วันที่ : 16 พฤศจิกายน 2564 ต่างชาติถือครองอสังหาฯ ไทยได้มากแค่ไหน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง? ในวันที่เศรษฐกิจหยุดชะงักเพราะผลกระทบจาก COVID -19 การดึงดูดให้นักลงทุน หรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศถือเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญที่จะช่วยดึงเอาเม็ดเงินมากระตุ้นพลิกฟื้นทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองอสังหาฯ ได้นั้น ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมาก แต่การถือครองอสังหาฯ ของคนต่างชาติในประเทศไทย ก็มีเงื่อนไข และข้อจำกัดที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้
ปัจจุบันมีแนวโน้มว่ากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้นี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองอสังหาฯ ในไทยได้ง่ายมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนการไตร่ตรองและพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งสำหรับคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน คอนโด หรือสิ่งปลูกสร้าง ถือว่าควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถวางแผนในการลงทุนต่อไป ทั้งในแง่การซื้อเพิ่มเพื่อถือครอง และในแง่ของการขายต่อให้กับชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลอ้างอิง กรมที่ดิน Prachachat Smartfinn Workpoint สมัครเป็นสมาชิกเว็บ REIC ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รู้ข้อมูลอสังหาฯ ก่อนใคร สมัครได้ฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพื่อให้การซื้อ-ลงทุนที่อยู่อาศัย เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด . . สมัครเลยที่ https://www.reic.or.th/Member/RegisterGeneral . . ------------------------ ติดตามศูนย์ข้อมูลฯ เพิ่มเติมได้ที่ Website : www.reic.or.th Twitter : www.twitter.com/REICFan Youtube : www.youtube.com/user/REICPR Line : @REICFan #ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ #REIC โดยมีสาระสำคัญคือ การกำหนดกลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภท ที่สามารถได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่ 1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ เป็นการจุดประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับนโยบายยุค “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เคยแก้ไขร่างกฎกระทรวงนี้ เพื่อปิดทางให้ต่างชาติสามารถครอบครองที่ดินในไทยได้ กับข้อครหาว่าเป็นการขายชาติขายแผ่นดินหรือไม่ และยิ่งหนักไปกว่าเมื่อขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เคยต่อต้านนโยบายนี้กลับนำมาดำเนินการเสียเองในยุครัฐบาลเรือแป๊ะของ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้จะเพิ่มเงื่อนไขกำหนดบุคคลต่างชาติ 4 ประเภทข้างต้น ขณะที่ กรมที่ดิน ระบุว่า ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ประกาศใช้กฎกระทรวงปี 2545 มีข้อมูลคนต่างชาติขอใช้สิทธิถือครองที่ดิน 1 ไร่เพื่อการอยู่อาศัย กรมที่ดินรายงานว่า มีจำนวนเพียง 8 ราย จึงเป็นเรื่องน่ากังขาว่า เหตุใดรัฐบาลจึงเดินเครื่องเรื่องนี้ในช่วงปลายเทอม ประจวบเหมาะกับล่าสุด “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม แอ่นอกยอมรับว่า นายทุนจีนที่ได้รับสัญชาติไทย มีชื่อถูกจับกุมกรณีเปิดผับฉาวย่านยานนาวา มั่วยาเสพติดและการพนัน เคยมีชื่อบริจาคเงิน 3 ล้าน ให้พรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2564 พร้อมยืนยันว่า พรรคไม่รู้รายละเอียดส่วนลึกของผู้บริจาค ฟากฝ่ายค้านโดย “ธีรัจชัย พันธุมาศ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่า พรรคฝ่ายค้านเตรียมถกเรื่องนี้ในวันที่ 1 พ.ย. พร้อมกับเตรียมรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจผับ ซึ่งคล้ายกับทัวร์ศูนย์เหรียญและอาจจะต้องโยงกับกรณีให้ต่างชาติมาซื้อที่ดินในไทยได้ด้วย ส่วน “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย มองว่า การลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้ในช่วงปลายรัฐบาล เป็นการขายทอดตลาดประเทศไทยทิ้งทวนเพราะจะไม่ได้กลับมาบริหารประเทศอีก กลุ่มแรกที่จะอวตารมาซื้อที่ดินคือ กลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรม ทั้งพนันออนไลน์ ผับ บาร์ ยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งน่าสังเกตว่าบานเป็นดอกเห็ดในยุคนี้ สุดท้ายจึงน่าคิดว่านอกจากคนที่ตั้งใจเข้ามาทำธุรกิจโดยสุจริตแล้ว ยังมีกลุ่มธุรกิจสีเทาที่จะได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ และทำให้ประเทศไทยกลายเป็นรังของอาชญากร อาชญากรรมข้ามชาติทั้งหลายหรือไม่ หากไม่มีมาตรการตรวจสอบที่รัดกุมพอ ที่สำคัญยังจะกระทบต่อคนไทยที่ยังไม่สามารถเข้าถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อเป็นที่พักอาศัยหรือที่ทำกินได้ อีกเป็นจำนวนมหาศาล. |