ส่วน Flash Express ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาด แต่วันนี้บริษัทสามารถถระดมทุนซีรีส์ D+ และ E ในมูลค่ากิจการระดับยูนิคอร์นตัวแรกของไทย ที่ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 31,000 ล้านบาท คำนวณแล้ว มูลค่ากิจการ Kerry Express ตอนนี้จะเป็น 2.4 เท่าของ Flash Express บริษัท Flash Express บริษัท Kerry Express สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ ในขณะเดียวกัน Kerry เป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรระดับพันล้านบาทต่อปี มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริง ๆ แล้ว การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มากขึ้น ก็น่าจะมีส่วนที่ทำให้รายได้ของ Kerry ไม่เติบโต ถ้าเราเป็นนักลงทุน เราจะเลือกอะไร ? ระหว่าง ถ้าบอกว่ามีแค่ 2 เจ้านี้ เป็นผู้เล่นคนสำคัญ อยู่ในตลาดขนส่งพัสดุเมืองไทย ก็ไม่น่าจะถูกต้อง คำตอบแรกก็คือ ไปรษณีย์ไทย ที่ปี 2563 มีรายได้ 24,211 ล้านบาท กำไร 385 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน การเข้ามารุกธุรกิจขนส่งพัสดุของเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ปี 2562 รายได้ 4,685 ล้านบาท ขาดทุน 794 ล้านบาท ในเมื่อตลาดแข่งขันกันดุเดือดขนาดนี้ เหตุผลที่ Flash Express ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ น่าจะมี 3 เหตุผลหลัก ที่ธุรกิจสตาร์ตอัปอื่นในไทยยังทำไม่ได้ 1. ตลาดการขนส่งพัสดุเป็นตลาดที่ใหญ่พอที่จะสร้างรายได้ขนาดใหญ่หลักหมื่นล้านบาท และเป็นตลาดที่กำลังเติบโตสูงล้อไปกับเทรนด์อีคอมเมิร์ซที่หอมหวาน ยูนิคอร์นต้องการมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท พอบริษัททำรายได้หลักหมื่นล้านบาท ดังนั้นขอแค่เพียงตลาดในประเทศไทยเพียงประเทศเดียวก็ทำให้สตาร์ตอัปที่เป็นผู้นำในตลาดนี้สามารถเป็นยูนิคอร์นได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการขยายไปต่างประเทศ ซึ่งต่างจากสตาร์ตอัปที่อยู่ในธุรกิจอื่นที่อาจมีขนาดตลาดที่เล็กเกินไปในประเทศไทย 2. Flash Express มีผู้ก่อตั้งคือ คุณคมสันต์ ลี ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าสู้ ปั้นบริษัทใน 4 ปี จากรายได้ไม่เท่าไร กลายเป็นบริษัทที่มีรายได้หลักหมื่นล้านบาท ที่สำคัญคุณคมสันต์เป็นคนพรีเซนต์เก่ง ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนเชื่อและยอมให้เงินลงทุน ถ้าให้บริษัทขนส่งพัสดุรายอื่น มาระดมทุน ก็อาจจะไม่ได้มูลค่าระดับนี้ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือบริษัทนั้นไม่มีคุณคมสันต์ ลี ที่ไม่สามารถโน้มน้าวคนให้เงินทุนได้ 3. ประเทศไทยมีบริษัทใหญ่ที่มีเงินทุนเหลือ และต้องการกระจายไปทำธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เช่นในคราวนี้ ก็จะมี OR, Krungsri Finnovate, SCB10X, Durbell ที่เป็นผู้ให้เงินลงทุน ซึ่งแต่ละบริษัท เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ผลิตกำไร หรือ กระแสเงินสด ได้ปีละเป็นหลักหมื่นล้านบาท การให้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่บริษัทใหญ่ถูกบังคับให้ทำ ในยุคสมัยที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะบริษัทใหญ่ต่างกลัวว่าสักวันหนึ่งตัวเขาเองจะถูกบริษัทหน้าใหม่มาดิสรัปต์ กลับไปที่คำถามของบทความนี้ แต่คำถามนี้ก็คงช่วยเปิดมุมมองให้กับเราว่าในบางครั้งเราก็คิดอะไรได้เยอะกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างในโลกของการลงทุน มันสามารถวัดมูลค่า และนำมาเปรียบเทียบกันได้เสมอ ว่าดีลไหนน่าสนใจมากกว่า ไม่เว้นแม้แต่ดีลของ Kerry ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และทำธุรกิจคล้ายกันกับ Flash ที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ในการลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเราจำเป็นจะต้องวิเคราะห์ทิศทางที่มาของรายได้และแนวโน้มในการเติบโตว่าจะคุ้มค่ากับเงินลงทุนหรือไม่ จะมีอนาคตที่จะก้าวไปได้ไกลมากแค่ไหนเป็นสำคัญ ซึ่งก็เช่นกันกับการลงทุนเปิดแฟรนไชส์ควิกเซอร์วิสนั้น ที่หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า ถ้าลงทุนเปิดแฟรนไชส์ Quick Service ร้านส่งพัสดุด่วนสารพัดบริการแล้ว จะมีรายได้ดีแค่ไหน วันนี้ เรามีรายละเอียดมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่า ถ้าตัดสินใจลงทุนเปิดแฟรนไชส์ Quick Service แล้วนั้น โอกาสประสบความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ค่าบริการส่งพัสดุ รายได้ดูที่นับวันจะมีแต่เติบโต แฟรนไชส์ Quick Service มีบริการหลักที่เป็นหัวใจคือบริการส่งพัสดุด่วน ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ตัดสินใจลงทุนเปิดแฟรนไชส์สามารถสร้างรายได้จากบริการตรงส่วนนี้ได้อย่างมั่นคงก็คือ การที่ Quick Service เป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการกับทั้งไปรษณีย์ไทย และ Kerry Express จึงทำให้สามารถทำกำไรได้จากส่วนลดค่าบริการ ซึ่งลูกค้ายังสามารถส่งพัสดุได้ในเรทราคาปกติทั่วไป เหมือนที่ส่งกับไปรษณีย์ไทยและ Kerry Express โดยรายได้จากบริการไปรษณีย์คร่าวๆ มีรายละเอียดดังนี้ 1. ค่าบริการฝากส่งจดหมายและพัสดุ 2. ค่าบริการส่งธนาณัติ 3. รายได้จากการขายกล่องพัสดุซองจดหมาย เมื่อนำประมาณการรายได้จาก 3 บริการในส่วนของการส่งพัสดุมารวมกัน 1 เดือนสาขาจะมีรายได้เท่ากับ 15,000 + 3,000 + 4,500 เป็นเงินทั้งสิ้น 22,500 บาท ซึ่งนี่เป็นเพียงประมาณการรายได้เพียงแค่ช่องทางเดียวจากอีกสารพัดช่องทางรายได้ที่ Quick Service สามารถให้บริการได้ โดยช่องทางรายได้อื่นๆ ที่ Quick Service สามารถสร้างได้ มีดังนี้ 1. บริการชำระบิลต่างๆ รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5-50 บาทต่อบิล แล้วแต่เงื่อนไขของบิลที่ชำระ นอกเหนือจาก 6 บริการดังกล่าวข้างต้น Quick Service ก็ยังสามารถให้บริการอื่นๆ ได้อีกมากมาย แต่ภาพรวมทั้งหมดก็พอทำให้เราเห็นได้แล้วว่า สาขาแฟรนไชส์ของ Quick Service นั้น สามารถมีช่องทางรายได้รวมกันแล้วอยู่ในระดับหลายหมื่นบาทต่อเดือนได้ไม่ยาก 1 สาขา 1 ตำบล อีก 1 เหตุผลของการทำรายได้ที่ยั่งยืน นอกจากเรื่องช่องทางรายได้ที่ทำได้หลายช่องทางแล้ว บวกรวมกับการเป็นแฟรนไชส์ที่มีบริการที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งกำลังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มในปัจจุบัน การที่ Quick Service คัดกรองการเปิดสาขาให้มีเพียงแค่ 1 สาขา ต่อ 1 ตำบลนั้น ยิ่งทำให้เป็นเครื่องช่วยการันตีได้ว่า ทำเลที่เปิดจะเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากพอที่จะทำให้ผู้คนในตำบลพื้นที่นั้นๆ เป็นลูกค้าร้านสาขาของเรา โดยไม่ต้องหวั่นว่าจะมีคู่แข่งอื่น ถึงแม้ว่าในพื้นที่จะมีไปรษณีย์ไทย แต่ส่วนใหญ่แล้วคนก็จะไม่ค่อยชอบรอต่อคิวอยู่แล้ว จึงทำให้โอกาสในการรับลูกค้าของ Quick Service นั้นมีมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ด้วยการมีบริการ รับห่อพัสดุฟรี ไปรับพัสดุฟรีถึงบ้านสำหรับลูกค้าประจำที่มีการส่งพัสดุคราวละมากๆ จึงยิ่งทำให้ สามารถสร้างเครือข่ายลูกค้าได้ง่าย และดึงดูดให้ผู้คนมาใช้บริการได้มากขึ้น เพราะสะดวกสบาย ครบจบในที่เดียว ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องส่งพัสดุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกรรมอีกหลายอย่างที่สำคัญในชีวิตประจำวันด้วย สรุป ช่องทางรายได้ของแฟรนไชส์ Quick Service ถือได้ว่าถูกสร้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน และกระแสการเติบโตของธุรกิจการขนส่งที่โตตามธุรกิจร้านค้าออนไลน์ อีกทั้ง การเปิดให้มีบริการหลายๆ อย่าง ก็ยิ่งทำให้ตัวร้านสามารถที่จะต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจผันผวนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ง่าย นั่นจึงทำให้การลงทุนกับ Quick Service เป็นการลงทุนเพื่อการเติบโตที่มั่นคงระยะยาว และสามารถสร้างเป็นอาชีพที่มั่นคงและสร้างความมั่งคั่งให้กับคนที่มีฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้ โดยใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก แต่มีโอกาสและแนวทางอย่างเป็นระบบสำหรับการสร้างรายได้ การคืนทุน และการมีกำไรจนกระทั่งประสบความสำเร็จ |