คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

ในแต่ละวงการมักจะมี คำศัพท์เฉพาะต่างๆ ที่รู้กันเองในแวดวงภายในเท่านั้น ซึ่งคนที่อยู่นอกวงการได้ฟังแรกๆ ก็อาจจะงงว่าพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่หว่า เช่นเดียวกับ วงการอสังหาริมทรัพย์ ที่บอกได้เลยว่า ใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะพอสมควร เลยจะมาอธิบายให้ฟังว่าแต่ละคำหมายถึงอะไรกันบ้าง โดยตอนแรกเราจะขอ พูดในเรื่องของพื้นที่กันก่อน

1. Prime location/ Prime Areas

คือ ทำเลโลเคชั่นใจกลางเมือง ที่มีคุณภาพดีมากๆ จึงทำให้มีมูลค่าต่อตารางเมตรสูงเอาเรื่องทีเดียว รวมถึงการแข่งขันก็สูงไม่แพ้กัน ทำเลที่ว่าเช่น ทองหล่อ สีลม ชิดลม ซึ่งใครได้ครอบครองคอนโดใน Prime location ถือว่าไม่ธรรมดา หรือในอนาคตถ้าใครอยากขายก็เตรียมรับกำไรเต็มๆ ได้เลย

คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

2. CBD

ชื่อเต็มเขียนว่า Central Business District ย่านศูนย์กลางธุรกิจที่ขึ้นชื่อลือชา ออฟฟิศ สำนักงาน บริษัทต่างๆ เรียกได้ว่าเป็น แหล่งรวมเศรษฐกิจที่สำคัญมารวมกันอยู่ในย่านนี้ แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกด้วย ทั้งการเดินทาง BTS MRT ขนส่งสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงแรม สถานพยาบาล ซึ่งมักจะอยู่ในย่าน สยาม อโศก สาทร ราชประสงค์ เป็นต้น

คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

3. NEW CBD

ไม่ต่างจากข้อ 2 เพียงแต่ว่า เป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ โดยขยายตามระบบขนส่งอย่างรถไฟฟ้า ประมาณว่าเป็นทำเลที่เดินทางได้หลากหลาย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ได้แก่ พระราม9 รัชดา ห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงบางซื่อ และแจ้งวัฒนะ ที่คาดว่าจะกลายเป็น NEW CBD ในอีกไม่ช้า

คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

4. Downtown

เป็นทำเลชั้นในตัวเมือง เช่น สุขุมวิทตอนต้น เพลินจิต อะไรแถบนี้ ที่แม้อาจไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองมากนัก แต่ก็ยังมีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ต่างจาก Prime location ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อย แถมราคายังแพงเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกด้วย

คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

5. Midtown

อันนี้จะเขยิบออกมาอีกหน่อยจาก Downtown ประมาณว่าเป็น พื้นที่ชั้นกลาง ถัดออกมาจากในตัวเมืองอย่าง พหลโยธิน เพชรบุรี อ่อนนุช ซึ่งตอนนี้ก็มีคอนโดเยอะพอสมควร และนักลงทุนต่างก็ให้ความสนใจหันมาปล่อยเช่าคอนโดแถวนี้ด้วยนะ

คำ ศัพท์ ภาษา อังกฤษ เกี่ยว กับ คอน โด

คำภาษาอังกฤษ เหล่านี้มักจะถูกเรียกแทนโซน ทำเล พื้นที่ต่างๆ เพื่อให้กระชับ และเข้าใจในการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มก็เป็นอันรู้กัน แต่นี่เป็นแค่ตอนแรกเท่านั้น เรายังมีอีกหลายคำที่น่ารู้และสำคัญมากในตอนจบ… โปรดติดตามตอนต่อไป


ในบทความนี้จะให้ความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์อสังหาฯเบื้องต้นก่อนที่คุณจะซื้อคอนโด ซึ่งคุณสามารถได้ยินบ่อยๆเมื่อไปพูดคุยและเยี่ยมชมกับเจ้าหน้าที่ขายประจำโครงการ รวมถึงช่วยสร้างความเข้าใจให้มากขึ้นในเวลาอ่านข่าว อ่านบทความวิเคราะห์อสังหาฯที่เราสนใจครับ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่คุณจะซื้อคอนโด ศัพท์เบื้องต้นเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องคอนโดมากขึ้นครับ

1.Freehold

Freehold เป็นคำที่บ่งบอกถึงกรรมสิทธิ์ในการถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นครับ ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบ Freehold คือ ผู้ซื้อสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ร่วมกับผู้ซื้อคอนโดคนอื่นๆ ได้เลย ถือว่าเป็นเจ้าของทรัพท์สินนั้นตลอดไป และสามารถขายทรัพท์สินนั้นเมื่อมูลค่าของทรัพย์สินนั้นเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

2.Leasehold

Leasehold ตรงข้ามกับ Freehold ครับ คือจะเป็นกรรมสิทธิ์ที่ผู้ซื้อไม่สามารถถือครองที่ดินนั้นได้ เพราะที่ดินไม่ได้เป็นของบริษัทเจ้าของโครงการ (Property Developer) แต่เป็นของบุคคลอื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินของภาครัฐ เช่น สํานักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การรถไฟ กรมธนารักษ์ เป็นต้น ผู้ซื้อคอนโดประเภท Leasehold นี้ จะมีสิทธิ์อยู่อาศัยตามระยะเวลา พูดง่ายๆเหมือนเป็นการเช่าพื้นที่ซะมากกว่า โดยระยะเวลาเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 30 ปี หลังจากครบกําหนดระยะเวลาตามสัญญาเช่าแล้ว คอนโดตรงนั้นจึงกลับไปเป็นของเจ้าของที่ดิน หรือสามารถต่อสัญญาเช่าได้ตามแต่จะตกลงกัน ไม่สามารถขายทรัพย์สินนั้นได้

3.EIA

EIA ย่อมาจาก Environmental Impact Assessment Report หรือการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นการศึกษาเพื่อคาดการณ์ผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบจากการพัฒนาโครงการ  มีความสำคัญทางด้านกฎหมายต่อคอนโดที่มียูนิตห้องชุดตั้งแต่ 80 ยูนิตขึ้นไป หรือมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 4,000 ตารางเมตรขึ้นไป เพราะถ้าโครงการไหนไม่ผ่าน EIA ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร โครงการส่วนใหญ่มักจะเปิด Presales พร้อมกับการขอ EIA ไปด้วย แต่ถ้าจะเอาชัวร์สังเกตุคำว่า EIA Approved ไว้ให้ดี นั่นหมายความว่า EIA สำหรับโครงการนั้นผ่านแล้ว สร้างได้แน่นอน เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ และลดความเสี่ยง ไม่ต้องกังวลขอเงินจองคืนถ้าโครงการไม่ผ่าน EIA

4.Presale

เรามักจะได้ยินคำว่า ราคา Presale หรือ ราคาเปิดตัว เมื่อมีโครงการเปิดตัวใหม่ ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ซื้อจาก Developer ก่อนคอนโดจะสร้างเสร็จ ข้อดี คือ ผู้ซื้อสามารถเลือกจองทำเลได้ก่อนใคร แต่ต้องตัดสินใจซื้อจากการดูห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดแสดงไว้ให้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยงหากโครงการนั้นยังไม่ผ่าน EIA ก็ได้ครับ

5.Resale

Resale คือ การขายต่อหลังจากที่โครงการสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งราคาอาจจะสูงหรือต่ำกว่าราคา Presale ก็ได้ครับ แล้วแต่ความนิยมของโครงการ ซึ่งการซื้อ-ขายในช่วงนี้จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า ผู้ซื้อสามารถเห็นสภาพห้อง วัสดุที่ใช้ ทำเล วิวได้จริงทั้งหมดก่อนตัดสินใจซื้อ ในบางกรณี Resale หมายถึง การขายต่อสิทธิ์ในการจองโครงการก่อนโครงการสร้างเสร็จ หรือเรียกว่า ขายดาวน์ก็ได้

6.Down Payment

Down Payment เป็นช่วงที่คุณจะผ่อนชำระเงินดาวน์กับทางผู้พัฒนาโครงการ หากคุณซื้อคอนโดมือหนึ่งหรือเป็นคอนโดที่อยู่ในช่วงก่อสร้าง โดยแบ่งชำระเงินค่างวดในแต่ละเดือนตามที่ทางผู้พัฒนากำหนดไว้ อาจจะเป็นผ่อนจ่ายเดือนละ 10,000 บาท หรือคิดเป็น 8-10% ของมูลค่ายูนิตที่เราซื้อ ซึงคุณจะต้องชำระจนถึงช่วงที่อาคารก่อสร้างเสร็จหรือช่วงก่อนโอนกรรมสิทธิ์ หากเป็นอาคาร Lowrise จะอยู่ที่ประมาณ 18 งวด หรือ 1 ปีครึ่ง หากเป็นอาคารสูง High Rise จะอยู่ที่ประมาณ 24 งวด ถึง 36 งวด ทั้งนี้ในช่วงจ่ายเงินดาวน์ ยังมีงวดบอลลูน เป็นการจ่ายเงินก้อนใหญ่ เพื่อโปะยอดเงินดาวน์ให้น้อยลง โดยจำนวนงวดบอลลูนจะแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้พัฒนาโครงการ

7.Pre-Approve 

Pre-Approve เป็นคำที่ผู้ซื้อคอนโดควรถามกับเจ้าหนี้ที่ครับว่ามี Pre-approved ให้หรือไม่ เพราะ  Pre-approved คือ การตรวจสอบสถานะคุณสมบัติเบื้องต้นกับธนาคารก่อนว่ารายได้ที่มีเท่าไหร่ สามารถขอสินเชื่อบ้านได้หรือไม่ มีแนวโน้มกู้ผ่านหรือไม่ เป็นความอุ่นใจอย่างหนึ่งครับหากมีแนวโน้มว่าจะกู้ไม่ผ่าน ทางเจ้าหน้าที่อาจช่วยแนะนำหรือหาทางออกให้ เช่น ให้ลดราคาของคอนโดลง หรือ หาผู้กู้ร่วม ซึ่งการทำ Pre-approved นี้ก็จะเหมือนการขอยื่นกู้กับธนาคาร ขาดเพียงแต่ราคาประเมินที่แท้จริงของบริษัทประเมินเท่านั้นครับ 

8.Capital Gain

Capital Gain เป็นผลตอบแทนจากการขายอสังหาฯ โดยส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนอสังหาฯที่ต้องการลงทุนระยะยาวจะคำนึงถึง Capital Gain เป็นหลัก เพื่อให้ได้ตัวเลือกที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด ซึ่งการลงทุนคอนโดระยะยาวเช่นนี้จะต้องใช้ระยะเวลาให้พื้นที่มีการพัฒนา และมีมูลค่าที่ดินสูงขึ้นไปซัก 2-3 ปี หรือให้มีความต้องการของที่อยู่อาศัยในทำเลมากขึ้น ถึงขายต่อห้องนั้น เพื่อได้กำไรเป็นส่วนต่างจากการขายห้อง

9.Rental Yield Rate

Rental Yield Rate คือ ผลตอบแทนจากการเช่าอสังหาฯ เป็นการลงทุนระยะสั้น ต่างจาก Capital Gain ที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานเพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้น การปล่อยเช่าจึงเป็นอีกการลุงทุนคอนโดที่สามารถทำได้ระหว่างการรอ Capital Gain ปัจจุบัน Rental Yield จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆทั้ง อัตราการเข้าอยู่อาศัย, ทำเลของโครงการ, สภาพความเก่า-ใหม่ของห้อง และที่สำคัญที่สุดคือ ราคาเช่าของห้อง ที่ต้องไม่สูงเกินตลาดราคาเช่าของคอนโดภายละแวกเดียวกัน

10.Occupancy Rate

Occupancy Rate คือ อัตราการเข้าอยู่อาศัยของคอนโดนั้นๆ ถ้ามีจำนวนผู้อยู่อาศํยเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงจากจำนวนยูนิตที่ปล่อยขายทั้งหมด จะแสดงให้เห็นว่าคอนโดโครงการนั้นเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปด้วยเหตุผลต่างๆทั้งทำเลที่ตั้ง หรือราคาก็ตาม ถ้ามองในมุมนักลงทุนสามารถลงทุนซื้อเก็บไว้ได้ เพื่อเกร็งกำไรจาก Capital Gain และมีโอกาสปล่อยเช่าคอนโดได้ง่าย เนื่องจากมีความต้องการอยู่อาศัยสูง สามารถปล่อยเช่าได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับ Rental Yield สูงกลับมา

สรุป

คำเหล่านี้จะเป็นคำที่คุณได้ยินบ่อยๆเมื่อไปชมโครงการ หรือซื้อคอนโดครับ ถ้าหากคุณไม่มั่นใจหรือเป็นมือใหม่ซื้อคอนโด สามารถติดต่อ Bangkok Citismart เพื่อปรึกษาและแนะนำโครงการคอนโดที่เหมาะกับคุณได้ครับ