ใช้ปลั๊กพ่วง เปลืองไฟ มั้ ย

ปลั๊กพ่วง เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างหนึ่งที่ถือว่ามีความจำเป็นในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะกับที่บ้านหรือที่ทำงาน เนื่องจากเราต้องใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้น การเลือกปลั๊กพ่วงที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเพราะจะช่วยป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ และเมื่อเลือกซื้อปลั๊กได้แล้วก็ควรที่จะต้องใช้อย่างถูกต้องด้วยเพราะไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อะไรก็ตามย่อมมีข้อพึงระวังและข้อจำกัดในการใช้งาน ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง “5 ไม่” จำให้ขึ้นใจ เมื่อต้องใช้งานปลั๊กพ่วง  พร้อมแล้วไปดูกันเลย

ไม่ควรใช้ปลั๊กพ่วงเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าเยอะจนเกินไป

ข้อแรกเลยที่หลายคนอาจจะทำกันบ่อยๆ ก็คือการใช้ปลั๊กพ่วงเกินกำลังด้วยการนำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มาเสียบจนแน่นและเต็มทุกรูที่ให้มา ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ไม่ควรทำเอามากๆ เพราะหากเกินกำลังที่ปลั๊กพ่วงจะรับได้ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการชำรุดหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ซึ่งในทางปฏิบัติถ้าจะให้มาสังเกตว่าปลั๊กตัวไหนรับกำลังไฟได้เท่าไหร่ เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟแค่ไหนก็ดูจะยุ่งยากจนเกินไป

สิ่งที่เราควรทำก็คือไม่เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเยอะเข้าไว้ในปลั๊กพ่วงตัวเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น เครื่องปิ้งขนมปัง, กระทะไฟฟ้า, กระติกน้ำร้อน, ไมโครเวฟ, เตารีด หรือตู้เย็นเป็นต้น ควรแยกปลั๊กต่างหากไม่ควรเสียบรวมกันหรือใช้งานพร้อมกัน ทางที่ดีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงๆ ให้เสียบกับปลั๊กไฟบ้านจะดีที่สุด เพราะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟลัดวงจรจนนำมาซึ่งเพลิงไหม้ได้

ไม่นำปลั๊กพ่วงมาต่อกันหลายๆ ตัว

ข้อต่อมาที่เราไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือการนำปลั๊กพ่วงมาต่อกันหลายๆ ตัว บางคนเคยชินหรือเห็นแก่ความสะดวกเป็นหลักจึงใช้งานพ่วงต่อปลั๊กหลายตัวเพื่อให้มาถึงยังจุดที่ตัวเองต้องการใช้งาน และแต่ละจุดที่พ่วงมาก็เสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เอาไว้ทุกตัว ซึ่งการทำแบบนี้อาจทำให้เกิดการสะสมความร้อนในสายไฟมากจนเกินไปจุดทำให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็นและนำไปสู่การชำรุดเสียหายได้ง่ายได้ นอกจากนี้เราควรหมั่นสังเกตและตรวจตราปลั๊กพ่วงแต่ละตัวหากพบว่าเริ่มชำรุดเช่นมีการฉีกขาด หรือมีรอยไหม้ควรเลิกใช้ปลั๊กนั้นทันที การซ่อมแซมอาจประหยัดแต่เรื่องไฟฟ้าไม่ควรเสี่ยงจะดีที่สุดครับ

ไม่เสียบปลั๊กค้างไว้ตลอดเวลา

ข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญแต่มักโดนละเลยเช่นเดียวกันนั่นก็คือการไม่ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อออกจากบ้านไม่ว่าจะออกไปนานแค่ไหนก็ตาม บางคนไปเที่ยวต่างจังหวัดหลายวันแต่เสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้จนเกิดไฟไหม้บ้านตามข่าวที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ ตามสื่อต่างๆ เพราะการเสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้กรณีที่สายไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดย่อมนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ทั้งสิ้น รวมถึงยังเปลืองค่าไฟโดยใช่เหตุอีกด้วย           

ไม่ติดตั้งปลั๊กพ่วงถาวร

ปลั๊กพ่วงนั้นเป็นอุปกรณ์สำหรับการใช้งานชั่วคราวเท่านั้นจึงไม่ควรนำมาติดตั้งถาวรด้วยการเดินเป็นสายไฟหลักเพื่อใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน เช่นเดินสายไปไว้บนเพดานเพื่อเสียบหลอดไฟ เดินสายเอาไว้ใต้พรมหรือเสื่อน้ำมันในบริเวณห้อง เพราะเมื่อใช้งานไปสักพักจะเกิดการชำรุดขึ้น ยิ่งในจุดที่เรามองไม่เห็นด้วยแล้วยิ่งไม่ควรใช้ปลั๊กพ่วงไปเดินสายเอาไว้ใช้งานเลยล่ะ

ไม่เห็นแก่ของถูก

สุดท้ายเลยที่เราอยากจะย้ำกับคุณหลายๆ ครั้งหากทำได้ก็คือ ไม่เห็นแก่ของถูก รู้หรือไม่ว่าในปัจจุบันยังมีปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมากถูกนำมาวางขายด้วยราคาที่ถูกเพื่อระบายของให้หมดจากสต็อกเพราะไม่ผ่าน มอก.ปลั๊กพ่วงฉบับล่าสุด และเป็นปลั๊กที่ถือว่าผิดกฎหมาย รวมถึงยังมีปลั๊กคุณภาพต่ำหรือปลั๊กสวม มอก. อีกไม่น้อยที่ถูกสั่งมาหลอกขายให้ผู้ใช้ ซึ่งผลเสียจากการเห็นแก่ปลั๊กไฟราคาถูกนั้นบอกเลยว่าหากเกิดขึ้นแล้วประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียวครับ เช่นบางรุ่นมีรูสายดินแต่ไม่มีการเดินสายดินจริงจนอาจทำให้เกิดไฟดูดหรือไฟช็อตคนในบ้านเราได้

และนี่ก็คือ “5 ไม่” ที่เราอยากให้คุณจำให้ขึ้นใจ เมื่อต้องใช้งานปลั๊กพ่วง โดยไม่เพียงแค่ใช้งานปลั๊กที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ยังควรต้องใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณใช้งานปลั๊กพ่วงได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นและช่วยป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ  

ใช้ปลั๊กพ่วง เปลืองไฟ มั้ ย

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนอาจจะละเลยไปสำหรับการเสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ BEEclean จึงรวบรวมสาระน่ารู้เรื่องนี้มาให้ทุกคน ยิ่งปัจจุบันอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราใช้มีจำนวนมากขึ้น จากรอบตัวที่เราใช้งานอยู่ ยิ่งใช้งานมาก ยิ่งกินพลังงานมาก เราก็ยิ่งต้องการชาร์จไฟบ่อยครั้งขึ้น หรือบางคนก็ใช้วิธีเสียบไว้ตลอดเลย จะได้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ทำให้บางครั้งเราก็ลืมเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากการเสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าไปเลย

แล้ว เสียบปลั๊กไว้ตลอดกินไฟแค่ไหนกันล่ะ ?

ใช้ปลั๊กพ่วง เปลืองไฟ มั้ ย

ขึ้นชื่อว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าแล้ว ทุกชนิดกินไฟแน่นอน ดังนั้น กรณีที่เราเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้ แม้ไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นนั้น ก็กินไฟ เพียงแต่การกินไฟนั้น ไม่ได้มากเท่า เมื่อเทียบกับมีการเริ่มต้นใช้งาน ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบไว้ตลอด เพราะทำงานตลอด เช่น ตู้เย็น ก็จะกินไฟต่อเนื่อง แม้ว่าเราไม่ได้เปิดตู้เย็นเพื่อหยิบของก็ตาม จึงไม่แปลกที่ตู้เย็นจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟอันดับต้นๆ เพราะต้องเสียบใช้งานเพื่อทำความเย็นตลอดเวลา และเมื่อเปิดตู้เย็นทุกครั้ง ตัวเครื่องก็จะทำงานมากขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้น ก็กินไฟมากขึ้นนนั่นเอง

หากจะสรุปให้ฟังง่ายๆ เลยก็คือ การเสียบปลั๊กไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดไว้ตลอด ถือว่ากินไฟ แต่ระดับการกินไฟมากหรือน้อยนั้นจะแตกต่างกันไปตามชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า และระยะเวลาในการเปิดใช้งาน โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เย็น, โทรทัศน์, พัดลม, หลอดไฟ, คอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค, หม้อหุงข้าว, หม้อต้มน้ำร้อน และเตารีด

ดังนั้น ถ้าไม่ได้ใช้งาน และไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้ แนะนำให้ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่มีการใช้งาน โดยเฉพาะโทรทัศน์, คอมพิวเตอร์/ โน๊ตบุ๊ค ดูจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ที่เรามักละเลย เสียบปลั๊กทิ้งไว้ แม้จะไม่ได้ใช้งาน เพราะต้องการความสะดวกเมื่อต้องใช้งาน แต่การถอดปลั๊กบ่อยๆ ก็อาจทำให้เต้าเสียบหลวมและทำให้เกิดไฟช็อตได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานหลายท่านแนะนำว่า เพื่อความปลอดภัยควรใช้ปลั๊กพ่วงที่มีปุ่มเปิด-ปิดไฟ เมื่อใช้งานก็เปิดปุ่มบนแผงปลั๊กพ่วง เมื่อไม่ใช้งานก็ปิด ก็พอจะช่วยได้เช่นกัน เพียงแต่ควรเลือกปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพเท่านั้นเอง

สนใจเรียกแม่บ้าน โหลดเลย 

Download Application : คลิก !

สอบถามรายละเอียดการเรียกแม่บ้าน  Add Line : @beeclean หรือ คลิก!

BEEclean บีคลีน เสียบปลั๊กไว้ตลอด