นักเรียนจะเตรียมความพร้อมด้านบุคลิกภาพก่อนไปสมัครงานอย่างไร

นักเรียนจะเตรียมความพร้อมด้านบุคลิกภาพก่อนไปสมัครงานอย่างไร

Show

สารบัญ

  • 11 วิธีเตรียมตัวทำงาน หลังเรียนจบ
  • 1.ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองก่อน
  • 2.วางแผนเป้าหมายชีวิตของตัวเอง
  • 3.เตรียมตัวสอบ Toeic
  • 4.รวบรวมผลงานและจัดเตรียมเรซูเม่
  • 5.มองหาองค์กรแหล่งงานที่ตัวเองต้องการ
  • 6.ความมั่นใจในการเรียกเงินเดือน
  • 7.เรียนรู้เรื่องการเงิน
  • 8.ทำความรู้จักเกี่ยวกับภาษี
  • 9.หาความรู้ทักษะอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อนำไปต่อยอด
  • 10.หางานที่สอง เพื่อสร้างรายได้อีกทาง
  • 11.ไม่สร้างหนี้ให้เพิ่มพูน หรือทำให้ชีวิตปลอดหนี้
  • สรุป
  • การเตรียมความพร้อมในการสมัครงานมีอะไรบ้าง
  • ทักษะที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนทํางานควรมีทักษะใดบ้าง
  • นักเรียนจะเตรียมความพร้อมด้านบุคลิกภาพก่อนไปสมัครงานอย่างไร
  • การเตรียมตัวหางานควรปฏิบัติตามขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก

วิธีเตรียมความพร้อมหลังเรียนจบ

         วิธีเตรียมตัวทำงาน คงเป็นคำถามสำหรับใครหลายๆคนที่เรียนจบแล้วว่าก่อนที่จะเข้าไปสู่โลกแห่งความรับผิดชอบ เราต้องทำอะไรบ้าง ? เพราะคงไม่มีการมานั่งอ่านหนังสือ ทำรายงานตามที่อาจารย์สั่งอีกต่อไปแล้ว เราต้องค้นคว้าหาเอง เป็นอาจารย์ให้แก่ตนเองว่าเรามีเรื่องที่ต้องรู้อะไรอีกบ้าง ถึงแม้บางคนก็วางแผนว่าจะเรียนต่อ บางคนไปสืบทอดธุรกิจของครอบครัวตนเองรุ่นต่อไป แล้วถ้าคุณเป็นหนึ่งในบรรดาคนเลือกที่จะหางานทำหล่ะ ? คุณจะเตรียมตัวอย่างไร วางแผนไว้รึยัง .. ถ้ายังเราและคุณไปเริ่มวางแผนนี่ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า กับ 11 วิธีเตรียมตัวทำงาน หลังเรียนจบ

11 วิธีเตรียมตัวทำงาน หลังเรียนจบ

1.ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองก่อน

          ก่อนอื่นเลยคุณจะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพื่อเวลาไปสมัครงานคุณสามารถบอกข้อดีของคุณที่จะทำให้บริษัทได้ และข้อเสียหรือสิ่งที่คุณไม่ถนัดว่าคุณจะพยายามทำมันให้ได้ สิ่งเล็กๆเหล่านี่แหละจะทำให้บริษัทคัดเลือกเราไปทำงาน

2.วางแผนเป้าหมายชีวิตของตัวเอง

           ข้อถัดมาวางแผนเป้าหมายชีวิตของตัวเอง คุณจะต้องวางแผนว่าจะมีเงินเก็บเท่าไหร่ อยากเก็บเดือนละกี่บาทจะมีครอบครัวไหม จะซื้อรถยนต์ไหม อยากซื้อคอนโดหรือซื้อบ้าน ทั้งหมดนี้คุณจะต้องวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆเลย ไม่ว่าจะวางแผนครอบครัว วางแผนการเงิน วางแผนความฝันตนเอง วางแผนชีวิตพ่อแม่และตัวเองเมื่อยามแก่เฒ่า

3.เตรียมตัวสอบ Toeic

          จะต้องไปสมัครงานแล้ว แต่พออ่านเงื่อนไขในการสมัครแทบจะทุกบริษัทส่วนใหญ่ต้องใช้คะแนน Toeic ยื่นน่ะสิ ทำไงดี .. ทำไมต้องใช้ด้วย จริงๆแล้ว Toeic เป็นการสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษที่หลายบริษัทยอมรับในประเทศไทย เพราะเกรดภาษาอังกฤษที่แสดงในใบ Transcript ของแต่ละมหาวิทยาลัยต่างๆนั้นมีการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถนำมาชี้วัดได้มากนัก

4.รวบรวมผลงานและจัดเตรียมเรซูเม่

           ผลงานและเรซูเม่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสมัครงาน หากเรซูเม่ดีก็ย่อมทำให้เรามีโอกาสในการได้งานที่ดีมากขึ้น ซึ่งเรซูเม่นั้นจะรวบรวมทั้งประวัติส่วนตัว ความสามารถ ผลงาน และทักษะอื่นๆของคุณ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อและให้บริษัทมองเห็นศักยภาพในตัวของคุณเองด้วย

5.มองหาองค์กรแหล่งงานที่ตัวเองต้องการ

          เราว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนมักจะมองข้ามกันไป เพราะจะหันไปมองชื่อเสียงและเงินเดือนขององค์กรแต่ละองค์กรมากกว่า จริงๆแล้วคุณแค่หันกลับมามอง Lifestyle นิสัยของตัวเองว่าเหมาะกับระบบการทำงานของบริษัทและองค์กรใดบ้าง เพื่อให้มีความสุขในการทำงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาวภายในอนาคตด้วย

6.ความมั่นใจในการเรียกเงินเดือน

          เวลาไปสัมภาษณ์งานบางคนโดนคำถามที่ว่า “อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่” เราเชื่อว่าหลายคนคงจะบอกในราคาที่ถูกกว่าความสามารถตัวเองแน่นอน เพราะกลัวถ้าเรียกเงินเดือนเยอะไปเขาจะไม่รับ ทำไมไม่ลองมั่นใจในความสามารถตัวเองแล้วเรียกเงินให้มากกว่าที่ตัวเองประเมินไว้สักหน่อยละ ดีไม่ดีบริษัทก็อาจจะตกลงยอมก็ได้นะ

7.เรียนรู้เรื่องการเงิน

          เมื่อคุณเติบโตขึ้นเงินถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต หากคุณวางแผนการเงินไม่ดี ใช้เงินฟุ่มเฟือยก็จะทำให้เกิดหนี้เกิดสินได้ เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องจำเป็นที่จะเรียนรู้เรื่องการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเงิน การนำเงินไปลงทุนในกองทุนต่างๆหรือเล่นหุ้นเพื่อสร้างกำไรหรือหารายได้อีกทาง การวางแผนชีวิตหลังเกษียณ เพื่อให้คุณสามารถแบ่งเงินเก็บในแต่ละเดือนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ได้

8.ทำความรู้จักเกี่ยวกับภาษี

           คงงงกันใช่ไหม ว่าทำไมต้องรู้เรื่องภาษีหลังเรียนจบด้วย ? เมื่อคุณเรียนจบ มีงานทำ ได้เงินเดือน หรือรายได้ในแต่ละปีถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี คุณจำเป็นที่จะต้องทำใบประกอบเอกสารต่างๆในการยื่นภาษีและรู้สิทธิพิเศษต่างๆที่สามารถละเว้นภาษีส่วนนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ภาษีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่คุณต้องรู้

9.หาความรู้ทักษะอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อนำไปต่อยอด

          เราเคยพูดไปเมื่อตอนต้นบทความว่าพอเราเรียนจบแล้ว เราจะต้องเป็นอาจารย์ให้กับตัวเองนั้นแหละ คือสิ่งที่เราจะต้องทำเมื่อเราต้องหาความรู้ทักษะอื่นๆที่เราไม่ได้เรียนมาในด้านนั้นๆ เช่น ทักษะด้านธุรกิจเพื่อนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจส่วนตัวของคุณนั่นเอง

10.หางานที่สอง เพื่อสร้างรายได้อีกทาง

          ต่อยอดมาจากข้อที่แล้วเลย เมื่อเราเรียนรู้ทักษะอื่นๆเพิ่มเติมแล้ว คุณสามารถนำทักษะเหล่านี้มาพัฒนาเป็นงานที่สองเพื่อสร้างรายได้อีกทางให้แก่ตนเอง เพราะถ้าจะให้คุณมีรายได้ทางเดียวที่แสนจะสวนทางกับรายจ่ายของคุณ ก็คงจะไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายแน่ๆหล่ะ แถมเผลอๆสร้างหนี้มากกว่าเดิมแน่ๆ ทางที่ดีควรมีรายได้เข้ามาหลายทางมากกว่ามีรายจ่ายหลายทางนะ

11.ไม่สร้างหนี้ให้เพิ่มพูน หรือทำให้ชีวิตปลอดหนี้

          เราเดินทางกันมาถึงช่วงสุดท้ายของการเตรียมตัวทำงาน หลังเรียนจบกันแล้วนะ ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญสำหรับเด็กจบใหม่หลายๆคน เพราะลองคิดนะว่าเมื่อคุณทำงานได้เงินเดือนครั้งแรก เงินมันดูเยอะมากเลย ทำให้คุณใช้จ่ายจนหมด ไม่คิดจะเก็บ แต่อย่าลืมนะว่าในช่วงอายุคุณเนี้ยเป็นช่วงที่สามารถเก็บเงินได้เยอะมาก ภาระ ครอบครัวก็ไม่มี และสิ่งที่อยากจะย้ำเตือนเลยคืออย่าพยายามเป็นหนี้บริโภคให้มากนัก จงพอใจในสิ่งที่เรามีนะแล้วขยันอดออมเก็บเงินในช่วงขาขึ้นนี่เยอะๆ

สรุป

          เป็นยังไงกันบ้าง สำหรับ 11 วิธีการเตรียมตัวทำงานหลังเรียนจบ ไม่ยากใช่ไหม เราคิดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่เด็กจบใหม่ทุกคนหรือน้องๆที่กำลังศึกษาอยู่ในปีที่ 3-4 จะต้องเรียนรู้ก่อนไปทำงานในโลกแห่งความจริง หากทำได้ครบตามนี้ยิ่งทำเราสามารถยกระดับชีวิตของให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้

อ่านเรื่่องเกี่ยวกับได้ที่นี่ บัตรเครดิต คืออะไร ทำไมถึงต้องใช้บัตรเครดิต พร้อมวิธีคิดดอกเบี้ย

การเตรียมความพร้อมในการสมัครงานมีอะไรบ้าง

ผู้สมัครงานจะต้องเตรียมหลักฐานการสมัครงานต่าง ๆ เช่น ใบรับรองผลการศึกษา, ใบสุทธิ รูปถ่าย, บัตรประจ าตัวประชาชนพร้อมส าเนา, ส าเนาทะเบียนบ้าน, ใบปลด รด.,และหลักหลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี) หนังสือรับรองการฝึกงานจากผู้ที่เคยจ้างงาน หรือรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษา นอกจากหลักฐานการดังกล่าวแล้ว ผู้สมัครงานควรเตรียมเครื่องเขียนปากกา ...

ทักษะที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนทํางานควรมีทักษะใดบ้าง

11 ทักษะ ที่ช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณ “ชนะเลิศ” ... .

ทักษะการสื่อสารที่ดี.

2. ทักษะภาษาอังกฤษ ... .

3. ทักษะการทำงานใต้ความกดดัน ... .

4. ทักษะด้านความรับผิดชอบ ... .

ทักษะด้านทีมเวิร์ค.

ทักษะการเรียนรู้เร็ว.

ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์.

นักเรียนจะเตรียมความพร้อมด้านบุคลิกภาพก่อนไปสมัครงานอย่างไร

สำรวจตนเองก่อนสมัครงาน บุคลิกส่วนตัว ว่ามีบุคลิกเหมาะสมกับงานอาชีพใดบ้าง การศึกษา ว่าอยู่ในระดับ ดี ปานกลาง หรือพอใช้ การฝึกงานในขณะเรียน การฝึกงานอย่างเอาใจใส่ สนใจซักถามเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับงานที่ฝึก ซึ่งจะมีผลต่อความสำเร็จในการหางานทำ ทักษะในการสื่อข้อความ

การเตรียมตัวหางานควรปฏิบัติตามขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก

1. ค้นพบตัวเองให้ชัดเจน.

ขั้นตอนแห่งค้นพบตัวเอง 1. การค้นหาทักษะ (Skills) ... .

2. ติดตามข่าวสาร.

3. มองหาแหล่งงาน.

สรุปขั้นตอนการเตรียมความพร้อมในการหางานอย่างมีประสิทธิภาพ.

1. การวิเคราะห์เกี่ยวกับตนเอง ... .

2. การวิเคราะห์หน่วยงานที่คุณสนใจ.

การเตรียมตัวก่อนสมัครงานมีลักษณะการเตรียมตัวอย่างไร

7 ทริค การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน สร้างความมั่นใจไปคว้างาน.
1. หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ... .
2. เตรียมตัวให้พร้อมกับคำถามทั่วไปที่บริษัทมักถาม ... .
3. หาจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ ... .
4. อย่าลืมที่จะถามคำถาม ... .
5. หลีกเลี่ยงการตอบคำถามอย่างจำเจและน่าเบื่อ ... .
6. กรอกเอกสารล่วงหน้าและนำเอกสารที่จำเป็นไปด้วย ... .
7. แต่งตัวให้เหมาะสม.

การเตรียมความพร้อมในการสมัครงานมีอะไรบ้าง

ผู้สมัครงานจะต้องเตรียมหลักฐานการสมัครงานต่าง ๆ เช่น ใบรับรองผลการศึกษา, ใบสุทธิ รูปถ่าย, บัตรประจ าตัวประชาชนพร้อมส าเนา, ส าเนาทะเบียนบ้าน, ใบปลด รด.,และหลักหลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี) หนังสือรับรองการฝึกงานจากผู้ที่เคยจ้างงาน หรือรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษา นอกจากหลักฐานการดังกล่าวแล้ว ผู้สมัครงานควรเตรียมเครื่องเขียนปากกา ...

นักเรียนจะมีวิธีการเตรียมความพร้อมอย่างไร เพื่อเข้าสู่โลกของการทำงาน

Check list เตรียมตัวสู่วัยทำงาน ก่อนเรียนจบ.
ดูแลสุขภาพให้ดี ... .
อย่ารู้ภาษาอังกฤษไว้เพื่อสอบโทอิคแล้วปล่อยผ่าน ... .
การรู้จักวางตัวคือเรื่องสำคัญ ... .
ศึกษาข้อมูลบริษัทที่อยากเข้าทำงานไว้คร่าวๆ ... .
เริ่มเรียนรู้การบริหารจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ... .
เตรียมใจ.

ก่อนสมัครงาน นักเรียนต้องดูอะไรก่อน

4 ขั้นตอนการเตรียมตัวสมัครงานของนักศึกษาจบใหม่.
คิดให้ดีว่างานไหนคืองานที่เราชอบและเหมาะสมกับเรามากที่สุด แล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับงานนั้น ๆ.
รวบรวมประสบการณ์การทำงาน การอบรม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำเพื่อใช้ประกอบการสมัครงาน.
เขียนรายละเอียดใน Resume ให้ครบถ้วนที่สุด นอกจากนี้อย่าลืมเช็กความถูกต้องของข้อมูลก่อนส่งด้วย.