จดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุลจดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุล (Marriage Registration Change Surname)เชื่อว่าหลายคน หรือ คู่สมรสหลายคู่ที่กำลังจะ จัดงานแต่งงาน หรือ จัดงานแต่งงาน เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว จะต้องมีคิดเรื่องของการ จดทะเบียนสมรส อย่างแน่นอน (จัดงานแต่งงาน กับ จดทะเบียนสมรส คนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง) ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีความคิดว่าจะจดทะเบียนดี หรือไม่จดดี และถ้าหากตัดสินใจว่าจดทะเบียนสมรสแล้ว ก็จะมีประเด็นอีกว่าจะ จดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุล หรือไม่ หรือไม่เปลี่ยนนามสกุลดี เพราะเจ้าสาว หรือฝ่ายหญิง Show
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการเปลี่ยนนามสกุล มันจะยุ่งยากมากๆ เพราะไหนจะเอกสารที่เราได้ทำมาก่อนหน้าการจดทะเบียนสมรสนี้ อาทิเช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต – Passport) วีซ่า รวมไปถึงในส่วนของ เอกสารการเงินที่สำคัญๆ อย่างเช่น บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต ต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากใครที่ประกอบธุรกิจ มีกิจการเป็นของตัวเอง เปิดบริษัท ห้างร้านฯ อะไรพวกนี้ ก็คงจะคิดว่ายุ่งยากมากๆ ในการจะทำเรื่องเปลี่ยนทีนึง ซึ่งอยากจะบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่า “ไม่ยากอย่างที่คิด” เลย ถ้าอ่านบทความนี้จบ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งหมดนี้ เราสามารถใช้เวลาทำเคลียร์ให้จบได้ภายใน 1 สัปดาห์ เรียกได้ว่าใครทำงานอยู่ หาโอกาสลางานยาวไปเลย 5 วัน โดยใช้สิทธิ์ลากิจไปเลย (เห็นหลายคนลาไปเที่ยวต่างประเทศยาวๆ ยังทำได้) อันนี้ขอหนเดียวเคลียร์เอกสาร เพื่อตัวเอง เพื่ออนาคต และจะอยู่กับเรา และคู่สมรส ไปตลอดจนตาย ขอทีเดียวจบ ก่อนจะเริ่มอ่านบทความอันแสนจะยาวเหยียดนี้ ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านที่เป็นฝ่ายเจ้าสาวทุกท่าน และสุดท้าย ขอให้คู่สมรสทุกคู่ อ่านบทความนี้และนำไปใช้ดำเนินการ แค่ครั้งเดียวพอ ไม่อยากให้สมรสกันหลายๆ ครั้งนะครับ หากพร้อมแล้ว อ่านต่อด้านล่างได้เลย จดทะเบียนสมรสหากพูดถึง ทะเบียนสมรส ก็ถือเป็นเอกสารที่สำคัญสำหรับฝ่ายหญิง ที่แต่งงานกับฝ่ายชาย เนื่องจากเป็นหลักกฏหมายไทย ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าฝ่ายหญิงและฝ่ายชายได้ทำการจดทะเบียนสมรสกันทางกฏหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ว่า การจดทะเบียนสมรส ในสมัยนี้ สามารถจดได้ที่ สำนักงานเขตทุกเขต (เขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล) หรือ ที่ว่าการอำเภอ (ต่างจังหวัด) ได้ทั่วประเทศไทยเลยทีเดียว เอกสารหลักฐานเพื่อใช้ จดทะเบียนสมรสพิธีแต่งงานในโบสถ์ – กำลังเดิน (Church Wedding Ceremony – Walking)เราทั้งสองตัดสินใจ ไปจดทะเบียนสมรส กันในวันคริสต์มาส (วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2556) ซึ่งก็เป็นวันดี และ วันสำคัญ (มากๆ) ทางศาสนาคริสต์ โดยเราทั้งสอง เลือกที่จะไปจดที่สำนักงานเขตบางรัก ด้วยสองสาเหตุหลักๆ คือ เพราะเป็นเขตที่คนมาจดเยอะ (ชื่อเขตเป็นมลคล) อีกเหตุผลคือ เพราะออฟฟิศ บริษัท ไทยแวร์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด อยู่ในเขตนี้ แต่ก่อนมาดำเนินเรื่องโน่นนี่บ่อย จึงคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี สำหรับหลักฐานที่จะต้องใช้ในวันจดทะเบียนสมรสก็มีอยู่ทั้งหมด 3 อย่าง (สำหรับคู่ผม) คือ
ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่เรา เอกสารเตรียมแค่ข้อ 1 – 3 และ ข้อ 7 (แบบฟอร์ม คร.1) ก็พอ เพราะอายุเกิน 20 ไม่เคยสมรสมาก่อน และ ยังไม่มีบุตรด้วยกันมาก่อนมาจดทะเบียนสมรส อิอิ ซึ่งหลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จ ยื่นคำร้องส่งเอกสาร ก็นั่งรอฟังเจ้าหน้าที่นายทะเบียนเรียก เข้าไปสัมภาษณ์ สั้นๆ ไม่มีอะไรมาก วันที่ไป (25 ธันวาคม) ก็ไม่ได้มีคนมากมายอะไร แต่คู่ก่อนหน้า ดันเป็นคู่ที่มาแจ้งหย่ากัน ส่วนเรามาจดทะเบียนสมรส ก็แอบใจเสียเล็กน้อย เห็นต่างฝ่ายต่างเครียดกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็เอาวะ คู่ใครคู่มัน ทางใครทางมันนิ ไม่ได้เกี่ยวกับซะหน่อย จดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตบางรัก (Marriage Registration at Bangrak District Office) โดย หลังจาก จดทะเบียนสมรส เรียบร้อยแล้ว รับมอบ ใบสำคัญการสมรส (แบบฟอร์ม คร.3) สังเกตุว่ามี 2 ใบ สำหรับ ฝ่ายชาย และ ฝ่ายหญิง เก็บคนละใบเมื่อถูกเรียกไปนั่งที่โต๊ะ เค้าก็จะถามว่าฝ่ายหญิงต้องการจะเปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อหรือไม่ ยินยอมแต่งงานทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ถูกใครบังคับมาใช่หรือไม่ ? ข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องทรพย์สินต่างๆ อะไรประมาณ ก็ตอบ ค่ะ / ครับ กันไปตามลำดับ และปรากฏว่าวันที่เรียกเข้าไป คู่ของเราไม่ได้พาพยานไปที่สำนักงานเขตด้วย ทางเจ้าหน้าที่เขตเขาจึงได้เอาคู่แต่งงานที่ต่อคิวหลังจากผม เป็นว่าที่สองสามีภรรยาเหมือนกัน มาเซ็นต์รับทราบ ลงในใบทะเบียนสมรัส (แบบฟอร์ม คร.2) เพื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนสมรสให้กับคู่เรา ในทางกลับกันเขาก็ให้ผมและภรรยา ไปเซ็นต์รับทราบเพื่อเป็นพยานให้กับคู่เขาเช่นกัน (เพราะเขาก็ไม่ได้พาพยานมาด้วย) เรียกได้ว่าไขว้กันไปเลย หลังจากที่เซ็นต์เอกสารเรียบร้อย เราจะได้เอกสารสำคัญทางราชการ มาเพิ่มเติมอีก 2 ใบ นั่นก็คือ
เมื่อรับเอกสารสำคัญทั้ง 2 (แบบฟอร์ม คร.2 และ คร.3) กลับมาเรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี การจดทะเบียนสมรส ถูกต้องตามกฏหมายอย่างเป็นทางการ หากซื้อกรอบ สมุดเล่มแดงๆ ราคาประมาณ 400.00 บาท มีให้ถ่ายรูปกับนายทะเบียนด้วยนะ หลังแต่งงาน จดทะเบียนสมรส แล้วจะต้องทำอะไรต่อ ?พิธีแต่งงานในโบสถ์ – กำลังจับมือ (Church Wedding Ceremony – Holding Hands)จากนี้ไป จะเป็นวิธีการเดินสายเปลี่ยนเอกสารมากมาย ในแต่ละหน่วยงาน ซึ่งเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ของการเข้าถึงข้อมูลของในแต่ละหัวข้อ จึงขอแยกเป็นหัวข้อๆ เอาไว้ หากใครต้องการจะข้ามไปอ่านอันไหน สามารถกดที่ลิ้งค์ด้านล่าง เพื่อไปอ่านในหัวข้อที่ต้องการได้เลยทันที
แจ้งเปลี่ยนนามสกุล หลัง จดทะเบียนสมรส ที่ว่าการเขตฯขั้นตอนต่อไปหลังจากการที่ได้ทำการ จดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุล ใหม่แล้ว หน้าที่ต่อไปฝ่ายหญิง จะต้องเหนื่อยหน่อย (ฝ่ายชายลอยลำ สบายแล้ว) เนื่องจากมีเอกสารหลายอย่างที่ต้องไปเคลียร์ เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลง คำนำหน้าชื่อ และ นามสกุล ให้เรียบร้อยเสียก่อน ส่วนระยะเวลาหลังจากวันที่ไปจดทะเบียนสมรสที่เขต หรือ ที่ว่าการอำเภอ มาจนถึงวันที่ไปแจ้งเปลี่ยนนามสกุล ที่สำนักงานเขต ที่เรามีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนบ้าน (ย้ำ !! ว่าต้องเป็นเขตที่เรามีชื่อในทะเบียนบ้าน เท่านั้น เขตอื่นไม่ได้) ซึ่งก็จะมีะยะเวลาไม่เกิน 90 วัน (3 เดือน) แต่ก็มี บางคนบอก 60 วัน (2 เดือน) แต่เอาเป็นว่า จดทะเบียนสมรสเสร็จแล้ว รีบไปให้เร็วที่สุดดีกว่า ไม่ต้องรอถึง 60 90 วันหรอก หลังจากจดทะเบียนแล้วจะต้องทำการแจ้งเปลี่ยนแปลงนามสกุลที่สำนักงานเขตหรือเทศบาล ที่ฝ่ายหญิงมีชื่ออยู่ในเขตนั้น โดยการนำเอกสารไปยื่นดังต่อไปนี้
เข้าไปตรวจสอบเอกสารอีกครั้งกับฝ่ายประชาสัมพันธ์เขต เพื่อรับบัตรคิว แล้วรอเจ้าหน้าที่ทำการแก้ไขเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนบ้าน หลังจากถึงคิวจะได้รับเอกสารฉบับนี้มาคือ “หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล หรือแบบฟอร์ม ช.๕ (ช.5)” เอกสาร แบบฟอร์ม ช.๕ ตรงนี้ถือว่าสำคัญมากๆ และ สำคัญโคตรๆ “ห้ามหาย !” ควรถ่ายสำเนาเก็บเอาไว้เยอะๆ และแยกกันเก็บเอาไว้หลายๆ ที่เลย ทั้งบ้านเรือนหอของตัวเอง เก็บไว้ที่บ้านพ่อแม่ตัวเองไว้ด้วย ทั้งสองฝ่าย เพราะต่อจากนี้ไป เราจะต้องใช้เอกสารใบนี้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นแจ้งเปลี่ยนชื่อในเอกสารการเงิน บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต หนังสือเดินทาง (พาสฟอร์ต) และอื่นๆ อีกเพียบ ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล บัตรประชาชน เพื่อ ทำบัตรประชาชน ใบใหม่หลังจากได้แบบฟร์อม ช.๕ มาแล้ว ซึ่งเปรียบเสมือนใบเบิกทาง ที่ทำให้เราได้กลับมาเป็นคนไทยที่ถูกกฏหมายอีกครั้ง (ความรู้สึกเป็นอย่างนั้น) หลังจากได้มาแล้ว ก็ขอให้นำใบนี้ไปยื่นเพื่อทำการเปลี่ยนบัตรประชาชนให้เรียบร้อย ที่ทำการเขต ที่เรามีชื่อในทะเบียนบ้าน หรือ จะที่สำนักงานเขตอื่นๆ ที่สะดวกใกล้บ้าน ก็ได้เช่นกัน หลายคนอาจจะสงสัย ว่ามันสามารถทำวันเดียวกับวันที่ไปยื่นเรื่อง ที่ได้รับ หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล หรือ ช.๕ (ช.5) ได้เลยหรือไม่ คำตอบคือ “ได้” แต่ถ้ายังไม่หมดวันนะ เรียกได้ว่าต้องไปกันเช้าตรู่หน่อย เพื่อทำธุระให้เสร็จสองอย่างในวันเดียวกัน แต่ยังไงก็ต้องทำธุระเพื่อให้ได้ใบ ช.๕ มาก่อนแน่นอน เอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ทำบัตรประชาชนใหม่
โดยการทำบัตรประชาชนใหม่ เพื่ออัพเดท เปลี่ยนนามสกุล ให้ตรงกับนามสกุลใหม่ของเรานั้น ความจริงแล้ว สามารถไปทำบัตรประชาชนได้ที่สำนักงานเขตทั่วไป ที่ไหนก็ได้ แต่คิวจะค่อนข้างเยอะ หรือ จะไปทำที่ออกบัตรประจำตัวประชาชนแบบด่วนพิเศษ หรือที่เรียกว่า จุดบริการด่วนมหานคร (BMA Express) ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4 ที่ทั่วกรุงเทพฯ คือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS Station)
ทุกสถานีรถไฟฟ้า เปิดให้บริการรายละเอียดดังนี้คือ
ห้างสรรพสินค้า (Department Store)
หมายเหตุ : กรณีไปการทำบัตรประชาชนใหม่ด้วยสาเหตุ บัตรหมดอายุแล้วภายใน 60 วัน จะไม่เสียค่าธรรมเนียม ถ้าหากเกินจะถูกค่าปรับ ไม่เกิน 200 บาท แต่ถ้าการไปทำบัตรประชาชนใหม่ ด้วยสาเหตุ เปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล หรือสูญหาย จะต้องเสียค่าธรรมเนียมแน่ๆ 20 บาท ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล พาสปอร์ต (หนังสือเดินทาง)การเปลี่ยนนามสกุลกับ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เขาจะไม่มีการแก้ชื่อ หรือ นามสกุล กับหนังสือเดินทางเล่มเก่า แต่จะเป็นการทำเล่มใหม่เลย ซึ่งค่าบริการทำเล่มใหม่ประมาณ 1,000 บาท ใช้เวลาประมาณ 2-3 วันทำการเสร็จ (หากไปรับเล่มด้วยตัวเอง เพราะต้องการรีบใช้ หรือสะดวกเพราะใกล้บ้าน) แต่ว่าถ้าหาก มีความประสงค์ต้องการให้จัดส่งมาที่บ้านทางไปรษณีย์ ค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ไทยให้ถึงบ้าน ซึ่งมีอีกประมาณ 40 บาท ใช้เวลารอประมาณ 5-7 วันทำการ หมายเหตุ : ถ้าหากไม่รีบมาก ชนิดที่จะต้องบินวันนี้พรุ่งนี้ แนะนำว่า ให้เขาส่งมาให้ที่บ้านเลยจะดีกว่า เพราะถ้าไปเอาเอง ค่ารถ ค่าเดินทาง ก็เกินค่าส่งไปรษณีย์ แล้วละ เอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ทำบัตรหนังสือเดินทางใหม่
หมายเหตุ* : ใช้เพื่อการยืนยัน และรับรองว่า เจ้าของหนังสือเดินทางเล่มเก่า กับเล่มใหม่ ว่าคือคนคนเดียวกันจริงๆ ส่วนมากจากจะใช้ในกรณีที่หนังสือเดินทางหมดอายุไปแล้ว แต่วีซ่าของบางประเทศอาจจะยังไม่หมดอายุในเล่มเดิม โดยประเทศที่จำเป็นต้องทำการรับรองหนังสือเดินทางนั้นคือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศเท่านั้น ในขณะที่ประเทศอื่นไม่จำเป็นต้องใช้ (แค่เวลาเดินทางก็พกหนังสือเดินทางติดตัวไปทั้ง 2 เล่ม ก็พอแล้ว) แต่ถ้ามีความประสงค์จะทำจริงๆ ก็สามารถทำได้ ถ้าต้องการ การไปขอทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เล่มใหม่ สามารถทำได้ ตามสถานที่ดังต่อไปนี้ เขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล นั้นสามารถไปทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ได้ตามสถานที่หลักๆ 5 จุดซึ่งกระจายอยู่ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
ทำพาสปอร์ตต่างจังหวัด ในกรณีที่ ผู้ที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัด สามารถไปทำที่สำนักงาน งานกองหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ได้ที่สำนักงานในแต่ละจังหวัดดังต่อไปนี้ “จัดหวังเชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ยะลา พิษณูโลก นครสวรรค์ อุดรธานี ภูเก็ต และจันทบุรี” สำนักงานต่างจังหวัด เปิดทำการวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น. โดยไม่มีการหยุดพักกลางวัน แต่อย่างใด ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล วีซ่า ประเทศต่างๆ และ วีซ่าสหรัฐอเมริกานอกจากเรื่องรายละเอียดในหนังสือเดินทาง พาสปอร์ต ทั้งชื่อและนามสกุล ที่ต้องอัพเดทแล้ว ก็ยังมีเรื่องของวีซ่า (Visas) หรือตรวจลงตรา ของในแต่ละประเทศ ที่ต้องการวีซ่ารับรอง ก่อนการเดินทางไปยังประเทศของเขา อีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ การจดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุล ส่วนใหญ่ไม่ต้องทำวีซ่าใหม่ เพราะจะมีอยู่ 2 สาเหตุดังต่อไปนี้
หมายเหตุ : สุดท้ายก่อนจากกันคือ หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า หลังจาก เปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ใหม่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุจากการแต่งงาน หรือ สาเหตุอื่นๆ จำเป็นที่จะต้อง เปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล บนหนังสือเดินทาง ใหม่เลยทันทีหรือไม่ ? คำตอบ : “ยังไม่จำเป็น” เพราะตราบใดที่ชื่อตั๋ว และ วีซ่า ยังเป็นชื่อและนามสกุล ที่ตรงกับหนังสือเดินทาง ก็ยังสามารถใช้มันไปได้จนหมดอายุ แต่ถ้าหากระหว่างนั้นมีความจำเป็นจะต้องทำวีซ่า เข้าประเทศใดประเทศหนึ่งเพิ่มเติม และมีเหตุให้ต้องใช้บัตรประชาชนด้วย ตรงจุดนี้ควรจะต้องไปทำหนังสือเดินทาง ที่เป็นชื่อและนามสกุล ที่อัพเดทใหม่ล่าสุดแล้ว จะดีกว่า ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล ใบขับขี่ (ใบอนุญาตขับรถ)ในส่วนของการเปลี่ยนนามสกุลในใบอนุญาตขับรถ หรือที่เรารู้จักกันในนาม “ใบขับขี่” นั้น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถทำได้ที่สำนักงานขนส่งพื้นที่ใดก็ได้ ที่สะดวก ใกล้บ้านคุณเลย เอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ใบขับขี่ใหม่
จากที่เห็นด้านบน เบ็ดเสร็จจะต้อง เสียค่าธรรมเนียม จำนวนทั้งสิ้น 155.00 บาท (ผลรวม จาก 3 รายการด้านบน) ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด รวมไปถึง สถานที่ ที่ติดต่อทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อ หรือ ขอเปลี่ยนนามสกุล ในใบขับขี่ ไม่ต้องเฉพาะผู้หญิงที่สมรสก็ได้นะ สำหรับคนที่เปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุลมาใหม่ ก็สามารถใช้ขั้นตอน เดียวกันกับทุกๆ คนได้เลย เขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล
ทำใบขับขี่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ต่างจังหวัด
หมายเหตุ : สำหรับคนที่เคยได้ใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) แบบตลอดชีพ มาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ต้องกังวลว่า แจ้งเปลี่ยนนามสกุล หรือ เปลี่ยนชื่อแล้ว ทางการเขาจะเปลี่ยนประเภทไปเป็นแบบชั่วคราว (มีวันหมดอายุ) ทุกอย่างจะยังเป็นตลอดชีพ อยู่เหมือนเดิม แต่เจ้าหน้าที่ เขาจะเปลี่ยนรูปแบบบัตรไปเป็น ใบอนุญาตขับรถแบบใหม่ระบบคอมพิวเตอร์ (แถบแม่เหล็ก) หรือ บัตรแข็ง ให้ทันที (ค่าธรรมเนียม 100 บาท ตามที่แจ้งไว้ด้านบน) ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนรถ (เจ้าของรถ)หากเจ้าสาวท่านใดที่เป็นเจ้าของรถอยู่ก่อนแต่งงานขอให้อ่านด้านล่างนี้ไว้นะ (แต่ผมก๊อปเค้ามาอีกที) เพราะว่าพอดีแฟนผมไม่ได้ทำขั้นตอนตรงนี้ เพราะขณะที่เปลี่ยนชื่อ ยังเป็นรถป้ายแดงอยู่ พอได้ทะเบียนรถเป็นป้ายขาว ก็ใช้เอกสารต่างๆ เป็นฉบับใหม่ไปได้เลย แต่ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขียนบล็อคอันนี้แล้วก็ถือโอกาส ไปหาข้อมูลมาให้เลย เพื่อความสมบูรณ์ ของบทความ ให้มากที่สุด ซึ่งการเปลี่ยนนามสกุล ชื่อ หรือแม้แต่ที่อยู่ของเจ้าของรถ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยให้ยื่นคำร้องเปลี่ยนชื่อ หรือ เปลี่ยนนามสกุล หรือแม้แต่ ที่อยู่เจ้าของรถ พร้อม หลักฐาน ณ สำนักงานที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ จังหวัดไหน ไปจังหวัดนั้น โดยการเตรียมเอกสาร และค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้ เอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ใบขับขี่ใหม่
↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล บัญชีธนาคารโดยปกติทุกธนาคาร หรือแม้แต่ สถาบันการเงินต่างๆ จะต้องยื่นเอกสารขอเปลี่ยนแปลงนามสกุลที่สาขาที่เราไปเปิดบัญชีไว้ เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลัก ในระบบทั้งหมด หากในกรณีที่คุณมีบัตรเครดิตของธนาคารนั้นด้วยให้ทำการยื่นเพื่อขอแก้ไขข้อมูลไปพร้อมกันได้เลย ปัจจุบันเกือบทุกแบงค์น่าจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการแก้ไขข้อมูล ขึ้นอยู่กับธนาคารของแต่ละสาขา เอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ เปลี่ยนนามสกุลใน บัญชีธนาคาร
สถานที่สำหรับแก้ไขเอกสาร: ต้องกลับไปติดต่อกับธนาคารที่ท่านได้ทำการเปิดบัญชีไว้ตั้งแต่ตอนแรกเท่านั้น โดยจะ “ไม่” สามารถทำที่สาขาใกล้บ้านได้ ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล บัตรเครดิตหากเราไม่ได้มีบัญชีธนาคารเดียวกับบัตรเครดิต การเปลี่ยนบัตรเครดิต ก็ไม่ยาก เพราะจากที่ทำมา 2 ธนาคาร (ขอสงวนชื่อธนาคาร) ก็มีขั้นตอนการเปลี่ยนนามสกุลบนบัตรคล้ายๆ กัน ซึ่งจะต้องเป็นการทำบัตรใหม่เลย การส่งเอกสารไปมา ไม่ยาก เพียงแค่โทรไปที่ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) ของบัตรเครดิตนั้นๆ ซึ่งปกติแล้วเบอร์หาไม่ยาก อยู่หลังบัตรเครดิตของเรานั่นแหละ ก็โทรไปเลย ซึ่งส่วนมากเขาจะให้เตรียมหลักฐานดังต่อไปนี้ เอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ เปลี่ยนนามสกุลในบัตรเครดิต
ในกรณีที่ เขาไม่มีแบบฟอร์มให้กรอก เขาจะให้เรากรอกชื่อ หรือ นามสกุลใหม่ ลงบนสำเนาบัตรประชาชน และเขียนข้อความประมาณว่า เปลี่ยนชื่อ หรือ เปลี่ยนนามสกุล เพื่อออกบัตรใหม่ หมายเหตุ : เอกสารที่แฟกซ์ หรือ ส่งอีเมล์กลับไปหาทางศูนย์บริการบัตรเครดิต ทุกฉบับ ทุกใบ จะต้องเซ็นต์สำเนาถูกต้องกำกับ ↑ กลับขึ้นด้านบน การแจ้งเปลี่ยนนามสกุล ประกันสังคม กับสำนักงานประกันสังคม นั้นมี 2 วิธีหลักๆ ด้วยกันคือ แจ้งเปลี่ยนผ่านฝ่ายบุคคล ของหน่วยงานที่ทำงานอยู่ และ แจ้งเอง แจ้งเปลี่ยนนามสกุล ผ่านฝ่ายบุคคล (HR)โดยปกติแล้ว หากคุณเป็นพนักงาน หรือ ลูกจ้าง ของบริษัท หน่วยงาน องค์กร หรือสถาบัน ต่างๆ การดำเนินการเปลี่ยนชื่อในเอกสารสำคัญด้าน ประกันสังคม จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบุคคล (HR) ของบริษัท หน่วยงาน องค์กร ที่คุณทำงานอยู่ โดยสามารถ กรอกแบบ สปส.6-10 หรือ แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของผู้ประกันตน (ดาวน์โหลดแบบ สปส.6-10 ที่นี่) หลังจากกรอกแบบ สปส.6-10 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้แนบเอกสาร พร้อมเซ็นต์สำเนาถูกต้องดังต่อไปนี้
แจ้งเปลี่ยนนามสกุล ด้วยตัวเองคุณสามารถแจ้งเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล ได้ด้วยตัวเอง โดยให้ไปยื่นแบบฟอร์ม สปส.6-10 ได้ด้วยตัวเองในเขตพื้นที่ ที่รับผิดชอบ พร้อมนำเอกสารที่กล่าวไว้ด้านบน 3 ข้อ ไปยื่นด้วยเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะพิมพ์บัตรใหม่ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม หรือ ค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด หรือหากไม่สะดวกจะไปยื่นเอง ก็สามารถที่จะส่งเอกสารทั้งหมด พร้อมแบบฟอร์ม สปส.6-10 ผ่านทางไปรษณีย์ ได้ด้วยเช่นกัน หมายเหตุ : เพื่อความแน่ใจ กรุณาติดต่อสายด่วนประกันสังคม ที่เบอร์ 1506 เพื่อสอบถามพื้นที่ ที่รับผิดชอบเสียก่อน ↑ กลับขึ้นด้านบน เปลี่ยนนามสกุล ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตโทรขอเอกสารให้ทางประกันหรือตัวแทนประกันส่งเอกสารมาให้เรากรอกที่บ้านได้เลยแล้วจัดส่งโดยแนบเอกสารที่เค้าขอไปให้ทางไปรษณีย์ หากไม่ทราบติดต่อสายด่วนของแต่บริษัทประกันได้ทันที ↑ กลับขึ้นด้านบน บทสรุปการการ จดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุล ของเจ้าสาวงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ที่ห้องบอลรูมของโรงแรม (Wedding Ceremony in Hotel Ballroom)บทความนี้ก็เป็นอีกบทความที่ได้บรรยายมายาวเหยียด ซึ่งถือว่าละเอียดมากๆ แต่หากมีสิ่งใดที่เขียนผิดพลาดไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย แต่ก่อนจากกันก็ขอสรุป จุดที่น่าสนใจมาดังนี้
หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วย เจ้าบ่าว และเจ้าสาว มือใหม่ ได้ไม่มากก็น้อย ในส่วนของเรื่องเอกสาร หลักฐานบางอย่าง ผมไม่มั่นใจ ก็มีโทรหา Call Center ให้ด้วย ซึ่งก็ค่อนข้างที่น่าจะแน่นอน และชัวร์อยู่ในระดับนึงละ แต่ทางที่ดีเช็คอีกทีก็ดีครับ เพราะบทความก็ไม่ได้อัพเดทกันบ่อยๆ แต่ขั้นตอนมันประมาณนี้แหละ ไม่ต่างจากนี้มาก ↑ กลับขึ้นด้านบน |