วัตถุประสงค์ รูปที่ ๑ ๓.การซ่อมแซมเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นประจำ อาจเกิดการชำรุดเนื่องจากทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน หากรู้จักซ่อมแซมจะทำให้เสื้อผ้าใช้งานได้ต่อไป การซ่อมแซมเสื้อผ้ามีหลักการสำคัญ ดังนี้ ๑.เลือกวิธีซ่อมแซมให้เหมาะสมกับลักษณะการชำรุดของเสื้อผ้าเพื่อความทนทานต่อการใช้งาน ๒.ใช้ด้ายสีเดียวกับสีเสื้อผ้าที่จะซ่อมแซม หรือสีใกล้เคียงกัน เพื่อความกลมกลืนสวยงาม ๓.ซ่อมแซมก่อนซักรีดเสื้อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าชำรุดไปมากกว่าเดิม -การสอยด้าย ๑.การสอยซ่อนด้าย เป็นการซ่อมแซมที่มอง้เห็นเส้นด้ายเพีี่ยงเล็กน้อย นิยมใช้ซ่อมแซมชายเสื้อ ชายกางเกง หรือชายกระโปรง ๒.การสอยพันริม เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายด้านผิดมากกว่าด้านถูก นิยมใช้สอยชายกางเกง ๓.การสอยฟันปลา เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายทางด้านผิดในลักษณะไขว้หัวมุม นิยมใช้สอยผ้ายืด ผ้าหนาริมผ้าไม่ลุ่ยและผ้าที่ไม่ต้องพับริมก่อนสอย ๔.การสอยหลบหลังคา เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายที่ริมผ้า ๒ ชิ้นซึ่งเย็บติดกันแน่นในลักษณะพันริมนิยมใช้เย็บที่นอนหรือเบาะ ๔.การซักเสื้อผ้าและการตากเสื้อผ้า รูปที่ ๒ รูปที่ ๓ -การซักเสื้อผ้า การซักเสื้อผ้าโดยทั่วไปมี ๒ วิธี ได้แก่ การซักเสื้อผ้าด้วยมือและการซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งการซักเสื้อผ้าแต่ละวิธี มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้ การซักเสื้อผ้าด้วยมือ ข้อดี ๑.ประหยัดน้ำและไฟฟ้า ๒.ประหยัดค่าใช่จ่ายการซื้อเครื่องซักผ้า ๓.เสื้อผ้าสะอาด ๔.ถนอมเสื้อผ้าให้ใช้ได้นาน ข้อเสีย ๑.สิ้นเปลืองแรงงาน ๒.สิ้นเปลืองเวลา ๓.เสื้อผ้าแห้งช้า การซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ข้อดี ๑.ประหยัดแรงงาน ๒.ประหยัดเวลา ๓.เสื้อผ้าแห้งเร็ว ข้อเสีย ๑.สิ้นเปลืองน้ำและไฟฟ้า ๒.สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายการซื้อเครื่องซักผ้า ๕.การเก็บเสื้อผ้าและการพับเสื้อผ้า เป็นขั้นตอนการทำงานต่อเนื่องจากการซักและตากเสื้อผ้า ซึ่งจะช่วยให้ผ้าที่แห้งแล้วไม่ต้องเปื้อนฝุ่นที่เกิดจากลมพัด หรือตากแดดจนสีซีด -การเก็บเสื้อผ้า การเก็บเสื้อผ้า มีขั้นตอนดังนี้ ๑.เก็บผ้าที่ตากไว้จากราวตากผ้า โดยเสื้อที่มีไม้แขวนให้หิ้วมาทั้งไม้แขวน ส่วนเสื้อผ้าที่พาดไว้ ให้ดึงที่หนีบผ้าออกแล้ววางรวมกัน ๒.แยกประเภทเสื้อผ้าที่ต้องรีดและไม่ต้องรีด เสื้อผ้าที่รีดให้แขวนรวมกัน ส่วนเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด วางรวมกันเพื่อพับก่อนเก็บเข้าตู้ -การพับเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด เช่น ชุดนอน กางเกงชั้นใน เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ถุงเท้า ผ้าเช็ดตัว ควรพับให้เรียบร้อยเพื่อเก็บใส่ตู้เสื้อผ้า อ้างอิงหนังสือ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สำนักพิมพ์ บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ การเลือกผ้า เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกาย 5. โอกาสต่าง ๆ ควรเลือกผ้าให้เหมาะสมกับโอกาส ดังนี้ การเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การเลือกซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูป การเลือกซื้อชุดชั้นใน ควรคำนึกถึงสิ่งต่อไปนี้ การเลือกซื้อรองเท้า พิจารณาดังนี้ การดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย การลบรอยเปื้อนบนเสื้อผ้า ข้อแนะนำในการลบรอยเปื้อน มีวิธีการดังต่อไปนี้ การซักผ้า วิธีการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ปัจจุบันมี 2 แบบ คือ แบบธรรมดาและแบบอัตโนมัติ ควรศึกษาวิธีการใช้งานจากคู่มือแนะนำการใช้อย่างละเอียด จะช่วยให้ซักผ้าได้ถูกวิธี เสร็จเร็ว และไม่ชำรุดง่าย ขั้นตอนในการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า มีดังนี้ ข้อควรระวังในการใช้เครื่องซักผ้า การตากผ้า การรีดผ้า การเก็บรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย สิ่งที่ควรปฏิบัติในการเก็บรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย มีดังต่อไปนี้ การซ่อมแซมเสื้อผ้า การติดตะขอใช้วิธีเดียวกัน ต่างกันเฉพาะวิธีวาง ถ้าเป็นตะขอรับแบบเลื่อนจะวางแนวขนานกับขอบกระโปรงหรือกางเกง ถ้าเป็นตะขอรับเล็กจะวางด้านโค้งหันออกริมนอก ตัวอย่างการซ่อมแซมเสื้อผ้า 1) เนารอบๆ รอยขาดเป็นแนวถี่ ๆ รูปสี่เหลี่ยม การติดตะขอกระโปรง 1) วางตะขอเกี่ยวตรงตำแหน่งที่ต้องการติดบนผ้า ร้อยด้ายยาวประมาณ 15–20 นิ้ว มัดปม 2 ทบ วิธีการติดตะขอรับ 1) ร้อยด้าย 2 ทบ มัดปมให้แน่น วางตะขอรับลงบนผ้าสำหรับตะขอรับคงที่ให้วางแนวตั้ง กะระยะให้พอดีกับแนวที่ติดซิปไว้ และตรงกับตำแหน่งที่ติดตะขอเกี่ยวแล้วแทงเข็มใต้ผ้าขึ้นในช่องตะขอรับ และดึงด้ายให้ตึง 4. การประเมินผลการทำงาน ถ้าตะขอติดไม่แน่น หรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกัน แก้ไขโดยการเลาะด้ายออกแล้วเย็บใหม่ หรือเมื่อลองสวมแล้วติดตะขอไม่ได้ แก้ไขโดยกำหนดตำแหน่งที่วางตะขอใหม่ให้พอดีอีกครั้ง ควรประเมินผลการปฏิบัติงานโดยภาพรวม หากพบรายการปฏิบัติตามขั้นตอน
ควรบันทึกผลไว้เพื่อนำไปแก้ไขในการทำงานครั้งต่อไป การเปลี่ยนยางยืดขอบเอวกางเกง 1) วัดขนาดยางยืดเส้นใหม่ให้สั้นกว่ารอบเอวจริงประมาณ 2–3 นิ้ว แล้วเลาะขอบกางเกงออกประมาณ 2–3 นิ้ว พอที่จะมองเห็นยางยืด 4. การประเมินผลการทำงาน ถ้ายางยืดที่เย็บไว้หลุดออกจากกันให้เย็บใหม่อีกครั้ง หรือเมื่อลองสวมกางเกงแล้วยางยืดรัดบริเวณเอวแน่นเกินไป แก้โดยวัดขนาดยางยืดกับรอบเอวใหม่ แล้วจึงเย็บติดกัน นอกจากนี้ยังควรประเมินผลการปฏิบัติงานโดยภาพรวม หากพบรายการที่ไม่ได้ปฏิบัติก็ควรบันทึกผลไว้เพื่อนำไปแก้ไขในการทำงานครั้งต่อไป แหล่งที่มาของเนื้อหา : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช www.wpp.co.th |