จองทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ 2564 ออนไลน์

การจองทะเบียนรถออนไลน์ คือการจองรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจนสมบูรณ์ ใช้จองทะเบียนรถยนต์ รถเก๋ง รถตู้ และรถกระบะ ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบก กรณีเป็นการจองทะเบียนรถยนต์คันใหม่ ต้องรอให้ได้รับรถก่อนจึงจะจองทะเบียนได้ หากกดผิดจะทำให้เข้าไปแก้ไขไม่ได้ใน 90 วัน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ต้องไปจองที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น วันนี้ไทยรัฐออนไลน์นำวิธีจองทะเบียนรถทั้ง 2 แบบมาอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้

วิธีจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์

  • เข้าสู่เว็บไซต์ http://www.tabienrod.com แล้วคลิก “จองทะเบียนรถ” หรือคลิก https://reserve.dlt.go.th/reserve เพื่อ “เข้าระบบจองเลขทะเบียน”
  • เมื่อเข้าสู่ระบบจองเลขทะเบียนแล้ว ให้อ่าน “หลักเกณฑ์การจองเลขทะเบียนรถผ่านอินเทอร์เน็ต” ทั้งหมด เพื่อทราบข้อกำหนด และการเปลี่ยนแปลง

  • หากต้องการทราบกำหนดการจองเลขทะเบียนหมวดอักษรปัจจุบัน คลิก “ตารางเปิดรับจองเลข และหลักเกณฑ์การจองเลข” เพื่อศึกษาวันเปิดจองเลขทะเบียนหมวดตัวอักษรกำกับต่างๆ โดยแบ่งตามประเภทรถออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง หรือ รถกระบะ 4 ประตู), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะบรรทุก หรือรถกระบะ 2 ประตู)

  • เมื่ออ่านเงื่อนไขต่างๆ เรียบร้อยแล้ว กด “ยอมรับหลักเกณฑ์” เพื่อเข้าสู่หน้าจองทะเบียนรถ

  • กรอกข้อมูลที่ใช้ในการจองทะเบียนรถยนต์ ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ, ชื่อ/ชื่อนิติบุคคล, นามสกุล (นิติบุคคลไม่ต้องกรอกช่องนี้), เลขบัตรประชาชน/ทะเบียนการค้า/หนังสือเดินทาง, เลขตัวถังรถ (เลขคัสซี) เป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กเท่านั้น, ยี่ห้อรถยนต์ ให้เลือกยี่ห้อรถยนต์ตามเล่มหรือใบจอง, เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ, เลือก “เลขทะเบียนที่ต้องการจอง” โดยไม่สามารถเลือกหมวดตัวอักษรได้ คลิกเลือกได้เฉพาะหมายเลขไม่เกิน 4 หลักเท่านั้น

หลักเกณฑ์จองทะเบียนรถผ่านอินเทอร์เน็ต

1. เมื่อต้องการจองทะเบียนรถยนต์ ให้รถใหม่ จะต้องได้รับรถมาแล้วเท่านั้น
2. ใส่เลขที่ต้องการจอง ตามตารางจองเลขได้ครั้งละ 1 หมายเลขเท่านั้น และใส่ใหม่ได้จนกว่าจะจองเลขได้
3. เมื่อจองทะเบียนรถสำเร็จต้องนำรถยนต์มาจดทะเบียนภายใน 15 วัน หากไม่มาจดทะเบียนในเวลาที่กำหนด สิทธิ์จะตกไปเป็นของผู้อื่นได้
4. เมื่อจองเลขได้แล้ว จองใหม่ได้ในอีก 90 วัน
5. ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงชื่อผู้จองของเลขทะเบียนที่จองไว้ได้
6. ข้อมูลที่กรอกจองเลขทะเบียน ได้แก่ ชื่อ-สกุล, เลขบัตรประจำตัวประชาชน, เลขทะเบียนบริษัท หากไม่ตรงตามที่กรอก ก็จะนำเลขไปจดทะเบียนไม่ได้
7. ตัวเลขที่กรอกใส่ในช่องต่างๆ ต้องกรอกติดกัน ไม่ต้องเว้นวรรค
8. หากใส่ชื่อสกุล ผิดไปจากข้อกำหนด ให้การจองตกเป็นโมฆะ
9. จองทะเบียนได้วันต่อวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
10. 1 IP Address ขอได้ 1 เลข ในวันเดียวกันเท่านั้น
11. กรมการขนส่งทางบกอาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลการจองตามความเหมาะสมได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

จองทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ออนไลน์ ทำอย่างไร

ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกเปิดให้จองทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ที่สำนักงานอย่างเดียว โดยสามารถจองได้ ณ ฝ่ายทะเบียนรถ ในพื้นที่กรมการขนส่งจังหวัดใกล้บ้านของคุณ แต่ในกรุงเทพมหานคร ผู้ต้องการจองทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์จะต้องเดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบกสำนักงานใหญ่ ใกล้ BTS จตุจักร เท่านั้น 

วิธีจองทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์

  • เตรียมเอกสารใช้จองทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ต้องการจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์, ใบรับมอบรถฉบับจริง พร้อมสำเนา หรือสำเนาสมุดคู่มือการจดทะเบียนรถ
  • กรณีที่จดในนามนิติบุคคล ผู้ขอจะต้องเป็นกรรมการบริษัทฯ ที่มีอำนาจลงนาม แบบสำเนาหนังสือรับรองบริษัท และสำเนาบัตรประชาชน (กรณีมอบอำนาจ ผู้รับมอบต้องเป็นพนักงานบริษัท แนบสำเนาบัตรประชาชน และหนังสือรับรองการทำงาน)
  • หากต้องการจองเลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์มากกว่า 1 คัน หรือจดทะเบียนเลขที่จองไปแล้วไม่เกิน 6 เดือน ต้องแนบหลักฐานการซื้อรถ หรือหลักฐานทางทะเบียนรถทุกคัน
  • เลขที่จองไปแล้วไม่สามารถโอนสิทธิ์หรือโอนชื่อให้ผู้อื่น ยกเลิกไม่ได้ทุกกรณี
  • เมื่อรับเลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ต้องดำเนินการจดทะเบียนภายใน 60 วัน หากไม่มาดำเนินการในระยะเวลาที่กำหนด ผู้อื่นมีสิทธิ์จดเลขนั้นได้
  • หากมีข้อผิดพลาดในการจอง ไม่ว่ากรณีใดๆ เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนหมวดอักษรใหม่ และจะแจ้งให้ทราบ

อย่างไรก็ดี ผู้ที่ดำเนินการขอจองเลขทะเบียน หากจองเลขไปแล้วก็อย่าลืมนำไปจดทะเบียนคู่กับรถของคุณในระยะเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นแล้วสิทธิ์ของเลขนั้นจะหลุดลอยให้ผู้อื่นจองได้ และก่อนกดจองอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลตัวสะกดให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะพลาดการจองเลขทะเบียนรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่คุณต้องการ.

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและแบบขอความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล

Privacy Policy & Terms of Service

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและแบบขอความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล

Privacy Policy & Terms of Service

จัดทำเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565

บริษัท เอพีเอสเอ็น โมโตพาร์ท จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้จัดให้มีระบบการรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทุกท่าน และบริษัทมีความตั้งใจจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พ.ร.บ.”) โดย พ.ร.บ.. ดังกล่าวกำหนดให้บริษัทที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกต้อง อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายโดยมีรายละเอียดดังนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ค้าปลีก ค้าส่ง อะไหล่และชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์ บริษัทฯปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศของประเทศไทย และเป็นผู้มีหน้าที่รายงานธุรกรรมตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่ง ระเบียบ ซึ่งกำหนดและออกใช้บังคับภายในอาณาเขตประเทศไทย บริษัทฯ ดำเนินการในลักษณะนิติบุุคคลผู้ประกอบธุรกิจที่มีการเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและประโยชน์ในทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าทุกท่าน และพนักงาน เพื่อให้ประโยชน์ของลูกค้าและพนักงานในการรักษาสิทธิและใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. ข้อมูลที่ให้ความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผลหรือเปิดเผยข้อมูล

บริษัทฯ จะดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้เงื่อนไขตามหนังสือยินยอมฉบับนี้ ซึ่งได้แก่ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

  1. ชื่อ (ทั้งคำนำหน้าชื่อต้น และ/หรือชื่อกลาง)
  2. นามสกุล
  3. หมายเลขบัตรประชาชน และ/หรือ หมายเลขหนังสือเดินทาง และ/หรือหมายเลขประจำตัวบัตรข้าราชการ
  4. วัน เดือน ปี เกิด
  5. หมายเลขใบอนุญาตขับขี่
  6. ที่อยู่ (บ้านเลขที่ หมู่ ถนน แขวง/ตำบล เขต/อำเภอ ประเทศ รหัสไปรษณีย์)
  7. ตำแหน่งที่อยู่อาศัย (ตำแหน่งสัญญาณดาวเทียมหรือ GPS
  8. หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ หรือ อีเมล์
  9. ข้อมูลบัญชี Social media ที่ใช้สมัครบริการ
  10. ข้อมูลภาพถ่ายของลูกค้า ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว (ระยะเวลาเก็บรักษาไม่เกิน 90 วัน)
  11. เลขทะเบียน รถ รุ่นรถ ยี่ห้อรถ ของลูกค้า
  12. อาชีพ
  13. ข้อมูลการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง ควบคู่กับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแต่ละราย
  14. ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี สำหรับจัดทำเอกสารใบกำกับภาษี
  15. รูปภัณฑ์ของทรัพย์สินของลูกค้าที่นำเข้ามาใช้บริการประกอบด้วย ภาพถ่ายของยานพาหนะ ตำหนิ สี อุปกรณ์ตกแต่ง
  16. ประวัติการเดินทาง/ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ/ข้อมูลความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สิน

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้

  • ข้อมูลชีวมิติ ประกอบด้วย ข้อมูลเสียง ข้อมูลใบหน้า
  • ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว ที่ได้จากการบันทึกในกล้องวงจรปิด ณ สาขาที่ให้บริการต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น ลักษณะการแต่งกาย เครื่องนุ่งห่ม และบุคคลที่มาพร้อมกับลูกค้าฯ
  • ข้อมูลภาพและลักษณะเฉพาะของทรัพย์สินของลูกค้าและบุคคลที่มาพร้อมกับลูกค้าฯ ที่นำเข้ามาใช้บริการภายในบริษัทฯ และสาขาของบริษัทฯ เช่น รูปลักษณ์ของยานพาหนะ ตำหนิ รูปลักษณะของยานพาหนะ สีของยานพาหนะ การตกแต่งยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนควบที่แตกต่างไปจากยานพาหนะคันอื่น อุปกรณ์ป้องกันและรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินของลูกค้า

วัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลที่มีความอ่อนไหวข้างต้น บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ดังนี้

  • ข้อมูลชีวมิติ บริษัทฯ อาจมีการเก็บ รวบรวม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันตัวตนของบุคคลของลูกค้าผู้เป็นเจ้าของข้อมูล เพื่อรองรับกระบวนการพิสูจน์ตัวตนตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเพื่อเป็นหลักฐานตามขั้นตอนการนำทรัพย์สินของลูกค้าเข้าใช้บริการและรับทรัพย์สินกลับคืนให้กับลูกค้าฯ ของบริษัทฯ
  • ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว ซึ่งได้จากการบันทึกอยู่ภายในกล้องวงจรปิด ณ สาขาที่ให้บริการต่างๆ ของบริษัทฯ เป็นข้อมูลที่บริษัทจำเป็นต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อป้องกัน ระงับ อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพของลูกค้าผู้มาใช้บริการ พนักงานของบริษัทฯ รวมไปถึงเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของลูกค้าที่นำเข้าภายในพื้นที่ดำเนินการของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดให้มีข้อความแจ้งต่อลูกค้าในพื้นที่รัศมีของการบันทึกภาพของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาส “ไม่ยินยอม” หรือ “แจ้งให้บริษัทฯ ลบข้อมูล” ในภายหลังได้ โดยกระบวนการถอนความยินยอมหรือการใช้สิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ได้มีช่องทางตามที่จะได้กล่าวต่อไป

3. วัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อประโยชน์ในการยืนยันตัวตนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศของหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมายของประเทศไทย
  • เพื่อเป็นหลักฐานทางกฎหมายในการทำนิติกรรมหรือธุรกรรมของบริษัทฯ และของลูกค้า
  • เพื่อประโยชน์ในการรับสิทธิประโยชน์ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เสนอสิทธิประโยชน์หรือโอกาสในการใช้บริการ ได้รับสิทธิหรือสิ่งของสมนาคุณ
  • เพื่อเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เพื่อรับฟังความคิดเห็นสำหรับปรับปรุงพัฒนา การบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เพื่อการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น

4. การประมวลผลข้อมูล

บริษัทฯ มีหน้าที่นำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มาใช้ประมวลผลเพื่อตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และนำมาตรวจสอบกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้นำข้อมูลของท่าน มาประมวลผลเพื่อประโยชน์ในการประเมินว่า พฤติกรรมหรือรูปแบบการใช้บริการของท่าน เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้านใดของบริษัทฯ เพื่อที่บริษัทฯ จะได้นำเสนอ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด

5. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะไม่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และระยะเวลาการเรียกร้องสิทธิหรืออายุความฟ้องร้องดำเนินคดีในทางแพ่ง (10ปี) กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ประเภทภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด บริษัทฯ มีระยะเวลาในการเก็บรักษาไว้ 90 วัน นับแต่วันที่บันทึกภาพ

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด บริษัทฯ อาจจะเปิดเผยข้อมูลต่อบริษัทฯ ที่บริษัทฯ มอบหมายให้เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือเป็นการปฏิบัติตามสัญญาร่วมกันระหว่างบริษัทฯ หรือบริษัทฯ คู่ค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ลูกค้าร่วมกันเท่านั้น

7. การส่งหรือโอนข้อมูลให้แก่ผู้อื่นหรือบุคคลภายนอกในประเทศและต่างประเทศ

  • บริษัทฯ จะไม่ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปให้บุคคลอื่น หรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ลูกค้าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูล และ
  • บริษัทฯ จะไม่ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปให้บุคคลอื่น หรือนิติบุคคลอื่นในต่างประเทศ เว้นแต่เป็นการส่งข้อมูลให้บริษัทฯ ในเครือ หรือสาขา หรือบริษัทคู่ค้าฯ ที่มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ลูกค้ารายนั้นๆ ร่วมกันเท่านั้น และ
  • หากบริษัทฯ มีเหตุผลและวัตถุประสงค์จำเป็นที่ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะส่งหรือโอนข้อมูลให้เฉพาะประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

8. บรรดาสิทธิต่างๆของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางในการใช้สิทธิ

เมื่อเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผลหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบริษัทฯ แล้ว เจ้าของข้อมูลย่อมมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการขอถอนความยินยอม – เมื่อได้ให้ความยินยอมแล้ว เจ้าของข้อมูลฯ จะเพิกถอนการยินยอมให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิห้ามเพิกถอนตามกฎหมายหรือตามสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลฯ ทั้งนี้การเพิกถอนการยินยอม ไม่กระทบต่อการเก็บ/การใช้/การเปิดเผยข้อมูล ซึ่งได้กระทำไปในระหว่างได้รับความยินยอมโดยชอบและบริษัทฯ จะต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการถอนความยินยอม
  • สิทธิในการเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูล – เจ้าของข้อมูลฯ มีสิทธิที่จะเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทฯ รับผิดชอบอยู่และมีสิทธิขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ตอนไม่ได้ให้ความยินยอม
  • สิทธิในการขอรับข้อมูลและขอให้ส่งต่อ/โอนข้อมูล – เจ้าของข้อมูลมีสิทธิรับข้อมูลของตนจากบริษัทฯ ได้ ในกรณีที่บริษัทฯ จัดให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่อ่าน หรือใช้งานทั่วไปและเปิดเผยได้อัตโนมัติ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ และเจ้าของข้อมูลฯ มีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลของตนในรูปแบบอัตโนมัติข้างต้น ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลฯรายอื่น เมื่อกระทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและเจ้าของข้อมูลฯ มีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลฯ รายอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้การใช้สิทธิข้อนี้ เจ้าของข้อมูลต้องให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง ซึ่งไม่อยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติงานโดยปกติของบริษัทฯ
  • สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม/ใช้/เปิดเผยข้อมูลของตน – เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิที่จะคัดค้านมิให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่เป็นการดำเนินการที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและเป็นกรณี การเก็บ รวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อเก็บเป็นพยานหลักฐาน สำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้าภายในอายุความแห่งกฎหมาย
  • สิทธิในการขอให้ลบ/ทำลายหรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล – เจ้าของข้อมูลฯ มีสิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมลฯ ดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ หากว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ที่เคยแจ้งไว้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลได้ถอนความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเย และผู้ควบคุมฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลนั้นอีกต่อไป หรือดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ เมื่อเจ้าของข้อมูลใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ข้อมูลนั้น และผู้ควบคุมข้อมูลฯ ไม่สามารถปฏิเสธคำคัดค้านนั้นได้ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้บริษัทฯ อาจคัดค้านการใช้สิทธินี้ ถ้าการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เป็นกรณีที่บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นกรณีเพื่อเก็บพยานหลักฐานสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้าภายในอายุความแห่งกฎหมาย
  • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล – เจ้าของข้อมูลฯ มีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ เมื่อเจ้าของข้อมูลขอให้บริษัทฯ ดำเนินการให้ข้อมูลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด แต่บริษัทฯ ไม่ดำเนินการ รวมถึงเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ต้องลบ ทำลาย เนื่องจากบริษัทเก็บรวมรวม/ใช้/เปิดเผย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ หรืออยู่ระหว่างการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเมื่อบริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อพิสูจน์กรณีปฏิเสธคำคัดค้านของเจ้าของข้อมูล
  • สิทธิในการขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นปัจจุบัน – เจ้าของข้อมูลฯ ใช้สิทธิเร้องขอให้บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  • สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน – เจ้าขอข้อมูลมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลฯ เชื่อว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล บริษัทดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้อยู่

9. ช่องทางในการใช้สิทธิ

บริษัทฯ จัดให้มีช่องทางให้เจ้าของข้อมูลใช้สิทธิได้ดังนี้

  • วิธีการขอความยินยอมโดยขอเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษร ณ สำนักงานหรือสาขาที่ให้บริการของบริษัทฯ
  • วิธีการขอความยินยอมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยผ่านเว็บไซด์หรือช่องทาง Social network อื่นๆ ของบริษัท

กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการเมื่อท่านใช้สิทธิ

  • สิทธิในการดำเนินการให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นปัจจุบัน รวมถึงสิทธิขอถอนความยินยอม ระยะเวลาไม่เกิน 7 วันทำการ
  • สิทธิในการเข้าถึง ขอสำเนาข้อมูล ขอรับข้อมูล ขอให้ส่งต่อ/โอนข้อมูล คัดค้านการเก็บรวบรวม/ใช้/เปิดเผยขอมูล ขอให้ลบ/ทำลาย/ระงับ ระยะเวลา ไม่เกิน 30 วันทำการ

10. ผลของการเพิกถอนความยินยอม

กรณีที่เจ้าของข้อมูลประสงค์จะถอนความยินยอม ในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะเกิดผลดังนี้

  • เจ้าของข้อมูลถอนความยินยอมในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ มิได้เก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งไม่สามารถยกเลิกได้เท่านั้น
  • เจ้าของข้อมูลอาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เสนอสิทธิหรือประโยชน์หรือโอกาสในการใช้บริการ ได้รับสิทธิหรือสิ่งของสมนาคุณ
  • เจ้าของข้อมูลอาจไม่ได้รับขอเสนอเกี่ยวกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท
  • เจ้าของข้อมูลอาจไม่ทราบถึงความความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงพัฒนาการบริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์
  • เจ้าของข้อมูลอาจไม่สามารถดำเนินการอื่นๆ เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้นได้
  • เจ้าของข้อมูลอาจไม่สามารถเรียกคืนข้อมูลที่ได้เพิกถอนและระงับความยินยอมไปแล้วในภายหลังได้

11. บริษัทฯ มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลของเจ้าของข้อมูลไว้เป็นอย่างดี โดยเก็บไว้ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัท มีมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่เก็บรักษาข้อมูล ประมวลผลข้อมูลอย่างเหมาสะม และมีมาตรการในการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย วิธีการปฏิบัติเช่น มาตรการป้องกันมิให้พนักงานนำข้อมูลลูกค้าออจากระบบของบริษัทฯ มาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทฯ กำหนดข้อตกลงอย่างเคร่งครัดกับคู่สัญญาเกี่ยวกับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและข้อบังคับสำหรับพนักงานและบุคลากรในการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

12. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอพีเอสเอ็น โมโตพาร์ท จำกัด
เลขที่ 476/3 ซอยจันทน์ 28 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-048-0408
อีเมล์ : [email protected]