คณะ วิทยาศาสตร์ ชีวการแพทย์ มหิดล ค่าเทอม

ค่าเทอม มหาวิทยาลัยนเรศวร ทุกคณะ

มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 17 คณะ

ค่าเทอม มหาวิทยาลัยนเรศวร ทุกสาขาวิชา

  • คณะนิติศาสตร์
    • นิติศาสตร์ — 15,000 บาท
  • คณะมนุษยศาสตร์
    • พม่าศึกษา — 15,000 บาท
    • ภาษาจีน — 15,000 บาท
    • ภาษาญี่ปุ่น — 15,000 บาท
    • ภาษาไทย — 15,000 บาท
    • ภาษาฝรั่งเศส — 15,000 บาท
    • ภาษาอังกฤษ — 15,000 บาท
    • ภาษาเกาหลี — 15,000 บาท
    • นาฏศิลป์ไทย — 15,000 บาท
    • ดุริยางคศาสตร์ไทย — 15,000 บาท
    • ดุริยางคศาสตร์สากล — 15,000 บาท
  • คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร
    • นิเทศศาสตร์ — 15,000 บาท
    • การจัดการธุรกิจ — 15,000 บาท
    • การเงิน — 15,000 บาท
    • การท่องเที่ยว — 15,000 บาท
    • การบัญชี — 15,000 บาท
    • เศรษฐศาสตร์ — 15,000 บาท
    • คอมพิวเตอร์ธุรกิจ — 17,000 บาท
  • คณะศึกษาศาสตร์
    • คอมพิวเตอร์ — 15,000 บาท
    • ฟิสิกส์ — 15,000 บาท
    • เคมี — 15,000 บาท
    • ชีววิทยา — 15,000 บาท
    • คณิตศาสตร์ — 15,000 บาท
    • ภาษาไทย — 15,000 บาท
    • ภาษาอังกฤษ — 15,000 บาท
    • พลศึกษาและวิทยาศาสตร์การออกกำลังกาย — 15,000 บาท
    • เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา — 15,000 บาท
  • คณะสังคมศาสตร์
    • ประวัติศาสตร์ — 15,000 บาท
    • พัฒนาสังคม — 15,000 บาท
    • รัฐศาสตร์ — 15,000 บาท
    • จิตวิทยา — 15,000 บาท
  • วิทยาลัยนานาชาติ
    • การจัดการทรัพยากรมนุษย์/หลักสูตรนานาชาติ — 40,000 บาท
    • การจัดการการบริหารและการท่องเที่ยวนานาชาติ/หลักสูตรนานาชาติ — 40,000 บาท
    • การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ/หลักสูตรนานาชาติ — 40,000 บาท
    • ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารธุรกิจ/หลักสูตรนานาชาติ — 40,000 บาท
  • คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
    • วิทยาศาสตร์การเกษตร — 16,000 บาท
    • ภูมิศาสตร์ — 16,000 บาท
    • วิทยาศาสตร์การประมง — 16,000 บาท
    • ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม — 16,000 บาท
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร — 16,000 บาท
    • สัตวศาสตร์และเทคโนโลยีอาหารสัตว์ — 16,000 บาท
  • คณะวิทยาศาสตร์
    • คณิตศาสตร์ — 16,000 บาท
    • เคมี — 16,000 บาท
    • ชีววิทยา — 16,000 บาท
    • ฟิสิกส์ — 16,000 บาท
    • ฟิสิกส์ประยุกต์ — 16,000 บาท
    • วิทยาการคอมพิวเตอร์ — 16,000 บาท
    • เทคโนโลยีสารสนเทศ — 16,000 บาท
    • สถิติ — 16,000 บาท
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์
    • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมเครื่องกล — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมไฟฟ้า — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมโยธา — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมอุตสาหการ — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมวัสดุ — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม — 16,000 บาท
    • วิศวกรรมเคมี — 16,000 บาท
  • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
    • ออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ — 16,000 บาท
    • การออกแบบสื่อนวัตกรรม — 16,000 บาท
    • ออกแบบทัศนศิลป์ — 16,000 บาท
    • สถาปัตยกรรมศาสตร์ — 20,000 บาท
  • คณะทันตแพทยศาสตร์
    • ทันตแพทยศาสตร์
      • ชั้นปี 1-4 ภาคเรียน — 50,000 บาท
      • ชั้นปี 5-6 ปีการศึกษา — 100,000 บาท
  • คณะพยาบาลศาสตร์
    • พยาบาลศาสตร์ — 20,000 บาท
  • คณะแพทยศาสตร์
    • แพทยศาสตร์
      • ชั้นปี 1-3 ภาคเรียน 20,000 บาท
      • ชั้นปี 4-6 ปีการศึกษา 40,000 บาท
  • คณะเภสัชศาสตร์
    • วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ — 22,000 บาท
    • เภสัชศาสตร์
      • ชั้นปี 1-5 ภาคเรียน — 22,000 บาท
      • ชั้นปี 6 ปีการศึกษา — 44,000 บาท
  • คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์
    • จุลชีววิทยา — 20,000 บาท
    • วิทยาศาสตร์การแพทย์ — 20,000 บาท
    • พยาธิวิทยากายวิภาค — 20,000 บาท
    • ชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุล — 20,000 บาท
    • วิทยาศาสตร์การแพทย์ (ตรีต่อเนื่องโท)
      • ชั้นปีที่ 1-3 ภาคเรียนละ — 20,000 บาท
      • ชั้นปีที่ 3 ภาคฤดูร้อน — 10,000 บาท
      • ชั้นปีที่ 4-5 ภาคเรียนต้น — 20,000 บาท
  • คณะสหเวชศาสตร์
    • กายภาพบำบัด — 22,000 บาท
    • เทคนิคการแพทย์ — 22,000 บาท
    • เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก — 22,000 บาท
    • รังสีเทคนิค — 22,000 บาท
    • ทัศนมาตรศาสตร์ — 32,000 บาท
  • คณะสาธารณสุขศาสตร์
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม — 20,000 บาท
    • อาชีวอนามัยและความปลอดภัย — 20,000 บาท
    • สาธารณสุขศาสตร์ — 20,000 บาท
    • การแพทย์แผนไทยประยุกต์ — 20,000 บาท

ปรับปรุงล่าสุด

  • ปีการศึกษา 2562

สวัสดีค่ะ วันนี้เจ้าของกระทู้อยากจะมาแนะนำสาขาวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจสำหรับเด็ก#61 และปีต่อๆไปค่ะ และนั่นก็คือ คณะวิทยาศาสตร์ ‘ภาคอินเตอร์’ ที่มหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ ซึ่งเราเรียกสั้นๆว่า SIM (Science International Mahidol) โดยจะเป็น Dual Degree หรือเรียกสั้นว่าปริญญาสองใบค่ะ (เรียนที่มหิดล และ มหาลัยต่างประเทศแล้วแต่ละสาขาค่ะ รายละเอียดอยู่ด้านล่าง) ก่อนอื่นขอเกริ่นเลยว่าภาคอินเตอร์เพิ่งเปิดมาได้ปีนี้เป็นที่"4"ค่ะ แต่ว่าสาขาภายในนี้มีแต่ตัวที่น่าสนใจทั้งนั้นค่ะ 

SIM จะมีทั้งหมด 4 สาขาด้วยกัน

1. Biomedical Science (วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์)
    -Double Degree with Sussex University, UK
2. Bioresources and Environmental Biology (วิทยาศาสตร์ทรัพยากรชีวภาพและชีววิทยาสภาวะแวดล้อม) 
    -Double Degree with State University of New York (SUNY), USA
3.

Materail Science and Nano Engineering (วิทยาศาสตร์สาขาวิชาวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุ)
    -Double Degree withUniversity Of Technology of Sydney, Australia
4. Bioinnovation (วิทยาศาสตร์ด้านนวัตกรรม)
    -Double Degree with Sussex University

ในช่วงปีแรกทุกสาขาจะเรียนหลายวิชารวมกัน แต่พอขึ้นไปปีสองแล้ว วิชาก็จะเปลี่ยนไปค่ะ แต่ละสาขาจะเรียนค่อนข้างกว้างเพราะสามารถไปเป็นนักวิจัยและต่อยอดในแต่ละด้านได้มากมายค่ะ

Biomedical Science (2+2) หรือ (3.5ปี)
วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ เป็นสาขาที่จะเรียน Pre-Clinic ของหมอก็ว่าได้ค่ะ โดยหลักๆเราจะเรียน กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy), สรีรวิทยา (Physiology), ชีวเคมี (Biochemistry), พิษวิทยา (Pathology), จุลชีววิทยา (Microbiology) และ เภสัชวิทยา (Phamacology) เป็นต้น เรียนแล้วทำอะไร ถ้าไม่ได้จบออกมาเป็นหมอ? สามารถเป็นนักวิจัยด้านการรักษาต่างๆ รวมทั้งการตัดต่อพันธุกรรมเพื่อรักษาโรค วินิจฉัยเรื่องยา วิธีและรูปแบบรักษาโรคต่างๆ สิ่งที่พิเศษสำหรับสาขานี้ก็คือ แน่นอนว่าเราจะได้ผ่าอาจารย์ใหญ่ รวมทั้งการเข้าห้องแลปเพื่อวินิจฉัยปัจจัยบางอย่างเพื่อนำมาใช้ในการรักษาโรคค่ะ เช่น 3-D image คือการนำหนอนตัวแบนมาเป็นแบบอะไรประมาณนี้ค่ะ มีการทำ Project ที่เราสนใจด้วยนะคะ มันค่อนข้างกว้างแต่โดยรวมคืออยู่ในสายการวินิจฉัยเรื่องโรคและการรักษาค่ะ แนะนำให้คนที่สนใจเรื่องร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของร่างกาย หรือ ปฏิกิริยาของของร่างกายพิจารณาสาขานี้ค่ะ

Bioresources and environmental biology (3+1) หรือ (3.5 ปี)
วิทยาศาสตร์ทรัพยากรชีวภาพและชีววิทยาสภาวะแวดล้อม สาขานี้จะเจาะจงไปทางด้านธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์กับชีวะ การเกษตร หรือ การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมได้ค่ะ เรียนหลายอย่างยกตัวอย่างเช่น พันธุกรรม(Genetics), จุลชีววิทยา (Microbiology), พฤกศาสตร์(Botany), สัตววิทยา(Zoology), ชีวเคมี (Biochemistry) เป็นต้น เรียนแล้วทำอะไรได้? สามารถไปเป็นนักวิจัยได้ค่ะ แต่เป็นวิจัยด้านพืชหรือสิ่งแวดล้อมนะคะ เช่น การวิจัยโดยใช้พืชเพื่อไปบำบัดสารเสียที่อยู่ในดิน หรือจะเอาด้านสมุนไพร โดยการใช้สารสกัดจากพืชเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สามารถวิจัยเพื่อไปรักษาโรคต่างๆที่มนุษย์เป็นกันอยู่ได้เช่นกันค่ะ สามารถผันตัวไปเป็นเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติหรือด้าน Food Science เผื่อหาสารสกัดจากพืช เป็นต้นค่ะ สาขานี้จะลงพื้นที่ระดับหนึ่งค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าเพื่อศึกษาในสิ่งที่ได้เรียน เรื่องพืช สัตว์ หรือนก รวมทั้งได้ลงฟาร์มไวน์ ได้ชิมและเรียนรู้ด้วยค่ะ

Materail Science and Nano Engineering (2+2) หรือ (4ปี)
วิทยาศาสตร์สาขาวิชาวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุ เป็นอีกสาขาหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวทุกคน นั่นก็คือเรื่องวัสดุต่างๆ เมื่อขึ้นปีสองเป็นต้นไปจะเรียนพวก เซรามิค (Ceramics), โลหะวิทยา (Metallurgy), โพลิเมอร์(Polymer), นาโนอิเลคทรอนิคส์ (Nanoelectronics) เป็นต้น เรียนแล้วไปทำอะไร? เพราะสาขานี้เป็นสาขาที่เจาะจงมาด้านวัสดุอุปกรณ์โดยเฉพาะ ดังนั้นเวลาทำงานสามารถไปเป็นผู้แนะนำการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ควรเปลี่ยนวัสดุตัวนี้แล้วจะมีผลกระทบอย่างไร สามารถเป็นนักวิจัยศึกษาโครงสร้างและคุณสมบัติต่างๆในระดับอะตอม และนาโน (เล็กกว่าอะตอม)ของวัสดุอุปกรณ์เพื่อนำมันไปประยุกต์กับสิ่งรอบตัวเช่น เครื่องมือการแพทย์ (ที่อุดฟัน หรือ เครื่องที่สามารถเข้าไปในร่างกายเพื่อไปรักษาโรคโดยที่ไม่ต้องทำให้ร่างกายเกิดผลกระทบ) รวมทั้งประยุกต์กับการไฟฟ้า การก่อสร้าง เป็นต้น สิ่งที่พิเศษสำหรับสาขานี้คือ สามารถไปฝึกงานกับบริษัทในเครือของสาขา เช่น Western Digital (Thailand) CO,.Ltd and Siam Cement Group (SCG). มีอาจารย์ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “นาโนเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างใหม่ และตลาดต้องการเยอะ” ซึ่งใช่ว่าทุกมหาลัยที่จะมีหลักสูตรนี้ค่ะ

Bioinnovation (2+2) หรือ (3.5 – 4ปี)
วิทยาศาสตร์ด้านนวัตกรรม เป็นสาขาที่เพิ่งเปิดออกมาสดๆร้อนๆเพื่อการรองรับ Thailand 4.0 ในเชิงที่เอานักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้โดยเน้นการผลิตนวัตกรรมและเพิ่มทรัพยากรของมนุษย์ในเชิงสร้างสรรค์ค่ะ สาขานี้ก็ออกแนวคิดค้นไอเดียใหม่ๆดังนั้นความรู้ก็ต้องครอบคลุมพอควรค่ะ สิ่งที่จะเรียน เช่น นาโนเทคโนโลยีทางชีวภาพ (Nanotechnology), วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม(Scientific creativity and Innovation), วิทยาการแมลงสู่นวัตกรรมและชีวธุรกิจ (Insect Scientific Innovation and Bio-business), สัมมนาทางชีวนวัตกรรม (Seminar in Bioinnovation), ชีวนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหาร (Bioinnovation in Food Industry) สิ่งที่พิเศษคือ ปีสองและปีสามจะมีการฝึกปฏิบัติงานและดูงานเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ทางนวัตกรรมและวิสาหกิจทุกๆภาคฤดูร้อน(ช่วงปิดเทอมใหญ่) ทั้งยังจะได้ศึกษา สัมมนาทางชีวนวัตกรรม และ โครงการศึกษาพิเศษของนวัตกรรม จบไปสามารถเป็น นักวิเคราะห์โครงการ, ผู้ประกอบธุรกิจด้านการตรวจวิเคราะห์ด้วยนวัตกรรม, นักพัฒนาผลิตภัณฑ์

จากข้อมูล 4 สาขาข้างบนก็คาดว่าทุกคนคงจะเห็นแล้วว่ามันค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นสาขาที่ค่อนข้างไม่เหมือนใคร ทั้งน่าสนใจและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด+ประเทศ อีกทั้งยังสอนเป็นภาษาอังกฤษ และยังให้โอกาสนักศึกษาในการไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และได้รับปริญญาตรีสองใบ ก็ได้แต่หวังว่าคนไหนที่สนใจสาขาใดสาขาหนึ่งจะลองมาสอบถามและเข้ามาเป็นสมาชิกของ SIM ด้วยกันนะคะ

รายละเอียดเกณฑ์การสอบเข้าแบ่งออกเป็น 5 รอบ ในระบบ TCAS ปี2018 (โปรดดูรายละเอียดเกณฑ์การรับเข้าในเว็บไซต์ที่ให้ด้านล่าง)
1.Portfolio – Application form (1 October – 30 November 2017)
2. Quota – Application form (1 December 2017 – 31 March 2018)
รายชื่อโรงเรียน - http://www.sc.mahidol.ac.th/SIM/pdf/MOUschools.pdf
3.Co-Direct Admission – Application form (9-13 May 2018 )
4. Central University Admission System (CUAS) – Application form (6-10 June 2018)
5. Direct Admission – Application form (1-31 July 2018)

ก็ทุกอย่างเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ สอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ คนไหนที่สนใจสาขา 1 ในนี้ก็ขอให้ตัวเองมาสอบนะคะ ไม่ต้องกลัวเรื่องภาษา “ให้โอกาสตัวเอง แล้วบางทีโชคชะตาก็จะให้โอกาสคุณค่ะ” เพิ่งเป็นภาคที่เปิดใหม่คนยังน้อยอยู่ดังนั้นภาค SIM ของพวกเราจึงหวังว่าจะมีน้องๆที่สนใจมาสมัครเข้าเยอะๆนะคะ ถ้าพูดถึงสังคมถือว่าค่อนข้างดีค่ะ พวกเราสนิทกับรุ่นพี่ค่ะ พี่เทค พี่รหัสก็น่ารักและใจดีมากค่ะ พี่ๆเขาช่วยเรื่องแนะการสอบ การเรียน ไม่ติดหรู ไม่ไฮโซ เรามีเด็กจากหลายที่มารวมตัวกัน ตั้งแต่เด็กไทย เด็กต่างชาติ ลูกครึ่ง เด็กกรุงเทพ เด็กต่างจังหวัด จบไทย จบนอก จบอินเตอร์ รวมทุกอย่างไว้ที่เดียวค่ะ อีกอย่างที่ประทับใจคือ พวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่ะ ก็หวังว่าน้องๆต้องการมาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราชาว SIM ด้วยเช่นกัน

*ตอบคำถามที่ส่วนใหญ่สงสัย*
หลังจากที่กระทู้ได้ตั้งมาประมาณครึ่งปี ก็ได้รับเสียงตอบรับจากน้องๆหลายคน ดังนั้นตรงนี้พี่จะ
รวบรวมคำถามต่างๆมาตอบตรงนี้นะคะ หวังว่าจะช่วยอะไรได้มากขึ้นค่ะพี่ก็อาจไม่ทราบอะไรมากเพราะพี่ก็เป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่งที่อยากช่วยน้องๆ คำตอบส่วนใหญ่อาจจะตอบในเชิงของ ชีวการแพทย์นะคะ เพราะพี่ไม่ค่อยทราบสาขาอื่นเท่าไรค่ะ

1. จบไปทำอะไรได้บ้างคะ? ถ้าแค่ป.ตรีพอไหมคะ?
คณะที่น้องเรียนเป็นคณะวิทยาศาสตร์ค่ะ ดังนั้นหลักๆก็คือนักวิจัยค่ะ จะวิจัยเรื่องอะไรก็เเล้วแต่สาขาและความสนใจของน้องค่ะ แต่การที่น้องจะเรียนแค่ป.ตรีอาจจะไม่สามารถทำอะไรมากได้ เพราะสายเฉพาะจะเป็นการเรียนต่อยอดในป.โท และ ป.เอกค่ะ พูดให้ชัดเจนก็คือคนส่วนใหญ่ที่จะเข้าที่นี่คือสนใจในการทำวิจัยเป็นหลัก (ซึ่งหมายความว่าคนส่วนมากจะเรียนต่อเพื่อไปในด้านที่สนใจกว่านี้) ป.ตรีเหมือนกับแค่บอกว่าเราสนใจด้านนี้หรือเปล่าเท่านั้นค่ะ แต่หากใครประสงค์แค่เรียนถึงป.ตรี แล้วความสามารถก็มีพร้อมในสายงานที่สนใจ น้องพอใจ ทุกอย่างก็ลงตัวตามสิ่งที่น้องต้องการค่ะ

หากไม่ต้องการเป็นนักวิจัย น้องสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ค่ะ เช่น นักขายอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้นค่ะ หรือไม่ก็อยากให้พิจารณาตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่ พี่ไม่อยากให้เข้ามาเพราะการโดนบังคับ หรือ ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเรียนคืออะไร รายละเอียดส่วนใหญ่อยู่ในเว็บหลักแล้วค่ะ คลิกเลยค่ะ ก็ลองไปอ่าน หลักสูตร กับ overview ของแต่ละอันดูนะคะ เพราะในนั้นข้อมูลจะแน่นกว่าค่ะ

2. ปริญญาสองใบหมายความว่าอย่างไรคะ?
หมายความว่า น้องสามารถเลือกได้ว่าปีสามจะไปเรียนที่ต่างประเทศไหมค่ะ โดยค่าใช้จ่ายที่ออกคือตัวเองออกเองค่ะ หากเลือกไป ตอนเรียนจบจะได้ปริญญาสองใบ จากสองมหาวิทยาลัย หากไม่ไป ก็จะได้ปริญญาใบเดียวปกติทั่วไปค่ะ โดยการที่จะไปได้เขาจะดูสองปัจจัยนี้ค่ะ 
-ภาษาอังกฤษ น้องต้องสอบเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ที่เขาต้องการ หรือ บังคับไว้ ส่วนใหญ่ก็ประมาณ IELTS 6.5  ค่ะ แต่เเล้วแต่ละสาขาอีกทีค่ะ
-เกรดเฉลี่ย ปี1-2 ค่ะ ก็แล้วแต่ละสาขาอีกเช่นกันค่ะ

3. ค่าเทอมเท่าไรคะ? มีทุนให้ไหมคะ?
ทุนปัจจุบันยังไม่เห็นค่ะ แต่ในอนาคตน่าจะมีค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นทุนวิจัยตอนปี3-4 ค่ะ ส่วนค่าเทอม คลิกที่นี่ค่ะ เเนะนำให้อ่านในเว็บเพราะอาจจะเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆค่ะ

4. เด็กไทยทั่วไปไม่เก่งอังกฤษมาก มีโอกาสเรียน/ติดไหมคะ?
มีค่ะ ถ้าที่เรียนจะใช่มันก็ใช่ค่ะ เพื่อนพี่หลายคนเป็นเด็กไทย เขาก็เรียนได้นะคะ เขาอาจจะต้องพยายามด้านภาษามากกว่าคนอื่น แต่ในเชิงวิชาการเขาก็ค่อนข้างแข็งพอสมควร คณะวิทย์เราเน้นด้านวิชาการค่ะ ภาษาเป็นเรื่องรอง ดังนั้นเวลาตรวจข้อสอบน้องเขียนคำตอบถูกแกรมม่าผิด อาจารย์เข้าใจ ก็ได้เเล้วค่ะ ยังไงทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของน้องค่ะ

5. สัมภาษณ์แบบไหนคะ?
ไม่สามารถบอกอะไรได้มาก เพราะเขาเปลี่ยนอาจารย์สัมภาษณ์ในแต่ละรอบ ดังนั้นเเล้วแต่สไตล์ของอาจารย์แต่ละท่าน อาจารย์สัมภาษณ์ป็นภาษาอังกฤษค่ะ ของพี่อาจารย์เขาก็เหมือนชวนคุยปกติ ส่วนใหญ่นะจะดูเรื่อง

การสื่อสารภาษาอังกฤษ ว่าเราอยู่ในระดับไหน พอไหมถ้าจะเรียนแบบอังกฤษ ไม่งั้นน้องเองจะเป็นคนที่เดือดร้อนค่ะ เพราะเข้ามาอาจะเรียนไม่รู้เรื่อง ท้อ และซิ่วออก ซึ่งอาจารย์ท่านคงไม่อยากรับเด็กที่จะเข้ามาแล้วซิ่วออกเท่าไรหรอกค่ะ อีกอย่างที่เขาน่าจะดูคือ ทัศนคติของเราค่ะ เขาจะดูว่าเราแก้ปัญหาแบบไหนบ้างกับคำถามที่อาจารย์ถามมา สนุกดีค่ะ  อ้อ อีกอย่าง อยากให้กล้าแสดงออกนะคะ การแสดงออกในที่นี้อาจจะเป็นตัวของตัวเองค่ะ คือตั้งแต่พี่เรียนมาสังคมในคณะวิทย์อินเตอร์นี้เราเปิดกว้างมาก ส่วนใหญ่เเล้วทุกคนกล้า take action ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความฉลาดในการพูดหรือความฉลาดในการแสดงออกก็ควรมีไว้ค่ะ 

6. ครูไทยหรือครูต่างชาติคะ? สอนแบบภาษาอังกฤษหรอคะ?
ส่วนใหญ่จะเป็นครูไทยค่ะ แต่ภาษาได้มาก ความรู้แน่น งานวิจัยเต็ม (คนที่สนใจด้านวิจัย พี่มั่นใจจะรู้สึกดีที่รอบตัวเต็มไปด้วยอาจารย์ที่มีผลงานวิจัยมากมายมาสอนเรา เพราะเราจะได้เห็นมุมองของเขา ประสบการณ์ของเขาเยอะเหมือนกัน) อาจารย์ต่างชาติก็มีค่ะ

7. เรียนชีวการแพทย์จบไปเรียนต่อหมอได้ไหมครับ?
พี่คงจะบอกว่าได้ แต่แนะนำถ้าอยากเป็นหมอก็สอบเป็นหมอไปเลย อย่ามาที่นี่ โอกาสตรงนี้เผลอๆยากกว่าสอบหมอตรงๆเสียอีก

-ก่อนจากกันขอกล่าวอะไรสักนิด-

ก็ต้องขอขอบคุณน้องๆทุกคนนะคะที่ให้ความสนใจกับคณะและสาขาใหม่เหล่านี้ พี่รู้สึกตื่นเต้นเช่นกันที่มีคนสนใจด้านเดียวกันมารวมตัวกันค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากให้น้องกังวลมากเกินไปว่าจบไปจะทำอะไร เงินเดือนเท่าไร เพราะว่ามันออกแนวน้องไม่ได้จะมาเรียนที่น้องชอบหรือสนใจ มันเหมือนน้องกังวลเรื่องเงินมากกว่าค่ะ มันก็เลยค่อนข้างน่าเศร้าไปบ้าง อยากบอกว่าคือถ้าน้องเรียนไป น้องจะเจอทางของน้องจริงๆ และถ้าน้องชอบในสิ่งที่เรียนอยู่ เรื่องเงินเดือนจะไม่ใช่ปัญหาเลย ก็เพราะเรามีความสุขในสิ่งที่เราทำ พี่กับเพื่อนไม่เคยคุยเรื่องเงินเดือนหรือกังวลเรื่องเหล่านี้ เพราะทุกคนเหมือนมาเพื่อเรียนสิ่งที่ตัวเองชอบและมีความสุขจริงๆ บรรยากาศในห้องเรียนเลยค่อนข้างสนุก ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่เรียนไปแล้วรู้สึกไม่ชอบ และไม่ใช่ ก็ซิ่วออก เพราะสาขาเหล่านี้(จริงๆก็ทุกคณะและทุกสาขาค่ะ)มันใช้กำลังกายและกำลังใจเยอะพอสมควรค่ะ ถ้าไม่ชอบจริง พี่ว่าอยู่ไม่ไหวหรอก มีหลายครั้งที่พี่ก็อยากออกเพราะรู้สึกตัวเองเรียนไม่ไหว แต่เพราะวิชาที่สนใจในปีที่สูงขึ้นพร้อมกับความฝันที่อยากทำให้ได้ รวมทั้งกำลังใจจากคนรอบข้างทั้งครอบครัวเเละผองเพื่อน เลยทำให้ยังอยู่และกัดฟันสู้ต่อ แล้วก็รู้สึกไม่เสียใจค่ะ พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ พิจารณาทางเลือกตัวเองดีๆ ชีวิตตัวเอง อยากเรียน อยากทำอะไร ตัดสินใจดีๆ ปรึกษากับครอบครัว ให้เขาเห็นถึงในมุมมองของน้องด้วย เพราะสุดท้าย น้องนี่ละค่ะที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่น้องเลือก ไม่มีใครเขารู้สึกกับน้องไปด้วย พี่อยากให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเลือกค่ะ โชคดีนะคะ :)

เรื่องการเรียนเป็นยังไง?
ชอบค่ะ ถ้าวิชาเเลป ทางคณะจัดเตรียมอุปกรณ์การทดลองไว้พร้อม(มาก) น้องทุกคนจะได้ใช้จนเอียนเลยค่ะ แลปชีวะ กล้องจุลทรรศ์ก็ส่องทุกอย่างค่ะ Meiosis, Mitosis, Muscles or Nerves ส่องหลายอย่างค่ะ สอบแลปกริ๊งก็สนุกมากค่ะ (ประชดนะ) ก็ประสบการณ์ใหม่ค่ะ ;) แลปเคมี สนุกค่ะ อันนี้สนุกจริง มีการต้มชากาแฟเพื่อดูปริมาณคาเฟอีนด้วย ทำTitration และอื่นๆอีกมากมาย แลปฟิสิกส์ก็มีค่ะ คิดเลขกันมึนเลย ด้านวิชาการ หนักค่ะ หนักมาก ยินดีต้อนรับสู่การนอนดึกตื่นเช้า ตลอดจนไม่ต้องนอนเลยก็มีค่ะ ดังนั้นก่อนเปิดเทอมก็นอนพักเยอะๆนะคะ เดี๋ยวไม่มีเวลานอน ชีว น้องๆจะได้เจอกับเรื่องที่เรียนมาในมอปลาย แต่ก็จะแฝงรายละเอียดที่เยอะกว่านั้นค่ะ เรื่องใหม่ๆก็มีค่ะ พยายามอ่านเนิ่นๆจะรอดค่ะ  เคมี วิชานี้สุดยอดมาก ไม่สามารถบรรยายได้นอกจากคำว่าสุดยอด(ในหลายๆด้าน) วิชานี้กำลังกายและใจต้องมีมาก ฟิสิกส์ โอเคค่ะ คณิตศาสตร์ แคล... ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจมาค่ะ มันจะมีบางวิชาด้วยที่เราเห็นว่ามันไม่จำเป็นเรียนไปทำไม ก็ขอบอกก่อนว่า จริงๆมันจำเป็นในอนาคตแน่นอนค่ะ แต่แค่ปัจจุบันเรายังไม่เห็นถึงความสำคัญของมันเองเฉยๆ เช่น วิชาสิ่งแวดล้อม ตอนแรกพี่ก็ไม่ค่อยสนใจมาก หรือมีความรู้เกี่ยวกับด้านนี้มากเท่าไร แต่หลังจากเรียนวิชานี้ ขอสารภาพว่ากลายเป็นคนรักโลกไปเลยค่ะ นักวิจัยส่วนใหญ่(ไม่ว่าสาขาไหนๆ) หรือบุคคลทั่วไป จะละเลยเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธรรมชาติ ภาวะโลกร้อน หรืออะไรก็ตามที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ เรียกว่าเป็นวิชาปลูกฝังดีกว่าค่ะ โดยรวมแล้วพี่ชอบสิ่งที่พี่เรียนอยู่เเต่ก็จะมีบางคนที่จะมีความเห็นต่างกันแต่ก็อย่างที่น้องๆรู้ว่าทุกอย่างมันมีสองด้าน แล้วแต่คนจะมองค่ะ

สงสัยอะไร ก่อนถามก็อยากให้อ่านรายละเอียดที่มีให้ชัดก่อนนะคะ ไม่ว่าจะในเว็บหลักหรือในกระทู้ แล้วถ้ายังมีข้อสงสัยอีกก็แนะนำให้ติดต่อกับทางคณะโดยตรงเพราะพี่ก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้เเล้ว หากสงสัยเรื่องการยื่นคะแนน ถามทางคณะค่ะ เพราะระบบพี่ไม่เหมือนปีน้องค่ะ ขออนุญาตไม่แอดไลน์ใครแล้วค่ะ (01/06/2018) หากจำเป็นต้องติดต่อจริงๆ เพราะในกระทู้ไม่มีรายละเอียด ขอเป็นอีเมลแทนนะคะ 

ขอให้โชคดีกับสิ่งที่น้องเลือกค่ะ :)

สามารติดต่อและดูรายละเอียดต่างๆได้ที่

Website: http://www.sc.mahidol.ac.th/SIM/
Facebook: SIM: International Bachelor Program, Faculty of Science, Mahidol University
(ส่งข้อความในเพจ Facebook ได้เลยนะคะ)
E-mail: ;
Phone: + 66 2 4419820 ext.1999