หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยืดเยื้อยาวนานกว่า 4 ปี ในที่สุดเยอรมนี ในฐานะฝ่ายมหาอำนาจกลางได้ติดต่อฝ่ายสัมพันธมิตรเพื่อขอเจรจาสงบศึกในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1918 จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงได้ลงนามในสัญญาสงบศึกบนรถไฟ ณ เมืองคองเปียน ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 ดังนั้นชาวโลกจึงนับให้วันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปีเป็นวันยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ
สงครามโลกครั้งที่ 1 นับเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศครั้งแรกที่ขยายขอบเขตกว้างขวาง เนื่องจากเป็นความขัดแย้งที่ประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง ก่อนที่อิตาลีและสหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมในภายหลัง
สำหรับประเทศสยาม ช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้อุบัติขึ้นและดำเนินไปนั้น ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ได้ทรงประกาศร่วมรบกับฝ่ายสัมพันธมิตร โดยได้ส่งกองทหารอาสาจำนวน 1,284 นาย จากกองทัพบกรถยนต์และกองบินทหารบกไปยังฝรั่งเศส นับเป็น 1 ใน 3 ประเทศในเอเชียที่ประกาศร่วมสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร
ภายหลังการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 เหล่าทหารอาสาสมัครได้เดินทางกลับถึงประเทศ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2462 (ค.ศ. 1919) โดยได้เชิญอัฐิของทหารที่เสียชีวิตในราชการสงคราม จำนวน 19 นาย กลับสู่ภูมิลำเนาด้วย โดยในการนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์เป็นที่บรรจุอัฐิ และเป็นอนุสรณ์สถานถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น และได้พระราชทานนามว่า ‘อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลก ครั้งที่ 1’ เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมแห่งการเสียสละของเหล่าทหารอาสา และได้มีการจัดพิธีวางพวงมาลาในวันที่ 11 พฤศิกายนของทุกปี ซึ่งถือว่าเป็น ‘วันที่ระลึกทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1’
TAGS:
คือ สงครามแห่งความขัดแย้งระดับโลกที่เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ.1914 ถึงค.ศ.1918 ระหว่างฝ่ายพันธมิตรกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง
สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่1
1.ผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม
2.การเกิดลัทธิจักรวรรดินิยม ชาติมหาอำนาจในยุโรปได้ขยายอำนาจและอิทธิพลออกไปสู่ดินแดนนอกทวีป
3. การเกิดลัทธิชาตินิยม เป็นความรู้สึกรักและภูมิใจในชาติของตนอย่างรุ่นแรง
4.ปรารถนาจะเห็นชาติของตนมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือชนชาติอื่น โดยการสร้างกองทัพให้เข้มแข็งรุกรานชนชาติอื่น
ภาพบุคคลสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
บิสมารค์ ชาวเยอรมัน
การรวมกลุ่มของยุโรปก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1
ฝ่ายไตรภาคี Triple Alliance
ประกอบด้วย เยอรมัน ออสเตรเลีย-ฮังการี และอิตาลี
หมายเหตุ ก่อนการจัดตั้งเป็น Triple Alliance ได้มีการรวมกลุ่ม ชื่อว่า Triple Emperor (สัญญาสันนิบาตสามจักรพรรดิ) ประกอบด้วย เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี และรัสเซีย
ฝ่ายไตรพันธมิตร Triple Entente
ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย
ลำดับเหตุการณ์การเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1
-ออสเตรีย-ฮังการีประกาศสงครามกับ เซอร์เบีย (เข้ากับพวกสลาฟ)
-รุสเซียและฝรั่งเศสเข้าช่วยเหลือเซอร์เบีย
-เยอรมันเข้าช่วยเหลือออสเตรีย-ฮังการี
-เยอรมันบุกผ่านเบลเยี่ยมเพื่อต่อสู้กับฝรั่งเศส
-แต่เบลเยี่ยมได้รับความเป็นกลางจากอังกฤษ
-ดังนั้นอังกฤษประกาศสงครามกับเยอรมัน
-อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับออสเตรีย-ฮังการี
การแบ่งฝ่ายในสงครามโลกครั้งที่ 1 (อาศัยผลประโยชน์เป็นสำคัญ)
ฝ่ายมหาอำนาจกลาง
•ออสเตรีย-ฮังการี
• เยอรมัน
• ตุรกี
• บัลกาเรีย
ฝ่ายสัมพันธมิตร
เซียร์เบีย รุสเซีย (รัสเซีย) ฝรั่งเศส อังกฤษ ญี่ปุ่น อิตาลี โปรตุเกต โรมาเนีย ไทย จีน สหรัฐอเมริกา
สนามเพลาะในสงครามโลกครั้งที่ 1
สนามเพลาะ คือแนวตั้งรับในการทำสงคราม ด้วยการขุดหลุมเพลาะเป็นแนวยาวเหยียดหลายแนวสลับซับซ้อนกัน ไป ด้านหน้าทำการสร้างลวดหนามไว้ต้านทานทหารของฝ่ายข้าศึก ทหารจะอาศัยอยู่ในรูที่ ขุดเข้าไปใต้ดินเพื่อหลบลูกกระสุนปืนใหญ่ของข้าศึกและใช้หลับนอนอยู่อาศัย พอข้าศึกบุก ก็จะเข้าไปประจำในสนามเพลาะทำการยิงปืนยาวสกัดข้าศึกที่ดาหน้าฝ่าแนวลวดหนาม เข้ามารวมทั้งใช้ปืนกลและปืนใหญ่ของฝ่ายเดียวกันช่วยยิงสกัดข้าศึกด้วย พอจะทำการรุกทหารก็จะขึ้นจากสนามเพลาะของตนวิ่งข้ามเขตปลอดคน(No man land)
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 1
1 ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศคู่สงครามทั้ง 2 ฝ่าย
2. ประเทศผู้แพ้สงครามถูกบังคับให้ทำสนธิสัญญา ได้แก่
สนธิสัญญาแวร์ซายส์ ทำกับประเทศเยอรมัน
สนธิสัญญาตรีอานอง ทำกับประเทศฮังการี
สนธิสัญญาเนยยี ทำกับประเทศบัลแกเรีย
สนธิสัญญาแซงต์แยร์แมง ทำกับประเทศออสเตรีย
สนธิสัญญาแซฟส์ ทำกับประเทศตุรกี
3.มีคำแถลงการณ์ 14 ประการของประธานาธิบดีวูดโรล์ วิลสัน นำไปสู่การตั้งองค์การสันนิบาตชาติ (อเมริกาไม่เข้าร่วม/และไม่มีกำลังทหาร)
4 ตุลาคม ค.ศ. 1918 เยอรมนีได้ส่งคำร้องขอยุติสงครามไปยัง วูดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีของสหรัฐในขณะนั้น วูดโรว์ วิลสัน ได้ยื่นเงื่อนไขในการยุติสงคราม
14 ข้อ โดยไม่ได้ปรึกษากับฝ่ายพันธมิตร
1.
ห้ามทำสนธิสัญญาลับระหว่างประเทศ
2. เสรีภาพทางท้องทะเลแม้ในยามสงคราม
3. การค้าเสรีระหว่างประเทศ
4. การลดอาวุธ
5. แก้ไขการอ้างสิทธิอาณานิคม
6. เยอรมนีต้องถอนตัวออกจากดินแดนของรัสเซีย
7. อิสรภาพของเบลเยี่ยม
8. ต้องคืนแคว้นอัลซัค –
ลอร์เรนให้ฝรั่งเศส
9. ต้องปรับพรมแดนของอิตาลี
10. ให้โอกาสปกครองตนเอง แก่จักรวรรดิออสเตรีย – ฮังการี
11. ต้องฟื้นฟูรัฐบอลข่าน และเซอร์เบียต้องมีทางออกทะเล
12. ประชากรที่ไม่ใช่ชาวเติร์กในจักรวรรดิตุรกีต้องเป็นอิสระ
13. สร้างโปแลนด์ขึ้นใหม่
14. ต้องจัดตั้งองค์การระหว่างประเทศ
4.เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก เนื่องจากทุกประเทศทั่วโลกได้รับความเสียหายจากสงคราม
5. ทำให้จักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ของยุโรป ได้ล้มสลายลง เช่น จักรวรรดิรัสเซีย จักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และจักรวรรดิออตโตมันต้องล่มสลายลง
6.เกิดประเทศใหม่ในยุโรป เช่น เชคโกสโลวาเกียและยูโกสลาเวียแยกออกจากรัสเซีย ออสเตรีย ฮังการี ถูกแยกออกจากกัน โปแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย แยกเป็นประเทศใหม่
ประเทศไทยกับสงครามโลกครั้งที่ 1
เหตุผลที่ไทยต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1
สงครามโลกครั้งที่1 ตรงกับรัชสมัยของรัชกาลที่ ๖ โดยไทยต้องเข้าร่วมฝ่ายสัมพันธมิตร เพราะต้องการแก้ไขความไม่เป็นธรรมของสนธิสัญญาเบาร์ริ่งสมัยรัชกาลที่ ๔
ผลของการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1ของประเทศไทย
ไทยเข้าร่วมสงคราม อยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร
-ได้รับการยกเลิกสนธิสัญญาบาวริ่ง จากการช่วยเหลือขอ ดร.ฟรานซิส บี แซร์ (พระยากัลยาณไมตรี)
-ไทยได้รับเงินค่าปฏิกรรมสงครามมาจำนวน 2,000,000
บาท
-ไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสันนิบาต