ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

บทความงาน > บทความตามสายงาน > งานธุรการ > มารยาทในการสื่อสารทางโทรศัพท์

มารยาทในการสื่อสารทางโทรศัพท์

  • 7 August 2014

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

          การรับโทรศัพท์อย่างมืออาชีพเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร พนักงานต้อนรับหรือเลขานุการจำเป็นต้องมีทักษะในการพูดคุยกับลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ ทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจและความประทับใจ สร้างความรู้สึกดีในการติดต่อสื่อสาร ในฐานะเป็นทัพหน้าประจำเมืองหน้าด่าน พนักงานต้อนรับหรือเลขานุการจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการโทรศัพท์ ดังต่อไปนี้

    1. การพูดคุยทางโทรศัพท์เป็นการสื่อสารผ่านคำพูด ผู้ที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งไม่สามารถเห็นสีหน้า หรือท่าทางของคุณ ดังนั้นการสื่อสารที่ชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและเป็นมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง น้ำเสียงที่ใช้ควรเป็นน้ำเสียงปกติ ไม่ตะโกน และไม่ใส่อารมณ์ในขณะที่พูดโทรศัพท์
    2. ไม่รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะการรับโทรศัพท์ในขณะที่มีอาหารอยู่ในปากแสดงถึงความไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติลูกค้า และไม่เป็นมืออาชีพ
    3. ไม่ควรใช้ศัพท์สแลง คำหยาบ หรือแม้แต่คำสบถสาบาน ภาษาที่เหมาะสมคือภาษาพูดที่เป็นทางการ
    4. ทักษะในการฟังเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ต้องรู้จักรับฟังว่าลูกค้าต้องการสิ่งใด และกล่าวทวนข้อความอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณรับข้อมูลมาอย่างถูกต้อง ครบถ้วน
    5. หากลูกค้ารู้สึกไม่พอใจ ให้รับฟังลูกค้าด้วยความอดทน โดยไม่พูดแทรก ย้อนคำ เถียง หรือแสดงพฤติกรรมที่เป็นการไม่ให้เกียรติลูกค้า เมื่อลูกค้าพูดจบ ให้แสดงความกระตือรือร้นที่จะให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
    6. หากต้องรับสายพร้อมกันหลายสาย ควรกล่าวอย่างสุภาพหากต้องการให้ลูกค้ารอสาย และไม่ควรให้ลูกค้ารอสายเป็นเวลานาน ลูกค้าอาจไม่พอใจและวางสายไปก่อน
    7. ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
      มีสมาธิกับลูกค้าที่อยู่ในสาย พยายามอย่าให้ผู้คนรอบข้างคุณหันเหความสนใจของคุณออกจากลูกค้า หากมีใครแทรกแซงคุณในขณะที่คุณติดสายอยู่ ให้กล่าวอย่างสุภาพว่าคุณกำลังติดสายอยู่และคุณจะรีบไปหาเขา หรือโทรกลับไปทันทีที่คุณวางสาย

          ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการให้ความสำคัญกับลูกค้าที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์ ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่คำพูดและน้ำเสียงก็สามารถสร้างความรู้สึกทางบวกหรือทางลบให้กับลูกค้าได้เท่า ๆ กัน ดังมีคนกล่าวไว้ว่า 3 สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกคือ เวลา โอกาส และคำพูด

การสื่อสารทางโทรศัพท์  มารยาทการรับโทรศัพท์  มารยาททางโทรศัพท์  โทรศัพท์

บทความยอดนิยม

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

Web 3.0 คืออะไร สายงาน IT อัปเดตด่วน

เมื่อเราอยู่ในยุคที่โลกแห่งเทคโนโลยีพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เรื่องราวของอินเทอร์เน็ตก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของคนในยุคนี...

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

10 อันดับภาษาโปรแกรมมิ่งมาแรงที่ควรศึกษา 2022

ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างฉับไว เพียงเสี้ยววินาที หลาย ๆ อย่างในชีวิตคุณก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและอิ...

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

เรียนจบอะไร ทำงาน IT ได้บ้าง

งานด้านไอที หรือ Information Technology ที่เป็นอีกหนึ่งสายงานที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สายงานอื่นๆ จนที่เป็นต้องการในตลาดค่...

ภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพคือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทุกสายงานอาชีพ พนักงานที่มีหน้าที่คอยให้บริการลูกค้าหรือติดต่อประสานงานจึงจำเป็นต้องเรียนรู้เทคนิคการพูดอย่างไรให้มีความน่าเชื่อถือรวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพ การตอบคำถามจากองค์กรจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องผ่านการฝึกฝน เพื่อช่วยให้คู่สนทนารู้สึกประทับใจ เพราะผู้รับโทรศัพท์ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นพนักงานต้อนรับขององค์กร ดังนั้นผู้รับโทรศัพท์จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตระหนักถึงมารยาทในการรับโทรศัพท์ ขอแนะนำเทคนิคง่ายๆ ในการรับมือกับบทสนทนาทางโทรศัพท์ให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือ มาดูกันเลย

1. ยกหูโทรศัพท์ทันที

เมื่อมีเสรียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นควรรีบรับสายทันที (ไม่ควรให้ดังเกิน 3 ครั้ง) เพราะการปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานๆ เป็นเรื่องเสียมารยาท ดังนั้นจึงควรรับให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

2. งดเคี้ยวอาหาร ลดเสียงลง

ไม่ควรพูดโทรศัพท์ขณะกำลังรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มอยู่ การเคี้ยวอาหารไปด้วยขณะพูดเป็นการไม่ให้เกียรติต่อผู้ที่เราพูดด้วยและเป็นการทำลายบุคลิกภาพของผู้พูดด้วย หากมีสายเข้าหากคุยกันอยู่ควรลดเสียงเบาลงหรือเงียบเพื่อให้การสนทนาได้ยินชัดเจนและไม่เกิดเสียงสอดแทรกในระหว่างการสื่อสาร หรือขอปลีกตัวออกไปคุยในที่ที่เงียบ ไร้การรบกวน

3. การแนะนำตัวเอง

อย่าลืมที่จะแนะนำธุรกิจและอาจจะตัวคุณเองเพื่อให้คู่สนทนาแน่ใจว่าพวกเขาโทรมาถูกที่ หากคุณเป็นพนักงานต้อนรับเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องระบุคือชื่อของบริษัท เนื่องจากคุณเป็นด่านแรกที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คุณอาจจะใช้คำพูดเช่น “สวัสดีค่ะ บริษัท…… ต้องการติดต่อเรื่องอะไรคะ ”

4. เตรียมให้พร้อม

ควรเตรียมกระดาษ ดินสอ หรือปากกาไว้ให้พร้อม เพื่อจดบันทึกข้อความได้ทันที ในกรณีที่คู่สนทนาต้องการฝากข้อความที่มากเกินกว่าจะจำไหวและเป็นการดีที่พวกเขาจะไม่ต้องถือสายรอขณะที่คุณวิ่งวุ่นหากระดาษและปากกา

5. พูดให้ชัดเจน

การพูดอย่างชัดเจนคือหนึ่งในสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพเพื่อให้การสื่อสารทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกัน กระชับ และรวดเร็วที่สุด หากมีเวลาคุณควรพูดช้าๆและแจ้งคำพูดของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณส่งไปถึงอีกฝ่ายอย่างครบถ้วน

6. ใช้สรรพนามเรียกอีกฝ่ายอย่างเหมาะสม

ถึงแม้ในต่างประเทศนิยมเรียกนามสกุลของลูกค้ามากกว่าจะเรียกชื่อจริง แต่ในประเทศไทยมักจะเรียกชื่อจริงตามหลังคำว่าคุณ ดังนั้นต้องใช้อย่างเหมาะสมเมื่อทราบว่าคู่สนทนาเป็นใคร หากไม่ทราบชื่อก็ควรถามก่อนเพราะการที่เราจดจำชื่อลูกค้าได้จะเราจดจำได้เร็วขึ้น

หากเราทราบมารยาทหลักๆในการรับสายแล้ว จะขอเสนอประโยคการรับสายในที่ทำงานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะเราควรฝึกฝนการรับโทรศัพท์ให้เป็นมืออาชีพพร้อมรับกับสถานการณ์ลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์
ตัวอย่าง การพูดโทรศัพท์

ประโยคสำหรับการรับสาย

การรับสายโทรศัพท์ โดยมากจะเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์หรือโอเปอเรเตอร์ของหน่วยงาน ซึ่งประโยคที่ใช้ในการรับสายโทรศัพท์มีดังนี้

  • การทักทาย เมื่อรับโทรศัพท์ ก็กล่าวคำสวัสดีต่อด้วยชื่อบริษัทหรือแผนก ถ้าเป็นบริษัทไม่ใหญ่โตมากหรือเป็นสำนักงานเล็กๆบอกชื่อบริษัทได้เลย แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีหลายแผนก อาจจะบอกชื่อแผนกก็ได้ การบอกชื่อผู้รับสาย เพื่อให้ผู้โทรมาได้ทราบข้อมูลผู้ที่สามารถประสานงานได้ในภายหลังหรือจะไม่บอกก็ไม่เป็นไร หลักจากนั้น ถามความต้องการรของผู้ที่โทรมานั้นเอง

สวัสดีค่ะ บริษัททีซีแอล
Hello, TCL Company.
สวัสดีค่ะ ฝ่ายขายค่ะ
Hello, Sales Department.
สวัสดีค่ะ บริษัททีซีแอล ลิซ่าพูดสาย ต้องการความช่วยเหลือในด้านใดคะ?
Hello , TCL Compamy, Lisa speaking.  How may I help you?

  • การถามชื่อผู้โทรมา การติดต่อกันระหว่างบริษัทโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้บริหาร หรือ มีงานหลายฝ่ายในบริษัท การสอบถามชื่อจะทำให้ผู้ติดต่อกลับจะให้ง่ายและรู้ความต้องการของเขา สำนวนในการถามชื่อมีดังนี้

ขอทราบชื่อด้วยค่ะ
May I have your name, please?

  • ถ้ารับโทรศัพท์แล้วเป็นโทรศัพท์ของสายผู้อื่นและผู้รับสามารถมารับโทรศัพท์ได้ เราก็บอกให้เขาคอย

คุณลิซ่าอยู่ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ
Yes, Lisa is here, one moment please.

  • ถ้ารับโทรศัพท์ แล้วเป็นโทรศัพท์สายของผู้อื่น แต่ผู้รับไม่สามารถมารับโทรศัพท์ได้ เราพูดว่า

    ขออภัยค่ะ คุณลิซ่าไม่อยู่ ต้องการฝากข้อความคุณลิซ่าไหมคะ
I’m sorry, Lisa is not here. Would you like to leave a message?
ขอโทษค่ะ เธอไม่มาทำงานวันนี้
I’m sorry, she’s not here today.
ขอโทษค่ะ เธอกำลังประชุมอยู่
I’m sorry, she’s in the meeting room.

  • ถ้ามีผู้รับโทรศัพท์ให้เรา เมื่อเรามารับโทรศัพท์ที่รอเราอยู่ กล่าวคำสวัสดีและบอกชื่อตนเอง

  สวัสดีค่ะ ลิซ่าพูดสายค่ะ
Hello, Lisa speaking.

  • บางครั้งเราอยากยกเลิกการสนทนาที่ยาวนานและอีกฝ่ายไม่ยอมไม่ยอมวางหู เราสามารถตัดบทเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทได้ว่า

  ฉันจะหาข้อมูลเพิ่มเติมและส่งทางอีเมลให้คุณ
I will look into it and send you the details by email
ฉันมีประชุมอันใกล้นี้ สามารถส่งคำถามของคุณมาที่อีเมลนี้
I have a meeting right now, if you have any other questions feel free to send me an email

  • บางครั้งเราก็ได้รับโทรศัพท์จากคนที่เราไม่อยากสนทนาด้วยหรือพวกชอบโทรมาตื้อขายของ เราสามารถตัดบทแล้ววางหูทันที

   ขออภัยค่ะ คุณโทรมาผิด สวัสดีค่ะ
I’m sorry you have the wrong number, good bye. 
ขออภัย เธอไม่ว่าง
I’m sorry, she’s busy.

  • ในบางครั้งเราอาจจะเจอลูกค้าที่เจ้าอารมณ์หรือพูดจาไม่ดี สามารถแก้ไขโดยการรับฟัง ไม่มีอารมณ์ร่วมและช่วยแก้ไขปัญหาของเขาได้อย่างตรงจุด

ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราจะรีบดำเนินการแก้ไขโดยไวที่สุด
Sorry, We will to solve this issue immediately.

  • การกล่าวลา การกล่าวลาจากการพูดคุยถ้าเป็นภาษาไทยก็คือ สวัสดี ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Goodbye แต่มีสำนวนอื่นๆที่ควรนำไปใช้ ดังนี้

ขอบคุณที่สละเวลา
Thank you for your time.
ขอบคุณที่โทรมา
Thanks for calling.

นอกเหนือจากเทคนิคเหล่านี้คือความมั่นใจในทุกครั้งที่รับสายเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมที่จะให้บริการ บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดบ้างซึ่งใครๆก็พลาดกันได้ แต่อย่าลืมเรียนรู้ที่จะแก้ไขและสร้างความประทับใจแม้จะเกิดข้อผิดพลาดเหล่านั้นขึ้นมา หากฝึกฝนจะเกิดความชำนาญแล้วนอกจากองค์กรจะได้รับคำชื่นชมแล้ว ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่องค์กรของท่านด้วย