เอกสารที่ต้องมีก็คือใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถซึ่งก็จะมีขั้นตอนที่ผู้ขอรับจะต้องศึกษาให้เข้าใจเสียก่อน ซึ่งในการสอบใบขับขี่จำเป็นต้องจองคิวเนื่องจากมีผู้สมัครสอบจำนวนมากในแต่ละวันนอกจากนี้ยังต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของเอกสารทำใบขับขี่ ก่อนที่จะไปสอบอีกด้วยวันนี้เราจะพามาดูกันว่า จะทำใบขับขี่ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง ไปทำที่ไหนยังไง เรามีคำตอบ
วิธีทำใบขับขี่ 2565 ปัจจุบันสามารถทำการจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue และขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่ การต่ออายุแบบ 2 ปี 5 ปี รวมทั้งค่าธรรมเนียม แบบละเอียด
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร) จำกัดจำนวนผู้สมัครสอบ 100 คน / วัน หมายเลขติดต่อ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถาม 1584
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถนนบางขุนเทียน - ชายทะเล) จำกัดจำนวนผู้สมัครสอบ 100 คน / วัน หมายเลขติดต่อ 0-2415-7337 ต่อ 204-205
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน) จำกัดจำนวนผู้สมัครสอบ 50 คน / วัน (อบรมวันพุธและวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ เว้นวันหยุดราชการ) หมายเลขติดต่อ 0-2433-4773
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1) จำกัดจำนวนผู้สมัครสอบ 60 คน / วัน หมายเลขติดต่อ 0-2333-0035
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก) จำกัดจำนวนผู้สมัครสอบ 100 คน / วัน หมายเลขติดต่อ 0-2543-5512
ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการทำใบขับขี่ต้องจองคิวทำใบขับขี่ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue iOS ที่นี่ ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue Android ที่นี่
วิธีทำใบขับขี่ใหม่ 2565
เมื่อจองคิวเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นต้องอบรบผ่านระบบ DLT-elearning หรือการอบรมออนไลน์ โดยใบอบรมมีอายุเพียง 90 วัน
ทั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์แล้วเสร็จสามารถบันทึกภาพหน้าจอเพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกเพื่อเข้ารับการทำใบขับขี่ตามวันเวลาที่นัดหมายต่อไป โดยสามารถทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งได้ หลังจากกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ
เอกสารทําใบขับขี่
- บัตรประชาชนตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (จากคลินิก หรือโรงพยาบาลก็ได้)
- ใบรับรองการอบรม (กรณีอบรมนอกกรมขนส่ง)
ขั้นตอนการทำใบขับขี่
- จองคิว ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
- วันที่ 1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- อบรม 5 ชั่วโมง
- ทดสอบข้อเขียน จองคิวสอบขับรถ
- วันที่ 2 ทดสอบขับรถ และทำใบอนุญาต
ค่าธรรมเนียมในการทำใบขับขี่
- รถยนต์ 305 บาท
- รถจักรยานยนต์ 205 บาท
เอกสารทำใบขับขี่ กรณีต่ออายุใบขับขี่
กรณีต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี เอกสารการต่ออายุใบขับขี่
- ใบขับขี่เดิม
- บัตรประชาชนฉบับจริง
- ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่
- ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบการมองเห็นสี ลึก กว้าง ยาว
- ทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
- ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
ค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบขับขี่
- 505 บาท
กรณีต่ออายุใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี เอกสารการต่ออายุใบขับขี่
- ใบขับขี่เดิม
- บัตรประชาชนฉบับจริง
- ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่
- ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบการมองเห็นสี ลึก กว้าง ยาว
- ทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
- อบรมออนไลน์ 1 ชั่วโมง
- ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
ค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบขับขี่
- 505 บาท
นอกจากเตรียมเอกสารทำใบขับขี่ให้เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมเตรียม จองคิวออนไลน์รวมถึงอ่าน แนวทางในการสอบใบขับขี่ด้วยเพราะการเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้เราสอบใบขับขี่ได้อย่างง่ายดายที่สำคัญอย่าลืมแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยเพราะสนามสอบเป็นสถานที่ราชการ เท่านี้ก็เป็นการเตรียมตัวเบื้องต้นรับรองว่าการทำใบขับขี่ของคุณจะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดแน่นอน นอกจากนี้สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่างเลย
ขั้นตอนทำใบขับขี่ใหม่ สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถมาก่อนมีวิธีการอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถอบรมออนไลน์ได้ไหม ต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน หรือไปที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย เราหาคำตอบมาให้แล้ว
สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ ทุกคนก่อนที่จะนำรถออกมาใช้งานบนท้องถนน สิ่งหนึ่งที่ต้องมีและเตรียมให้พร้อมก็คือ ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับรถ ที่เปรียบเสมือนเอกสารสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกออกให้กับบุคคลนั้น เพื่อแสดงว่ามีคุณสมบัติสามารถขับขี่รถสัญจรบนท้องถนนได้
โดย ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับรถ มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีหลักเกณฑ์การใช้ อายุการใช้งาน รวมถึงเวลาต่อใบขับขี่แตกต่างกันด้วย
ใบอนุญาตขับขี่มีกี่ประเภท
หากแบ่งตามประเภทของใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภท ส่วนบุคคล (บ.) คือ ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล จะใช้สำหรับรถในการขนส่งส่วนบุคคล รถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวเลข และตัวอักษรสีดำ
ประเภท ทุกประเภท (ท.) คือ ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภททุกประเภท จะใช้สำหรับรถสาธารณะ รถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง ซึ่งใบอนุญาตขับรถประเภททุกประเภทนั้น สามารถใช้ทดแทนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล และใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ได้
ใบขับขี่มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ?
ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถ หากแบ่งออกตามลักษณะการใช้งาน จะมีถึง 11 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว
ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถบดถนน
ใบอนุญาตขับรถแทรกเตอร์
ใบอนุญาตขับรถชนิดอื่น
ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี หรือใบขับขี่สากล
ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและหลักเกณฑ์การใช้งานแต่ละประเภทได้ที่ : ข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ประเภทต่าง ๆ
ทำใบขับขี่ใหม่ 2566 มีวิธีการและขั้นตอนอย่างไร
1. จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์
ผู้ที่จะเข้ารับบริการทำใบขับขี่ใหม่ ต่ออายุใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถทุกชนิด ต้องทำการจองคิวล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือทำการจองทางเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก พร้อมกับบันทึกหน้าจอการจองคิวเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้แสดงกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานขนส่งในวันที่มารับบริการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
2. เตรียมเอกสารที่ต้องใช้
บัตรประชาชนตัวจริง
ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
3. ทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
ทดสอบสายตาทางลึก
ทดสอบสายตาทางกว้าง
ทดสอบปฏิกิริยาโดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
ผู้ที่ทำใบขับขี่ใหม่ หรือยังไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อน จะไม่สามารถเข้ารับการอบรมผ่านทางออนไลน์ได้ ต้องเข้ารับการอบรมที่สำนักงานเท่านั้น โดยจะใช้เวลาในการอบรมทั้งหมด 5 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นช่วงเช้าและช่วงบ่าย
ทำการทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ E-exam จำนวน 50 ข้อ โดยต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 45 ข้อ หากไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องมาสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วัน หลังอบรม
6. ทำการสอบปฏิบัติ หรือทดสอบขับรถ
การสอบปฏิบัติหรือทดสอบขับรถนั้นส่วนใหญ่จะดำเนินการในวันถัดไป โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้ามาทำการทดสอบขับรถที่สำนักงานขนส่งได้ สำหรับการทดสอบขับรถจะมีทั้งหมด 3 ท่าด้วยกัน ได้แก่
การจอดรถเทียบทางเท้า
การถอยรถเข้าซอง
การขับเดินหน้าและถอยหลัง
7. ถ่ายรูปทำใบขับขี่ และชำระเงิน
ในขั้นตอนนี้จะมีค่าบริการทำใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท และค่าคำขอ 5 บาท
ทั้งนี้ ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว จะมีอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น เมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่งสามารถดำเนินการต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็นแบบ 5 ปี โดยสามารถดำเนินการต่อล่วงหน้า 90 วัน