จังหวัดแรกกับ JustGrab เริ่มใช้งาน 19 มิ.ย. นี้
Show
ค่าโดยสารคงที่เห็นราคาหน้าแอพฯเท่าไหร่ เก็บค่าโดยสารเท่านั้น สะดวกยิ่งกว่าเดิม รู้ราคาก่อนตัดสินใจรับงานหน้าจอการชำระเงินของแอพฯคนขับ*แกร็บจะทำการหักค่าธรรมเนียมการใช้แอพพลิเคชั่น 20% ของค่าโดยสาร เช่น ค่าโดยสาร 110 บาท แกร็บจะหักค่าธรรมเนียม 110 x 20% = 22 บาท จากเครดิตรับงานของท่าน ระบบการรับงานแบบ Assignmentเห็นงานก่อนใครด้วยระบบการรับงานแบบ Assignment โดยระบบจะจ่ายงานให้กับคนขับที่อยู่ "ใกล้ที่สุดเพียงคนเดียว" แค่กดรับงาน งานนั้นจะเป็นของคุณทันที ไม่ต้องแย่งกับใครทั้งยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้ผู้โดยสาร เนื่องจากได้รถคันที่อยู่ใกล้ที่สุดภายในเวลาอันรวดเร็วหน้าจอหลักของแอพฯคนขับหน้าจอแสดงผลเมื่อมีงานเข้า (งานเรียกใช้ทันที)คะแนนการรับงานของคนขับ (เลขตัวซ้าย)คะแนนการรับงาน คือ อัตราการรับงานของพี่คนขับ ซึ่งคำนวณจาก“คนขับกดขอรับงานกี่เปอร์เซ็นต์จากจำนวนงานทั้งหมดที่ระบบจ่ายไปให้”วิธีคำนวณคะแนนการรับงาน“จำนวนงานที่คนขับกดขอรับทั้งหมด หารด้วย จำนวนงานทั้งหมดที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอ”หมายเหตุ :จำนวนงานที่แสดงขึ้นมาบนหน้าจอ นับจาก งานทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าจอของพี่คนขับ ทั้งงานปกติและงานจองล่วงหน้า (งานที่กดขอรับงาน+งานที่ยกเลิก+งานที่กำลังรับส่ง+งานที่ไม่ได้รับ) จำนวนงานที่กดขอรับงาน นับจาก จำนวนงานที่พี่ขอเป็นผู้รับผิดชอบรับส่งผดส. ทั้งงานปกติและงานจองล่วงหน้า (งานที่กดขอรับงาน+งานที่ยกเลิก+งานที่กำลังรับส่ง) จำนวนงานที่ไม่ได้รับ นับจาก จำนวนงานที่พี่เพิกเฉย (งานที่โชว์ขึ้นมาบนหน้าจอแล้วนับถอยหลังจนเหลือ 0 และ ไม่กดขอรับงานทั้งหมด) **คะแนนการรับงาน จะถูก reset (เริ่มนับใหม่) ทุกวันจันทร์ เวลาเที่ยงคืน (00:00) ตัวอย่างการคำนวณคะแนนการรับงาน1. นาย ก. เห็นงานทั้งหมด 10 ครั้ง กดขอรับงาน 8 ครั้ง คะแนนการรับงานของ นาย ก. จะเท่ากับ 80% จาก [(8/10) x 100]2. นาย ข. เห็นงานทั้งหมด 20 ครั้ง กดขอรับงาน 10 ครั้ง คะแนนการรับงานของ นาย ข. จะเท่ากับ 50% จาก [(10/20) x 100]คะแนนการรับงานมีความสำคัญอย่างไร?คะแนนการรับงานอาจส่งผลต่อการให้ หรือ คิดคำนวณโปรโมชั่นของคนขับ ดังนั้น พยายามรักษาคะแนนการรับงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่เสมอนะคะวิธีการรักษาระดับคะแนนการรับงาน
สะดวกสบายแบบนี้ เปิดแอพออนไลน์รับงาน 'JustGrab' กันค่ะพบกันวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. 60 นี้นะคะ*สำหรับผู้ใช้ iOS กรุณาดาวน์โหลดแอพ Grab Driver ใหม่อีกครั้งโดย คลิ๊กที่นี่**ศึกษาเพิ่มเติม: JUSTGRAB คืออะไร?ส่วนแบ่งค่า GP คืออะไร ? App สั่งอาหารแต่ละเจ้า หักค่า GP เท่าไหร่ ? ในยุคที่การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ (Food Delivery Application) เป็นที่นิยม จะอยู่บ้านหรือที่ทำงานก็สามารถสั่งอาหารจากร้านค้าต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกกว่าการไปรับประทานอาหารที่ร้าน ทำให้มีแพลตฟอร์มสั่งอาหารต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย และร้านอาหารในหลาย ๆ ที่ต้องเริ่มปรับตัวเปลี่ยนมาขายอาหารในแอปสั่งอาหารกันมากขึ้น แทบจะกลายเป็นช่องทางหลักในการทำมาหากินในยุคนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับลูกค้าที่สั่งอาหารอยู่เป็นประจำ อาจจะเคยสงสัยว่าราคาอาหารที่เราสั่งผ่านแอปต่าง ๆ นั้นมีราคาสูงกว่าราคาหน้าร้านที่เรากินอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งเหตุผลที่ร้านค้าเพิ่มราคาอาหารเข้าไป ก็เพราะว่าแอปพลิเคชันที่ให้บริการสั่งอาหาร จะเก็บค่าบริการเพิ่มเติมที่เรียกกันว่าค่า GP และ ค่า GP ที่ว่านี้คืออะไรกัน ? แอปสั่งอาหารแต่ละเจ้าหักค่า GP กันเท่าไหร่ ? ลองไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน ส่วนแบ่งค่า GP คืออะไร ? (What is Gross Profit ?)GP ย่อมาจากคำว่า "Gross Profit" มันคือค่าส่วนแบ่ง (Commission) หรือ ค่าดำเนินการ ที่ทางร้านต้องจ่ายให้กับผู้ให้บริการ โดยมีอัตราจัดเก็บที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นการเก็บค่าบริการ ซึ่งค่า GP เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-35% หากร้านค้ามีชื่อเสียงเป็นที่นิยม ทางแพลตฟอร์มสั่งอาหารจะเก็บค่าดำเนินการไม่สูงมาก แต่ถ้าเป็นร้านปกติทั่วไปก็จะถูกเก็บตามจำนวนที่กำหนดไว้
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าค่า GP นั้นเปรียบเสมือนส่วนแบ่งที่แอปสั่งอาหารเจ้าต่าง ๆ เรียกเก็บจากร้านค้าโดยตรง และคุณสงสัยไหมว่าเปอร์เซ็นส่วนแบ่งที่ถูกเรียกเก็บไปนั้นถูกนำไปใช้ด้านใดบ้าง ? ยกตัวอย่างข้อมูลจากทาง Grab Foood ที่เรียกเก็บค่า GP อยู่ที่ 30% สมมุติว่าลูกค้าสั่งอาหารต่อครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 150 - 200 บาท ค่าดำเนินการที่ถูกเรียกเก็บก็จะอยู่ที่ประมาณ 45 - 60 บาท ซึ่งในส่วนนี้จะมีรายละเอียดการดำเนินการดังนี้
แล้วเงินที่ลูกค้าจ่ายหักไปกับค่าอะไรบ้างนะ ?
ซึ่งในส่วนของ 30% ที่ว่านี้ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสั่งอาหารจะจ่ายให้กับคนขับ ประมาณ 50 - 60 บาท (คิดรวมจากค่าส่ง 20 บาท บวกค่าตอบแทนเพิ่มเติม ประมาณ 30 - 40 บาทให้แก่ผู้ขับ) นอกจากนี้หลังจากที่ผู้ใช้บริการหักค่าตอบแทนแก่คนขับส่งอาหารเสร็จแล้ว จะมีค่าส่วนแบ่ง GP เหลืออยู่บางส่วน ค่าที่เหลือก็จะถูกนำไปใช้ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาแพลตฟอร์ม, แผนกบริการลูกค้า, การบริหารจัดการคนขับ, ค่าประกันภัย, โปรโมทโฆษณาร้านค้า, จัดโปรโมชันและส่วนลด, และค่าธรรมเนียมธุรกรรม เป็นต้น แอปสั่งอาหารแต่ละเจ้า หักค่า GP เท่าไหร่ ? (Commission Rates of Food Delivery Application)ในประเทศไทยนั้นมีแพลตฟอร์มที่เปิดให้บริการสั่งอาหารออนไลน์อยู่มากมายหลายเจ้า ส่วนแพลตฟอร์มที่ผู้คนนิยมก็จะมี Grab Food, LINEMAN, Shopee Food, foodpanda, Robinhood, truefood เป็นต้น งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าแอปสั่งอาหารแต่ละเจ้า คิดค่า GP จากร้านอาหารกันเท่าไหร่ ?
ตัวอย่างการคำนวณค่า GP (How to calculate Gross Profit ?)ยกตัวอย่างการคำนวณค่า GP ของแพลตฟอร์มส่งอาหาร Grab Food ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ค่าบริการระบบ GP และ ภาษี VAT 7% ที่หักจากระบบอีกทีนึง หากใครยังไม่เห็นภาพ ลองดูตัวอย่างการคำนวณได้ที่ด้านล่างนี้ มีทั้งแบบคำนวณค่า GP ยอดขายรายวัน และ ค่าบริการต่อ 1 รายการอาหาร คำนวณค่า GP ยอดขายรายวัน
ดังนั้น ร้านอาหารจะจ่ายค่าบริการระบบ GP ไป 3,210 บาท หักจากยอดขาย 10,000 บาท ก็จะเหลือ 6,790 บาท จากการขายอาหารทั้งวัน ที่ยังไม่หักต้นทุนและกำไรที่ได้ คำนวณค่า GP ต่อ 1 รายการอาหาร
ดังนั้น ร้านอาหารจะจ่ายค่าบริการระบบ GP ไป 32.1 บาท ต่ออาหาร 1 รายการ และจะได้เงินจากค่าอาหาร 67.9 บาท สมมุติว่าต้นทุนของอาหาร 1 จาน อยู่ที่ 30 บาท ก็จะได้กำไร 37.9 บาท นั่นเอง สรุปประโยชน์ที่ได้จากการเข้าร่วม แอปสั่งอาหารออนไลน์ (Benefits of joining Food Delivery Application)จากที่เห็นแพลตฟอร์มส่งอาหารเจ้าต่าง ๆ นั้นมีการเรียกเก็บค่า GP ที่สูงไม่ใช่น้อย แต่ก็มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น
แต่ในขณะเดียวกันในส่วนร้านอาหารที่ถูกเรียกเก็บค่า GP ที่สูง มีผลทำให้กำไรลดน้อยลง ซึ่งร้านอาหารบางแห่งที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นได้ ทำการดำเนินธุรกิจก็เป็นไปได้ยาก สุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงไป ดังนั้นเรื่องการคำนวณและจัดการต้นทุนก่อนจะเข้าร่วมแอปสั่งอาหารออนไลน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าร้านค้าไหนมองเห็นโอกาส เริ่มบริหารจัดการต้นทุนได้ดีแล้ว การเข้าร่วมแอปสั่งอาหารออนไลน์ ก็น่าจะเป็นช่องทางในการขายที่ดีได้เช่นกัน ที่มา : www.investopedia.com , reviewchiangmai.com , www.wongnai.com , packhai.com , thematter.co , www.storehub.com , www.grab.com
|