กจิ กรรม 1.1 กำเนิดและววิ ัฒนาการของเอกภพ จุดประสงคก์ จิ กรรม อธิบายการเปล่ียนแปลงสสารในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ตามววิ ัฒนาการของเอกภพ วัสด-ุ อปุ กรณ์ 1. แผนภาพแสดงการกำเนิดและววิ ฒั นาการของเอกภพตามทฤษฎบี ิกแบง 1 ชดุ 2. เอกสารความรู้ อนุภาคมูลฐาน 1 ชุด วธิ กี ารทำกจิ กรรม 1. ศึกษาเอกสารความรู้ อนุภาคมูลฐาน และศึกษาการเปลี่ยนแปลงระหว่างสสารในช่วงเวลาต่าง ๆ ตาม วิวัฒนาการของเอกภพ พร้อมสังเกตการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และขนาดของเอกภพ จากแผนภาพท่ี กำหนด 2. วิเคราะห์และระบสุ สารทีพ่ บในแตล่ ะช่วงเวลาของววิ ัฒนาการลงในแบบบันทึกกิจกรรม 3. สรุปและนำเสนอผลการทำกจิ กรรม ใบความรู้ อนภุ าคมลู ฐาน (Elementary particle) หมายถงึ หนว่ ยทีเ่ ลก็ ท่สี ดุ ของอะตอมซง่ึ ไมส่ ามารถแบ่งยอ่ ยได้อกี หน้า | 1 แบบบันทกึ กิจกรรม 1.1 กำเนิดและววิ ฒั นาการของเอกภพ เตมิ เคร่ืองหมาย ลงในช่อง o ดังตารางท่ีกำหนด เพือ่ ระบุสสาร หรอื พลังงานทีพ่ บในแต่ละ สง่ิ ท่ีพบในช่วงเวลาตา่ ง ๆ 10-43 – 10-32 วนิ าที 10-32 – 10-6 วนิ าที 10-6 วินาที - 3 3 นาที -300,000 ปี 300,000 ปี - 1,000- 13,800 ฮเี ลียม ฮเี ลยี ม o อะตอมของ o อะตอมของ ไฮโดรเจน ไฮโดรเจน o อะตอมของ o อะตอมของ ฮีเลยี ม ฮีเลียม o กาแล็กซี o กาแลก็ ซี หนา้ | 2 คำถามท้ายกิจกรรม 1. หลงั จากเกดิ บิกแบง อณุ หภูมขิ องเอกภพมีการเปลยี่ นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร 2. หลังจากเกิดบกิ แบง ขนาดของเอกภพมกี ารเปลยี่ นแปลงหรือไม่ อยา่ งไร 3. เริ่มพบอนุภาคมูลฐานในเอกภพเม่อื เวลาใด 4. โปรตอนและนวิ ตรอนเร่ิมเกิดข้นึ ในระยะเวลาห่างจากชว่ งเวลาที่เรม่ิ พบอนภุ าคมลู ฐานประมาณเทา่ ใด 5. เอกภพในช่วงทีพ่ บ โปรตอน และนวิ ตรอนมอี ณุ หภมู ติ ่างจากช่วงพบอนุภาคมูลฐานหรอื ไม่ อยา่ งไร 6. นิวเคลยี สของไฮโดรเจนและนิวเคลียสของฮเี ลยี มเกดิ พรอ้ มกันหรือไม่ อย่างไร และสัมพนั ธก์ ับอณุ หภูมิของ 7. ขณะเกิดอะตอมของไฮโดรเจนและอะตอมของฮีเลียม อุณหภูมมิ คี วามแตกต่างกับขณะเกิดนิวเคลียสของ หน้า | 3 แบบบนั ทกึ กิจกรรม 1.2 แบบจำลองการขยายตัวของเอกภพ 1. บนั ทึกระยะทางจากกาแล็กซีอ้างองิ ไปยงั กาแลก็ ซี ข ค ง จ ฉ และคำนวณความเร็วในการเคลอ่ื นที่ กาแลก็ ซี ระยะทางจากกาแล็กซีอา้ งองิ (cm) ผลต่างของ ความเร็วในการเคลอื่
นที่* หมายเหตุ ในกจิ กรรมน้ใี ช้ความเรว็ แทนอัตราเร็วเพอ่ื คงความหมายตามศักทภ์ าษาอังกฤษ recessional สรปุ
ผลการทดลอง หน้า | 4 2. เขียนกราฟความสมั พนั
ธ์ระหวา่ งระยะทางระหว่างกาแลก็ ซอี ้างอิงกับกาแล็กซตี า่ ง ๆ หลังจากการเป่าลกู โป่ง O1 ทคทำำถทาทมททก*้า*ยทกทจิ กรรม มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หน้า | 5 กิจกรรม 1.2 แบบจำลองการขยายตัวของเอกภพ จุดประสงคก์ ิจกรรม 1. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วในการเคลื่อนที่ของกาแล็กซีจำลองและระยะทางจากกาแล็กซี อ้างองิ วสั ด-ุ อุปกรณ์ 1 ลกู 3. กระดาษกราฟ 1 แผ่น 5. เชือก 1 เส้น 1. สรา้ งแบบจำลองของเอกภพ ดงั น้ี 1.2 เปา่ ลกู โปง่ ให้มขี นาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางประมาณ 10 เซนตเิ มตร และเขยี นสญั ลกั ษณ์ ข ค ง จ ฉ กำกบั 1.5 นำสตกิ เกอร์จากขอ้ 1.3-1.4 มาติดใหก้ ระจายทว่ั ลูกโปง่ 2 วดั ระยะทางท่ีสั้นท่สี ดุ จากกาแล็กซอี
้างอิงไปยังกาแล็กซี ข ค ง จ และ ฉ และบนั ทึกผล เช่นเดยี วกับขอ้ 2 และบันทึกผล 4. หาผลต่างของระยะทางจากกาแล็กซีอ้างอิงไปยังกาแล็กซี ข ค ง จ ฉ ที่วัดได้ในข้อ 2 และข้อ 3 พร้อม 5. คำนวณหาความเร็วของการเคล่ือนที่ของกาแลก็ ซี ข ค ง จ ฉ และบันทกึ ผล ลกู โปง่ กบั ความเรว็ ของกาแลก็ ซีตา่ ง ๆ หน้า | 6 กจิ กรรมเสนอแนะ โครงสรา้ งกาแล็กซที างชา้ งเผอื ก จุดประสงค์ วสั ด-ุ อปุ กรณ์ 1 ชดุ วธิ ีการทำกจิ กรรม แบบบันทึกกจิ กรรมเสนอแนะ โครงสรา้ งกาแลก็ ซีทางช้างเผอื ก 1. นำคำที่กำหนดให้ระบลุ งในแผนภาพเพ่อื อธบิ ายโครงสรา้ งกาแล็กซที างชา้ งเผือก 2. นำคำทีก่ ำหนดให้ขา้ งตน้ เตมิ ในชอ่ งว่างหน้าขอ้ ความให้สอดคล้องกบั คำอธบิ าย หน้า | 7 เอกสารความรกู้ จิ กรรมเสนอแนะ โครงสรา้ งกาแล็กซีทางชา้ งเผือก กาแล็กซีทางช้างเผือกมีรูปร่างเป็นกังหันมีคานมีโครงสร้างประกอบด้วยนิวเคลียส จานและฮาโล มี นิวเคลียส (nucleus) เป็นส่วนที่อยู่ใจกลางของกาแล็กซี มีขนาดเล็ก บริเวณรอบ ๆ นิวเคลียสจะมี จาน (disk) เป็นส่วนที่อยู่ล้อมรอบนิวเคลียส ประกอบด้วยแขนของกาแล็กซีและส่วนที่เป็นระนาบ ฮาโล (Halo) หรือ กลดดาราจักร อยู่ล้อมรอบนิวเคลียสและจานของกาแล็กซี โดยกลดดาราจักรมี หน้า | 8 กจิ กรรม 2.1 ปัจจัยทส่ี ่งผลต่อความสว่าง จดุ ประสงค์กจิ กรรม วสั ด-ุ อุปกรณ์ 1 หลอด วธิ ีการทำกิจกรรม 1. จดั ชดุ การทดลองโดยวางหลอดไฟฟ้าทม่ี ีกำลังไฟฟา้ 100 วัตต์ ใหห้ ่างจากลกั ซ์มเิ ตอร์ 50 เซนตเิ มตร 2. ปดิ ไฟในหอ้ งทกุ ดวง จากน้ันเปดิ สวิตซ์หลอดไฟฟ้าที่มกี ำลงั ไฟฟ้า 100 วตั ต์ และอา่ นค่าความสว่าง 3. ทำเช่นเดยี วกบั ข้อ 1 - 2 แตเ่ ปลีย่ นเป็นหลอดไฟฟ้าทมี่ ีกำลังไฟฟ้า 60 วตั ต์และ 25 วตั ต์ อ่านค่าความส่อง 4. ทำเชน่ เดยี วกับข้อ 3 แต่เปลยี่ นระยะทางเปน็ 75 100 และ 125 เซนติเมตร ตามลำดบั อา่ นค่าความส่อง 5. เปรียบเทียบความสว่างของหลอดไฟฟา้ ทีม่ กี ำลังไฟฟ้าต่างกนั ทร่ี ะยะทางเท่ากัน หน้า | 9 แบบบันทึกกจิ กรรม 2.1 ปัจจยั ท่ีสง่ ผลต่อความสวา่ ง สมมุตฐิ
าน บนั ทกึ ผลการทดลอง ตารางบันทึกผล กำลงั ไฟฟ้า (W) ความสว่าง ตารางบนั ทกึ ผล ระยะหา่ ง(cm) ความสว่าง (lx) 50 สรุปผลการทดลอง หนา้ | 10 คำถามทา้ ยกิจกรรม หนา้ | 11 กจิ กรรม 2.2 สี อณุ หภูมผิ ิวและชนดิ สเปกตรมั ของดาวฤกษ์ จุดประสงค์กิจกรรม วัสด-ุ อุปกรณ์ วิธกี ารทำกจิ กรรม ชือ่ ดาว สผี วิ อณุ หภูมผิ วิ โดยประมาณ 2. เรยี งลำดับดาวตามอณุ หภูมผิ วิ จากอณุ หภมู ิสูงไปอุณหภมู ติ ่ำ 3. ระบชุ นิดสเปกตรัมของดาวฤกษ์ทีก่ ำหนดให้สมั พันธก์ บั สีและอุณหภมู ผิ ิว หนา้ | 12 แบบบันทึกกจิ กรรม 2.2 สี อณุ หภมู ผิ ิวและชนดิ สเปกตรมั ของดาวฤกษ์ เรียงลำดบั
ดาวฤกษ์ตามอุณหภูมิผิวจากอุณหภูมสิ งู ไปอุณหภูมิตำ่ พร้อมท้ังระบุข้อมูลสี ชนิดสเปกตรมั อณุ หภูมผิ ิว (เคลวิน) จำแนกไดเ้ ปน็ ………………กลมุ่ ดงั
น้ี………………………………………………………………………………………….......... หนา้ | 13 คำถามท้ายกจิ กรรม 1. ดาวฤกษ์ทม่ี ีอณุ หภูมผิ วิ สงู
สดุ มสี ใี ด และมสี เปกตรมั ชนิดใด 2. ดาวฤกษท์ ่ีมีอุณหภมู ผิ ิวตำ่ ทส่ี ุดมีสีใด และมสี เปกตรัมชนดิ ใด 3. ดวงอาทิตยเ์ ปน็ ดาวฤกษ์ทีม่ ีสีใด และมสี
เปกตรัมชนิดใด 4. อณุ หภูมผิ วิ ของดาวมีความสัมพนั ธ์กบั สแี ละสเปกตรมั ของดาวอย่างไร เอกสารประกอบกจิ กรรม 2.2 สี อุณหภมู ิผิวและชนดิ สเปกตรมั ของดาวฤกษ์ ชนิดสเปกตรัม สี อุณหภูมิผิวโดยประมาณ หน้า | 14 กิจกรรม 2.3 กำเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 2.3 กำเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ แผนภาพแสดงวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ทม่ี มี วลตงั้ แต่ 25 เท่ามวลดวงอาทติ ยข์ ้นึ ไป ตดิ ภาพ แผนภาพแสดงววิ ฒั นาการของดาวฤกษท์ ี่มีมวลตั้งแต่ 9 ถึงน้อยกวา่ 25 เท่ามวลดวงอาทติ ย์ ติดภาพ แผนภาพแสดงวิวัฒนาการของดาวฤกษท์ ีม่ ีมวลตง้ั แต่ 0.08 ถึงน้อยกว่า 9 เท่ามวลดวงอาทติ ย์ ตดิ ภาพ หนา้ | 15 คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. ดาวฤกษท์ ี่มมี วลนอ้ ย และดาวฤกษท์ ีม่ ีมวลมากมีวิวฒั นาการเหมอื นกัน หรือแตกตา่ งกันอย่างไร เอกสารความรกู้ จิ กรรม 2.3 กำเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ วิวฒั นาการและจุดจบของดาวฤกษ์ข้นึ อยู่กับมวลตั้งต้นของดาวฤกษ์ โดยดาวฤกษ์ท่ีมีมวลมากจะมีมี ดาวฤกษท์ ี่มีมวลต้งั แต่ 25 เท่าของมวลดวงอาทิตยข์ ้นึ ไป มีสนี ำ้ เงนิ เม่ือดาวฤกษใ์ ช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ดาวฤกษท์ ีม่ ีมวลต้งั แต่ 9 ถงึ น้อยกว่า 25 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ เม่ือดาวฤกษ์ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ท่มี ีมวลต้งั แต่ 0.08 ถงึ นอ้ ยกว่า 9 เท่าของมวลดวงอาทิตยห์ รอื มวลใกล้เคียง หน้า | 16 กจิ กรรม 3.1 กำเนดิ ระบบสุรยิ ะ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วสั ด-ุ อปุ กรณ์ 1 ชดุ วธิ ีทำกจิ กรรม สัมพนั ธก์ ับขน้ั ตอนต่าง ๆ ในกระบวนการเกิดระบบสรุ ยิ ะในแบบบนั ทึกกิจกรรม 3. เขียนคำอธบิ ายการเกดิ ระบบสรุ ยิ ะตามแผนภาพทกี่ ำหนด 4. นำเสนอผลการทำกิจกรรม หน้า | 17 แบบบันทกึ กิจกรรม 3.1 การเกิดระบบสุรยิ ะ จงเลอื กคำจากชุดขอ้ ความเตมิ ลงในช่องวา่ งของแผนภาพ 1. พุธ ศุกร์ โลก องั คาร 2. เนบิวลาสรุ ิยะ 3. ยเู รนสั เนปจูน 4. ดวงอาทติ ย์ 5. แถบไคเปอรแ์ ละดงดาวหาง 6. แถบดาวเคราะหน์ อ้ ย หนา้ | 18 จงอธบิ ายการเกิดระบบสรุ ิยะตามแผนภาพทีก่ ำหนด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำถามทา้ ยกิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… กจิ กรรมเสนอแนะ โครงสร้างดวงอาทติ ย์ จุดประสงค์กจิ กรรม วสั ด-ุ อปุ กรณ์ 1 ชุด วิธกี ารทำกจิ กรรม หน้า | 19 แบบบนั ทกึ กิจกรรมเสนอแนะ โครงสรา้ งดวงอาทิตย์ 1. จากเอกสารความรู้ข้างต้น ตอบคำถามตอ่ ไปน้ี โฟโตสเฟยี ร์ เขตพาความรอ้ น โครโมสเฟียร์ แกน่ คอโรนา เขตการแผ่รังสี 1. ระบโุ ครงสรา้ งของดวงอาทิตยล์ งในช่องว่างให้สอดคล้องกับแผนภาพที่กำหนด ........................ 2.1 เปน็ บรเิ วณทเ่ี กดิ ปฏกิ ริ ยิ าเทอรม์ อนวิ เคลียร์ หนา้ | 20 เอกสารความร้กู ิจกรรมเสนอแนะ โครงสรา้ งดวงอาทติ ย์ โครงสร้างของดวงอาทติ ย์แบ่งออกเป็น 2 สว่ นใหญ่ ๆ คอื 1.1 แก่น (core)
เป็นชั้นในสุดของดวงอาทิตย์ อุณหภูมิประมาณ 15 ล้านเคลวินมคี วามหนาแน่นสูง 1.2 เขตการแผ่รังสี (radiation zone) เป็นชั้นท่ถี ัดจากแก่นออกมา มคี วามหนากวา่ ช้ันอ่นื มอี ุณหภูมิ 1.3 เขตพาความร้อน (convection zone) เป็นชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์
เกิดการพาพลังงานจาก 2) ช้ันบรรยากาศของดวงอาทิตย์ แบง่ เป็น 3 ชนั้ คือ 5,800 เคลวิน หนาประมาณ 400 กิโลเมตร ประกอบด้วยแก๊สร้อนซึ่งเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เป็นบริเวณที่ 2.2 ชั้นโครโมสเฟียร์ (chromosphere) เป็นชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโฟโตสเฟียร์ไว้ หนาประมาณ 2.3 คอโรนา (corona)
เป็นบรรยากาศชั้นนอกสุดซึ่งมีความหนาแน่นน้อยกว่าชั้นโครโมสเฟียร์ หนา้ | 21 กิจกรรมเสนอแนะ ดาวเคราะหน์ อกระบบสรุ ยิ ะ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วสั ด-ุ อปุ กรณ์ วธิ กี ารทำกจิ กรรม 1. ศึกษาข้อมลู ดาวเคราะห์นอกระบบสุรยิ ะเทียบกบั ขอ้ มูลของโลก จากตารางท่ีกำหนด วัตถุ ดาวแม่ ชนดิ มวลของดาวแม่ มวลดาว รศั มดี าว อุณหภมู ิ คาบการโคจร ระยะทาง โลก ดวงอาทติ ย์ G 1 1.00 1.00 -17 365.24 1.00 Trappist-1e Trappist-1 M 0.08 0.77 0.9 -27 * อุณหภูมขิ องดาวเคราะห์เมอ่ื พิจารณาใหด้ าวเคราะหป์ ราศจากปรากฏการณ์แก๊สเรอื นกระจก 2. วเิ คราะห์และอภปิ รายถึงดาวเคราะหท์ ่กี ำหนดให้ 3. นำเสนอผลการอภิปรายผล แบบบนั ทึกกิจกรรมเสนอแนะ ดาวเคราะหน์ อกระบบสุรยิ ะ คำถามทา้ ยกจิ กรรม หน้า | 22 กจิ กรรม 4.1 กลอ้ งโทรทรรศนท์ ใ่ี ชศ้ ึกษาวัตถุทอ้ งฟา้ ในช่วง จุดประสงค์กจิ
กรรม วัสด-ุ อุปกรณ์ 1 แผ่น วิธกี ารทำกิจกรรม 1. ศกึ ษาเอกสารความรู้ 1 กลอ้ งโทรทรรศนแ์ ละวัตถทุ ้องฟา้ ในชว่ งความยาวคลื่นต่าง ๆ จากเอกสารความรู้ 1 2. เขียนชื่อกลอ้ งโทรทรรศนแ์ ต่ละชนดิ และวัตถุทอ้ งฟา้ ทศ่ี ึกษา ลงบนแถบสเปกตรมั ของคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า 3. ศึกษาเอกสารความรู้ 2 และตดิ ภาพเนบวิ ลาปทู ่ีกำหนดให้สัมพันธ์กับสเปกตรมั ของคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า กล้องโทรทรรศนแ์ ต่ละชนดิ หนา้ | 23 แบบบันทึกกจิ กรรม 4.1 กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคล่นื ต่าง ๆความยาวคล่นื วัตถทุ อ้ งฟา้ ที่ศกึ ษาในแต่ละชว่ งคลื่น ……………………….…… ……………………….…… ……………………….…… ……………………….…… 2. ภาพเนบวิ ลาปทู ี่สำรวจได้ในแต่ละชว่ งคลื่น กล้องโทรทรรศนแ์ บง่ ไดเ้ ป็น………………. ประเภท
ได้แก่ คำถามท้ายกจิ
กรรม หน้า | 25 เอกสารความรู้กจิ กรรม 4.1 กล้องโทรทรรศน์ในชว่ งความยาวคลนื่ ตา่ ง ๆ กล้องโทรทรรศน์วิทยุฟาสต์ (FAST telescope)
กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กลอ้ งโทรทรรศน์อวกาศฮบั เบิล (Hubble Space telescope) กล้องโทรทรรศนท์ ่ใี ช้สังเกตการณ์ได้ กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ (Spitzer Space Infrared telescope) กล้องโทรทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา (Chandra X-ray Observatory) กล้องโทรทรรศน์ชนิดน้ี กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ (James Webb Space telescope) เป็นกล้องโทรทรรศน์ หนา้ | 26 เอกสารความร้กู ิจกรรม 4.1 เนบิวลาปู เนบิวลาปูอยู่ห่างจากโลกราวๆ 6,500 ปีแสงในกลุ่มดาววัว เกิดจากเศษซากที่หลงเหลืออยู่จากการ พลังงานจากซูเปอร์โนวาและดาวนิวตรอนทำให้เนบิวลาปูเกิดการแผ่รังสีออกมาในทุกช่วงคลื่น เนบิวลาปูอยู่ห่างจากโลกราวๆ 6,500 ปีแสงในกลุ่มดาววัว เกิดจากเศษซากที่หลงเหลืออยู่จากการ พลงั งานจากซูเปอรโ์ นวาและดาวนิวตรอน ภาพทางด้านขวาเปน็ เนบวิ ลาปูที่ตรวจวัด ส ำ ห ร ั บ ใ น ช ่ ว ง ค ล ื ่ น แ ส ง ท ี ่ ต า ม อ ง เ ห็ น หนา้ | 27 กิจกรรมเสนอแนะ การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ จดุ ประสงคก์ จิ กรรม วสั ด-ุ อปุ กรณ์ วธิ กี ารทำกจิ กรรม แบบบนั ทึกกิจกรรมเสนอแนะ การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ ระบวุ ัสดทุ ไ่ี ดจ้ ากเทคโนโลยอี วกาศลงในตาราง เทคโนโลยอี วกาศ ไม่ใชเ่ ทคโนโลยีอวกาศ หนา้ | 28 แบบบันทึกกจิ กรรมเสนอแนะ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ จากเอกสารความรู้วัสดทุ ใี่ ชใ้ นการสร้างยานอวกาศ นำองคค์ วามรดู้ งั กล่าวมาออกแบบผลิตภัณฑ์ วัสดุ หนา้ | 29 เอกสารความรกู้ จิ กรรมเสนอแนะ วัสดทุ ใ่ี ช้ในการสรา้ งยานขนส่งอวกาศ เมื่อยานขนส่งอวกาศเปลี่ยนวงโคจร หนา้ | 30 กจิ กรรมเสนอแนะ การปรากฏของทางช้างเผือก จดุ ประสงค์กิจกรรม ระบวุ ันเวลาทส่ี งั เกตเหน็ ทางช้างเผือกชัดเจน วัสด-ุ อุปกรณ์ วธิ ีการทำกจิ กรรม แบบบนั ทึกกจิ กรรม การปรากฏของทางชา้ งเผอื ก วนั ท่ี เวลาทใ่ี จกลางทางช้างเผอื กอยทู่ ขี่ อบฟา้ 15 มกราคม ตะวันออก ตะวนั ตก ตะวันออก ตะวันตก หนา้ | 31 |