Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญฯ เฟส 3 ที่เราจะมารีวิววันนี้มีแบบบ้านอยู่ทั้งหมด 3 แบบ ชื่อ Kenitra, Santa Maria และ San Macro (เรียงจากพื้นที่ใช้สอยน้อยไปมากนะคะ) ฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยดังนี้ Show
โดยแบบบ้านใหม่ที่เพิ่งจะเปิดขายจะเป็น 2 แบบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า Santa Maria และ San Macro ซึ่งเป็นแบบบ้านที่มีหน้ากว้างมากขึ้นจากบ้านเดิมที่วางขายในเฟส 2 ทำให้จำนวนที่จอดรถเพิ่มขึ้นเป็น 4 คันต่อหลังค่ะ จุดที่น่าสนใจของบ้านในโครงการนี้คือตัวบ้านมาตรฐานจะเป็นบ้านขนาดใหญ่ บนที่ดินขนาดใหญ่ แต่ว่าสร้างเต็มขนาดที่ดินแปลว่าตัวบ้านจะถูกวางลงบนที่ดินอย่างพอเหมาะพอดี เว้นระยะรอบๆบ้านไว้ไม่มาก แต่ก็จะมีบ้านบางแปลงที่มีที่ดินรอบบ้านเหลือเผื่อเป็นสวนหรือต่อเติมในอนาคตอยู่ให้เลือกเช่นกันค่ะ ข้อแตกต่างของบ้านแต่ละแบบ
ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน
Elder care solutionห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ
ดูข้อมูลโครงการกันไปแล้ว เชิญชมบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ ขอเริ่มจากบ้านใหญ่ที่สุดก่อนนะคะ San MacroSan Macro เป็นแบบบ้านที่รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่อาศัยกันแบบ 3 generations มีพื้นที่เยอะ สามารถแบ่งกั้นพื้นที่ต่างๆออกเป็นฟังก์ชันย่อยได้หลากหลาย อย่างที่ชั้น 1 จะสามารถแบ่งฟังก์ชันออกได้ 2 ฝั่ง ฝั่งแรกคือฝั่งที่จอดรถ บ้านแบบนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 4 คัน และฟังก์ชันทางฝั่งนี้จะเป็นส่วน Service ของบ้าน เป็นพื้นที่ของแม่บ้าน ครัว ซึ่งส่วนแม่บ้านจะแยกทางเข้า-ออกจากส่วนอื่นๆของบ้าน ในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็สามารถปิดบ้านส่วนครัวเอาไว้ได้ แม่บ้านก็อยู่พื้นที่ของตัวเองไม่สามารถเข้ามาส่วนบ้านใหญ่ได้ค่ะ จากที่จอดรถก็จะมีประตูเข้าบ้านอีกทาง ตรงนี้จะติดตั้ง Digital Door Lock เอาไว้ให้ และใกล้กับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้านเลย ในกรณีที่มีแขกของคุณพ่ออยู่ที่ห้องกินข้าวหรือห้องรับแขก ลูกกลับมาก็เข้าประตูนี้ขึ้นชั้น 2 ได้เลยไม่รบกวนกันค่ะ ส่วนประตูทางเข้าหลักจะอยู่ทางหน้าบ้าน มีทางลาดจากที่จอดรถขึ้นไปยังเฉลียงหน้าบ้าน เป็นพื้นที่ในร่มกันแดดกันฝนได้ และรองรับการใช้งานอย่าง Wheelchair ค่ะ ฟังก์ชันหลักที่ชั้น 1 จะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ ต่อเนื่องกันไป และมีห้องนอนอยู่ 1 ห้อง เป็นห้องที่ออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ มีพื้นที่พักผ่อนและห้องน้ำในตัวค่ะ ส่วนพื้นที่ Common Area เราจะขอแบ่งเป็น 2 ส่วนทางฝั่งหน้าบ้านและทางฝั่งหลังบ้าน ทางฝั่งหน้าบ้านจากทางเข้าจะแบ่งพื้นที่ออกทางซ้ายและขวา สามารถกั้นเป็นห้องได้นะคะ พื้นที่ทางฝั่งนี้จะสูง 3 เมตร ส่วนพื้นที่ฝั่งหลังบ้านจะเป็นส่วนที่ออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูง เป็น Double Volume ที่เชื่อมต่อกับชั้น 2 ของบ้านได้ ส่วนนี้เหมาะกับการจัดเป็นห้องรับประทานอาหาร รองรับได้ 8-12 ที่นั่งเลย และทำ Pantry ไว้ข้างๆได้ ต่อเนื่องไปกับส่วนครัวค่ะ โดยที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำรองรับแขกอยู่ 1 ห้องอยู่ระหว่าง Pantry และ ครัวไทย เป็นห้องแบบ Powder Room ไม่มีส่วนอาบน้ำค่ะ ขึ้นมาที่ชั้นสอง ตัวบันไดจะอยู่กลางๆบ้าน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งค่ะ ฝั่งที่อยู่บนที่จอดรถจะเป็นห้องนอน 3 ห้อง ห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านจะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่มีระเบียงส่วนตัวภายในห้องนอน แต่การออกแบบของทุกห้องจะเป็นห้องที่อยู่อาศัยได้สบาย วางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีมุมทำงาน ดูทีวี มีมุมทำ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนอีกฝั่งของบันไดจะเป็น Family Area และ Master Bedroom ค่ะ ภายใน Master Bedroom ก็จะเป็นห้องขนาดใหญ่ จัดชุดโซฟาสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนภายในห้องได้ มีระเบียงส่วนตัว และสามารถกั้นห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ อยู่หน้าห้องน้ำ โดยที่ห้องน้ำก็จะออกแบบให้ใหญ่ขึ้นกว่าห้องอื่น มีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มีอ่างอาบน้ำ เลือกใช้ระบบน้ำร้อน สุขภัณฑ์ต่างๆก็จะอัพเกรดเป็นรุ่นที่ดีขึ้นกว่าห้องอื่นๆค่ะ มาดูที่ตัวบ้านกันค่ะ โครงการนี้จะมีจุดเด่นเรื่องบ้านขนาดใหญ่ และเป็นบ้านหน้ากว้าง ช่วยส่งเสริมให้บ้านดูมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยค่ะ โดยตัวบ้านจะออกแบบมาในรูปแบบเวนิสแบบอิตาลี สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเราคือถึงแม้ตัวบ้านจะสร้างเป็นบ้านเต็มที่ดินแต่การออกแบบตัวอาคารฝั่งด้านหน้ามีองค์ประกอบทางเดิน แผงบังแดด หรือระเบียงที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับฟังก์ชันที่อยู่ภายในบ้าน เมื่อมองจากหน้าบ้านเข้าไปก็จะไม่เห็นภายในตัวบ้านตรงๆ ที่จอดรถของบ้าน San Macro จะมีอยู่ 4 คันค่ะ เป็นที่จอดรถในร่ม ตัวประตูรั้วก็จะได้เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ เปิดเก็บสุด 1 ฝั่งเลย ฟังก์ชันที่อยู่ด้านหลังที่จอดรถนั้นจะเป็น Function Service เจอกับลานซักล้าง และพื้นที่ส่วนของแม่บ้าน เวลาซื้อของเข้าบ้าน ก็สามารถเรียกแม่บ้านให้มาช่วยถือของได้ง่าย และถือตรงเข้าครัวได้ทันทีโดยที่ไม่รบกวนคนที่ใช้งานฟังก์ชันหลักในบ้านค่ะ ฟังก์ชัน Service ของแม่บ้านก็จะมีโซนแยกออกจากตัวบ้านเลย มีห้องน้ำ ห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้องค่ะ เวลาใช้งานจริงช่วงกลางคืนหรือว่าช่วงเวลาที่ครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนก็สามารถล็อกบ้านได้ ในขณะที่แม่บ้านก็ยังอยู่อาศัยได้ตามปกติค่ะ พื้นที่ส่วนนี้ก็จะมีส่วนซักล้างอยู่ด้วย มีการเดินงานระบบเอาไว้ให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า ตั้งอยู่ในร่มค่ะ ส่วนห้องแม่บ้านจะมีอยู่ 2 ห้อง ขนาดพอดีห้องละ 1 คนอาศัย ส่วนห้องน้ำจะใช้ร่วมกันค่ะ มาดูพื้นที่รอบๆตัวบ้านกันค่ะ ด้วยความที่บ้านของโครงการนี้ จะเป็นบ้านที่สร้างคับที่ หรือว่าพอดีกับที่ดิน ทำให้รอบๆตัวบ้านจะมีระยะเหลือประมาณ 2-3 เมตรเท่านั้น(ในแปลงมาตรฐานนะคะ) แต่ก็ยังสามารถปลูกต้นไม้เอาไว้ เป็นวิวสีเขียวให้กับภายในบ้านค่ะ กลับมาที่หน้าบ้าน ก็จะลงต้นไม้เอาไว้ให้ตามที่เห็นเลยค่ะ มีหญ้า ไม้ดอก ไม่พุ่ม ต้นไม้คละๆ กลับมายังที่จอดรถกันอีกครั้ง เราชอบรายละเอียดลวดลายที่พื้นของที่จอดรถ ที่ออกแบบมาไม่ได้เป็นแบบเรียบๆ แต่มีลายโค้งล้อไปกับ Facade หรือแผงกันแดดหน้าบ้านค่ะ บริเวณที่จอดรถก็จะมีช่องเก็บของเอาไว้ให้ สามารถเก็บพวกอุปกรณ์ซ่อมบำรุง ดูแลสวนตรงนี้ได้ค่ะ หน้าบานตู้เป็นบานเกล็ดช่วยระบายอากาศด้วย จากที่จอดรถจะมี 2 ทางเข้าบ้าน ทางซ้ายเป็นประตูทางเข้าจากที่จอดรถ ส่วนทางขวาจะเป็นทางลาดไปยังประตูฝั่งหน้าบ้าน ตำแหน่งประตูทางเข้าที่จอดรถจะเป็นประตูบานไม้สัก ออกแบบลูกฟักประตูเป็นเหมือนตารางให้เข้ากับ Concept บ้าน ตรงนี้จะติดตั้ง Digital Door Lock เอาไว้ค่ะ เป็นจุดที่ผู้อยู่อาศัยในบ้านใช้เป็นประจำแน่นอน เพราะใกล้กับที่จอดรถ ส่วนทางลาดจะเป็นทางที่ขึ้นไปยังประตูหน้าบ้าน พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ในร่มค่ะ แต่มีความสูงเท่ากับตัวบ้าน 2 ชั้น สามารถมองขึ้นไปยังระเบียงชั้นบนได้ ส่วนที่เป็นทางลาดนั้น เมื่อมองจากหน้าบ้านจะมีราวกันตกเหล็ก แนวพุ่มไม้ และแผงกันแดดช่วยพรางตา ให้ตัวบ้านดูสวยงามเพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาใช้งานค่ะ รายละเอียดของแผงกันแดดค่ะ ช่วงที่แดดส่องแรงๆ แสงและเงาน่าจะสวยไม่เบานะ พาเดินดูรอบๆตัวบ้านไปแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปในบ้านกันนะคะ ทางเข้าหลักจากหน้าบ้านจะออกแบบให้ตัวอาคารตำแหน่งนี้มีความสูงมากกว่าส่วนอื่นๆค่ะ เป็นการเน้นทางเข้าให้ดูโออ่ามากขึ้น บานประตูจะเป็นไม้สักบานเปิดสวิงคู่ มือจับใช้ของ Bowin เข้ามาในบ้านเราจะเจอกับ Foyer หรือว่าโถงต้อนรับกันก่อนเลย (ภาพบน) เป็นบ้านตัวอย่างที่กั้นพื้นที่แต่ละส่วนออกจากกันค่ะ (ภาพล่าง) เป็นบ้านมาตรฐานที่ขาย จะได้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยขนาดที่ใหญ่ของพื้นที่นั้น สามารถออกแบบหรือกั้นห้องภายในได้หลากหลายเลย ส่วนที่เป็นโถงต้อนรับ ในบ้านตัวอย่างจะจัดมุมนั่งรอให้ดูเป็นไอเดียค่ะ เป็นมุมที่ดูน่ารักดีนะคะ พื้นที่ทางขวามือในบ้านตัวอย่างจะออกแบบให้เป็นห้องรับแขก ตำแหน่งนี้สามารถกั้นเป็นห้องปิดได้นะคะ เผื่อใครต้องการรับแขก พูดคุยกันก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตรงนี้จะมีประตูออกไปยังข้างบ้านได้ อาจจะต่อเติมเฉลียงเพิ่มเติมได้นะคะ ห้องนี้อาจจะใช้เป็นห้องรับแขกหรือว่าห้องนั่งเล่นไปในตัวได้เลย จัดวางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายค่ะ จากโถงทางเข้าทางซ้ายมือฝั่งหน้าบ้าน ในบ้านตัวอย่างนี้จะกั้นห้องเพิ่มเติมเป็นห้องสำหรับงานอดิเรก สามารถปรับเป็นห้องทำงานหรือห้องอ่านหนังสือได้นะคะ เผื่อครอบครัวไหนมีลูกและมีเพื่อนมาติวหนังสือก็จะได้ห้องที่เหมาะสม กั้นแยกใช้งานได้อย่างมีสมาธิค่ะ ภายในห้องไม่มืดเลย เพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ รับแสงและมองวิวทางฝั่งหน้าบ้านได้นะคะ ถัดเข้ามายังพื้นที่ฝั่งด้านในของบ้าน เราจะเจอกับห้องผู้สูงอายุทางขวามือ และส่วนรับประทานอาหารอยู่ตรงกลางของบ้าน ห้องนอน 1 (ห้องผู้สูงอายุ)ขอพามาดูในห้องผู้สูงอายุกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเปลี่ยนวัสดุพื้นเป็นวัสดุที่เรียกว่า Shock Absorption Floor โดยจะมีความนุ่มกว่าพื้นทั่วๆไป ขนาดพื้นที่ในห้องเรามองว่าค่อนข้างกว้างเลยค่ะ นอกจากจะวางเตียงนอนขนาดใหญ่กลางห้องแล้ว ยังเพิ่มมุมนั่งเล่นส่วนตัวภายในห้องได้ด้วย ส่วนมุมตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของก็ทำ Built-in ใกล้กับประตูทางเข้าได้ หรือจะแบ่งพื้นที่หน้าห้องน้ำทำเป็นตู้เสื้อผ้าหรือชั้นเก็บของเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนค่ะ โดยห้องน้ำนี้ก็จะติดตั้งราวจับไว้ให้ เผื่อคุณปู่คุณย่าใช้งานจะได้มีที่จับพยุงตัว นอกจากนั้นระดับพื้นภายในห้องน้ำและห้องนอนจะอยู่ระดับเดียวกัน ป้องกันการสะดุดล้มได้นะคะ และเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากการอาบน้ำไหลเปียกเลอะมาภายในห้องนอนก็ได้มีการออกแบบ Floor Drain หรือท่อระบายน้ำดีไซน์ยาวไว้ระหว่างพื้นที่อาบน้ำ-ส่วนล้างมือ และห้องน้ำ-ห้องนอน สุขภัณฑ์หลักๆแล้วจะได้ของ Kohler อ่างล้างหน้าก็มีตู้เก็บของด้านใต้ดูเรียบร้อยสวยงาม ส่วนโถสุขภัณฑ์ห้องนี้จะได้ระบบอัตโนมัติค่ะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็จะติดตั้งมือจับไว้ให้เช่นกัน ตรงนี้จะมีช่องวางของเอาไว้ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆด้วยค่ะ ออกจากห้องนอนชั้นล่างมาจะเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารนะคะ ส่วนนี้ถือว่าเป็นใจกลางบ้านก็ว่าได้ ออกแบบให้มีความสูงแบบ Double Volume ตัวกระจกแม้ว่าจะเป็นบานใหญ่ แต่เปิดไปทางฝั่งหลังบ้าน เป็นตำแหน่งที่ทำให้แสงสว่างเข้ามาสู่ด้านในบ้านได้เต็มที่ค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะได้มาเป็นแบบโล่งๆเลย แต่เตรียมงานระบบต่างๆไว้ให้พร้อมเผื่อใครจะทำ Pantry เพิ่มเติม จุดนี้เรามองว่าพอจัดเป็นมุมกินข้าว บรรยากาศจะดูเป็นทางการมากขึ้น เป็นงานเลี้ยงรับแขกแบบจริงจัง แต่ในความเป็นจริงเราอาจจะใช้พื้นที่ส่วนนี้จัดเป็นห้องนั่งเล่นแทนก็ได้นะคะ แล้วแต่ความต้องการของครอบครัวเลย ส่วนที่ออกแบบไว้ให้เป็น Pantry ก็จะมีความสูงระดับปกติ เวลาออกแบบเคาน์เตอร์ หรือว่าตู้เก็บของต่างๆก็สะดวกมากขึ้น จะออกแบบให้เป็นห้องปิดก็ได้นะคะ หรือจะเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L แบบในบ้านตัวอย่างและมี island ตรงกลางก็จะช่วยให้พื้นที่ต่อเนื่องดี มองจาก Pantry ไปทางฝั่งหน้าบ้านจะเห็นมุมห้องทำงาน และทางเข้าบ้านค่ะ มาดูพื้นที่หลัง Pantry กันค่ะ ทางซ้ายมือจะเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน โดนพื้นที่ใต้บันไดนั้นก็จะเป็นห้องเก็บของค่ะ ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำที่ชั้น 1 สำหรับรองรับการใช้งาน Common Area เลย เดินตรงไปอีกทางซ้ายมือเป็นทางเข้าบ้านจากที่จอดรถ ส่วนทางขวามือเป็นห้องครัวค่ะ ห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะได้เป็นแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ ได้กระจกเงาบานใหญ่เลย และโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ดีไซน์ดูดี ข้างๆกับประตูทางเข้าจากที่จอดรถจะมีพื้นที่ตู้สำหรับเก็บรองเท้าอยู่ (บ้านมาตรฐานจะได้บานเปิดคู่สีขาวนะ) เรามองว่าเวลาใช้งานจริงเจ้าของบ้านมักจะใช้ทางเข้านี้เป็นหลักค่ะ เพราะใกล้กับที่จอดรถด้วย ดังนั้นจะเข้า-ออกบ้าน การมีชั้นวางรองเท้าตรงนี้ก็จะสะดวกสำหรับใช้งานมากกว่าตำแหน่งอื่น ถ้าไม่เพียงพอก็ยังใช้พื้นที่ใต้บันได หน้าห้องเก็บของทำเป็นชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้อีก ส่วนครัวก็จะได้เป็นพื้นที่โล่งนะคะ เดินงานระบบไฟ – ระบบน้ำรองรับการต่อเติม จากพื้นที่ครัวก็เปิดออกไปยังโซนพี่ๆแม่บ้านต่อได้ค่ะ จบที่ชั้น 1 กันแล้ว เราจะพาขึ้นไปดูยังชั้น 2 กันนะคะ ในบ้านมาตรฐานจะได้แบบนี้ค่ะ ผนังจะเป็นสีขาว บันไดเป็นไม้แดง ราวกันตกเหล็ก ขึ้นมาที่ชั้นสอง เนื่องจากบันไดอยู่กลางบ้าน เราเลยสามารถแยกพื้นที่ออกเป็นสองฝั่งได้นะคะ ทางขวามือจะเป็น Family area และ Master Bedroom ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 ห้องค่ะ เดี๋ยวพาไปสำรวจห้องนอนเล็กก่อนนะ ห้องนอนเล็กนั้นจะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน 1 ห้องและห้องทางฝั่งหลังบ้านอีก 2 ห้อง ห้องนอน 2ห้องแรกที่พาไปดูเป็นห้องนอนทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ ห้องนี้จะมีความแตกต่างจากห้องอื่นตรงที่มีระเบียงส่วนตัวภายในห้อง ภายในตัวห้องแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนสำหรับวางเตียงนอนและฝั่งห้องน้ำที่สามารถทำ Walk-in Closet ด้านหน้าได้ ด้วยขนาดแล้วสามารถเลือกวางเตียงขนาดใหญ่ได้นะคะ โดยยังมีพื้นที่รอบๆเตียงเดินไปมาได้สบาย ที่เราชอบคือระเบียงจะได้ขนาดใหญ่ และเป็นระเบียงในร่ม อาจจะจัดมุมนั่งเล่นตรงนี้เพิ่มเติมได้ด้วย หรือจะปลูกต้นไม้ก็ดีค่ะ ห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวก็แยกออกเป็นสัดส่วนนะคะ โดยที่ปลายเตียงยังหาชั้นวางทีวีมาตั้งหรือจัดมุมทำงานได้ ตรงนี้จัดตู้เสื้อผ้าเข้ามุมเป็นรูปตัว L ได้เลยค่ะ ต่อเนื่องไปกับห้องน้ำ ใช้งานสะดวก ห้องนอน 3ห้องนอนถัดมาจะเป็นห้องนอนที่มีตำแหน่งอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ตรงนี้การวางผังและขนาดห้องก็จะคล้ายกับห้องนอนที่แล้วนะ เพียงแต่จะไม่มีระเบียงค่ะ วางเตียงขนาดใหญ่ได้ ปลายเตียงมีทางเดินกว้าง เพิ่มชั้นวางทีวีและมุมทำงานได้ด้วย ด้านในมีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำ ห้องน้ำจะมีหน้าต่างอยู่ด้านใน แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งเอาไว้ให้ค่ะ โทนสีกระเบื้องและสุขภัณฑ์ต่างๆจะได้แบบนี้นะคะ เป็นของ Kohler ค่ะ ห้องนอน 4สำหรับใครที่ชอบแบบบ้านนี้แต่สมาชิกภายในบ้านมีไม่มาก ห้องนอนนี้ในบ้านตัวอย่างได้ดัดแปลงเป็นห้องดูหนัง Entertainment Room ค่ะ ด้วยขนาดแล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่ายเลยนะคะ เราชอบไอเดียนี้ตรงที่… ถ้าเราปรับเป็นห้องดูหนังแล้ว ตำแหน่งที่เป็น Walk-in Closet ก็เปลี่ยนเป็น Counter Bar แทนได้ วางตู้เย็น ชงเครื่องดื่ม ดูหนัง ฟังเพลงเพลินๆ มีห้องน้ำในตัวอีก Family AreaFamily Area เปรียบเสมือนใจกลางบ้านของพื้นที่ชั้น 2 ค่ะ เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว และยังเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับ Double Volume ที่ชั้น 1 ได้ด้วย มองลงไปเห็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารด้านล่างค่ะ ได้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัว ทำอะไรอยู่ไหนได้ เราสามารถกั้นให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องปิดได้นะคะ เผื่อใครจัดเป็นห้องนั่งเล่นของครอบครัว เล่นเกมส์กันกับพี่น้อง เสียงก็จะได้ไม่ดังรบกวนผู้ที่ใช้งานชั้นล่างค่ะ ห้องนอน 5 (Master Bedroom)ห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้จะเป็นห้อง Master Bedroom ตรงหน้าทางเข้าจะมีพื้นที่เล็กๆอยู่ จัดเป็นของตกแต่ง หรือว่า Pray Room ได้ค่ะ Master Bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ภายในขนาดกว้าง มีระเบียงในตัว เราสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนนั่งเล่น และ ส่วนพักผ่อนได้ค่ะ ในบ้านตัวอย่างจะมี Partition กั้นโซนแยกไว้ ส่วนที่ใกล้กับประตูทางเข้าก็จัดเป็นโซฟาพักผ่อน ส่วนด้านในก็จะเป็นตำแหน่งวางเตียงนอนค่ะ ด้วยขนาดพื้นที่ภายในแล้วสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ที่เราชอบอย่างหนึ่งคือไม่ได้ออกแบบให้ห้องนี้มีหน้าต่างมากเกินไป ยังมีผนังทึบไว้เผื่อวางเฟอร์นิเจอร์หรือกั้นผนังแบ่งพื้นที่ค่ะ ในห้องนอนใหญ่นี้ก็จะมีระเบียงส่วนตัว ราวกันตกเป็นเหล็กดีไซน์เข้ากับตัวบ้านและบันไดค่ะ ขนาดไม่ใหญ่มาก ออกไปยืนสูดอากาศกำลังพอดี อาจจะปลูกต้นไม้ที่ระเบียงก็ได้นะคะ มองจากห้องนอนออกมาจะได้เห็นใบไม้ ดอกไม้สีสัน ตื่นนอนมาก็จะได้สดชื่น อีกส่วนของห้องนอนจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ค่ะ พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นผนังทึบทั้งหมด แปลว่าทำ Built-in ได้รอบด้านเลย และก็ยังทำ island ตรงกลางได้ด้วยค่ะ จากห้องแต่งตัวก็จะอยู่ติดกับห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำนี้ประตูทางเข้าจะเป็นบานเปิดคู่นะคะ เข้ามาจะเจอกับห้องน้ำโทนสีขาว พื้นที่ขนาดใหญ่ ตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้า ได้เป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมๆกันได้ ตัวอ่างจะเป็นแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ และห้องน้ำใน Master Bedroom จะได้ระบบน้ำร้อนค่ะ (ห้องอื่นๆจะเป็นระบบน้ำอุ่นนะ) ทางขวามือเราจะเจอกับอ่างอาบน้ำของ Kasch ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ค่ะ โถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวแบบอัตโนมัติ ดีไซน์สวยงาม ห้องอาบน้ำก็จะติดตั้งฉากกั้นกระจกไว้ให้ และได้ฝักบัวทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower เลยค่ะ Layout ห้องอาบน้ำเป็นแปดเหลี่ยม ดูแปลกตาดีนะคะ จุดที่ชอบอีกอย่างคือพื้นที่สำหรับวางของวางอุปกรณ์อาบน้ำมีให้มาเยอะมากค่ะ ตัวเราเองเข้าใจนะเพราะว่าจะมีสบู่และแชมพูหลายแบบใช้สลับๆกัน บางช่องอาจจะเอาไว้วางโลชั่นหรือ Diffuser สร้างบรรยากาศในห้องน้ำก็ได้ค่ะ และทั้งหมดนี้ก็เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุด San Macro ในเฟส 3 ของโครงการค่ะ Santa Mariaแบบบ้านต่อมาที่จะพาไปดูเป็นบ้านที่มีชื่อว่า Santa Maria ค่ะ ก่อนที่จะไปดูตัวบ้าน เราดูผังบ้านกันก่อนนะคะ แบบบ้านนี้จะจอดรถภายในบ้านได้ทั้งหมด 4 คันค่ะ จากที่จอดรถจะมีทางไปยังโซนแม่บ้านที่อยู่ด้านหลัง ทำให้เวลาซื้อของกินเข้าบ้านก็ตรงเข้าครัวได้เลย นอกจากนั้นจากที่จอดรถก็จะมีทางเข้าสู่ตัวบ้านด้วย โดยเข้าไปจะเจอกับส่วนที่เป็นทางเดินหน้าห้องครัวค่ะ ส่วนทางเข้าหลักของบ้านก็จะอยู่ทางด้านหน้า และมีทางลาดจากที่จอดรถขึ้นไปยังทางเข้าหลักเช่นเดียวกับบ้านแบบที่แล้ว จากทางเข้าหลักเมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับ Foyer ก่อน ทางซ้ายมือของบ้านจะเป็น Living Area หรือส่วนต้อนรับแขก พื้นที่ส่วนนี้จะมีความสูงแบบ Double Volume ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านแบบที่แล้วนะคะ ถัดเข้ามาเราจะเจอกับโถงบันได ซึ่งอยู่ด้านข้างของตัวบ้าน ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งยาวต่อเนื่อง จัดฟังก์ชัน Pantry, พื้นที่รับประทานอาหาร และ พื้นที่นั่งเล่นได้ค่ะ โดยบริเวณนี้จะมีความสูงแบบปกติ (3 เมตร) มีกระจกล้อมรอบ 2 ด้าน(เป็นรูปตัว L) และตำแหน่งที่อยู่ฝั่งหลังบ้านทำให้บรรยากาศดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ นอกจากฟังก์ชัน Common Area ที่สมาชิกทุกคนในบ้านจะมาใช้ร่วมกันแล้ว ที่ชั้น 1 จะมีห้องนอนผู้สูงอายุอยู่เช่นกัน โดยห้องนี้จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ ใกล้กับที่จอดรถ เป็นห้องที่ออกแบบไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้าน ที่ชั้นนี้จะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้องทางฝั่งหลังบ้าน , Family Area ที่อยู่ตรงกลาง และ Master Bedroom โดย Family Area นั้นเราสามารถกั้นเป็นห้องปิดได้ จัดมุมทำงานหรือห้องพระหน้า Master Bedroom เพิ่มเติมก็ได้ และมี Balcony ที่เป็น Open space ในร่มขนาดใหญ่ จัดมุมพักผ่อนได้อีกค่ะ ส่วนในห้องนอนแต่ละห้องนั้นก็จะมีขนาดกว้าง วางเตียงขนาดใหญ่ มุมดูทีวี วางโต๊ะเครื่องแป้ง มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัว ส่วน Master Bedroom ก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นค่ะSanta Maria ยังคงรูปลักษณ์บ้านที่นำเอาองค์ประกอบแบบเวนิส มาใช้คล้ายกับแบบ San Macro ซึ่งตัวบ้านก็ยังเป็นบ้านหน้ากว้าง สร้างเต็มพื้นที่ทำให้บ้านดูขนาดใหญ่ค่ะ แบบบ้านนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 4 คันค่ะ จากที่จอดรถก็จะมีพื้นที่เก็บของให้ และมีประตูเข้าบ้าน ซึ่งประตูนี้จะติดตั้ง Digital Door Lock เอาไว้ แต่ในกรณีที่ผู้สูงอายุต้องการใช้ Wheelchair ก็มีทางลาดไปสู่ประตูฝั่งหน้าบ้านค่ะ ส่วน Service จะอยู่ด้านข้างบ้านหลังที่จอดรถ พื้นที่แยกออกมาเป็นสัดส่วน คุณแม่บ้านก็ทำงานซักผ้า รีดผ้า จัดเตรียมอาหารบริเวณนี้ค่ะ บ้านแบบ Santa Maria จะมีห้องแม่บ้านอยู่ 1 ห้องค่ะ โดยโซนนี้ก็จะมีห้องน้ำแยกออกมา และมีพื้นที่สำหรับจัดเป็น Laundry อยู่ในอาคาร พื้นที่ด้านหลังบ้านเว้นระยะเอาไว้พอประมาณ สามารถจัดเป็นสนามหญ้า ปลูกต้นไม้ต่างๆเพื่อเป็นมุมมองสีเขียวเพิ่มความสดชื่นให้กับฟังก์ชันภายในบ้านได้ ด้านข้างบ้านตรงนี้ทำเป็นไอเดียให้ดูค่ะ เผื่อใครชอบก็จัดมุมนั่งเล่น Outdoor ข้างบ้านได้นะ ที่มุมบ้านก็จะมีห้องขยะ ตู้ไฟให้เรียบร้อย เข้าบ้านกันค่ะ ทางเข้าหลักของ Santa Maria จะอยู่ด้านหน้า โดยมีทางที่ค่อยๆยกระดับจากพื้นขึ้นไป และมีชานพักหน้าประตูในร่มขนาดใหญ่ ยืนหลบแดด ลม ฝนได้ ตรงนี้จะมีการออกแบบกรอบผนังยื่นออกมาจากตัวบ้าน ช่วยเน้นให้ทางเข้าดูโอ่อ่ามากขึ้นค่ะ ส่วนตัวประตูก็จะได้เป็นไม้สักดูสวยงาม เมื่อเข้าตัวบ้านมาจะเจอกับโถงทางเข้าบ้านก่อนค่ะ ทางซ้ายมือจะเป็นห้องนั่งเล่น/รับรองแขก ส่วนพื้นที่ Common Area หลักของบ้านแบบนี้จะอยู่ลึกเข้าไปทางฝั่งหลังบ้าน บริเวณโถงทางเข้ามีพื้นที่ด้านข้างสามารถจัดเป็นชั้นวางของตกแต่ง หรือเก็บของได้นะคะ ห้องนั่งชั้น 1สำหรับบ้านแบบ Santa Maria ส่วนที่ออกแบบไว้ให้เป็น Double Volume จะเป็นพื้นที่ Living Area ที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ ทำให้มุมนี้จะได้กระจกสูงเท่ากับบ้าน 2 ชั้นถึง 2 ด้านผนัง ห้องนี้จึงเป็นห้องที่ได้บรรยากาศสูง โปร่งเลยทีเดียว ห้องนี้สามารถกั้นให้ปิดทึบได้ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานค่ะ ถัดเข้ามาด้านในเราจะเจอกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งตำแหน่งบันไดของบ้านหลังนี้จะอยู่ชิดริมฟากหนึ่งของบ้าน ในขณะที่แบบ San Macro บันไดจะอยู่ตำแหน่งกลางบ้านค่ะ ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่าก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานนะคะ เพราะว่าบ้านแบบ San Macro นั้นตำแหน่งบันไดจะใกล้กับที่จอดรถ กลับบ้านดึกๆก็เดินขึ้นชั้น 2 ได้ทันที ไม่รบกวนคนที่ใช้งานพื้นที่ชั้น 1 แต่สำหรับบ้านแบบ Santa Maria จากที่จอดรถ ก็จะต้องเดินผ่าน Living Area ก่อนถึงจะเจอกับบันได คนที่ยังใช้งานพื้นที่ชั้น 1 อยู่ก็รับรู้ได้ว่าใครเข้า-ออกบ้านบ้าง ปฏิสัมพันธ์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้านก็อาจแตกต่างกันไปค่ะ Common Area ชั้น 1Santa Maria จะออกแบบพื้นที่ทางด้านหลังบ้านไว้ให้ยาวต่อเนื่องกันไปค่ะ เป็น Common Area ที่จัดพื้นที่นั่งเล่น กินข้าว และ Pantry แบบ Open Space เชื่อมถึงกันได้ค่ะ พื้นที่ส่วนนี้จะได้กระจกขนาดใหญ่ 2 ด้านของผนัง และด้วยความสูงระดับปกติ 3 เมตร Mood&Tone ของพื้นที่ตรงนี้เหมาะกับการตกแต่งที่ดู Cozy หน่อยๆ ใช้งานร่วมกันกับสมาชิกคนอื่นภายในครอบครัวแบบสบายๆ มุมโต๊ะกินข้าวก็จัดได้ถึง 10-12 ที่นั่งเลยค่ะ รองรับการจัด Party ได้นะ กินข้าว เล่นเกมส์ ดูทีวีในพื้นที่เดียว ส่วนที่เป็น Pantry ในบ้านตัวอย่างนั้น จะออกแบบให้เข้ามุมเป็นรูปตัว L และมี Island ตรงกลางค่ะ ส่วนในบ้านมาตรฐานที่ขายจะได้บ้านเปล่าที่เดินงานระบบต่างๆเอาไว้ให้ แต่ด้วยพื้นที่ที่ให้มาเราว่าจัดได้หลากหลายเลยค่ะ จะกั้นส่วนนี้เป็นห้องเพิ่มเลยก็ได้เช่นกัน ข้างๆกับตำแหน่งที่เป็น Pantry จะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ (ประตูขวา) และทางเดินไปยังส่วน Service ของบ้าน(ประตูซ้าย) ห้องนอน 1 (ผู้สูงอายุ)ห้องนอนที่ชั้นล่างนั้นออกแบบไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุค่ะ ตัวพื้นจะเลือกใช้แบบ Absorption Floor ระยะต่างๆข้างเตียงหรือปลายเตียงก็กว้างอยู่นะคะ รองรับการใช้ Wheelchair ได้
ตำแหน่งห้องนี้จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ซึ่งมีประตูออกไปยังทางลาด (Ramp) หน้าบ้านได้ค่ะ บริเวณนี้อาจจะจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัวในบ้านได้นะ นอกจากนั้นก็จะมีห้องน้ำในตัว ที่ติดตั้งราวจับ และใช้ Smart Drain เพื่อระบายน้ำโดยที่ระดับห้องน้ำกับระดับพื้นห้องเท่ากันค่ะ Service Areaถัดมาจาก Pantry จะมีทางเดินไปยังส่วน Service ของบ้านค่ะ โดยทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำรองรับการใช้งานที่ชั้น 1 ทางขวามือจะเป็นประตูไปยังที่จอดรถ และด้านในสุดทางซ้ายจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำจะได้เป็นแบบ Powder room ไม่มีส่วนอาบน้ำค่ะ ดีไซน์เรียบหรู ใกล้กับประตูทางเข้าที่จอดรถจะมีตู้เก็บของอยู่ เหมาะกับการจัดเก็บรองเท้าต่างๆนะคะ ส่วนห้องครัวก็ได้ขนาดใหญ่เลย ทำเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว U ได้สบายค่ะ ในบ้านจริงก็จะได้เป็นห้องเปล่านะคะ ต้องทำครัวเพิ่มเติมเอง และจากส่วนครัวก็จะออกไปยังส่วนแม่บ้านได้ค่ะ จบจากชั้น 1 แล้วเราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ของบ้านกันต่อดีกว่า พื้นที่ใต้บันไดแบ่งไว้ให้เป็นพื้นที่เก็บของค่ะ ส่วนตัวบันไดวัสดุจะเป็นไม้แดง ราวกันตกเหล็กค่ะ Family Areaขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกที่จะเจอคือ Family Area ที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน พื้นที่ตรงนี้จะโล่งต่อเนื่องไปยังหน้าห้อง Master Bedroom ที่อยู่สุดทางเดินเลยค่ะ แต่ในบ้านตัวอย่างจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนค่ะ เพื่อให้ได้ฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้น ส่วนแรกเป็นพื้นที่นั่งเล่น ตรงนี้จะจัดเป็นห้องปิดหรือว่า Open Space ก็ได้นะคะ ห้องนอนเล็กที่อยู่ชั้น 2 จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ทำให้ส่วน Family Area นี้เป็นเหมือนจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้านจริงๆ ก่อนนอนก็มานั่งดูหนังด้วยกันตรงนี้ได้ ส่วนพื้นที่อีกจุดหน้าห้องนอนก็สามารถจัดเป็นมุมทำงานเล็กๆได้ หรือว่าจะเป็น Pray Room ก็ได้เช่นกันค่ะ สิ่งที่เราว่าน่าสนใจคือจาก Pray Room จะเชื่อมต่อกับ Balcony ขนาดใหญ่ ที่มีแผงกันแดดล้อมรอบ ทำให้พื้นที่ตรงนี้จัดเป็นฟังก์ชันนั่งเล่นเพิ่มเติม ปลูกต้นไม้ได้ ใช้งานได้ไม่ร้อน ห้องนอน 2ที่ชั้น 2 ของบ้านนี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องค่ะ เป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและ Master Bedroom โดยห้องนี้จะเป็นห้องแรกที่อยู่ใกล้กับบันไดบ้านค่ะ ข้อดีของห้องนี้คือห้องหัวมุม ทำให้ได้หน้าต่าง 2 ฝั่งผนัง และด้วยความที่บ้านมีพื้นที่ใหญ่ ภายในห้องนอนก็ถือว่ากว้างมาก จัดมุมทำงาน ติดทีวี หรือว่าทำตู้เสื้อผ้าได้เต็มที่ ส่วนมุมหน้าห้องน้ำก็จะมีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet เช่นกันนะคะ ห้องนอน 3ห้องนอนถัดมาเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งกลางบ้านค่ะ ตัว Layout ห้องกับขนาดภายในก็จะคล้ายกับห้องนอนที่ 2 แต่ว่าจะได้หน้าต่างด้านเดียว เหมาะกับคนที่ไม่ชอบแสงสว่างเยอะ เพราะยิ่งหน้าต่างเยอะก็หมายถึงความร้อนเพิ่มขึ้นตามนะคะ จากประตูทางเข้าฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่พักผ่อน ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ ภายในห้องน้ำก็จะแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งเอาไว้ค่ะ มีหน้าต่างเล็กๆเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศได้ ห้องนอน 4 (Master Bedroom)Master Bedroom ถือว่าเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ฝั่งหน้าบ้านและมีระเบียงในตัวค่ะ ภายในห้องที่มีขนาดใหญ่จึงทำให้จัดชุดโซฟาพักผ่อนเพิ่มเติมภายในห้องได้ด้วย ส่วนพื้นที่ทางฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องแต่งตัวและห้องน้ำ ซึ่งเราสามารถกั้นเป็นห้องปิดแยกออกไปได้นะคะ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลย ทำเป็นตู้รอบๆผนังได้เต็มที่ เพิ่มมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ จากห้องแต่งตัวก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งประตุทางเข้าก็จะออกแบบเป็นบานเปิดสวิงคู่ ดูแปลกตา เข้ามาภายในห้องน้ำจะค่อนข้างสว่างเลยค่ะ ได้กระจกขุ่นบานใหญ่ (แสงสว่างเข้าได้ แต่มองไม่เห็น) ตรงกลางห้องจะวางอ่างอาบน้ำแบบชิ้นเดียวไว้ให้ดูสวยงามของ Kasch ทางฝั่งซ้ายมือเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His & Her เข้ามุมพอดี บริเวณผนังอาจจะแขวนรูปประดับได้นะคะ หรือว่าจะต่อเติมชั้นวางของไว้ เผื่อวางของตกแต่ง จุดเทียนหอม วาง Diffuser หรือลำโพงแบบ Portable สร้างบรรยากาศผ่อนคลายขณะแช่น้ำ ฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ได้ระบบอัตโนมัติ ดีไซน์สวยงาม ห้องอาบน้ำมีฉากกั้นให้มาค่ะ ได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower เลย **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ |