คุณสมบัติของพระเวสสันดร

แบบทดสอบก่อนเรียน

ก. นิทานที่มีคติสอนใจ ข.เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อใช้เทศน์

ค. เรื่องราวของพระเวสสันดร ง. เรื่องราวของพระโพธิสัตว์

๒. มหาเวสสันดรชาดกมีจำนวนคาถาเท่าใด

ค. ๑,๐๐๐ คาถา ง. ๑,๕๐๐ คาถา

๓. มหาเวสสันดรชาดกแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทใด

ก. กลอนแปด ข. กาพย์ยานีย์

๔. การที่มีผู้นิยมฟังเทศน์เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กันอย่างแพร่หลาย เพราะเชื่อว่าจะเกิดอานิสงส์ในข้อใดเป็นสำคัญ

ก. ทำให้มีอายุยืน ข. ได้ไปเกิดบนสวรรค์

ค. ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ง. ได้เกิดในสมัยพระศรีอาริย์

๕. ข้อใดมิใช่เหตุที่บ่งบอกถึงลางร้าของพระนางมัทรี

ก. พระนัยเนตรทั้งสองข้างไม่ขาดสายพระอัสสุชล

ข. ดอกไม้ที่เคยเก็บมาร้อยเป็นมาลัยก็กลายเป็นมีลูกมีผลขึ้นมา

ค. ทิศทั้งแปดก็มืดมัวมนทุกหนแห่ง ทั้งขอบฟ้าก็ดาดแดงเป็นสายเลือด

ง. ผลาผลในกลางไพร่ที่มีผลเป็นพุ่มพวง ก็กลับกลายเป็นดอกดวงเดียรดาษอนาถเนตร

๖. การที่เทวดาแปลงเป็นสัตว์ทั้งสามมาขวางทางพระนางมัทรีไว้จนมืดค่ำ แล้วก็ปล่อยให้พระนางมัทรีผ่านไปนั้น เป็นเพราะสาเหตุในข้อใด

ก. เพราะ เห็นใจนางที่คิดถึงสองกุมารและสามี

ข. เพราะ พระเวสสันดรส่งกระแสจิตมาขอความช่วยเหลือ

ค. เพราะ สงสารและเห็นใจในคำอ้อนวอนของพระนางมัทรี

ง. เพราะ เห็นว่าถ่วงเวลาไว้พอสมควรที่จะทำให้ชูชกพาสองกุมารไปได้ไกลจากอาศรมมากแล้ว

๗. ทานอันยิ่งใหญ่ที่พระเวสสันดรได้ทรงบำเพ็ญคือข้อใด

ก. การยกสองกุมารให้แก่ชูชก

ข. การให้ช้างปัจจัยนาคแก่ชาวเมืองกลิงคราษฎร์

ค. การยกพระนางมัทรีให้แก่พราหมณ์ชรา (พระอินทร์แปลง)

ง. การให้ทรัพย์สมบัติ ข้าทาสบริวารที่ติดตามแก่ผู้มาขอตามทาง

๘. คุณสมบัติของพระเวสสันดรที่ควรนำมาปฏิบัติในปัจจุบันคือข้อใด

ก. เป็นที่พึ่งของคนที่ยากจน

ค. ความเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

ง. ความสุจริตใจที่มีต่อบุคคลไม่เลือกชั้นวรรณะ

ก. เรื่องเวสสันดรชาดกแต่งเป็นคาถา ๑,๐๐๐ คาถา

ข. ร่ายยาวเวสสันดรชาดกที่แต่งเป็นคาถา ๑,๐๐๐ คาถา

ค. ชาดกเรื่องดเรื่องหนึ่งที่ได้แต่งเป็นคาถา ๑,๐๐๐ คาถา

ง. วรรณคดีพุทธศาสนาเรื่องใดก็ได้ที่ได้แต่งเป็นคาถา ๑,๐๐๐ คาถา

๑๐. ตัวละครที่มีบทบาทเด่นทีสุดในกัณฑ์มัทรีคือใคร

ก. พระนางมัทรี ข. พระเวสสันดร

๑๑. การพรรณนาธรรมชาติในข้อใดแสดงอารมณ์สะเทือนใจมากที่สุด

ก. พระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อย เรไรระรี่เรื่อยร้องอยู่หริ่งๆ

ข. ทั้งสองข้างเป็นโขดหินชอบคันขึ้นกั้นไว้ ทั้งเวลาก็เย็นลงไรๆ จะค่ำแล้ว

ค. ต้นหว้าใหญ่ใกล้อาราม งามด้วยกิ่งก้านประกวดกัน ใบชอุ่มประชุมช่อเป็นฉัตรชั้น

ง. ทั้งรัศมีพระสุริโยทัยส่องอยู่ร่างๆ ขึ้นเรืองฟ้า เสียงชะนีเหนี่ยวไม้ไห้หาละห้อยโหย

๑๒. จงเรียงลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

๑. เทพยดานิมิตกายเป็นราชสีห์และเสือโคร่งมานอนขวางทางเดิน

๒. พระนางมัทรีตามหา ๒ กุมาร

๓. พระนางมัทรีเกิดความเป็นห่วงบุตรทั้งสอง

๔. พระนางมัทรีร่วมอนุโมทนาบุตรทาน

๕. พระนางมัทรีเสียใจมากจนสลบไป

ก. ๑ ๓ ๒ ๕ ๔ ข. ๓ ๑ ๒ ๕ ๔

ค. ๑ ๒ ๓ ๕ ๔ ง. ๓ ๒ ๑ ๕ ๔

๑๓. “ข้าแต่พระองค์ พระลูกรักทั้งสองหายไปไหนครนำไป หรือว่าวิ่งเล่นไปไกลในที่ลับถูกสัตว์ร้ายจับเอาไปเป็นอาหารหรืออย่างไรกัน พระพุทธเจ้าข้า” ข้อความนี้ใครพูดกับใคร

ก. พระเวสสันดรกับพระนางมัทรี ข. พระนางมัทรีกับพระเวสสันดร

ค. ชูชกกับพระเวสสันดร ง. พระนางมัทรีกับชูชก

๑๔. ข้อใดให้อารมณ์ความรู้สึกไม่เข้าพวกกับข้ออื่น

ก. โอ้แลเห็นแต่สระแก้วอยู่อ้างว้างวังเวงใจ

ข. พนัสแดงดงเย็นยะเยือกเงียบสงัดเหงา

ค. ทั้งนกหกก็งัวเงียเหงาเงียบทุกรวงรัง

ง. สะดุ้งพระทัยไหวหวาดวะหวีดวิ่งวนแวะเข้าข้างทาง

๑๕. ข้อใดมีการใช้ภาพพจน์อุปมา

ก. เจ้ามาตายจากพี่ไปในวงวัด เจ้าจะเอาป่าชัฏนี่หรือมาเป็นป่าช้า

ข. ทรงพระกันแสงโศกาไห้พิไรร่ำ กรรมเอ๋ยกรรม กรรมของมัทรี

ค.ทั้งพื้นป่าพระหิมพานต์ก็ผัดผันหวั่นไหวอยู่วิงเวียน เปลี่ยนเป็นพยับมืดไม่เห็นหน

ง. พระกายนางให้เสียวสั่นหวั่นไหวไปทั้งองค์ ดุจชายธงอันต้องกำลังลมอยู่ลิ่วๆ

ก. พระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อย

ข. พระนางเสด็จลีลาศไปเที่ยวเวียนรอบ

ค. ทั้งรัศมีพระสุริโยทัยส่องอยู่ร่างๆ ขึ้นเรืองฟ้า

ง. เสียงชะนีเหนี่ยวไม้ไห้หาละห้อยโหน

๑๗. “แสรกคานบันดาลพลิกพลัดลงจากพระอังสา ทั้งขอน้อยในหัตถาที่เคยถือ ก็เลื่อนหลุดลงจากมือไม่เคยเป็นเห็นอนาถ” “ขอน้อย” มีไว้ใช้ประโยชน์โดยตรงอย่างไร

ก. เกี่ยวผลไม้ ข. ตัดสิ่งกีดขวาง

ค. ป้องกันตัว ง. ไล่สัตว์ร้าย

๑๘. “นางก็เศร้าสร้อยสลดพระทัย ดั่งเอาเหล็กแดงมาแทงใจให้เจ็บจิตนี่เหลือทน อุปมาเหมือนคนไข้หนักแล้วมิหนำยังแพทย์เอายาพิษมาวางซ้ำให้เวทนา” ข้อความดังกล่าวเด่นในด้านใดมากที่สุด

ก. ใช้ภาษาไพเราะความหมายชัดเจน ข. ใช้ภาพพจน์

ค. ให้อารมณ์ความรู้สึก ง. ข้อ ๒ และข้อ ๓

๑๙. ข้อใดให้ภาพที่เคลื่อนไหว

ก. ทั้งสองข้างเป็นโขดหินขอคันขึ้นกันไว้ ทั้งเวลาก็เย็นลงเย็นลงไรๆ จะค่ำแล้ว

ข. พลางพิศดูผลาผลในกลางไพรทั้งนางเคยได้อาศัยทรงสอยอยู่เป็นนิตย์ผิดสังเกต

ค. รัศมีพระจันทร์ก็มัวหมองเหมือนหนึ่งจะเศร้าโศกแสนวิปโยคเมื่อยามปัจจุสมัย

ง. นางจึ่งเซซังเข้าไปสู่พระอาศรมบังคมบาทพระภัสดา ประหนึ่งว่าชีวาจะวางวายทำลายล่วง

๒๐. “เจ้ามัทรีผู้มีรูปงาม ไฉนวันนี้จึงกลับเสียจนค่ำไม่ห่วงลุกห่วงผัวเสียบ้างเลย มาตกทุกข์ได้ยากอยู่ด้วยกันเท่านี้ ยังจะมาประพฤติมิดีอีกหรือไร” ข้อความนี้จัดเป็นรสทางวรรณคดีประเภทใด

ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์

ค. พิโรธวาทัง ง. สัลลาปังคพิสัย