ช้อปปิ้ง
ร้านอาหาร
โรงแรม & รีสอร์ท
ตั๋วเครื่องบิน & ท่องเที่ยว
ออนไลน์
น้ำมัน & รถยนต์
มือถือ & อุปกรณ์เสริม
โรงพยาบาล
สุขภาพ & ความงาม
กีฬา
เครื่องใช้ไฟฟ้า บ้าน & คอนโด
เฟอร์นิเจอร์ & อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
หนังสือ งานอดิเรก & บันเทิง
สิทธิพิเศษประกันภัย
สิทธิพิเศษต่างจังหวัด
สิทธิพิเศษต่างประเทศ
บริจาค
การศึกษา
การหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ & การเดินทาง
บัตรกดเงินสด
อื่นๆ
เคลียร์เงินด่วนจากบัตรเงินสดให้หมดไวไม่ยากถ้ามีวินัย
บัตรกดเงินสดเป็นตัวช่วยทางการเงินสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนใช้จ่ายในยามจำเป็น การมีบัตรกดเงินสดเป็นการเพิ่มความอุ่นใจในเรื่องการเงิน เพราะหากกล่าวถึงเงินฉุกเฉินหรือเงินด่วน แน่นอนว่าเป็นเงินที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องใช้ แต่มีความจำเป็นต้องใช้ในขณะนั้น เช่น ตกงานกะทันหันในช่วงโควิด-19 ถือเป็นการเตรียมการเผื่อความไม่แน่นอนในชีวิตอีกทางหนึ่ง
ประโยชน์ของบัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสด คือ สินเชื่อหมุนเวียนชนิดหนึ่งที่มาในรูปแบบบัตรแข็งอิเล็กทรอนิกส์ที่มีวงเงินภายใน ผู้ใช้สามารถกดเงินสดออกมจากบัตรได้โดยไม่ต้องมีหลักค้ำประกันใด ๆ จำนวนเงินที่สามารถกดออกมาได้ขึ้นอยู่กับวงเงินภายในบัตร ส่วนมากอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 25% ต่อปี แต่บางธนาคารอาจจะน้อยกว่า เช่น บัตรกดเงินสด KTC Pround ที่มีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 19.99% ต่อปี ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้ การมีบัตรกดเงินสดมีข้อดี ดังนี้
- เป็นแหล่งเงินด่วนที่สำคัญ
คำว่า “เงินด่วน” หรือ “เงินฉุกเฉิน” หมายถึงเงินที่จำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ทำให้ไม่มีเงินสำรอง โดยปกติควรมีเงินเก็บสำรองเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินเสมอ แต่บางครั้งเรื่องฉุกเฉินก็เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว บัตรกดเงินสดจึงเป็นอีกหนึ่งความไม่ประมาท
- ไม่มีค่าธรรมเนียมตอนกด
การกดเงินจากบัตรกดเงินสดไม่มีค่าธรรมเนียมในตอนกดเงินออกมา สำหรับกรณีบัตรกดเงินสด KTC Proud เป็นบัตรกดเงินสดที่เบิกถอนเงินสดสะดวก และผ่อนชำระได้ทุกที่ทุกเวลา ถือเป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ดี ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาบัตรกดเงินสด
- สามารถกดใหม่ได้หากชำระเงินแล้ว
บัตรกดเงินสดมีเงินหมุนเวียนอยู่ในบัตรตลอดเวลา เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วนค่อยกดเงินสดออกมา จากนั้นชำระเงินที่กดออกมาตามยอดชำระ วงเงินจะคืนกลับเข้าสู่บัตรทันที ทำให้สามารถกดเงินใหม่ได้อีกครั้ง
- ผ่อนชำระสินค้าและบริการได้นาน
บัตรกดเงินสดสามารถผ่อนชำระสินค้าและบริการได้เหมือนบัตรเครดิต การผ่อนชำระขึ้นอยู่กับบัตรกดเงินสดและร้านค้าที่ร่วมรายการ แต่ควรเปรียบเทียบกับบัตรเครดิตก่อนเสมอ เพราะโปรโมชั่นส่วนใหญ่มักเป็นโปรโมชั่นบัตรเครดิตมากกว่า
ผ่อนสินค้าง่าย ๆ ไม่ต้องมีเงินก้อนด้วยบัตรเครดิต
ความต่างของบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต
บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตมีความคล้ายกันมาก ทั้ง 2 บัตรสามารถกดเงินสดได้เหมือนกัน และผ่อนชำระสินค้าได้เหมือนกันอีก ทำให้หลายคนสับสนถึงความต่างระหว่างบัตร 2 ประเภทนี้ โดยความต่างหลัก ๆ มีดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย - ดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะสูงกว่าบัตรเครดิต เพราะคิดเป็นรายวัน ขณะที่บัตรเครดิตคิดเป็นรายเดือน
- โปรโมชั่นของบัตร - โปรโมชั่นของบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตจะแตกต่างกันไปตามร้านค้าที่ร่วมรายการและธนาคารเจ้าของบัตร
- ระยะเวลาการชำระหนี้ - บัตรเครดิตมีระยะเวลาผ่อนผัน 30-45 วัน ขณะที่บัตรกดเงินสดไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน
- ธรรมเนียมการกดเงินสด – บัตรกดเงินสดมักจะไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงิน ขณะที่บัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมและภาษีมูลค่าเพิ่มต่าง ๆ
ถึงแม้ว่าบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน แต่ความเหมาะสมในการใช้งานต่างกัน โดยบัตรกดเงินสดเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วน และผ่อนชำระในระยะเวลาอันสั้น ขณะที่บัตรเครดิตเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อของแบบผ่อนชำระ ไม่นิยมกดเงินสด
ข้อควรระวังในการใช้บัตรกดเงินสดการใช้งานบัตรกดเงินสดนี้ ผู้ใช้งานควรทราบข้อควรระวังในการใช้ เพราะจุดประสงค์ของบัตรกดเงินสด หลัก ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อกดเงินก้อนสำหรับกรณีฉุกเฉิน ก่อนการกดควรพิจารณาเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- บัตรกดเงินสดไม่มีระยะเวลาผ่อนผัน
การคิดดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะคิดดอกเบี้ยทันที ผู้กดจะต้องพิจารณาความสามารถในการใช้เงินคืนให้ถี่ถ้วนก่อนกด ไม่เช่นนั้นบัตรกดเงินสดอาจกลายมาเป็นปัญหาหนี้สินก้อนโตในภายหลังได้
- ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดคิดแบบรายวัน
บัตรกดเงินสดเหมาะสำหรับการกดเงินก้อนแล้วคืนในเวลาที่สั้น ไม่นิยมผ่อนเป็นระยะเวลานาน เพราะดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดคิดเป็นรายวัน ผู้กดจึงควรมีแนวทางในการชำระหนี้ก่อนตัดสินใจกดเงินก้อนออกมา
จุดประสงค์ของบัตรกดเงินสดเพื่อการใช้เงินด่วน ก่อนการกดเงินจากบัตรกดเงินสดควรมั่นใจว่าขณะนั้นเป็นเวลาที่ต้องการเงินด่วนจริง ๆ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินจากบัตรกดเงินสด
การผ่อนชำระบัตรกดเงินสดการกดเงินด่วนจากบัตรกดเงินสด
เมื่อกดเงินจากบัตรกดเงินสดแล้วก็ต้องมีการผ่อนจ่าย ซึ่งบัตรกดเงินสดเป็นการชำระแบบลดต้นลดดอก คือ เมื่อจ่ายเงินแล้วจะนำเงินไปหักออกจากเงินต้น ทำให้ดอกเบี้ยลดไปด้วย มีแนวทางในการผ่อนชำระ 3 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ดังนี้
- ผ่อนชำระเกินยอดขั้นต่ำ
วิธีแรกเป็นคำตอบสำหรับคนที่ถามว่าผ่อนบัตรกดเงินสดยังไงให้หมดไว เพราะบัตรกดเงินสดลดต้นลดดอก การจ่ายในจำนวนเงินที่มากจึงช่วยให้เงินที่ต้องจ่ายในงวดต่อไปลดลงด้วย ดอกเบี้ยก็จะไม่มากเท่างวดแรก การปิดยอดเลย หรือแบ่งจ่ายในระยะเวลาที่สั้นจะผ่อนจ่ายได้หมดไวกว่า และเสียดอกเบี้ยน้อยกว่าด้วย
- ผ่อนชำระช้ากว่ากำหนด แต่ครบตามยอดที่กด
การจ่ายครบในครั้งเดียวแต่เกินกำหนดจากที่กำหนดเป็นอีกวิธีที่ยอดอาจจะหมดไว แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของค่าติดตามทวงหนี้ และอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อในอนาคต
- ผ่อนชำระตามยอดขั้นต่ำ
การผ่อนตามยอดขั้นต่ำมีข้อดีที่ไม่ต้องเสียเงินทีละมาก ๆ ในการจ่าย แต่ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มเรื่อย ๆ เป็นรายวันเช่นกัน เสียน้อยแต่เสียนาน และยอดรวมเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยก็จะสูงกว่าการผ่อนชำระแบบอื่น ๆ ด้วย
สิ่งที่คนมักสงสัยว่ากดเงินสดจากบัตรแล้วผ่อนจ่ายบัตรกดเงินสดยังไง และไม่แน่ใจว่าควรจ่ายครั้งเดียวให้หมดหรือแบ่งเป็นหลาย ๆ งวดดีกว่ากัน
ในความเป็นจริงแล้วบัตรกดเงินสดมีระยะเวลาการผ่อนจ่ายค่อนข้างนาน แต่ดอกเบี้ยก็เพิ่มทุกวันเช่นกัน การจ่ายให้หมดเร็วเป็นผลดีมากกว่า เพื่อให้ดอกเบี้ยไม่งอกมากจนเกินไป และได้วงเงินคืนในบัตรกดเงินสดสำหรับเงินด่วนครั้งต่อไปในทันที
วิธีการใช้บัตรกดเงินสดให้คุ้มค่าเริ่มต้นจากความเข้าใจจุดประสงค์ของบัตรกดเงินสด และมีวินัยในการใช้จ่ายเงิน บัตรกดเงินสดมีประโยชน์มากถ้าใช้ให้เป็น และเป็นโทษมหันต์เช่นกันหากไม่รู้จักบริหารการใช้จ่าย เมื่อใช้บัตรกดเงินสดแล้วจึงควรวางแผนการผ่อนชำระให้ดี
แล้วบัตรกดเงินสดจะเป็นตัวช่วยดี ๆ ในเรื่องการเงินอย่างแน่นอน
กดเงินด่วนทันใจกับบัตรกดเงินสด
เบิกถอนเงินสด แบ่งผ่อนชำระได้ทุกที่ทุกเวลา