากเกล็ดปลา ต.เขารูปช้าง สงขลา
13. ผลิตภัณฑ์หมอน ต.โพธิ์ไทร ยโสทร
14. กล้วยบาร์บีคิว ต.ใบคลองบางปลากด สมุทรปราการ
15. ปลาร้าสับสมุนไพร ต.ยายชา นครปฐม
16. ไวน์องุ่นป่า ต.ท่าเกวียน สระแก้ว

งานบุญเทศน์มหาชาติ ประเพณีที่ทำสืบทอดกันมาแต่โบราณเชื่อกันว่า หากผู้ใดได้ฟังเทศน์ผะเหวด หรือเทศน์มหาชาติจบทั้ง 13 กัณฑ์และนครกัณฑ์)  ภายในวันเดียวและบำเพ็ญความดีผลบุญที่ผู้นั้นได้กระทำลงไป) จะส่งให้บุคคลนั้นได้ไปเกิดร่วมชาติเดียวกับพระพุทธเจ้า

ประเพณี "ปอยส่างลอง"  หรือ  "ประเพณีบวชลูกแก้ว"   เป็นประเพณีประจำปีของชาวไตหรือไทยใหญ่เกือบทั้งหมดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประเพณีนี้เป็นการนำเด็กชายที่มีอายุครบบวชเข้าบรรพชาเป็นสามเณร เพื่อกล่อมเกลาให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีต่อไป

ประเพณีสงกรานต์ ถือเป็นประเพณีการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่ยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณช่วงวันสงกรานต์จึงเป็นวันแห่งความเอื้ออาทร ความรัก ความผูกพัน ที่มีต่อกันทั้งในครอบครัว ชุมชน สังคม และ ศาสนา

พิธีแรกนาขวัญ หรือ"พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ" เป็นพระราชประเพณีสำคัญ   ที่ทำเพื่อเสริมสร้างให้เกิดขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติ ความหมายของพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญก็เพื่อต้องการให้พืชพันธุ์ธัญญาหารในพระราชอาณาจักรอุดมสมบูรณ์ตลอดฤดูกาลที่ทำการเพา

งานตานก๋วยสลาก หรือกิ๋นก๋วยสลาก หรือกิ๋นข้าวสลาก เป็นประเพณีคล้ายกับสลากภัตรของชาวไทยภาคกลาง ต่างกันในด้านการปฏิบัติและพิธีกรรมเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วคือการให้ทาน ถวายข้าวของให้แก่ ภิกษุสามเณร เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปสู่ปรโลก รวมไปถึงเจ้ากรรมนายเวร และสามารถจะอุทิศผลานิสงฆ์นี้ไปเป็นเนื้อนาบุญให้กับตัวเองในภายภาคหน้า ซึ่งเป็นความเชื่อมาแต่บรรพบุรุษ เพื่อว่าชาติหน้าจะได้มีกินมีใช้ มั่งมีศรีสุขปลูก

 

ปัญหาภูมิปัญญาไทย

 

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

ปัญหาภูมิปัญญาไทย
(1) สูญหายและถูกทำลาย ชาติไทยมีภูมิปัญญาของตนเองมาดั้งเดิมตั้งแต่อดีตนานนับพันปี แต่เนื่องจากระบบการศึกษา สงคราม การถ่ายทอดภูมิปัญญาของเราในอดีตจึงมีปัญหามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ทำให้เรามีตำราเหลือเพียงบางสาขา เช่น ตำรายาไทย ตำราการช่าง หลายอย่างสูญหายไปเพราะภัยสงคราม และความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้ภูมิปัญญาไทยถูกทำลาย ฉะนั้นภูมิปัญญาไทยจึงเหลือตกทอดเพียงภูมิปัญญาการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่นำเอาประสบการณ์มาใช้ในการตอบสนองต่อความจำเป็นในชีวิต
(2) ขาดเทคนิคพัฒนาการ การสั่งสมและถ่ายทอดภูมิปัญญาไทยมีจุดอ่อนที่สำคัญ คือ การขาดเทคนิคการทำงานและการถ่ายทอดอย่างเป็นระบบ เช่น การถ่ายทอดภูมิปัญญามักทำในหมู่ญาติหรือพวกพ้อง ไม่ถ่ายทอดให้กับบุคคลภายนอก ทำให้ภูมิปัญญาหลายอย่างตายไปกับครู การขาดระบบการถ่ายทอด อาทิ การตั้งโรงเรียนฝึกหัด การไม่ได้รับการสนับสนุนจากสังคม
(3) นิสัยการเลียนแบบ นิสัยคนไทยชอบซื้อหรือเลียนแบบต่างชาติ วิชาการหลายอย่าง จึงไม่ค่อยพัฒนา มีลักษณะเลียนแบบมากกว่าประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเอง
(4) การครอบงำทางภูมิปัญญาจากต่างชาติ ในอดีต 100 ปีที่ผ่านมาไทยต้องเผชิญกับศัตรูชาติตะวันตก ที่มาทางเรือพร้อมอาวุธที่มีประสิทธิภาพมาก ไทยจึงตระหนักว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดั้งเดิมของเรานั้นไม่ทันกับความก้าวหน้าของโลกภายนอก แทนที่จะเร่งพัฒนาภูมิปัญญาของเราเอง เรากลับตัดสินใจใช้วิธีการและทรัพยากรของชาติแลกซื้อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างชาติ ในที่สุดไทยกลายเป็นลูกค้าถาวร เพราะขาดการพัฒนาภูมิปัญญาของตนเองอย่างเป็นระบบ

 

แนวทางการพัฒนาภูมิปัญญาไทย

 

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

แนวทางการพัฒนาภูมิปัญญาไทย
(1) พัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ชาวชนบทคิดค้นขึ้นมาเองให้ดียิ่งขึ้น โดยประยุกต์ภูมิปัญญาต่างชาติอย่างระมัดระวัง
(2) ถ่ายทอดภูมิปัญญาต่างชาติผ่านองค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาล ด้วยความระมัดระวัง โดยการศึกษาค้นคว้าข้อดีข้อเสียของภูมิปัญญานั้นอย่างละเอียดก่อนนำมาประยุกต์ใช้
(3) ตั้งองค์กรดูแล พัฒนา จัดระบบรักษาภูมิปัญญาไทยมิให้ถูกลอกเลียนแบบ จดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์
(4) ส่งเสริมคนไทยในการคิดค้นพัฒนาภูมิปัญญาไทยอย่างจริงจัง
(5) สร้างค่านิยมให้คนไทยเห็นคุณค่า หวงแหน รักษาภูมิปัญญาไทย

ภูมิปัญญานานาชาติ

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

ภูมิปัญญานานาชาติ


ประเทศไทยมีสัมพันธไมตรีกับต่างชาติตั้งแต่ครั้งโบราณยุคสุโขทัยเป็นต้นมาจึงได้รับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของนานาชาติมาผสมผสานกับวัฒนธรรมไทย
ตัวอย่างของภูมิปัญญานานาชาติ เช่น การสร้างบ้านตึกแบบทรงยุโรป ซึ่งเป็นลักษณะบ้านค่อนข้างทึบเพราะมีอากาศหนาวเย็น การสร้างเก๋งจีน การแต่งกายใส่สูทแบบยุโรป การนำรถยนต์มาใช้เพื่อความสะดวก ตลอดจนเทคโนโลยีระบบสารสนเทศต่างๆ จนถึงคอมพิวเตอร์ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาที่ล้ำเลิศของมนุษย์
วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของนานาชาติที่เผยแพร่ไปทั่วโลก มักจะเกี่ยวข้องกับวิทยาการที่นำสมัยในเรื่องการแพทย์ การคิดค้นเรื่องยา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การประดิษฐ์สิ่งอำนวยความสะดวก สถาปัตยกรรม การออกแบบ การนันทนาการและบันเทิง การสื่อสารและคมนาคม เป็นต้น
วัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันเกิดจากการคิดค้นของนานาชาติและมนุษยชาติยังคงมีต่อไปอย่างต่อเนื่องตราบเท่าที่มนุษย์ยังเป็นผู้ใฝ่เรียนใฝ่รู้และช่างคิดค้น แสวงหาสิ่งที่มาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างไม่มีวันจบสิ้น

 

 

 

ส่วนบนของฟอร์ม

สังคม วัฒธรรมและภูมิปัญญาไทย

สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันมีความเคารพผู้ใหญ่มีวัฒนธรรมประเพณีภูมิปัญญาเป็นของตนเองไม่ว่าจะเป็นภาษา การแต่กาย อาหารการกิน การละเล่น โบราณสถาน โบราณวัตถุและนอกจากนี้ยังได้มีการรับเอาวัฒนธรรมขอชาติอื่นมาผสมผสานและดัดแปลงให้เหมาะสมกับสังคมไทยจนกลายเป็นวัฒนธรรมของไทย

คุณสมบัติของผู้ทรงภูมิปัญญาไทยตามที่กำหนดไว้

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

 

พระยาอนุมานราชธนปราชญ์ไทยผู้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก

ผู้ทรงภูมิปัญญาไทยเป็นผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ อย่างน้อยดังต่อไปนี้

๑. เป็นคนดีมีคุณธรรม มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพต่างๆ มีผลงานด้านการพัฒนาท้องถิ่นของตน และได้รับการยอมรับจากบุคคลทั่วไปอย่างกว้างขวาง ทั้งยังเป็นผู้ที่ใช้หลักธรรมคำสอนทางศาสนาของตนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำรงวิถีชีวิตโดยตลอด

๒. เป็นผู้คงแก่เรียนและหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ผู้ทรงภูมิปัญญาจะเป็นผู้ที่หมั่นศึกษา แสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอไม่หยุดนิ่ง เรียนรู้ทั้งในระบบและนอกระบบ เป็นผู้ลงมือทำโดยทดลองทำตามที่เรียนมา

๓. เป็นผู้นำของท้องถิ่น ผู้ทรงภูมิปัญญาส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่สังคม ในแต่ละท้องถิ่นยอมรับให้เป็นผู้นำ ทั้งผู้นำที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางราชการ และผู้นำตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นผู้นำของท้องถิ่นและช่วยเหลือผู้อื่นได้เป็นอย่างดี

๔. เป็นผู้ที่สนใจปัญหาของท้องถิ่น ผู้ทรงภูมิปัญญาล้วนเป็นผู้ที่สนใจปัญหาของท้องถิ่น เอาใจใส่ ศึกษาปัญหา หาทางแก้ไข และช่วยเหลือสมาชิกในชุมชนของตนและชุมชนใกล้เคียงอย่างไม่ย่อท้อ จนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของสมาชิกและบุคคลทั่วไป

๕. เป็นผู้ขยันหมั่นเพียร ผู้ทรงภูมิปัญญาเป็นผู้ขยันหมั่นเพียร ลงมือทำงานและผลิตผลงานอยู่เสมอ ปรับปรุงและพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกทั้งมุ่งทำงานของตนอย่างต่อเนื่อง

๖. เป็นนักปกครองและประสานประโยชน์ของท้องถิ่น ผู้ทรงภูมิปัญญา นอกจากเป็นผู้ที่ประพฤติตนเป็นคนดี จนเป็นที่ยอมรับนับถือจากบุคคลทั่วไปแล้ว ผลงานที่ท่านทำยังถือว่ามีคุณค่า จึงเป็นผู้ที่มีทั้ง "ครองตน ครองคน และครองงาน"

๗. มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้เป็นเลิศ เมื่อผู้ทรงภูมิปัญญามีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เป็นเลิศ มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและบุคคลทั่วไป ทั้งชาวบ้าน นักวิชาการ นักเรียน นิสิต/นักศึกษา โดยอาจเข้าไปศึกษาหาความรู้ หรือเชิญท่านเหล่านั้นไป เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ได้

๘. เป็นผู้มีคู่ครองหรือบริวารดี ผู้ทรงภูมิปัญญา ถ้าเป็นคฤหัสถ์ จะพบว่า ล้วนมีคู่ครองที่ดีที่คอยสนับสนุน ช่วยเหลือ ให้กำลังใจ ให้ความร่วมมือในงานที่ท่านทำ ช่วยให้ผลิตผลงานที่มีคุณค่า ถ้าเป็นนักบวช ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด ต้องมีบริวารที่ดี จึงจะสามารถผลิตผลงานที่มีคุณค่าทางศาสนาได้

๙. เป็นผู้มีปัญญารอบรู้และเชี่ยวชาญจนได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์ ผู้ทรงภูมิปัญญา ต้องเป็นผู้มีปัญญารอบรู้และเชี่ยวชาญ รวมทั้งสร้างสรรค์ผลงานพิเศษใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ

 

คุณค่าทางด้านการสร้างความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรี เกียรติภูมิแก่คนไทย

 

          คนไทยในอดีตที่มีความสามารถปรากฏในประวัติศาสตร์มีมาก เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ เช่น

 

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

 

นายขนมต้มเป็นนักมวยไทยที่มีฝีมือเก่งในการใช้อวัยวะทุกส่วน ทุกท่าของแม้ไม้มวยไทย สามารถชกมวยไทย จนชนะพม่าได้ถึงเก้าคนสิบคนในคราวเดียวกัน แม้ในปัจจุบันมวยไทยก็ยังถือว่า เป็นศิลปะชั้นเยี่ยม เป็นที่นิยมฝึก และแข่งขันในหมู่คนไทยและชาวต่างประเทศ ปัจจุบันมีค่ายมวยไทยทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 30,000 แห่ง ชาวต่างประเทศที่ได้ฝึกมวยไทยจะรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจ ในการที่จะใช้กติกาของมวยไทย เช่น การไหว้ครูมวยไทย การออกคำสั่งในการชกเป็นภาษาไทยทุกคำ เช่น คำว่า "ชก" "นับหนึ่งถึงสิบ" เป็นต้น ถือเป็นมรดกภูมิปัญญาไทย นอกจากนี้ ภูมิปัญญาไทยที่โดดเด่นยังมีอีกมากมาย เช่น มรดกภูมิปัญญาทางภาษาและวรรณกรรม โดยที่มีอักษรไทยเป็นของตนเองมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย และวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน วรรณกรรมไทยถือว่าเป็น วรรณกรรมที่มีความไพเราะ ได้อรรถรสครบทุกด้าน วรรณกรรม หลายเรื่องได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา

 

วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้านมีความสําคัญอย่างไร

                ด้านอาหาร อาหารไทยเป็นอาหารที่ปรุงง่าย พืชที่ใช้ประกอบอาหารส่วนใหญ่เป็นพืชสมุนไพร ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นและราคาถูก มีคุณค่าทางโภชนาการ และยังป้องกันโรคได้หลายโรค เพราะส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นพืชสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ขิง ข่า กระชาย ใบมะกรูด ใบโหระพา ใบกะเพรา เป็นต้น

การอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย

1. การค้นคว้าวิจัย ควรศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาของไทยในด้านต่างๆ ของท้องถิ่น จังหวัด ภูมิภาค และประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิปัญญาที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น มุ่งศึกษาให้รู้ความเป็นมาในอดีต และสภาพการณ์ในปัจจุบัน

2. การอนุรักษ โดยการปลุกจิตสำนึกให้คนในท้องถิ่นตระหนักถึงคุณค่าแก่นสาระและความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมตามประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ สร้างจิตสำนึกของความเป็นคนท้องถิ่นนั้นๆ ที่จะต้องร่วมกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น รวมทั้งสนับสนุนให้มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นหรือพิพิธภัณฑ์ชุมชนขึ้น เพื่อแสดงสภาพชีวิตและความเป็นมาของชุมชน อันจะสร้างความรู้และความภูมิใจในชุมชนท้องถิ่นด้วย

3. การฟื้นฟู โดยการเลือกสรรภูมิปัญญาที่กำลังสูญหาย หรือที่สูญหายไปแล้วมาทำให้มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นฐานทางจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม

4. การพัฒนา ควรริเริ่มสร้างสรรค์และปรับปรุงภูมิปัญญาให้เหมาะสมกับยุคสมัยและเกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยใช้ภูมิปัญญาเป็นพื้นฐานในการรวมกลุ่มการพัฒนาอาชีพควรนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาช่วยเพื่อต่อยอดใช้ในการผลิต การตลาด และการบริหาร ตลอดจนการป้องกันและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

5. การถ่ายทอด โดยการนำภูมิปัญญาที่ผ่านมาเลือกสรรกลั่นกรองด้วยเหตุและผลอย่างรอบคอบและรอบด้าน แล้วไปถ่ายทอดให้คนในสังคมได้รับรู้ เกิดความเข้าใจ ตระหนักในคุณค่า คุณประโยชน์และปฎิบัติได้อย่างเหมาะสม โดยผ่านสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ 

6. ส่งเสริมกิจกรรม โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายการสืบสานและพัฒนาภูมิปัญญาของชุมชนต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง

7. การเผยแพร่แลกเปลี่ยน โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง โดยให้มีการเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ ด้วยสื่อและวิธีการต่างๆ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

8. การเสริมสร้างปราชญ์ท้องถิ่น โดยการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของชาวบ้าน ผู้ดำเนินงานให้มีโอกาสแสดงศักยภาพด้านภูมิปัญญา ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ มีการยกย่องประกาศเกียรติคุณในลักษณะต่างๆ

 

แนวทางในการนำภูมิปัญญาไทยไปใช้ในการดำเนินชีวิต

  - ภูมิปัญญาที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติจะแสดงออกมาในลักษณะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาสนา

ภูมิปัญญามีความสําคัญอย่างไร

คุณค่าของภูมิปัญญาไทย ได้แก่ ประโยชน์ และความสำคัญของภูมิปัญญา ที่บรรพบุรุษไทย ได้สร้างสรรค์ และสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง จากอดีตสู่ปัจจุบัน ทำให้คนในชาติเกิดความรัก และความภาคภูมิใจ ที่จะร่วมแรงร่วมใจสืบสานต่อไปในอนาคต เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ สถาปัตยกรรม ประเพณีไทย การมีน้ำใจ ศักยภาพในการประสานผลประโยชน์ เป็นต้น ...

วัฒนธรรมและภูมิปัญญามีความสําคัญต่อสังคมอย่างไร

ความสำคัญของภูมิปัญญาไทย เกิดประสบการณ์ที่ใช้ในการแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒธรรมท้องถิ่น เป็นพื้นฐานความสามัคคีในชุมชน เป็นพื้นฐานในการพัฒนาวิถีชีวิตและสังคมชุมชน

ความสําคัญของภูมิปัญญาไทย มีอะไรบ้าง

จากที่ได้กล่าวไปจะเห็นได้ว่าภูมิปัญญาไทยเป็นองค์ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำรงชีวิตของประชาชน ในสังคม ดังนั้นเราควรช่วยกันอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาไทย รวมถึงถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และนำไปปฏิบัติเพื่อให้ภูมิปัญญาไทยอยู่คู่กับสังคมตลอดไป

ภูมิปัญญาชาวบ้านมีความสำคัญอย่างไร

ภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นความรู้ความสามารถที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์และถ่ายทอดมาให้เรามีวิธีการหลายอย่างที่ทำให้ความรู้เหล่านี้เกิดประโยชน์แก่สังคมปัจจุบัน คือ - การอนุรักษ์คือ การบำรุงรักษาสิ่งที่ดีงามไว้เช่น ประเพณีต่างๆ หัตถกรรม และคุณค่าหรือการปฏิบัติตนเพื่อความสัมพันธ์อันดีกับคนและสิ่งแวดล้อม