เชื่อมต่อ apple carplay toyota

ปัจจุบันยุคแห่งเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทในทุกพื้นที่อย่างหลากหลาย ไม่เว้นแม้แต่รถยนต์ที่ทุกวันนี้แทบจะเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว แถมยังเป็นเพื่อนที่คอยเอ็นเตอร์เทนเราอีกต่างหาก อย่างล่าสุดเขาได้พาเจ้า Apple CarPlay ฟังก์ชั่นเอาใจคนรุ่นใหม่มาช่วยในการเชื่อมต่อให้ง่ายขึ้น

ว่าแต่  Apple CarPlay คืออะไร? 
คือระบบของ apple ที่คุณสามารถนำสมาร์ทโฟน มาเชื่อมต่อกับกับรถยนต์  เพียงใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสบนเครื่องเสียงของรถยนต์  เพื่อที่จะได้ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆในสมาร์ทโฟน ได้สะดวกโดยไม่ต้องยกมือถือขึ้นมา ก็เพื่อความปลอดภัยขณะขับรถด้วยนะคะ (ฟังก์ชั่นนี้อาจจะไม่ได้มีในรถยนต์ทุกรุ่น ลองตรวจเช็กก่อนใช้งานนะคะ ) 

เมื่อรู้แล้วว่ามีฟังก์ชั่นนี้ จะเชื่อมต่อ Apple CarPlay อย่างไร ? 

1. สามารถหยิบสายชาร์จมือถือไอโฟน ต่อเข้ากับช่อง USB ของเครื่องเสียงในรถได้เลย
2. หรือหากในรถใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย สามารถจับคู่ผ่านระบบ Bluetooth ก็ง่ายเหมือนกัน
3. เลือกเมนู CarPlay บนหน้าจอเครื่องเสียงของรถยนต์ก็เริ่มใช้งานได้ 

หลังจากเชื่อมต่อแล้ว สามารถเล่น application ต่างๆ(บางตัว)ที่ตรงกันกับสมาร์ทโฟนของคุณได้   งั้นเรามาดูความสามารถของเจ้า Apple CarPlay กันสักหน่อยสิว่ามันจะพาเราไปสนุกกับอะไรได้บ้าง 

"เชื่อมต่อ Google Maps" 
การเดินทางกับรถยนต์ทุกวันนี้  แค่มี  Google Maps นำทางก็รู้สึกอุ่นใจแล้ว กดเลือกใช้แอพพลิเคชั่น Google Maps  เชื่อมต่อได้สะดวก ง่าย และไม่หลงแน่นอน แค่มองผ่านหน้าจอของรถยนต์ (ถ้าสัญญาณ internet ไม่หายนะคะ ) 

" playlist ไหนก็ไม่หวั่น "  
ขับรถฟังเพลงเป็นอีกหนึ่ง feeling ที่ขาดไม่ได้ว่าไหมคะ พอเชื่อมต่อ  Apple CarPlay ได้แบบนี้จะกี่ music application ที่คุณเลือกฟังบนสมาร์ทโฟน
ก็มาเปิดฟังบนรถได้เหมือนกัน  ไม่ว่าจะเป็น Spotify , Youtube , Joox , Apple Music ฟังเพลินๆวนไปเลย 

" สายไหน ก็ไม่พลาด " 
ไม่พลาดสักสายที่โทรมา (ก็เล่นโชว์ชื่อบนหน้าจอขนาดนี้ไม่รับได้ไง) อีกหนึ่งระบบที่อำนวยความสะดวกให้คุณก็คือ การที่ Apple CarPlay สามารถเชื่อมต่อการโทรเข้า โทรออก หรือเลือกรับสายได้ โดยไม่ต้องยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาเลย (หรือเลือกรับส่งข้อความก็ทำได้เด้อ)  ปลอดภัยระหว่างขับขี่แน่นอน (แต่ก็อย่าคุยเพลินจนเกิดการประมาทนะคะ) 

ตอบโจทย์ lifestyle คนรุ่นใหม่ แถมยังปลอดภัยในการขับขี่แบบนี้ ลองเชื่อมต่อเล่นกันดูนะคะ  การอยู่บนรถก็จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.รสนิยม.com 

ดูวิธีเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณเข้ากับสเตอริโอรถยนต์

เชื่อมต่อโดยใช้ CarPlay

CarPlay ซึ่งสามารถใช้ได้ในรถบางรุ่น เป็นวิธีที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับการใช้ iPhone ในรถ CarPlay นำสิ่งที่คุณต้องการใช้งานด้วย iPhone ในขณะขับรถมาไว้ในจอแสดงผลในตัวของรถโดยตรง 

อันดับแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประเทศหรือภูมิภาคของคุณรองรับ CarPlay และรถของคุณก็รองรับ CarPlay เช่นกัน

หากรถของคุณรองรับ CarPlay โดยใช้พอร์ต USB ให้เสียบ iPhone เข้ากับพอร์ต USB ในรถหรือสเตอริโอของคุณ โดยพอร์ต USB อาจมีป้ายที่มีไอคอน CarPlay หรือไอคอนสมาร์ทโฟนติดไว้

หากรถของคุณรองรับการใช้ CarPlay แบบไร้สาย ให้กดปุ่มคำสั่งเสียงบนพวงมาลัยค้างไว้เพื่อตั้งค่า CarPlay หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถของคุณอยู่ในโหมดการจับคู่แบบไร้สายหรือบลูทูธ จากนั้นบน iPhone ให้ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > CarPlay > รถที่มี แล้วเลือกรถของคุณ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถของคุณ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CarPlay หรือวิธีตั้งค่าและใช้งาน CarPlay

iPad และ iPod touch ไม่รองรับ CarPlay

เชื่อมต่อโดยใช้บลูทูธ

1. รีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ
2. ไปที่การตั้งค่า > บลูทูธ แล้วปิดบลูทูธ รอประมาณ 5 วินาที แล้วเปิดบลูทูธใหม่
3. ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถของคุณเกี่ยวกับวิธีจับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธ รถโดยส่วนใหญ่ต้องมีการตั้งค่าโทรศัพท์บนจอแสดงผลในรถ 
4. หากคุณเชื่อมต่อโทรศัพท์หลายเครื่องกับสเตอริโอรถยนต์ ให้ลองเปลี่ยนชื่ออุปกรณ์ของคุณ โดยไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ > ชื่อ แล้วป้อนชื่อใหม่ แล้วลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
5. อัพเดทอุปกรณ์ของคุณ
6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสเตอริโอของคุณใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิตรถยนต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคู่มือของรถ

หากคุณยังคงไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ให้ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple

เชื่อมต่อโดยใช้การเล่นผ่าน USB

1. รีสตาร์ทอุปกรณ์และรถของคุณ
2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณปลดล็อคแล้วและอยู่บนหน้าจอโฮม
3. หากทำได้ ให้พยายามเชื่อมต่อโดยใช้สายหรือพอร์ต USB อื่น ตรวจสอบข้อมูลจากคู่มือที่มาพร้อมกับรถของคุณเพื่อดูวิธีเชื่อมต่ออุปกรณ์ Apple
4. ตรวจสอบพอร์ตชาร์จว่ามีฝุ่นผงหรือความเสียหายใดๆ หรือไม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายชาร์จเสียบกับพอร์ตอย่างถูกต้อง
5. อัพเดทอุปกรณ์ของคุณ
6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสเตอริโอของคุณใช้เฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิตรถยนต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในคู่มือของรถ
7. ลองเล่นเสียงจากแอพอื่น หากคุณไม่สามารถเล่นเสียงจากแอพของบริษัทอื่นได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอพเพื่อขอความช่วยเหลือ หากคุณไม่สามารถเล่นเสียงจากแอพของ Apple ได้ ให้ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: 1 เมษายน 2564