การวิจัยจำแนกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้เป็นหลักในการแบ่ง ผู้ทำวิจัย ควรศึกษาประเภทของการวิจัยให้เข้าใจ เพื่อจะได้เลือกประเภทของการวิจัยได้ถูกต้องเหมาะสมกับประเด็นปัญหาที่ต้องการศึกษาวิจัย มีดังต่อไปนี้ (สิริลักษณ์ ตีรณธนากูล. 2554 ) 1. ประเภทของการวิจัยจำแนกตามระเบียบวิธีการวิจัย การใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเป็นเกณฑ์การแบ่งการวิจัยนิยมใช้กันมาก แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ 1.1 การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Research) เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาความรู้ความจริงจากเรื่องราวในอดีต โดยวิธีการศึกษาเป็นการรวบรวม ตรวจสอบ และวิเคราะห์เหตุการณ์จากหลักฐาน เอกสาร คำบอกเล่าที่เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต วัตถุโบราณ เช่น ศึกษา การปกครองสมัยรัชกาลที่ 5 1.2 การวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive Research) เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาความรู้ ความจริง ในสภาพปัจจุบัน เช่น การสำรวจความคิดเห็น การศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปร การศึกษาการพัฒนาการ การศึกษารายกรณี 1.3 การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาความรู้ความจริงเฉพาะตัวแปร เพื่อทราบว่าตัวแปรใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผล ผลที่ได้เกิดจากตัวแปรที่ศึกษาหรือไม่ การวิจัยประเภทนี้ เป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลและผลที่ต้องมีการจัดกระทำ (Treatment) ตัวแปรที่จะศึกษา และควบคุมตัวแปรที่ไม่ต้องการจะศึกษา เช่น การเปรียบเทียบวิธีสอน 2 วิธี ที่มีผลต่อการเรียนวิชาภาษาไทย 2. ประเภทของการวิจัยจำแนกตามลักษณะของข้อมูล การวิจัยจำแนกตามลักษณะของข้อมูลเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งการวิจัยได้เป็น 2 ประเภท คือ 2.1 การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เป็นการวิจัยที่มุ่งค้นคว้าข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อหาข้อสรุปในเชิงปริมาณหรือตัวเลข โดยอาศัยข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างอ้างอิงไปใช้กับประชากรโดยอาศัยเทคนิคทางสถิติ ข้อมูลที่รวบรวมมานั้นโดยอาศัยการส่งแบบสอบถาม แบบทดสอบ การสัมภาษณ์ การสังเกต การทดลอง เป็นต้น 2.2 การวิจัยเชิงคุณลักษณะ (Qualitative Research) การวิจัยเชิงคุณลักษณะ หรือที่นิยมเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าการวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นการรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ จะอาศัยการสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูล โดยวิธีการสรุปบรรยายในรูปของข้อความที่ไม่มีตัวเลข 3. ประเภทการวิจัยจำแนกตามประโยชน์การนำไปใช้ การวิจัยจำแนกตามประโยชน์การนำไปใช้ แบ่งได้เป็น 3 ประเภท 3.1 การวิจัยพื้นฐาน (Basic Research) หรือการวิจัยบริสุทธิ์ (Pure Research) เป็นการวิจัยที่มุ่งแสวงหาความรู้หรือความจริงที่เป็นกฎ สูตร ทฤษฎี เพื่อที่จะขยายพื้นฐานความรู้ทางวิชาการ ให้กว้างขวางออกไปโดยไม่คำนึงว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ใดหรือไม่ โดยมากมักจะเป็นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการหรือห้องทดลอง 3.2 การวิจัยประยุกต์ (Applied Research) เป็นการวิจัยที่ได้นำผลจากข้อความรู้ทฤษฎีที่มีผู้ศึกษาไว้แล้วมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่มนุษย์ เพื่อแก้ปัญหาหรือเพื่อการตัดสินใจ ผลการวิจัยอาจเป็นเทคนิควิธี นวัตกรรม หรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ 3.3 การวิจัยเชิงปฏิบัติ (Action Research)
เป็นการวิจัยที่มุ่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นครั้งๆ ไป ผลของการวิจัยใช้ได้ในขอบเขตของปัญหานั้นๆ จะอ้างอิงไปใช้กลุ่มอื่นไม่ได้เพราะมองในวงจำกัด
|