Apple tv เดือนละ 99 บาท ดูอะไรได้บ้าง

เปิดให้บริการแล้ว เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับ Apple TV+ ช่องทางความบันเทิงแห่งใหม่ที่ไม่เพียงรวบรวมรายการจากเหล่านักเล่าเรื่องที่ดีที่สุดในโลก แต่ยังมีจุดเด่นที่เนื้อหาออริจินัลเชิงสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ ทั้งในรูปแบบซีรีส์ ภาพยนตร์ สารคดี ไปจนถึงรายการสำหรับเด็ก ที่หาชมที่นี่ได้ที่เดียวโดยไม่มีโฆษณาคั่น พร้อมคำบรรยาย และเสียงพากย์เกือบ 40 ภาษา แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าเปิดแอปฯ Apple TV ขึ้นมายังไม่รู้จะดูอะไร นี่คือ 10 ผลงานออริจินัลบน Apple TV+ ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดชม…

  1. Dickinson
  2. The Morning Show
  3. See
  4. For All Mankind
  5. The Elephant Queen
  6. The Banker
  7. Ghostwriter
  8. Oprah’s Book Club (เริ่ม 15 พ.ย. 2019)
  9. Servant (เริ่ม 28 พ.ย. 2019)
  10. Truth Be Told (เริ่ม 6 ธ.ค. 2019)

1. Dickinson

เริ่มต้นกันที่ซีรีส์สุดบรรเจิดของ Alena Smith ที่จะพาทุกคนท่องไปกับเรื่องราวตลกร้ายแนว Coming-of-Age เกี่ยวกับสังคม เพศ และครอบครัวในศตวรรษที่ 19 ผ่านมุมมองของกวีสาวหัวรั้น Emily Dickinson ที่เต็มไปด้วยความคิดซับซ้อน แรงบันดาลใจ และความกล้าหาญ นำแสดงโดยนักแสดงสาว Hailee Steinfeld จาก Ender’s Game (2013) และ Bumblebee (2018) ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดังอีกคับคั่ง

2. The Morning Show

ต่อกันที่ทีวีซีรีส์ดราม่าที่จะพาทุกคนเปิดโลกเบื้องหลังวงการข่าวยามเช้าและชีวิตของทีมงานที่เป็นผู้ปลุกชาวอเมริกันให้ตื่นขึ้นในทุกวัน ผ่านมุมมองของสองสาวเวิร์กกิ้งวูแมนที่ต้องรับมือกับงานสุดท้าทาย ไปจนถึงปัญหาชีวิต ทั้งเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การงาน ท่ามกลางอัตตา ความทะเยอทะยาน และการไขว่คว้าหาอำนาจในทางที่ผิด นำแสดงโดยสองนักแสดงสาว Jennifer Aniston และ Reese Witherspoon ร่วมด้วย Steve Carell, Billy Crudup, Mark Duplass, Gugu Mbatha-Raw ฯลฯ รวมถึง Reese Witherspoon และ Jennifer Aniston ที่รับหน้าที่อำนวยการสร้างเรื่องนี้ 

3. See

เรื่องนี้หากไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับทีวีซีรีส์ดราม่าพล็อตเรื่องน่าสนใจกับมหากาพย์ที่มีฉากหลังเป็นโลกในอีก 600 ปีข้างหน้า แสดงนำโดยนักแสดงหนุ่มร่างใหญ่ขวัญใจสาวๆ Jason Momoa และ Alfre Woodard เมื่อไวรัสได้คร่าชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมาก และทำให้ประชากรที่รอดชีวิตต้องตาบอด มนุษยชาติที่เหลือจึงต้องปรับตัว เพื่อค้นหาหนทางในการเอาชีวิตรอด แม้สูญเสียการมองเห็น ถือเป็นซีรีส์ที่แม้จะมีความตรึงเครียดเย็นชาในเรื่องราว แต่ก็มีความหวังซุกซ่อนให้คนดูอบอุ่นและอยากติดตามเรื่อย ๆ

4. For All Mankind

ซีรีส์ที่จะสร้างกำลังใจและมอบความหวังแก่ผู้คนอีกเรื่อง โดย Ronald D. Moore พูดถึงเรื่องราวในโครงการอวกาศที่เป็นเหมือนเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของความหวังและความฝันในอเมริกา บอกเล่าเรื่องการอุทิศตัวและความพยายามของเหล่านักบินและนักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้มนุษยชาติสามารถเดินทางสู่อวกาศในยุคที่มีการแข่งขันทางเทคโนโลยีอวกาศไม่สิ้นสุด ใครที่ชอบผลงานแนวไซไฟเรื่องนี้ห้ามพลาดเลย!

5. The Elephant Queen

สารคดีชื่อดังกับการติดตามช้างราชินีและฝูงของเธอในมหากาพย์การเดินทางของชีวิต ที่มีทั้งความอบอุ่น ความสูญเสียและการเดินทางกลับบ้าน ที่จะเป็นเหมือนจดหมายรักทางภาพยนตร์ถึงสัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ ถือเป็นผลงานเปี่ยมคุณค่าอีกเรื่องบน Apple TV+

6. The Banker 

ภาพยนตร์ขนาดยาวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง นำแสดงโดย Anthony Mackie และ Samuel L. Jackson ว่าด้วยเรื่องราวของสองผู้ประกอบการชาวแอฟริกันอเมริกันที่พยายามใช้เล่ห์กลในการก้าวข้ามขีดจำกัดของชาติพันธุ์ในปี 1950 และให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอย่างลับ ๆ แก่ชุมชนแอฟริกันอเมริกันใน Jim Crow Texas และอีกไฮไลต์เด็ดก็คือ ผลงานเรื่องนี้ นักแสดงสาว Nia Long และหนุ่มหล่อ Nicholas Hoult ได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย

7. Ghostwriter 

ซีรีส์ออริจินัลเรื่องสนุกของทุกคนในครอบครัว เรื่องราวของกลุ่มเด็ก 4 คนที่ถูกนำพาให้มาพบกันโดยวิญญาณปริศนาที่สิงอยู่ในร้านหนังสือใกล้บ้าน พวกเขาจะต้องร่วมมือกันเพื่อปลดปล่อยตัวละครสมมุติให้หลุดพ้นจากพันธนาการของโลกวรรณกรรม ถือเป็นผลงานแฟนตาซีผจญภัยที่จะพาทุกคนย้อนวัยและสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัยจริง ๆ

8. Oprah’s Book Club (เริ่ม 15 พ.ย. 2019)

ต่อกันที่รายการของคนรักหนังสือที่จะพาทุกคนร่วมพูดคุยขบคิดกับเหล่านักเขียนผู้จุดประกายความคิดได้ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก พร้อมขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงผู้คนมากมายให้ค้นพบตัวเองด้วยวิธีคิดเชิงบวก ดำเนินรายการโดย Oprah Winfrey ผู้มีชื่อเสียงทั้งในด้านการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแสดง พิธีกรรายการทอล์คโชว์ นักสังคมสงเคราะห์ และ CEO ของ OWN ถือเป็นรายการดี ๆ ที่เรากำลังจะได้สัมผัสเร็ว ๆ นี้ ใน วันที่ 15 พ.ย. ทาง Apple TV+

9. Servant (เริ่ม 28 พ.ย. 2019)

ภาพยนตร์ทริลเลอร์เชิงจิตวิทยาจาก M. Night Shyamalan ผู้อำนวยการสร้างซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Academy จากภาพยนตร์เรื่อง Glass, Split และ The Sixth Sense เรื่องราวของคู่รักชาวฟิลาเดลเฟียที่กำลังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์จากเหตุการณ์น่าเศร้าที่ไม่สามารถเอ่ยถึงได้ ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคในชีวิตคู่และกลายเป็นช่องว่างให้พลังปริศนาเข้ามาสู่บ้านของพวกเขา นำแสดงโดย Lauren Ambrose, Nell Tiger Free, Toby Kebbell และเป็นผลงานแสดงเรื่องใหม่ของ Rupert Grint เจ้าของบท “รอน วิลลีย์” ในภาพยนตร์ Harry Potter เตรียมสัมผัสความหลอนของ Servant กันได้ 28 พ.ย. นี้

10. Truth Be Told (เริ่ม 6 ธ.ค. 2019)

ปิดท้ายที่ซีรีส์ดราม่า แนวอาชญากรรม ระทึกขวัญ ว่าด้วยเรื่องราวของพ็อดคาสเตอร์สาวชื่อ Poppy Parnell ที่พยายามจะรื้อฟื้นคดีฆาตกรรมจนทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักของผู้คน และต้องเผชิญหน้ากับ Warren Cave ชายซึ่งเธอเคยให้ความช่วยเหลือที่ผิดพลาดโดยการซ่อนเค้าไว้ที่หลังบาร์ การสืบค้นของเธอนำไปสู่ปมเรื่องความเป็นส่วนตัว สื่อ และการเหยียดสีผิว เรื่องนี้นำแสดงโดยนักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง Octavia Spencer นักแสดงรางวัล Academy Award และนักแสดงสาว Aaron Paul เจ้าของรางวัล Emmy Award เตรียมพบกันได้บน Apple TV+ เริ่ม 6 ธ.ค. นี้

และทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 ผลงานออริจินัลน่าดู ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดชมบน Apple TV+ ซึ่งนอกจากที่กล่าวมาแล้ว เร็ว ๆ นี้ ก็กำลังจะมีผลงานใหม่ ๆ มาเสิร์ฟถึงหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น Little America ภาพยนตร์สารคดีที่ว่าด้วยเรื่องราวของผู้อพยพในสหรัฐอเมริกาที่มีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความน่าแปลกใจที่กินใจ ตลอดจนรายการสำหรับครอบครัวที่น่าสนใจอย่าง Helpsters และ Snoopy In Space ที่พร้อมแจกความน่ารักสดใสสำหรับเด็ก ๆ แล้ววันนี้ และอีกหลากหลายความบันเทิงที่ถูกเลือกสรรบน Apple TV+ ใครอยากดูเรื่องไหน สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ ผ่านแอปฯ Apple TV บน iPhone, iPad, Apple TV, iPod touch, Mac, สมาร์ททีวีของ Samsung บางรุ่น, Roku และ Amazon Fire TV รวมถึงออนไลน์ที่ tv.apple.comค่าบริการเพียงเดือนละ 99 บาท ทดลองชมฟรี 7 วัน สำหรับลูกค้า Apple ที่ซื้อ iPhone, iPad, Apple TV, iPod touch หรือ Mac สามารถเพลิดเพลินกับการใช้งาน Apple TV+ ฟรีเป็นเวลา 1 ปี ด้วยระบบ Family Sharing สมาชิก Apple TV+ หนึ่งบัญชีสามารถแชร์กับสมาชิกในครอบครัวได้สูงสุดถึง 6 คน

ติดตามความเคลื่อนไหวของ OK! Magazine Thailand ได้ที่…

Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : @okmagazinethailand
Facebook : @okmagthailand
Twitter : @okthailand

Comments

comments