โดยส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้มากๆ อาจจะด้วยผมไม่ค่อยได้ดูหนังแนว real แบบสุดๆ แบบดิบๆ แต่ใช้มุมกล้องสวยๆ แบบนี้น้อยครั้งมั้งครับเลยชอบ
เนื้อเรื่องก็โดนใจผม
จบแบบให้คิดต่อนี่แหละครับ ดีแล้ว
เรื่องนี้มีสัญลักษณ์ที่สื่อเยอะนะ ทั้งจากคำพูด จากเสื้อผ้า และจากแววตา อารมณ์ของนักแสดง
ไม่แปลกใจที่ใครหลายๆ คนไม่ค่อยชอบ
เพราะตัวหนัง มันออกแนว real ชีวิตจริง สะท้อนอะไรหลายๆ เรื่องในสังคมบ้านเรา และการใช้ชีวิตของฟรีแลนซ์
มันไม่ได้จบแบบ happy ending
หรือดูแล้วนั่งขำกลิ้งทั้งโรง
มันเป็นอารมณ์ตลกร้าย ที่เขาตั้งใจหยิบเอามาเพื่อแสดงให้เห็นสภาพปัจจุบันของเรามากกว่า
1.เรื่องป่วยแล้วไปหาหมอ บอกเลยนะครับ ว่าตัวผมมีความรู้สึกเหมือนยุ่น
คือ สมัยก่อน ผมเคยไปโรงพยาบาลรัฐ แล้วเจอคิว นรกแบบนั้น ในความคิดผม ผมมองว่า มันเสียเวลา ที่ต้องมานั่งรอ สุดท้าย เลยไปโรงพยาบาเอกชน หมดค่ายา ค่ารักษาไป 1,000 กว่าบาท แต่ได้ตัวยาไม่ต่างอะไรกับทางโรงพยาบาลรัฐมาก
หลังๆมา แล้วผมไปอ่านกระทู้หนึ่ง ที่หมอมารีวิวเรื่องนี้ และบอกว่า หมอรัฐบาล
ต้องทำเวลาตรวจคนไข้เช่นกัน ต่อ 1 คนไม่เกิน 6 นาที เพื่อให้คนไข้ ได้รับการตรวจมากที่สุดในแต่ละวัน
เพราะฉะนั้น เมื่อก่อนผมแปลกใจว่าทำไมตรวจผมน้อยจัง แป๊บเดี๋ยวเสร็จล่ะ
แต่ตอนนี้ ผมหายสงสัยหมดแล้ว เพราะถ้าตรวจช้า ก็ส่งผลต่อคนไข้คิวอื่นๆด้วย ที่จะต้องรอนานขึ้นไปอีก
เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่เป็นอะไรมาก แนะนำให้หาหมอ หรือเภสัชใกล้บ้านดีกว่าครับ
หรือไม่ ถ้าอยากไปโรงพยาบาล แนะนำ ให้เลือกโรงพยาบาลที่มีคนไข้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จะได้ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลารอนาน
ต้องลองไปแต่ละโรงพยาบาลดูเอาเอง แล้วเราจะตัดสินใจได้เอง(อันนี้ ในกรณีที่คนไข้อาศัยอยู่กรุงเทพ หรือ จังหวัดใหญ่ๆ ที่มีโรงพยาบาลให้เลือกเยอะ)
2.เรื่องหมอหญิง ขอตรวจอวัยวะเพศ บอกเลยครับ ว่าผมเข้าใจความรู้สึกของยุ่น เหมือนของผมเลย
สมัยก่อนเมื่อนานมาแล้ว ผมเคยมีประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ทำงานหนัก นอนไม่ค่อยหลับ มีผื่นขึ้นที่ปลายอวัยวะเพศ
นั่งหาสาเหตุจาก google แบบยุ่นเลยครับ ดูภาพ เทียบกับที่เราเป็น เพื่ออยากรู้ว่าเราเป็นอะไร
สุดท้าย ยิ่งดูมาก ยิ่งจิตตก ต้องรีบไปหาหมอผิวหนัง
ถูกแพทย์หญิงขอตรวจดูอวัยวะเพศ ตอนนั้น ให้ขึ้นไปบนเตียง แล้วถอดกางเกงให้ดู มีหมอหญิงกับหมอผู้ช่วยหญิง เขาจับดูเลยนะครับ
บอกเลย ว่าผมอายมาก มันเหมือนโดนข่มขืนทางสายตา +5555
เพราะไม่เคยแก้ผ้า ให้คนที่ไม่รู้จักมาจับดูอะไรแบบนี้ ยิ่งดูแบบพิเคราะห์ เจาะลึก มันรู้สึกอายๆ
แต่อย่างที่หมอเขาว่าในหนังแหละครับ เขาดูเรื่องพวกนี้มาเป็น หมื่นๆครั้งแล้ว เขาไม่คิดอะไรมาก
แต่ผมอ่ะ โครตอายมาก
สุดท้าย อยากหาย ก็ต้องปล่อยเลย ตามเลยครับ +5555
หมอเขาก็บอกนะครับ
ว่าเกิดมาจากกร่างกายเราแย่ พักผ่อนไม่เพียงพอ เลยทำให้ภูมิคุ้มกันต่างๆ ของเราแย่ลง
3.เรื่องเป้าหมายของยุ่น คือยุ่นเป็นคนที่รักงาน บ้างาน พูดอะไรแล้ว พยายามจะทำให้ได้ และทำให้ดีที่สุด เพื่อความสมบูรณ์แบบ
และเพื่อการได้รับการยอมรับจากลูกค้า เพราะฉะนั้นตัวเงินที่ได้มา อาจจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญของยุ่น
แต่เขาแค่อยากประสบความสำเร็จในระดับสูงและได้รับการยอมรับในวงกว้างในแวดวงที่เขาทำงานอยู่มากกว่า
จนทำให้เขามองประเด็นเรื่องการเที่ยว การพักผ่อน การทำภาพรีทัชให้แม่ การเข้าสังคม
การมีความรัก ถือว่าเป็นเรื่องเสียเวลา
เขาเอาเวลาที่เสียไปสามารถทำงานที่เขารับมาได้เยอะแยะ...
นั่นยิ่งตอกย้ำว่า เขาให้ความสำคัญกับงานและการที่อยากประสบความสำเร็จในระดับสูงจนละเลยสิ่งรอบตัวไปหมด
แต่หมออิมก็ทำให้เขาเปลี่ยนไปมองโลกในอีกแบบหนึ่งมากขึ้น
4.เพื่อนของยุ่น ทำไมตอนยุ่นจะเสียชีวิต เขานึกถึงคนที่เขาสนิทจะมางานแค่ 4 คน ไม่นับหมออิม
และหนึ่งในนั้นถึงมี ไก่ พนักงานเซเว่นด้วย
เพราะคนทำงานฟรีแลนซ์ เวลาดึกๆ หิว อยากหาอะไรกิน ก็นึกถึงเซเว่นนี่แหละครับ
มันสะท้อนสภาวะปัจจุบันของประเทศเราดี
สุดท้ายเจอกันบ่อยๆ จนสนิทกัน พูดคุยเป็นเพื่อนกันได้
ผมเห็นเซเว่นใกล้บ้านนี่แหละ คุยกับลูกค้า แนวแซวกันได้ แสดงว่าเขาเจอกันบ่อยจนชินตา
5.ความรู้สึกชอบหมอ บอกเลยครับ ผมเนี่ยเป็นคนที่ชอบสาวพยาบาลมานานแล้ว
เพราะเวลาผู้หญิงใส่ชุดหมอสีขาว รวบผมตึง ยิ้มหวานๆ พูดและแสดงแววตาห่วงใยกับคนไข้ ผมว่าผู้หญิงเหล่านี้ เป็นผู้หญิงที่จิตใจดี มีเสน่ห์
และส่วนตัวผมชอบผู้หญิงที่จิตใจดีแบบนี้ด้วยสิ
ไม่แปลกใจเลย ที่เวลาเจอหมอน่ารักๆ
แล้วเราจะแอบเขิน
ผมดูยุ่นแล้ว นึกถึงตัวเองตอนไปหาหมอทุกครั้งเลยครับ มันใช่เลย
6.เรื่องอดนอน ผมบอกได้เลยครับ ว่ามันคือนรกดีๆ นี่เอง ยิ่งอดนอนหลายวันอย่างในหนังนี่ 12 วัน ทำไปได้ไง
ถ้าใครทำได้ ผมไม่รู้นะ ว่าเขาอยู่ได้ยังไง
ผมไม่ใช่ฟรีแลนซ์อาชีพนะ แต่ผมมีอาชีพเสริม เลยต้องทำงานตอนกลางคืนเพิ่ม
มีครั้งหนึ่งเคยทำงานเพลินถึงตี 4
และก็คิดว่า นอนไม่ได้ เพราะถ้านอน ก็คือหลับ ไปทำงานประจำสายแน่ๆ
สุดท้ายไม่ได้นอน ผลคือ ง่วงทั้งวัน ทำงานบริษัทไม่ได้เลย ตาจะหลับตลอด
ร่างกายมันแย่มาก จะ shutdown ตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ลองแวะอ่านรีวิวหนังเรื่องนี้ในมุมมองแพทย์หญิงกันดูนะ ผมว่าสนุกดี
//pantip.com/topic/34149497
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สุดท้าย หนังเรื่องนี้ มันสอนให้ผมรู้ว่า
- อย่าบ้างานมากจนเกินไป จนละเลยคนรอบข้าง และอาจจะทำให้เกิดภาวะที่อยู่ในสังคมที่แคบ จำกัด
- อย่ามุ่งหวังการประสบความสำเร็จ โดยไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก
จนร่างกายรับไม่ไหว อันนั้นก็เกินไป ต้องหันมาสนใจดูแลตัวเองบ้าง ออกกำลังกายบ้าง หรือพูดง่ายๆ เลยก็คือ จัดแบ่งเวลาในแต่ละวันให้เป็นนั่นแหละครับ
- ควรออกไปเรียนรู้ หาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิมๆ ของตัวเองบ้าง การพักผ่อน ท่องเที่ยว พบเจอผู้คน แปลกหน้าแปลกตา ในที่ใหม่ๆ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตชั้นดีเลยทีเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณที่สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมานะครับ ผมว่าผมได้ข้อคิดในเรื่องนี้เยอะมากนะ สำหรับตัวผมเอง
ขอบคุณจริงๆ
ชื่อสินค้า: Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ
คะแนน: