ข้อสอบ การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต O-net

ใช้ตอบในข้อ 1 - 2

A. อาหาร                  B. ความหิว               C.ความกระหาย         D. สารเคมี               E. เสียง

1.ข้อใดคือสิ่งเร้าภายนอก 

ก. A / B / E               ข. B / C                    ค. A / D / E               ง. C / D / E

2. ข้อใดคือสิ่งเร้าภายใน

ก. A / B / E               ข. B / C                    ค. A / D / E               ง. C / D / E

3.อะไรเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดพฤติกรรรม

ก. ระบบกล้ามเนื้อ      ข. ระบบประสาท       ค. ก และ ข         ง. ก , ข และ ฮอร์โมน

4. "พฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นแบบง่ายๆ เช่น การเคลื่อนที่แบบไร้ทิศทาง" ข้อความนี้ตรงกับสัตว์ประเภทใด

ก. โพรทิสต์                ข. สัตว์ชั้นสูง             ค. ซีเลนเทอเรต        ง. ข้อ 1 และ 3

5. ข้อใดไม่จัดเป็นอวัยวะรับความรู้สึกภายใน

ก. ตา                        ข. จมูก                      ค. ผิวหนัง                 ง. กระดูกทั่ง

6. พฤติกรรมใดที่แสดงออกเมื่อมีสิ่งเร้ามาตอบสนอง

ก. ความต้องการทางเพศ               ข. นอน                    ค. วิ่ง           ง. กินอาหาร

7. นักวิทยากลุ่มแรกที่ได้ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ได้แก่ ( เมื่อ ปี พ.ศ.2298)

ก. กลุ่ม B.A.N.K              ข. กลุ่ม F.A.V. Pernau         ค. กลุ่ม D.A. Spaldinf       ง. กลุ่ม Behavior

8. แรงดึงดูดของโลก จัดเป็นอะไร

ก. พฤติกรรม              ข  อวัยวะรับความรู้สึกภายใน         

ค. สิ่งเร้าภายนอก        ง. สิ่งเร้าภายใน

9. การแสดงพฤติกรรมที่ต่างกันอาจขึ้นอยู่กับอะไร

ก. อายุ                                          ข. เพศ                                                ค. ความเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและระบบประสาท                      ง. ถูกทุกข้อ

10. หน่วยใดมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดพฤติกรรม

ก. หน่วยรับความรู้สึก                 ข. หน่วยตอบสนอง                     ค. ข้อ 1 และ 2                            ง. ข้อ 1 , 2 และ รีแฟกซ์


 คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

1. ประเภทของพฤติกรรมออกเป็นกี่ แบบ อะไรบ้าง

ก. 2 แบบ คือ 1. พฤติกรรมที่มีการฝึกฝน และ 2.พฤติกรรมการเรียนรู้

ข. 3 แบบ คือ 1. พฤติกรรมที่มีมาแต่กำเนิด , 2. พฤติกรรมที่มีฝึกฝน และ 3.พฤติกรรม

ค. 2 แบบ คือ 1. พฤติกรรมที่มีมาแต่กำเนิด และ 2.พฤติกรรมการเรียนรู้

ง. 3 แบบ คือ 1. รีเฟล็กซ์ , 2. รีเฟล็กซ์ต่อเนื่อง และ 3. การฝังใจ

2. พฤติกรรมของสัตว์เป็นผลจากการทำงานร่วมกันระหว่างอะไร กับ อะไร

ก. ฮอร์โมน และ สภาพแวดล้อม   ข. พันธุกรรม และ ฮอร์โมน          ค. พันธุกรรม และ สภาพแวดล้อม                 ง.  พันธุกรรม , สภาพแวดล้อม ฮอร์โมน

3. ข้อใดไม่เป็นพฤติกรรมแบบ รีเฟล็กซ์

ก. ปลาว่ายน้ำในลักษณะที่ตั้งฉากกับแสงอาทิตย์ ทำให้ศัตรูที่อยู่ในระดับต่ำกว่ามองไม่เห็น

ข. เมื่อมีสิ่งขงเข้ามาใกล้ตา ตาก็จะกระพริบ

ค. เดินเหยียบหนาม หรือของมีคม ยกเท้าหนีทันที

ง. ข้อ ก และ ข

4. การดูดน้ำนมของเด็กอ่อน สิ่งเร้าคือ อะไร

ก. แม่                        ข. ความหิว                ค. น้ำนม                   ง. ไม่มีสิ่งเร้า

5. จากข้อ 4 เป็นพฤติกรรมแบบใด

ก. การฝังใจ               ข. แฮบิชูเอชัน            ค. รีเฟล็กซ์                 ง. รีเฟล็กซ์ต่อเนื่อง

ใช้ในการตอบข้อ 6 - 9
A ลูกห่านจะเดินตามแม่ทันทีเมื่อฟักออกจากไข่ แต่ถาฟักไข่ในห้องปฏิบัติการ เมื่อลูกห่านพบเขาเป็นสิ่งแรก มันจะติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง
B ถ้าสั่นกระดิ่งพร้อมกับการให้อาหารทุกครั้งสุนัขที่หิวเมื่อเห็นอาหารหรือได้กลิ่นจจะหลั่งน้ำลาย หลังจากการฝึกเช่นนี้มานาน เสียงกระดิ่งเพียงอย่างเดียวสามารถทำให้สุนัขหลั่งน้ำลายได้
C เมื่อนำไส้เดือนดินไปใส่กล่องพลาสติกรูปตัว T มีด้านหนึ่งมืดและชื้น อีกด้านหนึ่งโปร่งและมีกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ปรากฏว่าเมื่อทำการทดลองซ้ำ ๆ กันไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง ไส้เดือนดินที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วจะเลือกทางถูก 
D นำหอยทากมาไต่บนแผ่นกระจก แล้วเคาะที่กระจก หอยทากจะหยุดการเคลื่อนที่ และหลบซ่อนเข้าไปในเปลือก สักครู่หนึ่งจะโผล่ออกมาและไต่ตามแผ่นกระจกต่อไป เมื่อเคาะอีก ก็จะหลบเข้าไปอีก แต่ถ้าเคาะกระจกบ่อย ๆ ครั้ง

6. ข้อใดเป็นพฤติกรรมแบบ แบบแฮบิชูเอชัน

ก.  A                        ข. B                          ค. C                          ง. D

7. ข้อใดเป็นพฤติกรรมแบบ การฝังใจ

ก.  A                        ข. B                          ค. C                          ง. D

8. ข้อใดเป็นพฤติกรรมแบบ การลองผิดลองถูก

ก.  A                        ข. B                          ค. C                          ง. D

9. ข้อใดเป็นพฤติกรรมแบบ การมีเงื่อนไข

ก.  A                        ข. B                          ค. C                          ง. D

10. พฤติกรรมการใช้เหตุผล (reasoning) พบเฉพาะในสัตว์ที่มีสมองส่วนใดพัฒนาดี

ก. เซรีบรัม                 ข. เซลีเบลลัม             ค. ออพติกโลบ                ง. ถูกทุกข้อ

คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

1.ถ้าเปิดเทปบันทึกเสียงร้องของนกเพศผู้ชนิดหนึ่งในบริเวณเขตคุ้มครองซึ่งมีนกเพศผู้ชนิดเดียวกันอาศัยอยู่ เหตุการณ์ใดต่อไปนี้ น่าจะเกิดกับนกเพศผู้บริเวณนี้

ก. ร้องตอบ                ข. โจมตีแหล่งเสียง                     ค. บินหนี                   ง. ไม่แสดงพฤติกรรม

2. กราฟแสดงความสัมพันธุ์ระหว่างช่วงเวลาในแต่ละวันกับการทำกิจกรรมของสัตว์ 2 ชนิด คือ A ( เส้นทึบ ) B (เส้นประ) A และ น่าจะเป็นสัตว์คู่ใดตามลำดับ 
.

ก. หนู และ นกฮูก                       ข. นกเค้าแมว และหนู                 ค. ค้างคาว และ นกเขา                                ง. ช้าง และ นางอาย

3. พฤติกรรมที่แสดงแกของสัตว์ชั้นต่ำหรือพวกโพรทิสต์ เป็นผลมาจากอะไร

ก. ประสบการณ์เพื่อขึ้น               ข. รีแฟกซ์ต่อเนื่อง                       ค. พันธุกรรรม            ง. สิ่งแวคล้อม

4. ความกระหายน้ำจัดเป็นพฤติกรรมหรือไม่

ก. เป็น เพราะมีการกระตุ้นภายในร่างกาย                      ข. เป็น เพราะเกิดอาการกระหายน้ำขึ้นภายในตัว

ค. ไม่เป็น เพราะ เนื่องจากยังไม่แสดงพฤติกรรม             ง. ไม่เป็น เพราะ ยังไม่ได้เป็นการเรียนรู้

5. พารามีเซียมมีปฏิกิริยาต่อน้ำเกลือ และ กรดแอซิติก อย่างไร

ก. เคลื่อนเข้าหาน้ำเกลือ แต่เคลื่อนหนีกรดแอซิติก            ข. เคลื่อนเข้าหากรดแอซิติก แต่เคลื่อนหนีน้ำเกลือ

ค. เคลื่อนเข้าหาน้ำเกลือและ กรดแอซิติก                        ง. เคลื่อนหนี น้ำเกลือและ กรดแอซิติก

6. สิ่งมีชีวิตทีการใช้เหตุผลอย่างสลับซับซ้อนจะมีสมองเป็นลักษณะอย่างไร

ก.  สมองส่วนกลางเจริญดีมาก                     ข. สมองส่วนกลางลดขนาดลง แต่สมองส่วนหน้าเจริญดีขึ้น

ค. สมองส่วนหน้าเจริญดีมาก                       ง. ระบบประสาทเป็นแบบปมประสาท

 คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด 

1. การที่นกส่งเสียงร้องเมื่อมีอันตรยจัดเป็นการส่งเสียงแบบใด 

ก. mating calls                ข. Warning calls              ค. Contact calls               ง. Navigation calls

2. การสีปีกของจิ้งหรีดตัวผู้ เป็นการสื่อสารแบบใด

ก. sound signal                    ข. Visual signal               ค. Contact calls               ง.  Warning calls

3. สารที่มดปล่อยออกมาแล้วสามารถเดินตามกันได้อย่างถูกต้องจัดเป็นสารประเภทใด

ก. sex attractants                 ข. Tail substance                 ค. Pheromone                       ง. Neurohormone

4. การสื่อสารของผึ้งในการบอกแหล่งอาหารและทิศทางของอาหารอาศัยการสื่อสาร 4 แบบด้วยกันคือข้อใด

ก. ท่าทาง,สารเคมี,เสียง,การกำหนดสถานที่                   ข. ท่าทาง,สารเคมี,เสียง,การสัมผัสตัว

ค. ท่าทาง,เสียง,การสัมผัส,การพาไป                            ง. ท่าทาง,สารเคมี,เสียง,ฟีโรโมน

5. จิ้งหรีดใช้เสียงในการเรียกร้องตัวเมียจิ้งหรีดทำเสียงอย่างไร

ก. ขยับขาอย่างแรง                     ข. ส่งเสียงร้อง            ค. สีปีก                     ง. ไม่มีข้อถูก

6. สารเคมีที่มดปล่อยออกมาเเล้วทำให้มดเดินตามกันเป็นแถวได้นั้นเป็นสารชนิดใด

ก. กรดแอซิติก            ข. กรดฟอร์มิก            ค. กรดแลกติก            ง. กรดแอสคอร์บิก

7. การที่สุนัขตัวหนึ่งเลียปากสุนัขอีกตัวหนึ่ง แสดงถึงสิ่งใด

ก. อยากกินอาหาร                                       ข. ข่มขู่สุนัขตัวที่ถูกเลียปากให้อ่อนน้อม

ค. ยื่นมือและหงายมือให้จับ                         ง. เพื่อแสดงการอ่อนน้อมต่อสุนัขตัวที่ถูกเลียปาก

8. ไหมตัวเมียสร้างสารเคมีในการดึงดูดไหมตัวผู้ที่ใด

ก. ที่ต่อมบริเวณทรวงอก                              ข  ที่ปล้องที่สองของส่วนท้อง

ค. ที่ปล้องที่ท้ายของส่วนท้อง                       ง. ทุกส่วนของไหมตัวเมียสร้างสารเคมีได้

9. การรับฟีโรโมนของสัตว์มีกี่ทางอะไรบ้าง

ก. ทางคือ ดมกลิ่น และกิน                           ข. 3 ทางคือ ดมกลิ่น กิน และทางการดูดซึม

ค. 2 ทางคือ ดมกลิ่น และทางการดูดซึม         ง. 3 ทางคือ ดมกลิ่น สัมผัส และทางการดูดซึม

10. การสื่อสารแบบใดที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในป่าทึบ
1. เสียง 2. สายตา 3. กลิ่น 4. ลิ้มรส 5. สัมผัสล

ก. 1,2                        ข. 1,3                        ค. 4,5                        ง. 2,5

อาอิง : https://www.l3nr.org/posts/417765