 (สามารถสอบถามคำถามได้ที่นี่เลยครับ หรือช่องทางที่ท่านสะดวก) facebook.com/myRemainingtime ตอนที่ 5 นี้ ออกจะเป็นแนว บันทึกไดอารี่ นะครับ อยากเก็บไว้ให้ลูกได้อ่าน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ชีวิตในช่วงเดือนที่เขาเหนื่อยที่สุดครั้งหนึ่ง ในวัยเด็ก … ต้องขออภัยทุกๆท่านเป็นอย่างยิ่ง ในตอนนี้ จะมีเรื่องราวประมาณนี้นะครับ
เดือนกุมภาพันธ์ ที่ใครๆก็เรียกว่าเป็น……เดือนแห่งความรัก สำหรับพวกเรา ปีนี้ …. เดือนนี้ …. ก็ถือว่าเป็นเดือนแห่งความรักเช่นกัน … รักลูก … นั่นก็คือเราก็อยากให้ลูกอยู่ในสังคมที่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่จะไม่รักลูกแบบ … พ่อแม่รังแกฉัน … เคยสอบถามความคิดเห็นจากลูกหลายครั้งแล้วในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ว่า ชอบที่โรงเรียนนี้ไหม? รู้ใช่ไหมว่ามันสอบเข้ายากมากน๊ะ? ถ้าต้องไปติวด้วยจะไหวไหม? ฯลฯ ซึ่งคำตอบที่เราได้มาจากลูก เป็นแนวทางที่มาถึงวันนี้ … และตอนนี้ หันหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว เพราะเหลือแค่ 28 วัน ก็จะปลดปล่อยแล้ว จริงๆ เราได้วางตารางคร่าวๆของเดือนนี้ในปฏิทินประมาณนี้นะครับ มันเป็นเดือนที่วุ่นวายเดือนหนึ่งจริงๆ
ในภาพใหญ่ๆ ผมขอสรุปเหตุการณ์สำคัญตามวาระและสถานที่ดังนี้ นะครับ โรงเรียนโชคชัยรังสิต ที่จะกล่าวถึงอันดับแรกก็คือ การอำนวยความสะดวกในเรื่องของเอกสารต่างๆของนักเรียน ป.6 เพราะทางครูประจำชั้น ได้บอกเด็กๆให้นำรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว ไปให้คุณครูตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมกราคม 2558 คนละ 1 โหล(เผื่อว่ามีคนขอเอกสารหลายฉบับจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขอรูปเพิ่ม) โดยที่เอกสารใบรับรอง และ ปพ.๑ ทางฝ่ายทะเบียนของโรงเรียนก็จัดทำให้เลยโดยมิต้องร้องขอ เพราะอย่างไรเสีย เด็กๆก็ต้องใช้อยู่แล้ว แต่มีบางคนอาจจะพิเศษหน่อย ขอก่อนเพราโรงเรียนที่จะไปสอบ สอบเร็วกว่าที่อื่น หรือ บางคนขอเป็นภาษาอังกฤษ เพราะต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือ มีบางโรงเรียนที่ต้องการเป็นภาษาอังกฤษ เรื่องที่สองก็คือ เรื่องที่เด็กๆเคยประสบปัญหากันมาบ่อย ในชั้นปีที่ผ่านมาก็คือ งาน project รายงาน ชิ้นงาน การบ้าน ที่มาระดมให้กันตอนก่อนสอบ final เกือบทุกวิชา มาตอน EP6 นั้น ได้ทำการจัดการกันไปก่อนหน้านี้เกือบหมดแล้ว เด็กๆจะได้มีสมาธิกับการสอบหาที่เรียนใหม่กันได้อย่างเต็มที่ เรื่องที่สามก็คือ การสอบ FINAL ที่จะสอบก่อนวันสอบของห้องเรียนพิเศษทั้ง EP และ Gifted ไม่กี่วัน ซึ่งโดยปกติช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนสอบ ครูและ Teacher จะมีการทบทวนเนื้อหาก่อนสอบให้เด็กๆ ก็เลยกำชับกับน้องบอลล์ว่า “ให้สนใจสิ่งที่ ครูและ Teacher ทบทวนให้เต็มที่ จากตรงนั้นให้เอาไปใช้ในห้องสอบเลย เพราะจะไม่มีการกลับมาอ่านหนังสือก่อนสอบเหมือนเทอมที่ผ่านๆมาแล้ว จะเอาเวลาตรงนั้นเพื่อการเตรียมตัวสอบเข้าตามตารางที่เราได้กำหนดกันไว้ตั้งแต่ต้น ถ้าจะต้องซ่อมก็ซ่อม” จำไว้อย่างนึงว่า มาถึงตรงนี้แล้ว “ถ้าเกรดที่โรงเรียนออกมาดีมากๆ แต่สอบเข้าไม่ได้ กับ เกรดออกมาพอได้ แต่สอบเข้าผ่าน” แล้วจะเลือกแบบไหนดี? ….. ผลออกมาก็สมใจอยากเลย 5 5 5 ปรากฏว่ามีโดนสอบซ่อมจริงๆด้วย น่าจะ 1 หรือ 2 วิชามั้ง เกรดของลูกตอนจบ ป.6 ถึงตอนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าได้เท่าไหร่ เห็นผ่านๆแต่จำไม่ได้ ผมคุ้นๆว่าหลายปีที่สอบคัดเลือกของโครงการพิเศษจะสอบก่อนสอบ Final ที่โรงเรียนเสียอีก แต่ปีนี้ มาสอบหลัง และสอบใกล้ๆกันด้วย แต่ก็ช่างเฮอะ มีค่าเท่ากัน จะสอบอะไรก่อนอะไรหลัง เมื่อ คะแนน O-NET ออกมา….. ดูแทบไม่ได้เลย จะมีได้ดีหน่อยก็ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ก็ยิ่งเป้นสิ่งเร้าที่จะบอกกับตัวลูกเองว่า รอบสอบ EP ต้องมีสมาธิ ทำให้เต็มที่ ถ้าปล่อยให้เลยไปรอบสามัญคงยากแน่ๆ ขอบคุณครูนกและ T.Alex นะครับ บ้านครูมด เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กๆมุ่งมั่น ขยัน … ไม่ใช่เรื่องปกติที่ลูกนั่งทำโจทย์จนสี่ห้าทุ่ม ไล่ให้ไปนอน ก็ไม่ยอมไป เช้า ไปโรงเรียน เรียนหนังสือ เย็น ไปบ้านครูมด กลุ่มครูช่วยกันอัด ช่วยกันฉีด (จากรังสิตคลองสาม ไปบางโพช่วงเย็นด้วย ทุกวันด้วย แทบจะอาเจียน …) ค่ำกลับมาบ้าน นั่งทำโจทย์กันต่ออีก และช่วง 1 สัปดาห์ก่อนสอบ เด็กๆก็ไปนอนที่โรงเรียน บ้านครูมด เพื่อเข้าค่าย เตรียมตัวรอบสุดท้าย บอลล์ บอกว่า บางอารมณ์ก็หนักกว่าไปค่ายลูกเสือ บางอารมณ์ก็เหมือนอยู่ในวัด บางอารมณ์ก็เหมือนค่ายอาสา(แน๊ะ
รู้ด้วยค่ายอาสาเป็นยังไง) แต่ที่แน่ๆทุกอารมณ์สอดแทรกวิชาการ ผมจำได้ว่า วันใดวันหนึ่งของเดือนนี้ น่าจะเป็นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 เวลาประมาณ 19:00 น. ที่ใต้ต้นไม้ริมถนนหน้าบ้านครูมด …..เป็นภาพที่เห็นกันมาหลายวันแล้ว ที่ผู้ปกครองยืนรอบุตรหลาน จับกลุ่มคุยกันเล็กบ้างใหญ่บ้าง ทุกคนล้วนแฝงไปด้วยอารมณ์เครียดมากบ้างน้อยบ้าง…. แน่ละสิ อีกไม่กี่วันแล้ว สิ่งที่สร้างสมกันมาตลอดทั้งปี ก็จะสำแดงผลแล้วหละ ผมยืนคุยอยู่กับพ่อน้องแอลล์(ปัจจุบัน EP โยธิน) และ พ่อน้องเนย(ปัจจุบัน EP สตรีนนท์) ซึ่งก็มีการคุยกันวิเคราะห์กันว่า ปีนี้น่าจะมีการแข่งขันกันเข้มข้นแน่ พ่อน้องเนยถามผมว่า “ถ้าสอบ EP สามเสนไม่ได้ จะให้ลูกไปสอบที่ไหน” ผมอึ้งไปสามวิครึ่ง แต่ก็ตอบไปด้วยคำตอบเดิมที่เคยตอบมาหลายครั้งแล้วกับหลายคน “ต้องได้ … ไม่ได้คิดว่าจะไม่ได้ จึงไม่เคยคิดเลยว่าจะไปสอบที่ไหนในรอบสามัญ” และเป็นคำตอบเดียวกันที่เคยตอบกับลูก เมื่อลูกถามเราเมื่อหลายวันก่อน เป็นคำตอบที่ดูเหมือนกับว่า ลูกเราเก่งกาจมากมาย แต่ไม่ใช่ !!! อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า เรารู้ถึงความสามารถของลูกเราดี ถึงมายืนอยู่ตรงนี้ เพื่อเป้าหมายที่พอจะหยิบฉวยได้ ถ้ามีความพยายาม แต่อีกเหตุผลนึงที่ตอบไปด้วยก็คือ “เรายังพอที่จะมีเวลาอีกเกือบเดือนหลังสอบวันที่ 28 นี้ เพื่อที่จะคิดเรื่องนั้น ดังนั้นจากวันนี้ถึงวันสอบ จะไม่เอาเรื่องนี้มาคิดในสมองแน่นอน” หลังสอบค่อยว่ากันอีกที นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่พ่อแม่จะแชร์ข้อมูลกัน เช่นเรื่องจำนวนผู้เข้าสอบของโรงเรียนต่าง และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เตือนกันทุกวันก็คือ “เหลืออีก X วันแล้ว” มา countdown กันทุกวัน มาเล่ากันว่า เมื่อคืนลูกทำได้ตามเป้าไหม ถ้าทำไม่ได้ จะทำอย่างไรดี ใครมีเทคนิคอะไรอย่างไร ก็แนะนำแลกเปลี่ยนแนวคิดกัน ส่วนจะเอาไปใช้หรือไม่นั้น อยู่ที่ตัวเราเอง เพราะไม่มีใครรู้จักลูกเราดีเท่าตัวเรา การจัดระเบียบวินัยที่บ้าน ในเมื่อมีแค่ 2 วิชา ที่จะต้องเตรียมตัว ดังนั้น จึงจัดตารางได้ง่ายยิ่งขึ้น เอาทีละวิชา เลย คณิตศาสตร์ เป้าหมายอยู่ที่ 40% ขึ้นไป สำหรับบอลล์แล้ว ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เพราะเป็นวิชาที่มีเนื้อหาหลายๆอยา่งที่จะต้องเตรียมตัว และมีหลายๆเนื้อหามี่บอลล์ “ยังไม่สามารถ” ได้ไปปรึกษาครูนัทที่บ้านครูมด และ กลับมานั่คิดนอนคิด ก็เลยตัดสินใจว่า จะเน้นเป็นเรื่องๆเลย ถ้าเราดูจำนวน % ของแต่ละเรื่องในวิชาคณิตศาสตร์แล้ว เอามาเป็นแนวทางในการเตรียมตัวให้บอลล์ บางเรื่องยากเกินสำหรับบอลล์ ก็ยอมทิ้งไปเลยครับ บางเรื่องที่พอทำได้ ก็บอกลูกเลยว่า เน้นๆ ทั้งตอนเตรียมตัวและห้องสอบ เรื่องต่างๆที่เตรียมตัวก็มีดังนี้
ภาษาอังกฤษ เป็นวิชาที่เป็นความหวังเลย บอกแล้วว่าต้อง 80% ขึ้นไปน๊ะลูก เน้นทำโจทย์ทุกประเภท และ ท่องศัพท์ (ทำไมผมถึงวางเป้าไว้ว่า ภาษาอังกฤษ 80% และ คณิตศาสตร์ 40% ด้านล่างตรงหัวข้อ คะแนนสอบเข้า มีคำตอบครับ แต่นี่เป็นเป้าหมายส่วนบุคคลนะครับ เพราะบางคนวางเป้าว่าต้องได้อันดับต้นๆ จะได้อยู่ห้อง King แต่ของเราขอลุ้นอันดับท้ายๆก็ยังดีเลยครับ) โดยที่ทั้งสองวิชานั้น แรกๆก็ให้ บอลล์ ทำโจทย์ แล้วเราตรวจ(ตรวจและอธิบายตามเฉลย ตรวจจากความรู้ของเรา … ไม่สามารถ 5 5 5) ตรวจแล้วก็ถกเถียงอธิบายกัน นานเข้า ก็ให้บอลล์ทำเอง และดูเฉลยเอง 5 5 5 เพราะเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน อิอิ ตอนนั้นวางเป้าเลย ทำโจทย์ภาษาอังกฤษ ประมาณ 60 ข้อต่อวัน คณิตศาสตร์ 10-20 ข้อต่อวันแล้วแต่ความยากง่ายของเนื้อหา พร้อมดูคำตอบคำอธิบายเฉลยข้อที่ถูกและผิด ส่วนใหญ่จะทำโจทย์ภาษาอังกฤษได้วันละ 30-50 ข้อ บางวันลูกขยัน ทำโจทย์ภาษาอังกฤษ มากกว่า 100 ข้อ เราก็ขี้เกียจจะไปห้าม (สงสัยตอนนั้น เริ่มรู้ตัวและกังวลมากขึ้นแล้วว่า ถ้าสอบไม่ได้ จะทำยังไง) ส่วนคณิตศาสตร์ ก็ดูดีขึ้นน๊ะ บางวันนั่งทำ 4-5 ข้อเอง บางครั้งก็ให้ทำยาก ง่าย สลับกันไป ไม่งั้นเจอแต่ยากๆ จะสตั๊นท์เป็นชั่วโมงเลย 5 5 5 แต่ก็จะสลับกับการให้ทำโดยเหมือนห้องสอบจริง โต๊ะปล่าวๆ ไม่มีหนังสือ ไม่มีขนม มีเวลาแน่นอน ห้ามเดินไปโน่น ห้ามว๊อกแว๊กแอบเล่นเกมส์ สี่ทุ่มล๊ะ … ยังอยู่ในชุดนักเรียนเลย 5 5 5 กลับมาจากบ้านครูมด ก็มาทำการบ้านของพี่นัทต่อ หนังสือเตรียมสอบ ไปหาหนังสืออะไรมาให้ลูกทำข้อสอบบ้าง? ที่กล่าวถึงที่นี่ จะเป็นหนังสือที่มีวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วไปนะครับ(ส่วนหนังสือที่บอลล์ ลุยหนักอีกชุดนึงเป็นของบ้านครูมด ผมไม่ได้เอามาลงนะครับ เป็นลิขสิทธิ์ของเขาครับ) จริงๆแล้ว บางเล่มก็ทำซ้ำไปซ้ำมานะครับ บางเล่มซื้อมาไม่ได้ทำเลยก็มี(เสียดายหงะ) (ข้อสังเกตุนะครับว่า หนังสือที่วางขายในเขตเมืองชั้นในกับชานเมืองบ้านนอกแบบผม จะมีไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน หมายถึงร้านชื่อเดียวกันนะครับ เมื่อสัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสเข้าเมืองไป Siam Paragon ที่ไม่ได้มานานมากแล้ว ก็เลยเดินสำรวจร้านหนังสือ พอตกเย็นกลับมาดูร้านหนังสือแถวบ้าน มันต่างกันจริงๆ ดังนั้น ถ้าท่านรู้จักชื่อ หรือ หัวหนังสือ ผู้แต่ง ไปคุยกับพนักงานได้เลย ถ้าไม่มีเขาก็จะบอกว่า เดี๋ยวจะสั่งมาให้ อะไรประมาณนั้น) เดี๋ยวจะให้บอลล์ไปตั้งโต๊ะขายครึ่งราคาล๊ะ 5 5 5 บอกบอลล์ว่าขายได้เท่าไหร่ให้ลูกเอาไปฝากธนาคารได้เลย(ยิ้นแก้มปริเลย 5 5 5) เล่มแรกเป็นเล่มที่น่าสนใจดีครับ
หาที่บ้านไม่เจอไม่รู้ไปโดนทับอยู่ที่ไหน เลยเดินไปถ่ายที่ร้านหนังสือมาให้ ทั้งโจทย์และเฉลย ถือว่าใช้ได้เลย และที่สำคัญจัดแบ่งเป็นเรื่องๆได้ดีครับ (แต่บางข้อก็อธิบายไม่ละเอียดพอ แบบว่าผมเองก็พยายามหาที่มาที่ไปว่า จากบรรทัดนี้ มาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร อะไร ทำนองนั้นหงะครับ) เล่มที่สอง ก็เป็นการเฉลยข้อสอบ สสวท. ในปีที่ผ่านๆมา แต่ก็จะมี update อยู่เรื่อยๆนะครับ เพราะ สสวท. เขาก็มีสอบทุกปีเหมือนกัน ส่วนเล่มนี้ เล่มที่สาม ก็เอามาทำคั่นโฆษณา ให้สบายอารมณ์ซ๊ะหน่อย ง่ายๆเป็นการปลุกเล้าความมั่นใจ 5 5 5 เล่มนี้ก็ชอบครับ เล่มที่ 4 มีไม่กี่ข้อ แต่สังเกตุเห็นว่า
บอลล์ทำแล้วชอบ อารมณ์ดี มันเหมือนกับว่าไม่เครียดมาก ทั้งที่เนื้อหาก็ไม่ได้ต่างจากเล่มที่ 1 และ 2 สักเท่าไร เล่มนี้ก็เอามาให้ทำเหมือนกัน เล่มที่ 5 จับเวลา ตรวจคะแนน ยากบ้าง ง่ายบ้าง สองเล่มนี้ก็เช่นกัน ถ้าเขาเครียดๆมา ก็เอาโจทย์ง่ายๆให้ปรับตัวก่อนนิดหน่อย เล่มที่ 6 เล่มที่ 7 เล่มที่ 8 เล่มนี้ก็ออกง่ายหน่อย แต่ก็ให้ทำ เน้นเลย 80% UP สามเล่มนี้ ก็อัดเน้นๆเหมือนกัน ทั้งเรื่องคำศัพท์ โจทย์ การอธิบาย ความยากเพิ่มขึ้นมาหน่อย แต่แบบว่ามีออกมาตรงๆเลยเหมือนกัน 5 5 5 (บอลล์ บอก) เล่มที่ 9 เล่มที่ 10 เล่มที่ 11 ผมให้ดูรูปนี้ วันที่สอบจริง สอบเสร็จ บอลล์วิ่งออกมาจากห้องสอบ มาถึงกระโดดกอดเลย บอกว่า “ป๊า Reading Comprehension ออกตรงในหนังสือตั้งหลายข้อหงะ” ผมจำไม่ได้ล๊ะว่าเล่มไหน จากสามเล่มล่างนี้หละ แต่ไม่ต้องสนใจครับ ให้เด็กฝึกทำโจทย์ ฝึกอ่าน ท่องศัพท์บ่อยๆ ถ้ารู้และเข้าใจ ยังไงก็ทำได้ ปรับตัวก่อนสอบ 2-3 วัน เราตั้งเป้าไว้แล้วว่า วันสอบเราจะไปโรงเรียนแต่เช้า เพื่อให้ภาวะจิตใจสบายๆ ไม่เจอเรื่องตื่นเต้น ก็เลยปรับเวลาตื่น เป็นตื่นนอน 05:45 น. และ เข้านอน 20:00 น. และถือปฏิบัติล่วงหน้าก่อนสอบ 2-3 วัน เพื่อให้ร่างกายคุ้นเคย เพราะก่อนหน้านี้ นอนดึก มาหลายวัน ซึ่งก็ถือว่า ทุกอย่างทำได้ตามที่วางแผนทั้งหมด ถึงเวลาต้องนอน และ นอนทั้งบ้านเลย ถึงเวลาต้องตื่น และ ตื่นทั้งบ้านเลย ถึงวันสอบจนกระทั่งถึงเวลาที่ บอลล์เดินเข้าห้องสอบ เราก็เลยไม่มีปัญหาอะไรมารบกวนเลย วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 หนึ่งวันก่อนสอบ ตามแผนแล้ว เราจะให้บอลล์ หยุดพักผ่อน ห้ามจับหนังสือเลย แต่ในใจ เราก็อยากให้บอลล์ลุยทำโจทย์ต่อ เพราะเหลืออีกแค่วันเดียว พรุ่งนี้ก็จะสอบอยู่แล้ว แต่อีกใจก็มาคิดว่า ในเมื่อเราวางแผนให้เขาลุยหนัก เขาก็ลุยหนัก แล้วตอนที่เราวางแผนให้เขาผ่อนสบาย เหตุไฉนจะให้เขาไปลุยอีก ว่าแล้ว วันนั้น ก็ถือว่าเป็น FREE DAY อย่างเต็มตัวเลย เพียงแต่ห้ามเล่นเกมส์นาน ให้ถนอมสายตาบ้าง
จะดูหนังอะไร ก็โหลดมาให้แล้ว(อุ๊บบบบบ) เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว เดินเข้าห้องสอบเลย ได้ไม่ได้แล้วแต่วาสนาลูกแล้วหละ เราส่งได้แค่หน้าตึกสอบ อิอิ อัตราการแข่งขัน ในช่วงตั้งแต่วันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2558 สิ่งที่เฝ้าจดจ่อ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ จำนวนผู้สมัครสอบ ซึ่งตอนนั้นเราก็ monitor ทั้งสองโรงเรียน ก็คือ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กับ โรงเรียนโยธินบูรณะ (เฉพาะ English Program) ในปีที่ผ่านมา อัตราส่วนของทั้งสองโรงเรียนจะใกล้เคียงกัน คือประมาณ 4:1 ผลสุดท้ายออกมา ดังนี้ (ทั้งสองโรงเรียน รับนักเรียน 120 คน)
OMG จริงๆ งานนี้ ความเครียดยิ่งบังเกิด ซึ่งจำนวนผู้สมัครสอบก็จะใกล้เคียงกับผู้สมัครในปีก่อนหน้านั้น ปีการศึกษา 2557 (ขออนุญาติ นำรูปที่แคปมาจากเวปของโรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว,ขอบคุณครับ) ส่วนรูปนี้ของปีที่แล้ว แยกจำนวนผู้สมัคร ชาย หญิง (รูปนี้ผมเก็บมาจากใน internet เมื่อปีที่แล้ว แต่จำไม่ได้แล้วว่าท่านใดเป็นผู้โพสต์ไว้ ขออนุญาติมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แต่เวลาเราคุยกับลูก เราจะไม่บอกว่า อัตราการแข่งขันเท่าไหร่อย่างไร เพราะตัวเลขมันน้อยๆยังไงไม่รู้ จะบอกว่า ลูกต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่าคนอื่นอย่างน้อย 422 คน …. จบมั๊ย !!! คะแนนสอบเข้า คราวนี้ เรามาดูเรื่องคะแนนกันบ้าง ที่เราสามารถนำคะแนนมานั่งคิดได้ เพราะว่าโรงเรียนสามเสน ได้ประกาศผลการสอบคัดเลือกอย่างเปิดเผย นั่นคือบอกตามลำดับคะแนนที่ได้จากสูงสุดคนที่หนึ่ง จนกระทั่งถึงคนที่ 120 บอกชื่อเสียงเรียงนามชัดเจน ดังนั้น ผมก็เลยเอาคะแนนของทั้ง 120 คน มาพิมพ์เข้าเครื่อง แล้วหาค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ของแต่ละวิชา แล้วเอามานั่งคุยกับลูก ประเมินดูว่า แบบนี้ ถ้าลูกพยายามทำภาษาอังกฤษให้ได้ 80% ขึ้นไป และทำคณิตศาสตร์ให้ได้อย่างน้อย 40%ลูกก็น่าจะมีโอกาสเป็นลูกชมพูเขียวได้เลย ซึ่งภาษาอังกฤษ 80% นั้น น่าจะพอทำได้ แต่คณิตศาสตร์ 40% อันนี้ ยังต้องลุ้นหนักอยู่ เพราะถ้าได้ 60 คะแนน จาก 100 คะแนน ก็คิดว่าได้ลุ้นแล้วหละ เดี๋ยวตอนที่ 6 จะมาบอกว่า ของปีนี้ 2558 เป็นอย่างไร สูงสุด ต่ำสุดแต่ละวิชาเป็นอย่างไร !!! สมัครสอบ EP สามเสน ประมาณวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2528 ก็มีประกาศรับสมัครของโรงเรียนสามเสน ที่พวกเรารอคอยออกมา ซึ่งจะทำให้พวกเราได้จัดตารางได้ลงตัวยิ่งขึ้นว่า ช่วงไหน วันไหน เวลาไหน ต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง (วันที่จะประกาศรับสมัคร วันที่จะเปิดให้แจ้งความจำนง และวันที่จะรับสมัคร จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี่แหละครับ แต่วันที่เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับ สพฐ. จะประกาศวันสอบของโครงการพิเศษเป็นวันที่เท่าไหร่ …… คาดการณ์กันว่า ปีหน้า น่าจะสอบ ประมาณวันที่ 5 มีนาคม 2559 ผู้ปกครองก็คอยติดตามกันละกันครับ) โดยมีรายละเอียดที่สำคัญประมาณนี้ หลังจากนั้น เราก็สามารถเข้าไปกรอกใบแจ้งความจำนงผ่านทางระบบออนไลน์ แล้วพิมพ์เอกสารที่เรากรอกออกมา ติดรูปถ่ายให้เรียบร้อย แล้วนำไปยื่นสมัครตามวันและเวลาที่กำหนดที่ปรากฏอยู่บนใบแจ้งความจำนง ของเราได้คิววันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งวันนั้นเป็นวันสอบ FINAL ที่โรงเรียนวันแรกพอดี … ก็ไม่เป็นไร บอกลูกแล้วว่าสอบเสร็จเดี๋ยวเราค่อยบึ่งจาก รังสิตคลองสาม ไป สามเสน สอบเสร็จ 15:00 น. รับสมัครถึง 16:30 น. น่าจะทัน ฟิตๆ ไปถึงเราก็ตรงไปบริเวณแถวๆห้องสมาคมผู้ปกครอง ไม่ต้องกลัวหาไม่ถูกเลยครับ จะมีรุ่นพี่ๆ คอยต้อนรับ แนะนำ ชี้ทาง ตั้งแต่ที่จอดรถ จนสมัครเสร็จเลยครับ ประทับใจสุดๆ แถมได้กำลังใจจากพี่คนนี้ด้วย ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว ใครทราบบ้าง? ตอนต่อไป ตอนต่อไป ก็สบายๆสั้นๆครับ เดินเข้าห้องสอบพร้อมๆกันเลยครับ อิอิ ผมปรับเปลี่ยนเอาเนื้อหาตอนที่ 7 มารวมกับเนื้อหาตอนที่ 6 ส่วนตอนที่ 7 ก็จะปรับเปลี่ยนเป็นสรุปประเด็นสำคัญต่างๆ สรุปคำถามคำตอบที่ผู้ปกครองถามมากันเยอะๆ นะครับ ตอนที่ 6 วันสอบจริง บรรยากาศ ข้อสอบออกอย่างไรบ้าง ยากมากขนาดไหน ผลสอบ คะแนนสูงสุดต่ำสุด แต่ละวิชา ตอนที่ 7 สรุปเนื้อหา สรุปคำถามคำตอบยอดฮิต ตอนที่ 8 English Program Samsen Witthayalai ในมุมมองและความรู้สึกของผู้ปกครองบ้านๆแบบผม หลังจากลูกเข้ามาเรียนได้ ครึ่งเทอม หมายเหตุ รูปที่ใช้ประกอบการเขียน เป็นรูปที่ผมถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ยกเว้น 2-3 รูปที่ไม่ได้ถ่ายเอง แต่ก็พยายามอ้างอิงถึงแหล่งที่มาให้แล้วนะครับ ขอขอบคุณครับ สนใจบทความเกี่ยวกับการเรียนการสอบเข้า EP สามเสน ตามไปที่ Link นี้ได้เลยครับ เรื่องเรียนของลูก :: รวบรวมบทความ “สอบเข้า EP สามเสน“ Commentscomments |
คะแนน สอบ โรงเรียน โชคชัย ลาดพร้าว
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketiadaan Inc.
