จอแสดงผล (Display)
- สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ)
- จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี)
- กว้าง 4.7 นิ้ว (แนวทะแยง)
- ความละเอียด 750 x 1334 พิกเซล
(326 ppi)
วัสดุตัวเครื่อง (Body)
- หน้าจอกระจก
- ขอบเครื่อง อลูมิเนียม
- มีสีให้เลือก (Colors) : gold, space_gray, silver
เครือข่าย (Network)
- ใช้งาน Nano-SIM
- เทคโนโลยีรับ/ส่งข้อมูล 2G, 3G: HSDPA 42 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
- 4G: LTE DL 150 Mbps, LTE UL 50 Mbps
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
- iOS 8
- CPU : Apple : A8 Dual Core
- ความเร็ว : 1.4 GHz
- GPU : PowerVR GX6450 (quad-core graphics)
- 16 GB (ตัวเครื่อง) RAM 1GB,
กล้องหลัง (Rear Camera)
- กล้องดิจิตอล
8 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- - รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
- - ไฟแฟลช Dual-LED dual-tone flash
- - แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging) - ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Shake Reduction)
- ตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Detection)
- โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)
- ระบบโฟกัสภาพ Phase Detection Auto Focus (PDAF)
- โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR)
กล้องหน้า (Front Camera)
- ความละเอียด 1.2MP
- - รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
- - รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
- - กล้องหน้า HDR
บันทึกวิดีโอ (Video Recording)
- บันทึกวิดีโอกล้องหลัง
- - บันทึกวีดีโอระดับ HD (720p), 30 เฟรมต่อวินาที
- - ความละเอียดของภาพสูงสุด 1920 x 1080 พิกเซล
- ไม่มีบันทึกวิดีโอกล้องหน้า
เซ็นเซอร์ (Sensor)
- ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint)
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
- เซ็นเซอร์ยืนยันตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือ (Touch ID)
เชื่อมต่อ
- การหาตำแหน่ง: Assisted GPS
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
- - จุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot)
- - เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)
มัลติมีเดีย
- ระบบเสียง
- - ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่ - ระบบชาร์จ
- แบตเตอรี่ Li-Pol 1,810 mAh (Standard Battery)
- การใช้งานแบตเตอรี่
- เปิดรอรับสาย 3G 10 วัน (Standby Time)
- สนทนาต่อเนื่อง 3G 14 ชั่วโมง (Talk Time)
- ใช้งาน Wi-Fi ต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง
- ใช้งาน 3G ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
- ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง (Video playback time)
- ฟังเพลงต่อเนื่อง 50 ชั่วโมง (Music playback time)
เรื่องความจุของสมาร์ทโฟน ตระกูล iPhone นั้นเป็นอะไรที่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเองได้ ก็เลยทำให้เราต้องคิดหนักเวลาเลือกซื้อ เพราะหลายคนมักกังวลว่าจะไม่พอกับการใช้งาน แล้วรวมถึงยิ่งความจุเยอะก็ยิ่งแพงขึ้นกว่าเดิมหลายพัน ก็เลยต้องคิดแล้วคิดอีก
หลังการเปิดตัว iPhone 6 มาก็ทำใหหลายคนอึ้งไปอีกเพราะ iPhone รุ่น 6 และ iPhone6 Plus กลับไม่มีหน่วยความจุรุ่น 32GB ซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ไอโฟนรุ่นก่อนๆ ที่จะมีความจุ 16GB, 32GB และรุ่น 128 GB ถ้าให้เดาก็คือ ค่าย Apple คงอยากขายรุ่น 64 GB มากกว่าก็เลยเป็นเช่นนั้น
ปัจจุบัน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีให้เลือก 3 รุ่นความจุ นั่นก็คือ 16GB, 64GB และ 128GB ซึ่งแน่นอนว่าความจุเยอะๆ ก็ย่อมดีกว่าความจุน้อยๆ ในแง่ของการใช้งานอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกไปคือ ความจุที่เพิ่มขึ้นมักจะแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น อย่างรุ่น 64GB นี่แพงกว่ารุ่น 16 GB ถึง 4,000 บาท เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคำถามที่ว่า เราจะเลือกซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ที่ความจุใด ถึงจะเหมาะสม และคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้
ซื้อ iPhone 6 รุ่นไหน ความจุเท่าไรคุ้มที่สุด?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อเราซื้อ iPhone รุ่นใดก็ตาม ความจุไหนก็ตาม ก็จะต้องเสียพื้นที่ความจุไปประมาณ 5GB เนื่องจากจะต้องนำไปใช้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ ไฟล์ระบบต่างๆ นั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าหากคุณซื้อรุ่นความจุ 16GB ก็จะเหลือความจุที่สามารถใช้งานได้จริงเพียงประมาณ 11GB เท่านั้น ส่วนรุ่น 64 และ 128GB ก็จะยังคงเหลือให้ได้ใช้งานอีกเยอะพอสมควรเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่า iPhone 6 รุ่น 16GB จะไม่คุ้มซะทีเดียว เพราะจริงๆ มันก็ใช้งานได้เหมาะกับหลายๆ คนเหมือนกัน เช่น ถ้าเน้นการใช้งานด้านแค่โซเชียลมีเดียเป็นหลัก และใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไป ที่ขนาดแอพไม่ใหญ่มาก เช่น Line, Facebook, Twitter และอื่นๆ ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ส่วนใหญ่ขนาดไม่เกิน 150 MB งานนี้ล่ะก็ใช้รุ่น 16 GB ก็สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันขนดาเล็กดังกล่าวได้ถึงประมาณ 70 แอปพลิเคชันเลยล่ะค่ะ แล้วที่สำคัญก็คือ เราสามารถเชื่อมต่อ iCloud Drive ได้ถึง 5GB ฟรี เพราะฉะนั้นถ้าพื้นที่เต็มก็โอนถ่ายไปเก็บใน iCloud ก็ได้ สบายๆ ไม่เปลืองงบ
สำหรับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รุ่น 64GB นั้นเรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มสุด เพราะราคาของมันเทียบเท่ารุ่น 32GB รุ่นก่อนๆ แต่ได้ความจุเพิ่มเท่าตัว แล้วจะใช้งาน โหลดแอพหนักขนาดไหน ถ่ายรูปเยอะแค่ไหน เล่นเกมที่ไฟล์ใหญ่ประมาณ 1 GB ขึ้นไปนี่ก็สบายเลย ส่วนถ้าใครชอบดูหนังสามารถใส่ภาพยนตร์ ความละเอียดสูงระดับ Full HD ในขนาดเฉลี่ย 4GB ได้กว่า 15 เรื่องเลยทีเดียว เรียกว่าคุ้ม เพราะพื้นที่เหลือให้ใช้งานนั้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
ถ้าใครมีงบเหลือๆ ก็คิดว่าจัดรุ่น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รุ่น 128GB ไปเลยก็ดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานในระดับที่จริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์มากๆ เป็นชีวิตจิตใจ หรือผู้ที่ต้องใช้งานแอปพลิเคชันด้านการทำงานที่ครบครัน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอเป็นระยะเวลานานๆ หรือชอบดาวน์โหลดเกม ดาวโหลดแอพทีละเยอะๆ ติดเครื่องไว้ แบบไม่ต้องกังวลล่ะก็ความจุ 128GB สบายๆ เหลือๆ ต้องการใช้เมื่อไหร่ ก็มีให้ได้ใช้งานกันในทันที