ราชบุรี จังหวัดสุดกรีนใกล้กรุงเทพฯ ที่เหมาะกับการขับรถมาชาร์จพลังชิลล์ๆ ในวันหยุด ซึ่งราชบุรีก็มีที่เที่ยวธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ มีร้านอาหารบรรยากาศดีๆ และคาเฟ่สวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเช็คอินมากมาย อีกทั้งยังมีความสวยงามและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง วันนี้ทริปเก็ทเตอร์ได้รวบรวม 10 ที่กิน ที่เที่ยวราชบุรี อัปเดตครึ่งปีหลัง 2022 ต้องไปเช็คอิน บอกเลยว่าแต่ละที่สวยเด็ดทั้งนั้น เตรียมปักหมุดแล้วไปเที่ยวราชบุรีกันนน~
10 ที่กิน ที่เที่ยวราชบุรี อัปเดตครึ่งปีหลัง 2022 ต้องไปเช็คอิน
1.กระท่อมอินทา, ราชบุรี
(Kratom Intha Cafe)
กระท่อมอินทา คาเฟ่ริมทะเลสาบกับวิวแนวเขาที่สวยงาม โดยตัวร้านตั้งอยู่บนเนิน โอบล้อมไปด้วยแมกไม้ มองเห็นภาพธรรมชาติแบบพาโนรามา การออกแบบของร้านมีความตั้งใจเหมือนกับกระท่อมริมทะเลสาบ มาพร้อมกับการตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติและมีความกลมกลืนกับพื้นที่แวดล้อม บรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งพักผ่อนชิลล์ๆ ที่นั่งก็มีทั้งในห้องแอร์เย็นๆ ที่เป็นห้องกระจกใสเห็นวิวทะเลสาบและความกรีนเต็มๆ ตา และที่นั่งนอกร้าน ให้ได้นั่งรับลมชิลล์ๆ ส่วนเมนูก็มีหลากหลายทั้งของคาว เครื่องดื่ม เบเกอรี่ เค้ก แต่เมนูที่ใครมาก็ต้องสั่งคือ เมล่อนอินทา น้ำเมล่อนปั่นสุดสดชื่น โดยเมล่อนของทางร้านปลูกเอง สด ใหม่ และฉ่ำมากๆ อีกทั้งยังเอาใจสายโซเชียลด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมด เรียกได้ว่าเป็นร้านที่สามารถมาใช้เวลาวันหยุดทั้งวันได้เลย
- Location: 85 ม.7 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี
- Phone: 096 879 4875
- Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.30 – 18.30 น.
- Facebook: Inlaya Ratchaburi
2.ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์, ราชบุรี
(Phupha Coffee Camp)
ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์ คาเฟ่ราชบุรีสไตล์แคมป์ปิ้งที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ต่างประเทศ ภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวางอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและสายน้ำ โดยด้านหน้าคาเฟ่เป็นวิวของทิวเขาและอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย ส่วนด้านหลังก็มีทิวสนตั้งอยู่เรียงรายกันอย่างสวยงาม นอกจากนี้ในร้านยังมีพร็อพแคมป์ปิ้งน่ารักๆ เรียกได้ว่ากดชัตเตอร์ เดินถ่ายรูปได้ทั้วทั้งร้าน สำหรับคาเฟ่ตั้งอยู่กลางป่าสน มีเสิร์ฟเครื่องดื่มและครัวซองต์ หลังจากเลือกเมนูเสร็จแล้วก็มานั่งกินชิลล์ๆ ในป่าสน แม้ว่าที่นั่งส่วนใหญ่จะเป็นกลางแจ้ง แต่ไม่ร้อนเลย บรรยากาศร่มรื่นและมีลมสบายๆ ตลอด ใครชอบคาเฟ่สไตล์แคมป์ปิ้งชิลล์ๆ ให้โน้ตที่นี่ไว้เลย
- Location: 280 หมู่บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านบึ่ง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
- Phone: 062 538 1899
- Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันพุธ ยกเว้นพุธที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
- Facebook: Phupha Coffee Camp ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์ บ้านคา ราชบุรี
3.อินเลญา บาร์ แอนด์ กริลล์, ราชบุรี
(Inlaya Bar & Grill)
พูดถึงร้านอาหารอร่อย แถมบรรยากาศสุดโรแมนติกให้มาที่ Inlaya Bar & Grill ร้านอาหารริมทะเลสาบกว้างมาพร้อมกับความเขียวขจีของภูเขา บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยความชิลล์ ตัวร้านเปิดโล่งแบบโอเพ่นแอร์ มีลมสบายๆ พัดมาจากทางทะเลสาบตลอด อีกทั้งที่นั่งก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะนั่งติดริมน้ำ ที่นั่งบาร์ริมน้ำ หรือจะนั่งกลางสวนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้ที่ทอดยาวไปกลางน้ำ เป็นมุมถ่ายรูปที่สวยเว่อร์มาก เพราะมีฉากหลังเป็นขุนเขาและโอบล้อมด้วยสายน้ำ สำหรับอาหารทางร้านจะมีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ โดยแต่ละเมนูถูกปรุงมาอย่างพิถีพิถัน วัตถุดิบอย่างดี รสชาติก็อร่อยจริงๆ ส่วนไฮไลท์ก็คือช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นวานิลลาสกาย แสงอาทิตย์สะท้อนกับประกายน้ำและค่อยๆ ลับหายไปหลังภูเขา เป็นช่วงที่โรแมนติกสุดๆ เป็นร้านที่เหมาะกับการพาคนรักมาดินเนอร์ พาเพื่อนมาดื่มด่ำความชิลล์ๆ พาครอบครัวมากกินอาหารอร่อยๆ มาก
- Location: 85 ม.7 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี
- Phone: 096 879 4875
- Open-Close: เปิดให้บริการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 16.00 – 22.00 น., วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 22.00 น.
- Facebook: Inlaya Ratchaburi
4.คอฟฟี่ แมท, ราชบุรี
(Coffee MAT)
คอฟฟี่ แมท คาเฟ่สุดชิลล์ของหมู่บ้านห้วยน้ำใส ตั้งอยู่ริมน้ำตกและมีลำธารไหลผ่านร้าน อีกทั้งบรรยากาศภายในร้านยังเต็มไปด้วยความสดชื่น มองออกไปเจอความเขียวชอุ่มของแมกไม้ แถมได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ โซนที่นั่งก็มีในร้านตรงส่วนคาเฟ่ และมุมที่อยากแนะนำก็คือที่นั่งห้อยขาริมลำธาร บอกเลยว่ามุมนี้ชิลล์มากๆ หรืออยากเพิ่มความชุ่มฉ่ำก็มีเก้าอี้นั่งสนามกลางลำธาร ไปนั่งจุ่มเท้าแช่น้ำเย็นๆ ได้เลย และมุมเก้าอี้สนามนี้นอกจากจะชิลล์แล้ว ยังเป็นมุมถ่ายรูปเช็คอินที่สวยมาก ใครมาแนะนำตรงนี้เลย สำหรับเมนูของทางร้านจะเน้นเครื่องดื่มเป็นหลัก มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ โกโก้ โซดา ถ้าอยากมาสัมผัสความเย็นสบายแบบนี้ ต้องมาที่คอฟฟี่ แมทเลย
- Location: 195 ม.3 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
- Phone: 061 953 9366
- Open-Close: เปิดให้บริการวันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น., วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
- Facebook: Shade of Green Resort
5.ตลาดโอ๊ะป่อย, ราชบุรี
ตลาดโอ๊ะป่อย ตลาดบ้านๆ ของคนในชุมชนท่ามะขามที่มีการสอดแทรกวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยง เริ่มตั้งแต่ชื่อตลาดคำว่า “โอ๊ะป่อย” ที่มาจากภาษาะกะเหรี่ยงแปลว่าพักผ่อน และการตกแต่งด้วย “คังด้ง” สีสันสดใสก็เป็นภาษากะเหรี่ยง มีความหมายว่าใยแมงมุม ซึ่งต้องการสื่อถึงความกลมเกลียวของชาวกะเหรี่ยง นอกจากนี้บรรยากาศในตลาดก็ง่ายๆ ถูกแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติของต้นไม้และลำธารน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนการมาพักผ่อนจริงๆ อีกทั้งในตลาดก็มีของกินมากมาย สามารถเลือกซื้อทั้งของคาว ขนมหวาน โดยอาหารก็เป็นแบบพื้นบ้าน ทั่วๆ ไป กินง่ายราคาย่อมเยา ส่วนที่เป็นไฮไลท์คือการทำบุญตักบาตรกับพระล่องแพ เป็นความเรียบง่ายที่ดูงดงามมาก เป็นที่เที่ยวราชบุรีที่น่ามาพักผ่อนจริงๆ
- Location: ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
- Open-Close: เปิดให้บริการวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.00 – 14.00 น.
- Facebook: โอ๊ะป่อย ตลาดเช้าริมธาร
6.หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส, ราชบุรี
หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส หรือตลาดห้วยน้ำใส ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง เป็นตลาดของคนมอญ โดยหมู่บ้านมอญนี้เป็นที่รู้กจักกันอีกชื่อว่า แม่กำปอง 2 เพราะรอบๆ หมู่บ้านแวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และมีลำธารไหลผ่านตัวหมู่บ้าน ทำให้มีอากาศสบายๆ ภายในตลาดโดดเด่นด้วยทางเดินไม้ไผ่ที่เป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ และมีพร็อพตามจุดต่างๆ ให้ได้ถ่ายรูปเช็คอิน นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของคนในพื้นที่ที่แต่งกายชาวมอญออกมาเดินให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย ส่วนของขายในตลาดก็มีหลากหลายทั้งของฝาก ของใช้พื้นบ้าน ของกิน และสำหรับใครที่ซื้ออาหารมากิน ทางตลาดก็มีที่นั่งกินริมน้ำตก นั่งสบายๆ กินอาหาร ฟังเสียงน้ำไหลก็เพลินสุดๆ เป็นอีกตลาดเสาร์ – อาทิตย์ที่เหมาะกับการมาเที่ยวในวันหยุดมาก
- Location: หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
- Open-Close: เปิดให้บริการวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.30 – 16.00 น.
- Facebook: ตลาดบ้านมอญห้วยน้ำใส
7.อัลปาก้าฮิลล์, ราชบุรี
(Alpaca Hill)
Alpaca Hill ที่เที่ยวราชบุรีที่พกความน่ารักของสัตว์หลากหลายชนิดมารวมไว้ในที่เดียวกัน โดยที่นี่เป็นเหมือนฟาร์มเปิดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเล่น ให้อาหาร และสัมผัสกับสัตว์ได้แบบใกล้ชิด ส่วนสัตว์ใครที่มาต่างต้องมาเล่นด้วยก็คือ อัลปาก้า น้องน่ารักและเป็นมิตรมากๆ เพียงแค่ถืออาหารน้องก็เดินเข้ามาหาแล้ว นอกจากอัลปาก้าที่นี่ยังมีสัตว์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาปิบาร่า จิ้งโจ้เผือก เม่นแคระ แกะ แพรี่ด็อก ส่วนไฮไลท์ก็คือหมู่บ้านฮอบบิทที่เป็นโซนฝูงห่าน ซึ่งเป็นมุมยอดฮิตที่ต้องมาถ่ายรูปสวยๆ คู่กับฝูงห่านขาว มีฉากหลังเป็นหมู่บ้านฮอบบิท บอกเลยว่าตรงนี้สวยปังสร้างคอนเทนต์ได้เลย
- Location: 357 ม.8 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
- Phone: 080 821 2108
- Open-Close: เปิดให้บริการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.30 – 18.00 น., วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.30 น.
- Fee: ราคาเข้าชมเริ่มต้น 290 บาท
- Facebook: AlpacaHill
8.หุบผาสวรรค์, ราชบุรี
พูดถึงสถานที่ที่รวบรวมความเชื่อและความศรัทธาของหลายๆ ศาสนาเข้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นต้องมี หุบผาสวรรค์ แน่นอน ที่นี่มีรวมทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลามเข้าด้วยกัน โดยหุบผาสวรรค์ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสถาบันพระสังฆาธิโอบล้อมท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา เหมาะกับคนที่มีจิตศรัทธาแรงกล้าและอยากเดินทางมากราบไหว้โดยเฉพาะ เพราะองค์พระแต่ละองค์ตั้งอยู่บนภูเขาที่ต้องเดินขึ้นบันไดไป ซึ่งใช้ระยะเวลานานพอสมควรเลย ดังนั้นใครที่มาแนะนำให้เตรียมร่ายกายและเวลาให้พร้อม แต่นอกจากบนเขา ด้านล่างก็มีองค์พระขนาดใหญ่ให้ได้กราบไหว้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นอันซีนที่เที่ยวราชบุรีที่ต้องมาเช็คอิน
- Location: สถาบันพระสังฆาธิการ ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
9.น้ำตกเก้าโจน,ราชบุรี
น้ำตกเก้าโจน หรือน้ำตกเก้าชั้น ซึ่งคำว่าโจนเป็นการเปรียบเหมือนกับน้ำที่กระโจนลงมาจากหน้าผา ส่วนคำว่าเก้ามาจากน้ำตกที่มีด้วยกัน 9 ชั้น เมื่อรวมกันจึงกลายเป็นชื่อว่าน้ำตกเก้าโจน การเดินเที่ยวน้ำตกที่นี่มีทั้งง่ายและยาก โดยชั้นแรกๆ อย่างชั้น 1 – 3 จะเป็นชั้นที่เดินไม่ยากและอยู่ใกล้ๆ กัน ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าถ้าพาผู้ใหญ่มาเที่ยวแนะนำชั้นแรกๆ ก็สวยแล้ว แต่ถ้าสายลุยๆ หน่อยแนะนำให้เดินขึ้นต่อไปเลย เพราะยิ่งชั้นสูงๆ น้ำตกก็จะย่ิงสวยไปด้วย นอกจากน้ำตกแล้ว ธรรมชาติรอบๆ ก็อุดมสมบูรณ์ มีความเขียวชอุ่มตลอดทาง แถมยังมีลานหินขนาดใหญ่ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์มาก สายเที่ยวน้ำตก ชอบเดินป่าเขา อยากได้น้ำตกสวยๆ ใกล้กรุงเทพฯ แนะนำที่น้ำตกเก้าโจนเลย
- Location: ม.7 บ้านห้วยผาก ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
- Fee: ค่าเข้าชม 20 บาท/คน
10.อุทยานหินเขางู, ราชบุรี
อุทยานหินเขางู หนึ่งในความสวยอันซีนที่ต้องมาของจังหวัดราชบุรี ซึ่งไฮไลท์คือภูเขาหินขนาดใหญ่ที่ที่เกิดจากการทำเหมืองในสมัยก่อน ในปัจจุบันนี้กลายเป็นความสวยงามที่แปลกตาและเป็นเอกลักษณ์จนกลายเป็นสถานที่ที่เที่ยวยอดฮิต อีกทั้งยังมีต้นไม้น้อยใหญ่อยู่รอบๆ อุทยานที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นและบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ดูแล้วสดชื่น เหมาะกับการมาพักผ่อนสบายๆ รีเฟรชร่างกายมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเล็กๆ ให้ทำอย่างให้อาหารปลา ปั่นเรือเป็ด และเดินชิลล์ๆ บนสะพานริมน้ำ ถ้ามาราชบุรีแล้วอยากเสพธรรมชาติ แถมได้รูปสวยๆ กลับไปลงโซเชียล ให้โน้ตที่นี่ไว้เลย
- Location: ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี
- Open-Close: เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 ที่กิน ที่เที่ยวราชบุรี อัปเดตครึ่งปีหลัง 2022 ต้องไปเช็คอิน ต้องรีบหาวันว่างแล้วรีบขับรถไปราชบุรี ปล่อยให้ธรรมชาติผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ส่วนที่พักราชบุรีก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ถ้าอยากนอนสวยหรูก็มาตามที่ 5 ที่พักราชบุรี ฟีลเมืองนอก ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก หรือใครสายแคมป์ปิ้ง อยากนอนเต็นท์แบบใกล้ชิดธรรมชาติก็มานอนที่ 5 พิกัดจุดกางเต็นท์ราชบุรี ชวนชาวแก๊งมานอนเล่น เน้นธรรมชาติกรีนๆ