การสอนแบบโครงงานระดับปฐมวัย การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ หรือการค้นคว้าหาคำตอบในสิ่งที่ผู้เรียนอยากรู้หรือสงสัยด้วยวิธีการต่างๆ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้เลือกศึกษาตามความสนใจของตนเองหรือของกลุ่ม เป็นการตัดสินใจร่วมกัน จนได้ชิ้นงานที่สามารถนำผลการศึกษาไปใช้ได้ในชีวิตจริง ความหมายของโครงงาน โครงงาน เป็นกระบวนการแก้ปัญหา หรือตอบข้อสงสัยในเรื่องที่อยากรู้โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการเขียนโครงงาน มีดังนี้ 1. เมื่อนักเรียนเกิดปัญหา 2. นักเรียนก็ตอบปัญหาชั่วคราว ( ตั้งสมมติฐาน) 3. นักเรียนจะต้องออกแบบทดลอง เพื่อพิสูจน์ปัญหาว่าจริงหรือไม่ 4. นักเรียนทำการทดลอง หรือศึกษาค้นคว้า เพื่อสรุปผลโดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 4.1 ถ้าคำตอบไม่ตรงกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ ก็ตั้งสมมุติฐานใหม่ และออกแบบการทดลอง เพื่อพิสูจน์ปัญหา และการทดลอง หรือศึกษาค้นคว้าเพื่อสรุปผลใหม่ 4.2 เมื่อคำตอบตรงสมมุติฐาน ก็จะทำให้ได้ความรู้ใหม่ และเกิดคำถามใหม่ 5. นำผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ลักษณะสำคัญของกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กปฐมวัย
สืบค้น หรือทดลอง และบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบด้วยวิธีที่เหมาะสมกับวัย
คำอธิบายที่มีเหตุผล
ความสามารถ ประโยชน์ของการทำโครงงาน 1. ฝึกให้นักเรียนมีความรู้ ความชำนาญ และมีความมั่นใจ ในการนำเอาวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง 2. รู้จักตอบปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผล 3. เป็นการฝึกฝนให้ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองในเรื่องที่ตนสนใจได้อย่างลึกซึ้ง 4. ทำให้ได้แสดงความสามารถพิเศษของตนเอง 5. ทำให้นักเรียนสนใจในรายวิชานั้นๆ มากยิ่งขึ้น 6. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ประเภทของโครงงาน โครงงานแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1. โครงงานประเภทการสำรวจและรวบรวมข้อมูล 2.โครงงานประเภททดลอง 3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ 4. โครงการประเภททฤษฎี เป็นการใช้จินตนาการของตนเองมาอธิบายหลักการหรือแนวคิดใหม่ๆ 1. โครงงานประเภทการสำรวจและรวบรวมข้อมูล โครงงานประเภทนี้ผู้ทำโครงงานเพียงต้องการสำรวจ และรวบรวมข้อมูล แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาจำแนกเป็นหมวดหมู่ และนำเสนอในรูปแบบต่างๆเพื่อให้เห็นในลักษณะหรือความสัมพันธ์ในเรื่องที่ต้องการศึกษาให้ชัดเจน โครงงานประเภทสำรวจข้อมูล ไม่จำเป็นต้องมีตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้อง นักเรียนเพียงสำรวจรวบรวมข้อมูล แล้วนำข้อมูลที่ได้มาจัดให้เป็นหมวดหมู่และนำเสนอ ก็ถือว่าเป็นการโครงงานประเภทสำรวจรวบรวมข้อมูลแล้ว 2.โครงงานประเภททดลอง ในการทำโครงงานการประเภททดลอง จะต้องจัดการกับตัวแปรที่มีผลต่อการทดลอง จะต้องจัดการกับตัวแปรที่มีผลต่อการทดลอง คือ 1) ตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระ หมายคือเหตุของการทดลอง หรือข้อสงสัย 2) ตัวแปรตาม คือ ผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรต้น หรือผลจากข้อสงสัย 3) ตัวแปรควบคุม หมายถึง สิ่งที่ต้องควบคุมให้เหมือนๆกัน มิฉะนั้นจะมีผลทำให้ตัวแปรตามเปลี่ยนไป 4) ตัวแปรแทรกซ้อน คือตัวแรควบคุมที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งจะมีผลแทรก ซ้อน ทำให้ผลการทดลองผิดไป ตัวอย่าง นักเรียนต้องการศึกษาว่าใบไม้ชนิดใดห่ออาหารและขนมได้ดีที่สุด ตัวแปรต้น คือ ชนิดของใบไม้ ตัวแปรตาม คือใบไม้ที่มีความเหนียวนุ่ม ตัวแปรควบคุม คือ ชนิดของอาหารและขนม ปริมาณอาหารและขนม ตัวแปรแทรกซ้อน คือ ความชื้นแฉะของอาหารหรือขนม ตัวอย่าง โครงงานเพาะถั่วงอก จุดประสงค์ ต้องการศึกษาว่าวัสดุประเภทใดใช้เพาะถั่วงอกแล้วงอกดีที่สุด ตัวแปรต้น วัสดุหลายๆ ประเภท ตัวแปรตาม ปริมาณถั่วงอก 3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ เป็นการนำเอาความรู้ที่มีอยู่มาประดิษฐ์หรือสร้างสิ่งใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการเขียนหนังสืออ่านประกอบหรือหนังสืออ่านเพิ่มเติม การแต่งคำประพันธ์ การแต่งเพลง การแต่งบทละครอื่นๆ ตัวอย่าง โครงงานการประดิษฐ์กระทง โครงงานแต่งหนังสือนิทาน 4. โครงการประเภททฤษฎี เป็นการใช้จินตนาการของตนเองมาอธิบายหลักการหรือแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งอธิบายในรูปสูตร หรือสมการ หรืออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่สามารถอธิบายได้โดยใช้หลักการเดิม แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานสามารถจัดได้หลายแนวทางแนวทาง แต่โดยทั่วไปแล้วการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานมี 2 แนวทาง ดังนี้ 1. การจัดกิจกรรมตามความสนใจ เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนเลือกศึกษาโครงงานจากสิ่งที่สนใจอยากรู้ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน สิ่งแวดล้อมในสังคม หรือจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ยังต้องการคำตอบ ข้อสรุป ซึ่งอาจจะอยู่นอกเหนือจากสาระการเรียนรู้ในบทเรียนของหลักสูตร 2. การจัดกิจกรรมตามสาระการเรียนรู้ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยยึดเนื้อหาสาระตามที่หลักสูตรกำหนด ผู้เรียนเลือกทำ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานมีขั้นตอนที่ผู้สอนดำเนินการดังต่อไปนี้ การเลือกเรื่องควรเน้นให้นักเรียนเลือกเรื่องที่นักเรียนสนใจบางครั้งครูก็สามารถเลือกเรื่องที่จะให้นักเรียนทำโครงงาน เช่น - รวบรวมคำศัพท์ที่มีใช้ในหนังสือพิมพ์ - รวบรวมชื่อดอกไม้ในโรงเรียน - รวบรวมคำที่เป็นภาษาถิ่นในท้องถิ่น - รวบรวมการละเล่นพื้นบ้านของเด็กในท้องถิ่น - รวบรวมปริศนาคำทายในท้องถิ่น - รวบรวมนิทานในท้องถิ่น เมื่อได้หัวข้อเรื่องแล้วครูนำหัวข้อเรื่องดังกล่าวมาเขียนแผนการจัดประสบการณ์ การเขียนรายงานโครงงาน รูปแบบของการเขียนรายงานโครงงานมีหลากหลายรูปแบบ สำหรับเด็กปฐมวัยรูปแบบของการเขียนรายงานโครงงานอาจไม่จำเป็นต้องมีครบทุกหัวข้อ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการทำโครงงานของเด็ก ดังนี้ 1) ชื่อโครงงาน 2) ชื่อผู้ทำโครงงาน 3) ระดับชั้น 4) ชื่อครูที่ปรึกษา 5) โรงเรียน 6) วัน เดือน ปี ที่ทำโครงงาน 7)ที่มาและความสำคัญของโครงงาน/ ปัญหาหรือเหตุจูงใจในการทำโครงงาน 8) กิจกรรมระยะที่ 1 9) กิจกรรมระยะที่ 2 10) WEB ย่อย กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละวัน 11) กิจกรรมระยะที่ 3 12) ประเมินผล การนำเสนอโครงงาน การนำเสนอโครงงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะสะท้อนการทำงานของเด็ก ความรู้ความเข้าใจ หรือองค์ความรู้ที่ได้รับ เป็นการส่งเสริมความกล้าแสดงออก การเสนอผลงานมีหลายรูปแบบหลายลักษณะ เช่น บรรยายประกอบแผงนำเสนอโครงงาน การจัดนิทรรศการ และจัดนิทรรศการประกอบแผงโครงงาน การนำเสนอผลจากการศึกษาหรือการทำโครงงานสำหรับเด็กปฐมวัยไม่จำเป็นต้องมีครบทุกหัวข้อ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการทำโครงงานของเด็ก ตัวอย่างแผงนำเสนอโครงงาน โครงงานเรื่อง…………… ที่มาและความสำคัญ วิธีดำเนินการ ............................................. .................................................... ผู้จัดทำ.................................... วัตถุประสงค์ ผลการศึกษา ครูที่ปรึกษา............................ 1……………….………….. 1………………………………. 2............................................ 2................................................ โรงเรียน................................. อุปกรณ์.................................. สรุป............................................ ............................................... ................................................... การวัดผลประเมินผลการจัดประสบการณ์แบบโครงงาน ขั้นประเมินผล หมายถึง ขั้นการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง โดยให้บรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ โดยมีครู ผู้เรียนและเพื่อนร่วมกันประเมิน การประเมินผลโครงงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะจะเป็นขั้นตอนที่สะท้อนการ ทำงานของเด็ก ความรู้ความเข้าใจหรือองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการทำโครงงาน เป็นการฝึกบุคลิกในการนำเสนออย่างง่ายๆ ฝึกความกล้าแสดงออก ความมั่นใจในตนเอง ท่วงทีวาจาปฏิภาณไหวพริบ รวมทั้งฝึกการเป็นผู้รับฟังที่ดีด้วย การวัดผลประเมินผลการจัดประสบการณ์แบบโครงงานเป็นการประเมิน 2 ด้าน ดังนี้
1. การประเมินพัฒนาการผู้เรียน การประเมินรูปแบบนี้เป็นการประเมินพัฒนาการคุณลักษณะที่พึงประสงค์ คุณลักษณะตามวัยของผู้เรียนตามปกติของหลักสูตร กระบวนการประเมินจึงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดประสบการณ์ เช่น การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนที่เกิดขึ้นตลอดเวลา การบันทึกคำพูดและเก็บรวบรวมผลงาน ไม่ใช่การประเมินผลที่มุ่งให้คะแนนการทำงานและจัดอันดับเปรียบเทียบคะแนนของผู้เรียน 2. การประเมินโครงงาน ใช้หลักการ 9 ประการ ดังนี้ 1.เด็กศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึก ด้วยกระบวนการคิด และแก้ปัญหา ด้วยตนเองจนพบคำตอบที่ต้องการหรือไม่ 2.เรื่องที่ศึกษากำหนดโดยเด็กเองหรือไม่ 3.ประเด็นที่ศึกษาหรือปัญหา เกิดจากข้อสงสัยหรือปัญหาของเด็กเองหรือไม่ 4.เด็กมีโอกาสได้มีประสบการณ์ตรงกับเรื่องที่ศึกษาโดยการสังเกตอย่าง ใกล้ชิดจากแหล่งความรู้เบื้องต้นหรือไม่ 5.ระยะเวลาเพียงพอตามความสนใจของเด็กหรือไม่ 6.เด็กได้ประสบทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จในการศึกษาตาม กระบวนการแก้ปัญหาของเด็กเองหรือไม่ 7.ความรู้ที่ได้จากกระบวนการศึกษาและแก้ปัญหาของเด็ก เป็นสิ่งที่เด็กใช้ กำหนดประเด็นการศึกษาขึ้นใหม่ หรือใช้ปฏิบัติกิจกรรมที่เด็กต้องการหรือไม่ 8.เด็กได้นำเสนอกระบวนการศึกษา และผลงานการศึกษาต่อผู้อื่นหรือไม่ 9.ครูไม่ใช้ผู้ถ่ายทอดความรู้แต่เป็นผู้กระตุ้นให้เด็กจัดระบบความคิด และ สนับสนุนให้เด็กใช้ความรู้ทักษะที่มีอยู่คิดแก้ปัญหาด้วยตนเองหรือไม่ บทบาทของครูที่ปรึกษาในการทำโครงงาน
สิ่งสำคัญ 4.ให้กำลังใจในกรณีที่มีปัญหาอุปสรรคในการทำงาน 5.ชี้แนะแหล่งข้อมูล แหล่งความรู้ ผู้รู้ เอกสารในการศึกษาค้นคว้า 6.ประเมินผลงาน เอกสารอ้างอิง วัฒนา มัคคสมัน. (2544). ตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบ การสอนแบบโครงการสำหรับเด็ก. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.). (มปป). คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนโดยการทำโครงงานระดับอนุบาล. กรุงเทพฯ: (มปพ). |