ชื่อผลงาน วิจัยในชั้นเรียน การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุดบทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ชื่อผู้เสนอ นางสาวเจนจิรา คำมิ่ง โรงเรียนอนุบาลกบินทร์บุรี ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี
เขต ๒ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก ๐๙ ๘๘๖๕๗๐๗๗ แนวทาง วิธีการปฏิบัติงาน/การจัดการเรียนการสอน แนวคิดการพัฒนาผลงานทางวิชาการมาจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับนักเรียนที่รับผิดชอบ ตามหลักวิชาการ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ควบคู่กับการวิจัยในชั้นเรียน ที่สอดคล้องกับพัฒนาการของนักเรียน โดยการผลิตสื่อและนวัตกรรมเพื่อใช้ประกอบกระบวนการจัดการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการสอดแทรกคุณธรรมเพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข การสร้างองค์ความรู้ได้จัดการเรียนรู้ควบคู่กับการวิจัยในชั้นเรียน
การวิเคราะห์นักเรียนรายบุคคล สร้างและนำนวัตกรรมใหม่มาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้แก่ผู้เรียน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดบรรยากาศที่เหมาะสมแก่การเรียนรู้ ใช้สื่อต่างๆและเทคโนโลยีประกอบการจัดการเรียนรู้ จึงได้สร้างและนำชุดบทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ๒. เพื่อพัฒนาชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดบทบาท เรื่อง
บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย
๑. ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่สร้างขึ้น จำนวน ๑๐ เล่ม
๒. แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๑๒ แผน
๓. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๒๐ ข้อ
วิธีการดำเนินการศึกษาค้นคว้า
๑. ผู้จัดทำได้อธิบายชี้แจงทำความตกลงกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในเรื่อง การเรียน เวลาเรียน และวิธีการ
ในการเรียน
๒. ทำการเก็บข้อมูลก่อนทดลอง โดยให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ เพื่อนำคะแนนที่ได้เป็นคะแนนทดสอบก่อนเรียน
๓. ให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายเรียนด้วยชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมืองวัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ทั้ง ๑๐ เล่มโดยมีการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนทุกครั้ง ทั้ง ๑๐ เล่ม
๔. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ เพื่อนำคะแนนที่ได้เป็นคะแนนทดสอบหลังเรียนและทำแบบวัดความพึงพอใจ จำนวน ๑๐ ข้อ
๕. ตรวจผลการทำแบบทดสอบประจำเล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนและแบบวัดความพึงพอใจ แล้วจึงนำไปวิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติต่อไป
การเก็บรวบรวมข้อมูล
ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานการณ์จริงในชั้นเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
การวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน นำมาวิเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย () และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบคะแนนความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคน
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มที่ศึกษา คือ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ทั้งหมดรวม ๒๐ คน มีการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน แล้วจึงดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย หลังจากนั้นจึงทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน แล้วจึงนำผลมาเก็บรวบรวม ข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนที่รวบรวมได้จากเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมาจำแนกผลการเรียนรู้ ดังนี้
ตารางที่ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนในการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย
การฝึก | จำนวนนักเรียน | ผลรวม SX | ค่าเฉลี่ย X | ร้อยละ | ค่า S.D |
ก่อนเรียน | ๒๐ คน | 231 | 11.55 | 57.75 | 2.31 |
หลังเรียน | ๒๐ คน | 341 | 17.05 | 85.25 | 1.05 |
จากตาราง สรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.55 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 17.05. จะเห็นได้ว่าคะแนนของค่าเฉลี่ยหลังเรียนมีค่ามากกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของก่อนเรียนมีค่าเท่ากับ 2.31 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 1.05 แสดงว่าข้อมูลมีค่าคะแนนใกล้เคียงกัน
สรุปผลการวิจัย
๑. ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
๓. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วย๑. ชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ประโยชน์ที่ได้รับจากผลงาน
ผลจากการนำชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มาใช้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอน ทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนและสถานศึกษา ดังนี้
๑) ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทยผ่านเกณฑ์การประเมิน
๒) ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย และสร้างชิ้นงานได้อย่างเหมาะสม
๓) ทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในการเรียนรู้และมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น
๔) โรงเรียนมีสื่อ/นวัตกรรมที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนมากขึ้น
ความภาคภูมิใจในผลงาน
ข้าพเจ้าได้เผยแพร่ผลงาน แก่นักเรียน เพื่อนครูและชุมชน โดยการจัดนิทรรศการแสดงผลงานในงานวันวิชาการของโรงเรียนชุดบทบาท เรื่อง บทบาทหน้าที่เด็กดีไทย สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
- ภาพถ่ายผลงาน
- หนังสือเผยแพร่ผลงาน
- หนังสือตอบรับการเผยแพร่ผลงาน