2.4 การกำหนดรูปแบบและสีของตัวอักษร ในการจัดรูปแบบของข้อความหรือตัวอักษรนั้น การใช้สีก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกันในการจัดรูปแบบ ซึ่งในการกำหนดรูปแบบสามารถกำหนดได้ ดังนี้ การกำหนดรูปแบบ ในการกำหนดรูปแบบของตัวอักษร
หรือข้อความ สามารถกำหนดได้ด้วยคุณสมบัติ(attribute) ชื่อ face แล้ว ตามด้วยชื่อ font ที่เราต้องการ เอกสารเว็บกำหนดฟอนต์ ได้หลายฟอนต์ โดยโปรแกรมเบราเซอร์จะมีการตรวจสอบการใช้ฟอนต์ให้อัตโนมัติ <font face="ชื่อ font">..ข้อความต้องการกำหนด font..</font> การกำหนดสี การกำหนดสีของตัวอักษร หรือข้อความที่ต้องการนั้น คำสั่งในภาษา HTML จะใช้ คุณสมบัติ (attribute) สำหลับกำหนดสีที่ชื่อ color การกำหนดสีของตัวอักษรหรือข้อความ นั้นจะสามารถกำหนดได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. กำหนดโดยใช้ชื่อสี เช่น red, yellow, blue หรือ pink เป็นต้น 2. การกำหนดสีโดยระบุชื่อสีแบบนี้จะมีข้อจำกัดมาก เพราะไม่สามารถใช้โทนสีได้มากเท่าที่ใจต้องการ
(จะใช้ได้ประมาณ 16 สี) ถ้าต้องการให้มีสีมากกว่านี้จะต้องใช้การกำหนดเป็นรหัสค่าสีด้วยระบบตัวเลขฐานสิบหก กำหนดค่าสีของแสง (RGB) คำสั่งที่ใช้คือ <font color="ชื่อสี หรือ code สี ที่ต้องการ">..........</font> ทดสอบการกำหนด font และสีตัวอักษร สร้าง font tag. ให้ใส่แท็ก <font>หน้าข้อความที่อยากใส่สี แล้วปิดด้วยแท็ก</font>ต่อท้ายข้อความ
ใส่ color attribute. ใส่ color=" " กลาง font tag ที่ใช้เปิด สีที่คุณต้องการจะอยู่ในเครื่องหมายคำพูด
เลือกชื่อสี. ชื่อสีจะเป็นคำเดียว ไม่เว้นวรรค มีทั้งสีพื้นฐานอย่าง "blue" (น้ำเงิน) หรือ "red" (แดง) ไปจนถึงสีละเอียดขึ้นอย่าง "lightblue" (ฟ้าอ่อน) หรือ "darkblue" (น้ำเงินเข้ม) ถ้าอยากดูชื่อสีเพิ่มเติม ให้ศึกษารายชื่อคำที่ใช้ระบุสีได้ เช่น "maroon" (แดงอมม่วง), "steelblue" (ฟ้าออกเทา) และ "lime" (เขียวมะนาว)
ใช้โค้ดสีแบบ hex แทน. HTML ให้คุณเลือกใช้ได้เป็นล้านสี แต่บางสีก็ไม่มีชื่อนี่สิ ก็เลยกำกับด้วยเลข 6 หลักแทน เป็นโค้ดเลขฐานสิบหก (hexadecimal) มีหลายเว็บเลยที่รวบรวมรายชื่อโค้ดสีแบบ hex ไว้ หรือเว็บที่ให้คุณเลือกสีในหน้าจอ แล้วแสดงเป็นค่า hex ออกมาให้เสร็จสรรพ โค้ดนี้จะเริ่มด้วยเครื่องหมาย # แล้วตามด้วยเลข 6 หลัก (0 - 9) หรือตัวอักษร (A - F)
ปรับค่า RGB. ปกติคุณเลือกสีในเว็บได้เลย ไม่ต้องรู้โค้ดสีแบบ hex แต่ถ้าอยากผสมสีให้ตรงใจ ก็ทำได้ง่ายๆ โดย
รู้ลึกเรื่องโค้ดสีแบบ hex. ถ้าอยากเลือกสีให้เป๊ะตรงใจกว่านี้ ก็ต้องรู้ 2 เรื่องนี้เพิ่ม
วิธีการ 2 วิธีการ 2 ของ 2:ใช้ CSS แบบ In-Line
|