ระบบส่งไฟฟ้า Show
ปัจจุบัน “พลังงานไฟฟ้า” เป็นสิ่งจำเป็นระดับต้นๆของวิถีชีวิตปัจจุบัน นอกจากนี้พัฒนาการด้านพลังงานไฟฟ้ายังมีส่วนผลักดันในการเปลี่ยนแปลงมิติอื่น ๆ ทั้งด้านอุตสาหกรรม การแพทย์สาธารณสุข การคมนาคม การศึกษา การท่องเที่ยว และการสื่อสาร เป็นต้น โดยเส้นทางแห่งการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า ยังคงก้าวไปด้วยกลไกแห่งการสร้างสรรค์คุณภาพ ที่พร้อมส่องแสงอันสว่างไสวจากแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าที่หลากหลายเชื้อเพลิง เชื่อมโยงผ่านด้วยสายใยของ “ระบบส่งไฟฟ้า” ระบบส่งไฟฟ้าจึงมีส่วนสำคัญในการส่งพลังงานไฟฟ้าจากผู้ผลิตมาสู่ผู้ใช้ไฟ ทำให้ประชาชนเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง ระบบส่งสร้างความเจริญสู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ก่อให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นำไปสู่ความเชื่อถือในการลงทุนในทุกภาคส่วน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดหา ผลิต ควบคุมระบบไฟฟ้าและส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าผ่านระบบเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าของ กฟผ.ทั่วประเทศ โดยการเชื่อมโยงจากแหล่งผลิตไฟฟ้าไปยังระบบจำหน่ายของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งจะปรับแรงดันไฟฟ้าก่อนส่งถึงผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม รู้จักระบบส่งไฟฟ้า
สายส่งไฟฟ้าแรงสูง (Tranmission Line) ดังนั้น “สายส่งไฟฟ้าแรงสูง”จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้า ทำหน้าที่ส่งพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าไปยังศูนย์กลางใช้ไฟฟ้า และเชื่อมโยงระบบส่งไฟฟ้าหลายๆระบบเข้าด้วยกัน เพื่อส่งไฟฟ้าจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง หรือถ่ายเทพลังงานไฟฟ้าระหว่างระบบให้แก่กันในกรณีฉุกเฉิน และกรณีที่บางระบบมีช่วงเวลาของการใช้ไฟฟ้าสูงสุดไม่ตรงกัน เสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจึงจำเป็นต้องอยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) คือ สถานที่ตั้งอุปกรณ์ตัดตอนไฟฟ้า และอุปกรณ์แปลงแรงดันไฟฟ้า เป็นสถานที่ติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมการไหลของพลังงานไฟฟ้า เป็นจุดที่เชื่อมโยงระหว่างสายส่งไฟฟ้าจากจุดต่างๆถึงกัน และมีอุปปกรณ์สำหรับป้องกันระบบติดตั้งไว้เพื่อตัดสายส่งที่มีปัญหาลัดวงจรออกจากการจ่ายไฟฟ้า
ลานไกไฟฟ้า (Switchyard) ทำหน้าที่แปลงแรงดันที่ผลิตจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้สูงขึ้นเพื่อส่งต่อไปยังสถานีไฟฟ้าที่อยู่ห่างไกล ลดความสูญเสียในระบบ ซึ่งประกอบด้วยหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง ที่ทำหน้าที่่เพิ่มแรงดัน และระบบป้องกันทางไฟฟ้า
ลูกถ้วย (Insulator) ลูกถ้วย (Insulator) คือ อุปกรณ์ที่ใช้รองรับสายไฟฟ้าแรงสูง มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า ป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลจากตัวนำไปสู่โครงสร้างเสาส่ง หรือไหลลงดิน โดยลูกถ้วยของ กฟผ.ทำจากกระเบื้องเคลือบหรือแก้ว มีคุณสมบัติพิเศษคือมีความเป็นฉนวนมาก แข็งแรง ทนทาน แต่เมื่อใช้ไปนานๆ สัมผัสกับอากาศนานเข้าจะมีฝุ่นละอองมาเกาะทำให้เกิดการนำไฟฟ้าได้ จึงต้องมีการทำความสะอาดลูกถ้วยอย่าสม่ำเสมอ ประเภทของเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงเราเคยลองสังเกตไหมว่า เมื่อเราเดินทางผ่านตามถนนต่างๆในเมือง หรือต่างจังหวัด เรามักจะเห็นเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงที่มีรูปร่าง ขนาด ที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็เพราะว่าเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานแยกตามระดับแรงดันไฟฟ้า จำนวนสายที่ใช้ในระบบ และพื้นที่ที่ตั้งเสาที่แตกต่างกันไป เพื่อให้การส่งจ่ายไฟฟ้ามีความมั่นคง ก่อให้เกิดเสถียรภาพในระบบไฟฟ้า ไม่ทำให้เกิดไฟตก ไฟดับ นั่นเอง การที่ระบบไฟฟ้ามีแรงดันไฟฟ้าสูง จะช่วยส่งกระแสไฟฟ้าไปยังระยะทางไกล ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากไฟฟ้าแรงสูงมีแรงดันไฟฟ้าที่สูงมากเมื่อเทียบกับที่ใช้กันทั่วไปตามบ้านเรือน และอาคารต่าง ๆ (220 โวลต์) ไฟฟ้าแรงสูงจึงสามารถกระโดดข้ามอากาศเข้าหาวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการสัมผัสกับสายไฟเลย (เราจึงอาจจะเห็นนกที่ถูกไฟดูด โดยไม่จำเป็นต้องเกาะบนสายไฟ) ยิ่งถ้าไฟฟ้ามีแรงดันสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เกิดการกระโดดข้ามได้ไกลมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ใช้ระดับแรงดันไฟฟ้า คือ 69 กิโลโวลต์ (ปัจจุบันใช้อยู่น้อยมาก) 115 กิโลโวลต์ 230 กิโลโวลต์ และ 500 กิโลโวลต์ ซึ่งถือเป็นไฟฟ้าแรงสูงทั้งหมด และในอนาคตหากมีความต้องการพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นและต้องส่งพลังงานไฟฟ้าในระยะไกลมากขึ้น อาจจะมีระดับแรงดันไฟฟ้าที่มากกว่า 500 กิโลโวลต์ ชนิดของเสาไฟฟ้าถูกออกแบบเป็นประเภทต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้าและจำนวนสายที่ใช้ในระบบของ กฟผ. โดยปัจจุบันมีเสาไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ 3 ชนิด คือ เสาคอนกรีต เสาโครงเหล็ก และเสาชนิด Monopole ซึ่งการใช้งานขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ที่ตั้งเสาไฟฟ้า ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าประกอบด้วยโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ สายส่งไฟฟ้าระดับแรงดันต่างๆ และสถานีไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งตั้งกระจายอยู่ทั่วไปตามจังหวัดต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานกลางเพื่อให้โรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าแรงสูง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด หน่วยงานดังกล่าวคือ “ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ” การดำเนินงานของศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นด้านความมั่นคง เชื่อถือได้ และมีคุณภาพเพียงพอต่อเนื่องของระบบไฟฟ้า ประสิทธิภาพและต้นทุนการผลิตเป็นสำคัญ โดยมิได้คำนึงว่าเป็นโรงไฟฟ้าของ กฟผ. หรือโรงไฟฟ้าเอกชน เพื่อบรรลุตามภารกิจดังกล่าว ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ ต้องสั่งการด้วยความเป็นธรรมต่อผู้ผลิตไฟฟ้าทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตที่มีศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า ต้องสั่งให้ผู้ผลิตไฟฟ้าดำเนินการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นธรรมและจะเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมมิได้ โดยมีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้กำกับดูแล ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า มีความสำคัญต่อการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ และยังเป็นหน่วยงานกลาง ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นไปอย่างประหยัด มั่นคง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่าย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีภารกิจหลักต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวฉันใด ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าก็มีความสำคัญควบคู่กันไปด้วย ข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัยในเขตเดินสายไฟฟ้าเขตเดินสายไฟฟ้าเป็นพื้นที่รอบๆแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยประกาศเป็นระยะทางจากแนวศูนย์กลางสายส่งไฟฟ้าแรงสูงออกไปเป็นระยะทางต่างๆกัน กฟผ. อาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 และ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ประกาศและกำหนดเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับดำเนินการก่อสร้างและบำรุงรักษา เพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยในการส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า โดยการจำกัดสิทธิบางประการในการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า และเป็นการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน ประกาศการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัยในเขตเดินสายไฟฟ้า
ข้อกำหนดความกว้างเขตเดินสายไฟฟ้า
เมื่อมีความประสงค์จะติดต่อขออนุญาตกระทำการก่อสร้าง ปรับพื้นที่ในเขตเดินสายไฟฟ้า หรือมีข้อสงสัยใดๆ หรือ พบการกระทำใดๆ อันอาจเป็นอันตรายต่อระบบการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาติ โปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทย ที่ใกล้ที่สุด หรือศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. 1416 เอกสารอ้างอิง ที่มา
: แรงดันไฟฟ้า 3 เฟส มีแรงดันเท่าใดไฟฟ้า 3 เฟส
รู้จักกันในอีกชื่อว่า 3 Phase 4 Wire เป็นระบบไฟฟ้าที่มีแรงดัน 380 โวลต์ ซึ่งมากกว่าเฟส 1 อยู่ถึง 160 โวลต์เลยทีเดียว นิยมถูกนำไปใช้กับอาคารตึกสูงหรือสถานที่ที่ต้องการไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งไฟเฟส 3 นั้นจะมีสายไฟทั้งหมด 4 เส้น แต่มีไฟเดินอยู่แค่ 3 เส้นเท่านั้น ส่วนอีกเส้นจะเป็นสายเส้นศูนย์ (Neutral Line)
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย มีแรงดันระหว่างสายเส้นไฟและสายนิวทรัลเท่าไร3.2 ระบบ 3 เฟส จะมี 4 สายในระบบ ประกอบด้วย สาย LINE (มีไฟ) 3 เส้น และสายนิวตรอน (ไม่มีไฟ) 1 เส้น มีแรงดันไฟฟ้าระหว่าง สายLINE กับ LINE 380 – 400 โวลท์ และแรงดันไฟฟ้าระหว่างสาย LINE กับ Neutral 220 – 230 โวลท์ และมีความถี่ 50 เฮิร์ซ (Hz) เช่นเดียวกัน
ระบบแรงดันไฟฟ้า 3 เฟส มีสายไฟใช้งานกี่เส้น ไม่รวมสายดิน2. ระบบไฟฟ้า 3 เฟส คือ มีแรงดันไฟฟ้าระหว่าง สายไลน์ กับ ไลน์ 380 – 400 โวลท์ และแรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์ กับ นิวทรอล 220 – 230 โวลท์ และมีความถี่ 50 เฮิร์ซ (Hz) จะมีสายไฟในระบบจำนวน 4 สาย ประกอบด้วย -สายไลน์ (มีไฟ) 3 เส้น -สายนิวทรอล (ไม่มีไฟ) 1 เส้น
สายเส้นใดที่ไม่มีแรงดันไฟฟ้า1. ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือระบบไฟฟ้าที่มีสายไฟฟ้าจำนวน 2 เส้น เส้นที่มีไฟเรียกว่าสายไฟหรือสายเฟส หรือสายไลน์ เขียนแทนด้วยตัวอักษร L (Line) เส้นที่ไม่มีไฟเรียกว่าสายนิวทรอล หรือสายศูนย์ เขียนแทนด้วยตัวอักษร N (Neutral) ทดสอบได้โดยใช้ไขควงวัดไฟ เมื่อใช้ไขควงวัดไฟแตะสายเฟส หรือสายไฟ หรือสายไลน์ หลอดไฟเรืองแสงที่อยู่ภายไขควงจะ ...
|