ระบบเสียง ใครว่าการศึกษาเป็นเรื่องยาก อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะต้องร้องอ๋อในทันทีเลย ที่จริงระบบเสียงที่เราใช้กันอยู่ ก็มีอุปกรณ์ที่สำคัญอยู่ไม่กี่อย่าง ที่เห็นว่ามันเยอะแยะหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นแค่การเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์ที่ทำงานเหมือนกัน เพื่อรองรับอุปกรณ์ได้เยอะขึ้น ให้เสียงดังขึ้น รองรับเครื่องดนตรีได้เยอะขึ้น และ การทำงานที่ง่ายขึ้นนั่นเอง โดยระบบเสียงในยุคปัจจุบันตั้งแต่เล็ก ๆ ระดับร้องคาราโอเกะ ไปจนถึงคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ ระดับประเทศล้วนมีอุปกรณ์พื้นฐานเหล่านี้ สารบัญ 5 อุปกรณ์หลักของระบบเสียง
1.ไมโครโฟน แน่นอนว่าในระบบเสียง ต้องมีไว้เพื่อขยายเสียงอะไรซักอย่าง นั่นก็คือเสียง “พูด” ยังไงละ แรกเริ่มเดิมที เครื่องขยายเสียง มีไว้เพื่อเพิ่มความดังเสียงของผู้พูด ให้ผู้ฟังจำนวนมากได้ยิน หรือ กระจาย ระบบเสียง เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ให้คนที่อยู่ไกลได้รับรู้ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป อุปกรณ์พวกนี้ ถูกใช้เพื่อความบันเทิงมากขึ้น ทั้งงานคอนเสริต เปิดเพลง ร้องคาราโอเกะ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย คือ ไมโครโฟน ไมโครโฟน ทำหน้าที่อะไร ? ไมโครโฟน ทำหน้าที่รับเสียง เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบเพื่อขยายต่อไป ถ้าเปรียบเทียบไมค์โครโฟน กับอวัยวะของคนก็คือ “หู” นั่นเอง ประเภทของไมโครโฟน การแบ่งประเภทของ ไมโครโฟน มีหลายแบบมาก ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เกณท์อะไรในการแบ่ง แต่ไมค์ 95% จะจัดอยู่ใน 2 ชนิดนี้เป็นหลัก ได้แก่
ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Sennheiser XS1 ฿2,240.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Shure SM58-LC ฿4,390.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) NTS B.58 ฿380.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Shure SV100 ฿1,090.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Lewitt MTP 250 DM ฿2,290.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Shure PGA48-LC ฿1,590.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Superlux TM58 ฿900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Sennheiser e835s ฿3,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) behringer SL 84C ฿720.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Sennheiser e935 ฿8,190.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) Shure SM58s ฿4,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย) sE Electronics V7 ฿3,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว) 2.มิกเซอร์ มิกเซอร์ ทำหน้าที่อะไร ? มิกเซอร์ แปลว่า ผสม หน้าที่หลักของ มิกเซอร์ในระบบเสียง คือ ผสมสัญญานเสียง จากหลาย ๆ ไมค์ แล้วส่งสัญญาณออกจากมิกเซอร์ไปสู่ระบบขยายต่อไป และมิกเซอร์ก็ยังมีหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับ ความแรงสัญญาณเสียงขาเข้า แต่งโทนเสียง EQ บาลานซ์เสียง หรือ การยกเอาพวกเอาท์บอร์ดเกียร์ หรือ เครื่องปรุงแต่งเสียง ใส่เข้าไปในมิกเซอร์ จนเป็น มิกเซอร์ดิจิตอล ในปัจจุบัน มิกเซอร์ เป็นอุปกรณ์ที่จะต้องมีผู้ควบคุม ปรับแต่ง อยู่ตลอดเวลา ที่เห็นได้ในคอนเสริตใหญ่ ๆ มีลำโพงนับร้อยใบ ถูกควบคุมผ่านคนเพียงคนเดียวคือ มือซาวด์ หรือ คนมิกซ์เสียงนั่นเอง สรุปหน้าที่ของ มิกเซอร์ คือ
ประเภทของ มิกเซอร์
สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า มิกเซอร์อนาล็อก ALESIS Multimix 8 USB FX ฿5,850.00 (รวม VAT 7% แล้ว) มิกเซอร์อนาล็อก ALTO ZMX 122 FX ฿3,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าเลิกผลิต สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า มิกเซอร์ดิจิตอล YAMAHA AG06 ฿7,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า มิกเซอร์ดิจิตอล Mackie DL16S ฿35,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า มิกเซอร์ดิจิตอล ALLEN&HEATH Avantis Series ฿622,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว) มิกเซอร์ดิจิตอล ALLEN&HEATH SQ5 ฿134,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) มิกเซอร์อนาล็อก TADA Fancy 8 ฿2,590.00 (รวม VAT 7% แล้ว) มิกเซอร์ดิจิตอล behringer X AIR XR16 ฿24,300.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า มิกเซอร์ YAMAHA AG03 ฿5,700.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สเตจบ็อก ALLEN&HEATH DX-168 ฿75,350.00 (รวม VAT 7% แล้ว) มิกเซอร์อนาล็อก RCF F 10XR ฿14,820.00 (รวม VAT 7% แล้ว) มิกเซอร์ดิจิตอล Studiomaster DigiLive16 ฿29,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) 3.เครื่องปรุงแต่งเสียง เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิธิภาพให้ระบบเสียงได้ดีมาก เปลี่ยนลำโพงเสียงไม่ดี ให้เสียงดีได้เหมือนเปลี่ยนผีให้เป็นคนอะไรประมาณนั้นเลย โดยคนไทยให้ฉายาอุปกรณ์ประเภทนี้ว่า “เครื่องปรุงแต่งเสียง” นั่นเอง จะมีลักษณะเป็นแท่นบาง ๆ มีปุ่มปรับเยอะ ๆ มักอยู่ในแรคซ้อนกันเป็นตั้ง ๆ หลายคนหลงไหลในระบบเสียงเพราะสิ่งนี้แหละ เครื่องปรุงแต่งเสียง ทำหน้าที่อะไร ? ก็ตามชื่อเลยครับ เอาไว้ปรับแต่งเสียง ไม่ว่าจะเป็น EQ คอมเพลสเซอร์ ครอสโอเวอร์ Gate Limiter ล้วนเป็นเครื่องปรุงแต่งเสียงทั้งสิ้น โดยหน้าที่ของแต่ละส่วนก็แตกต่างกันไป ในอดีตอุปกรณ์พวกนี้จะอยู่แยกกัน แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้รวมสิ่งเหล่านี้เข้ามาอยู่ในรูปแบบดิจิตอลหมดแล้ว โดยจำลองจากเครื่องปรุงแต่งเสียงแบบอนาล็อคตามนี้เลย EQ หรือ Equalizer
ครอสดิจิตอล หรือ ดิจิตอลโปรเซสเซอร์ ในยุคสมัยใหม่ ได้มีการรวมเอาอุปกรณ์ปรุงแต่งเสียงต่าง ๆ มารวมไว้ในรูปแบบดิจิตอลทั้งหมดแล้ว โดยที่คนไทย มักเรียกติดปากกันว่า ไดเวอร์แรค ครอสดิจิตอล นั่นเอง จะมีลักษณะเป็นแท่นขนาด 1U ด้านในใช้ชิพประมวลผลเพื่อเลียนแบบวงจรแบบอนาล็อก จึงมีฟังก์ชันครบครันในตัวเดียว สามารถบันทึกการตั้งค่าได้ในตัว ตู้ลำโพงส่วนมากจะแถมการตั้งค่าประจำตู้ สำหรับใช้กับโปรเซสเซอร์ที่เรียกกันว่า “พรีเซ็ต” เพื่อให้เสียงของตู้ดียิ่งขึ้นไปอีก ครอสโอเวอร์ดิจิตอล Marani DPA 260RTA ฿13,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ครอสโอเวอร์ดิจิตอล Marani DPA260P ฿10,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ครอสโอเวอร์ดิจิตอล dB MARK DP26+ ฿8,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ครอสโอเวอร์ดิจิตอล VL Audio V-DSP LM-26F ฿24,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ครอสโอเวอร์ดิจิตอล Marani MIR260A ฿16,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า Compressor เครื่องเสียง behringer MDX-2600 ฿6,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ครอสโอเวอร์ดิจิตอล Marani DPA480P ฿19,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ครอสโอเวอร์อนาล็อก dbx 234xs ฿9,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า Compressor เครื่องเสียง behringer XR-4400 GATE ฿7,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า Equalizer behringer FBQ-1502 ฿5,040.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า Equalizer behringer FBQ-6200 ฿8,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ครอสโอเวอร์ดิจิตอล Marani MIR480A ฿21,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) 4.เพาเวอร์แอมป์ หนึ่งในหัวใจหลักของระบบเสียง เป็นอุปกรณ์ที่เปรียบเสมือนขุมพลัง ของระบบเสียงเลยก็ว่าได้ กินไฟมากที่สุดในระบบเสียง ทำงานหนักที่สุด เป็นเครื่องยนต์ของระบบเสียงเลยก็ว่าได้ ในระบบเสียงแต่ละชุด จะใช้ปริมาณเพาเวอร์แอมป์ต่างกัน ทั้งจำนวน และ ขนาดในการใช้พาวเวอร์แอมป์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้ลำโพงมากน้อยเท่าไร ถ้าลำโพงเยอะ พาวเวอร์แอมป์ก็จะยิ่งเยอะตามไปด้วย เพาเวอร์แอมป์ มีหน้าที่อะไร ? หน้าที่ของเพาเวอร์แอมป์ คือ ขยายสัญญานให้มีกำลังมากพอ ที่จะทำให้ลำโพงมีเสียงได้ แน่นอนว่าสัญญานพูดที่เข้ามาที่ไมโครโฟนนั้นอ่อนมาก ถึงจะถูกขยายด้วยปรีไมค์ในมิกเซอร์ แล้วก็ยังมีกำลังไม่พอ ที่จะขยับดอกลำโพงใหญ่ ๆ ได้ ดังนั้นเพาเวอร์แอมป์จึงมารับช่วงต่อ กำลังของเพาเวอร์แอมป์นั้นบอกเป็น วัตต์ ยิ่งวัตต์สูงก็ยิ่งขับลำโพงได้ดังขึ้น หลายใบมากขึ้น แต่ก็มีขนาด และ น้ำหนักมากขึ้นเช่นเดียวกัน ใช้ เพาเวอร์แอมป์ กี่วัตต์ดี ? แนะนำให้วัตต์ RMS ของเพาเวอร์แอมป์ เท่ากับ วัตต์โปรแกรมของลำโพง อย่างน้อยควรเลือกให้วัตต์ RMS ของลำโพง และ เพาวเวอร์แอมป์เท่ากันพอดี แต่ให้เลือกเผื่อไว้ก่อนได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าถ้าวัตต์ของเพาเวอร์แอมป์มากเกินไป จะทำให้ดอกลำโพงขาด เราสามารถกำหนดกำลังขยายของเพาเวอร์แอมป์ได้ในภายหลัง
สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA VOK V15 ฿17,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว) เพาเวอร์แอมป์ PA MICROTECH MT-4800 ฿14,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA MICROTECH MT4-1500D ฿18,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA VL Audio VL 14000 ฿43,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA myNPE D-8004 ฿14,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์มิกเซอร์ myNPE Power Mixer GT-850 ฿7,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA Ce-anCe CA-2500 ฿4,450.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA VOK V17.5 ฿18,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA MICROTECH MT-4400 ฿9,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว) เพาเวอร์แอมป์ PA VL Audio VL 20000Q ฿47,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA CROWN XTi-1002 ฿29,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า เพาเวอร์แอมป์ PA VOK V20 ฿22,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) 5.ลำโพง ลำโพง อุปกรณ์ปลายสุดท้ายของระบบเสียง ลำโพงมีส่วนสำคัญมากที่จะบอกว่าระบบเสียงนั้นเสียง ดี และ ดัง มากแค่ไหน ในงานคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ มีการใช้ลำโพงหลายร้อยใบเพื่อให้เสียงมีความดังครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ลำโพงมักเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจำใช้เพาเวอร์แอมป์กี่แท่น ใช้โปรเซสเซอร์ตัวไหนถึงจะเหมาะ ดังนั้นแนะนำให้เลือกลำโพงก่อนเป็นอันดับแรกในการจัดชุดเครื่องเสียง ลำโพง มีหน้าที่อะไร ? ลำโพงมีหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง โดยอุดมคติแล้วลำโพงควรผลิตเสียงให้มีความเหมือน หรือ ใกล้เคียงกับสัญญานที่ป้อนเข้ามาให้มากที่สุด แต่ยิ่งลำโพงมีคุณภาพดีเท่าไร ก็ยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น แต่ในเทคโนโลยีปัจจุบันมีการใช้ครอสดิจิตอลเข้ามาช่วยเพื่อปรับแต่งคุณภาพเสียงให้ลำโพงเสียงดีขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตามการเลือกลำโพงที่เสียงดีตั้งแต่แรกก็เป็นผลดีกว่าการแก้โดยใช้โปรเซสเซอร์ ประเภทของลำโพง PA ลำโพง PA ที่เราเห็นทั่วไปจะมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ คือ 1.ตู้ลำโพงพอยซอร์ส (Point Souce Speaker) เป็นลำโพงรูปแบบดั้งเดิมที่สุด เกิดขึ้นในยุคแรก ๆ และ ยังเป็นที่นิยมมากอยู่ในปัจจุบัน ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากจุกจิก แค่เสียบสายก็ใช้งานได้ทันที ติดตั้งตรงระดับหูพอดี หรือ สูงกว่าระดับหูแล้วก้มตู้ลงเล็กน้อย แต่ลำโพงชนิดนี้จะเน้นใช้จำนวนน้อย ๆ เพราะ มีการกวนกันของตู้แต่ละใบมากถ้าใช้จำนวนมากกว่า 2 ใบต่อข้าง ทำให้โทนในแต่ละพื้นที่ในงานมีความแกว่งอ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
2.ตู้ลําโพง ไลน์อาเรย์ (Line Array Speaker) หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า ตู้ลำโพงแขวน นั่นเอง เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เจ๋งมาก จุดเด่นของลำโพงชนิดนี้คือ ความดัง และ โทนเสียง ในแต่ละพื้นที่ในงานใกล้เคียงกันมาก แถมยังสามารถใช้ลำโพงหลาย ๆ ใบมาต่อกันได้โดยที่เสียงไม่เละเหมือนการใช้ตู้ลำโพงพอยซอร์ส และ ได้ความดังที่สูงมาก ๆ ด้วย แต่ลำโพงชนิดนี้ต้องมีความรู้ความเข้าใจพอสมควรในการคำนวนองศาแขวน การเพิ่มจำนวนใบก็มีผลต่อโทนเสียงด้วย 3.ตู้ลำโพง ซับวูฟเฟอร์ ระบบเสียงจะดังสะใจได้ต้องใช้ลำโพงซับวูฟเฟอร์เป็นตัวสำคัญเลย ซับวูฟเฟอร์ช่วยในเรื่องของเสียงเบสที่ แน่น ตึบ ทำให้รู้สึกสนุก และ กระหึ่มมากขึ้นนั่นเอง คนไทยชอบเสียงซับมาก จะสังเกตุได้จากสัดส่วนของตู้เสียงเบสจะมากกว่ากลางแหลมเสมอ พาสซีพ (Passive) หรือ แอคทีพ (Active) ตู้ลำโพงก็จะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ อีกเช่นกันคือ พาสซีพ (Passive) และ แอคทีพ (Active)ตู้ลำโพงแอคทีพ (Active) ตู้ลำโพงแอคทีพ (Active) คือ ตู้ลำโพงที่เสียบปลั๊กแล้วพร้อมดังเลย จะมีเพาเวอร์แอมป์ในตัว ใช้งานง่าย ส่วนมากจะมีโปรเซสเซอร์ในตัวด้วยทำให้เสียงดีตั้งแต่แกะกล่องเลย และ มี Limiter ป้องกันดอกขาดมาให้ในตัว ทำให้ไม่ต้องซือเครื่องปรุงแต่งเสียงเพิ่มเลยตู้แอคทีพสังเกตุได้จากด้านหลังของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับเยอะกว่าตู้ปกติ และ ไม่ใช่แค่ตู้พอยซอร์สแบบเดียวที่มีแอมป์ในตัว ตู้ซับวูฟเฟอร์ ตู้ลำโพงไลน์อาเรย์ ก็มีแบบแอคทีพด้วยเช่นกัน ข้อดี– อุปกรณ์น้อยชิ้น– เสียงดีเลย- ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องอุปกรณ์แยก ข้อเสีย– ต้องมีปลั๊กไฟไปเลี้ยงลำโพง– โดนน้ำไม่ได้ ตู้ลำโพงพาสซีพ (Passive) ตู้ลำโพงพาสซีพ (Passive) เป็นลำโพงที่นิยมที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยความใช้งานง่าย เสียบสายลำโพงก็สามารถใช้งานได้ทันที ในระบบเสียงปัจจุบันก็มีการใช้กันเยอะ ลำโพงชนิดนี้ต้องใช้เพาเวอร์แอมป์แยกด้วย ถ้าต้องการใช้ร่วมกับซับก็ต้องใช้ครอสโอเวอร์ หรือ พวกเครื่องปรุงแต่งเสียงเพิ่มด้วย ข้อดี– ดูแลรักษาง่าย– พ่วงตู้ลำโพงง่าย- สามารถรวมเพาเวอร์แอมป์เป็นจุดเดียวได้ ข้อเสีย– เดินสายลำโพงยาวมากไม่ดี– ต้องใช้อุปกรณ์หลายชิ้นกว่า ตู้เสียงกลาง Passive Phantom PH115P ฿6,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้ลำโพง ไลน์อาเรย์ พาสซีฟ Turbosound BERLIN TBV123 ฿81,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Passive VL Audio VD-S118 ฿15,200.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้เสียงกลาง Passive Phantom PH112P ฿4,950.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Passive NEXO RS18 ฿346,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้เสียงกลาง Passive Turbosound TPX152 ฿9,450.00 (รวม VAT 7% แล้ว) ลำโพงมอนิเตอร์ เวที Passive River Acoustics Xmax M15 ฿10,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้เสียงกลาง Passive behringer EUROLIVE B215XL ฿14,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้เสียงกลาง Passive behringer EUROLIVE VP1220 ฿15,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้เสียงกลาง Passive NPE BT-10 ฿2,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้เสียงกลาง Passive AUDIOCENTER LUX515 ฿59,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สินค้าสั่งจอง สินค้าสั่งจองล่วงหน้า ตู้ลำโพง ไลน์อาเรย์ พาสซีฟ NEXO GEO M1220 ฿231,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว) สายสัญญาน และ สายลำโพง สายก็เป็นส่วนที่สำคัญมากในระบบเสียง เปรียบเหมือนเส้นประสาทที่คอยส่งสัญญานเสียงจากอุปกรณ์หนึ่งไปอุปกรณ์หนึ่ง หลายคนคงมีข้อสงสัยว่า ต่อยังไง ใช้สายแบบไหน ที่สำคัญคือหัวเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่มีให้เลือกหลายแบบมาก แต่ที่ใช้หลัก ๆ มีอยู่ไม่กี่อย่างโดยสายจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ สายสัญญานโดยทั่วไปจะใช้สายแบบ Balance มีตัวนำสัญญาน 2 เส้น คือสี น้ำเงิน แดง และมีอีกเส้น เป็นทองแดงที่ถักอยู่รอบ ๆ แกนสายเรียกว่า ชิล รวมทั้งหมดเป็น 3 เส้น จะมีการเข้าหัวอยู่หลายแบบ ส่วนใหญ่จะเข้าหัวแบบ XLR ด้านนึงเป็นตัวผู้ อีกด้านเป็นตัวเมีย สายลำโพงมีอย่างน้อย 2 แกน เป็นขั้ว + และ – ของลำโพง มีหลายขนาด ตั้งแต่ 0.5, 1, 2.5 มิลิเมตร ยิ่งสายลำโพงยาวเท่าไรต้องใช้สายเบอร์ใหญ่เท่านั้น สายลำโพงจะมีการเข้าหัวสำหรับเสียบลำโพง และ เพาเวอร์แอมป์ที่เรียกว่า SpeakON เหมือนกันทั้ง 2 ด้าน หัวการเชื่อมต่อเป็นอีกจุดที่ควรให้ความสำคัญ เพราะ มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา การที่ใช้หัวคุณภาพต่ำ ทำให้หลวม มีคราบสกปรกเข้าไปก็ทำให้สัญญานเดินได้ไม่ดีนัก เราสามารถดูหัวแจ็คก็รู้ได้เลยว่าอุปกรณ์ไหนสามารถใช้งานร่วมกันได้บ้าง ในระบบเสียงมาตรฐานจะมีอยู่ไม่กี่แบบตามนี้เลยXLR ตัวผู้หลายคนสับสนระหว่างตัวผู้-ตัวเมียของหัวชนิดนี้ ตัวผู้นั้นจะมีเดือย 3 อัน ยื่นออกมา ในระบบเสียงตัวผู้จะถูกต่ออยู่กับ Input ของอุปกรณ์ที่นำไปเชื่อมต่อ พูดง่าย ๆ คือ สัญญานเสียงจะวิ่งจากตัวเมียไปตัวผู้ของสายสัญญานอยู่เสมอ XLR ตัวเมียมีลักษณะเป็นรู 3 รู และ มีเดือยสำหรับล็อคด้วย ในระบบเสียง XLR ตัวเมียมักถูกเสียบอยู่กับขา Output ของุปกรณ์ที่นำไปเชื่อมต่ออยู่เสมอ สายที่ถูกใช้เยอะที่สุดคือสายที่มีหัว XLR นี่แหละ โดยด้านหนึ่งของสายจะเป็นตัวผู้อีกด้านจะเป็นตัวเมีย สเปคคอน (SpeakON)หัวเชื่อมต่อสำหรับลำโพงโดยเฉพาะ ใช้งานง่าย ป้องกันการต่อสายกลับเฟสได้ดีมาก เพราะ ถ้าเข้าหัวถูกต้องแล้ว ผู้ใช้มีหน้าที่แค่เสียบก็สามารถใช้งานได้ทันที ความพิเศษอีกอย่างของหัวชนิดนี้คือจะสามารถใช้กับสายลำโพง 4-8 คอร์ได้ในหัวเดียว นั่นหมายความว่าเราสามารถต่อลำโพง 2 ทาง ที่ใช้แอมป์ 2 แชนแนลในการขับในสายลำโพงเส้นเดียวได้เลย |