ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร ?ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินสินไหมที่ทางบริษัทประกันภัยของผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายผิดจะมีหน้าที่รับผิดชอบแทนตัวผู้ขับขี่ต่อคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก ในระหว่างที่รถยนต์ต้องเข้าซ่อมหรือไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้โดยผู้ที่เป็นฝ่ายถูกสามารถนำบิล ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าแท็กซี่, ค่ารถเมล์ หรือค่ารถไฟฟ้า ในระหว่างที่ใช้งานรถยนต์ไม่ได้ มาทำเรื่องเบิกกับบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 2565 ของรถยนต์แต่ละประเภทไว้ ซึ่งหากเราเป็นฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากประกันภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1-3) ได้ดังนี้ Show
ขั้นตอนการขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ1. ติดต่อบริษัทประกันภัยของคู่กรณี (ฝ่ายผิด) จากนั้นให้ยืนยันคำเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ในช่วงเวลาที่รถของคุณกำลังซ่อมอยู่ 2. เมื่อบริษัทของคู่กรณีแจ้งเอกสารที่ต้องการมา ให้คุณนำเอกสารต่างๆ จัดส่งไปยังบริษัทของคู่กรณีเพื่อดำเนินการต่อ 3. รอบริษัทคู่กรณีติดต่อกลับมา เนื่องจากต้องเช็กข้อมูลเพื่อพิจารณาว่าต้องชดเชยให้กับคุณเท่าไร ทำการประเมิน และเจรจาต่อรอง 4. หลังจากตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ก็รอรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ภายใน 7 วัน เอกสารที่จำเป็นในการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ1. ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์ 2. ใบเคลม (ใบรับรองความเสียหายต่อทรัพย์สิน) 3. สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 4. สำเนาทะเบียนรถยนต์ 5. สำเนาใบขับขี่รถยนต์ 6. สำเนาบัตรประชาชน 7. ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จ 8. รูปถ่ายตอนซ่อม 9. รูปถ่ายความเสียหาย 10. หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม 11. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เรียกได้เท่าไรการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมีอัตราขั้นต่ำของการเรียกค่าชดใช้ ตามประกาศ คปภ. วันที่ 1 มกราคม 2562 เพื่อไม่ให้บริษัทประกันภัยเจรจาจ่ายในจำนวนที่ต่ำเกินไป ดังนี้
2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะที่นั่งไม่เกิน 7 คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท 3. รถยนต์ที่มีที่นั่งเกิน 7 คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท * รถประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ในข้อ 1-3 เช่น “รถจักรยานยนต์”
ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องและตกลงกันได้ โดยพิจารณาหลักฐานเป็นกรณีไป
วิธีเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่เข้าใจถึง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จริง ๆ ศัพท์นี้อาจดูเหมือนเข้าใจยากไปแต่ถ้าลองแปลความหมายตามรายละเอียดจะพอเดาได้ไม่ยากอย่างที่คิด อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ผู้ขับขี่ที่รถเกิดอุบัติเหตุโดยเป็นฝ่ายถูก ไม่สามารถใช้งานรถของตนเองได้ ตรงนี้ทำให้พวกเขาเสียประโยชน์ไป เช่น จากเดิมควรได้ขับรถออกไปทำงานสบาย ๆ กลายเป็นต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะแทน นั่นทำให้เสียเงิน เสียเวลามากกว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สิ่งที่คนขับรถทุกคนต้องรู้เคยสังเกตหรือไม่ เวลาที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น สมมุติกรณีเราเป็นฝ่ายถูก เมื่อประกันของอีกฝ่ายมาถึงพวกเขาจะตรวจเช็คสภาพนั่นนี่ต่าง ๆ จากนั้นก็เซ็นเอกสารทำตามขั้นตอน หากรถเสียหายก็ต้องนำไปซ่อมแซม ซึ่งระหว่างการซ่อมนี่เองที่คุณไม่สามารถใช้งานรถของตนเองตามปกติได้ ตรงนี้ประกันฝ่ายคู่กรณีจะไม่มีใครพูดถึง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เลย เพราะพวกเขาต้องเสียเงินเพิ่ม แต่มันคือสิ่งที่ทุก ๆ คนต้องรู้ เนื่องจากเป็นสิทธิ์พึงได้ของตนเอง ดังนั้น ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ จึงเป็นเสมือนเงินสินไหมอีกประเภทหนึ่งที่ฝ่ายถูกต้องได้รับจากฝ่ายผิด ในช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถใช้งานรถตนเองได้เนื่องจากกำลังเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซม ทำให้เสียเวลาต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะ จ่ายเงินเยอะกว่า (ดังที่กล่าวเอาไว้ตอนต้น) ทั้งหมดนี้จึงสามารถเรียกร้องเพื่อเอาค่าชดเชยดังกล่าวได้นั่นเอง วิธีเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ทำอย่างไรบ้าง
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ได้เท่าไหร่?คปภ. มีการกำหนด ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ระบุเอาไว้ชัดเจน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
เมื่อเข้าใจแบบนี้แล้วหากรถคุณเกิดอุบัติเหตุโดยตนเองเป็นฝ่ายถูกก็อย่าลืมเรียกร้องสิทธิ์ของตนเองด้วย และหากใครกำลังต้องการเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ สอบถามข้อมูล รายละเอียด รวมถึงประกันประเภทอื่น ๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.everydayinsure.com/ |