คำถาม #ฆ่าได้ฆ่า ที่มักจะเจอเมื่อสัมภาษณ์งานคือ "ข้อเสียของคุณคืออะไร" คนส่วนใหญ่มักจะตกม้าตายกันที่คำถามนี้
เพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรให้ยังดูโปรสุด ๆ แต่ตามหลักแล้ว มีคำตอบมากมายที่สามารถใช้ตอบคำถามนี้ได้ แถมยังทำให้ผู้สมัครได้คะแนนเพิ่มไปเต็ม ๆ อีกด้วย! สิ่งที่ควรรู้ก่อนตอบคำถาม "ข้อเสียของคุณคืออะไร"ข้อควรระวัง! ไม่ควรพูดข้อเสียที่เชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่สมัครโดยตรง (ถึงแม้จะมีวิธีปรับปรุงเพื่อหักล้าง) ⛔ เป็นคนเข้ากับคนยาก ถ้าสมัครงานด้าน Sale ต่อให้บอกวิธีปรับปรุงยังไงก็พังมากกว่าปังอยู่ดี เพราะมันคือพื้นฐานนิสัยของการทำงาน Sale คือต้องเข้ากับคนง่าย มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ⛔ เป็นคนใจร้อน หงุดหงิดง่าย ถ้าสมัครงานบริการ ตอบข้อนี้ไปยังไงก็ไม่ได้งาน! ไม่ว่าจะอย่างไรนิสัยนี้ก็แก้ยาก ทำให้บริษัทไม่อยากจ้างเลยทีเดียว ดังนั้นเวลาตอบคำถาม "ข้อเสียของคุณคืออะไร" ให้ยึดหลักว่า "ตอบอะไรก็ได้ ที่สามารถหาข้ออื่นมาหักล้างได้" ✅ เป็นคนทำงานช้าบ้าง เพราะใส่ใจรายละเอียดมากเกินไป แต่ถ้ารู้ว่าเป็นงานเร่ง ก็จะวางแผนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้งานเสร็จทันเวลา ✅ กดดันตัวเองมากเกินไป ทำให้บางครั้งรู้สึกกังวลกับงานมากจนเกินไป ตอนนี้กำลังพยายามปล่อยวางมากขึ้น ให้พอดี จะได้สนุกกับการทำงานมากขึ้น ✅ ใช้ภาษาอังกฤษยังไม่คล่อง แต่กำลังเรียนรู้เพิ่มเติม เพราะเป็นประโยชน์กับการทำงานอย่างแน่นอน" ด้วยการตอบคำถามแบบนี้ จะทำให้ผู้สมัครสามารถนำเสนอตัวเองได้อย่างเต็มที่ และได้ใจผู้สัมภาษณ์แบบไม่ยากเลยล่ะครับ ใครที่นำเทคนิคนี้ไปใช้แล้วได้ผลอย่างไร ก็อย่าลืมมาบอกกันด้วยนะครับ อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่นี่! 5 พฤติกรรมที่เราอยากให้คุณหลีกเลี่ยงเมื่อไปสัมภาษณ์งาน ลองทำ 3 สิ่งนี้สิแล้วบริษัทอยากได้เราทันทีในวันสัมภาษณ์งาน ช่วงนี้กระแส “จุดแข็ง-จุดอ่อน” มาแรงเหลือเกิน เรียกได้ว่าเปิดโซเชียลมีเดียมาเมื่อไร เป็นต้องเห็นเพื่อนๆ ของเรา เล่นมุขนี้กันหลายคน แต่ถ้าว่าด้วยเรื่องของการทำงาน เรื่องของ “จุดแข็ง-จุดอ่อน” นั้นถือเป็นประเด็นหลักเลยก็ว่าได้ และถือเป็นอีกหนึ่งคำถามยอดนิยม ที่มักจะถูกตั้งคำถามตอนสัมภาษณ์งานแทบจะทุกครั้ง เพราะคำถามนี้ ถือเป็นสิ่งที่สามารถประเมินทัศนคติ ความคิด และความสามารถของผู้สมัครงานได้เบื้องต้นนั่นเอง การสัมภาษณ์แบบมืออาชีพทำไม จุดแข็ง จุดอ่อน ถึงเป็นคำถามยอดฮิตตอนสัมภาษณ์งานส่วนใหญ่ที่การสัมภาษณ์งานมักให้ผู้สมัครตอบคำถามเรื่อง จุดแข็ง จุดอ่อน เป็นเพราะผู้สัมภาษณ์ต้องการจะรู้จักตัวตนของเรามากขึ้นนั่นเอง เพราะนอกจากจะเป็นการวัดทัศนคติของเรา และดูว่าจุดแข็ง จุดอ่อน ของเราเป็นแบบไหนแล้ว ผู้สัมภาษณ์อาจจะอยากดูว่าเรามีไหวพริบแค่ไหนในการตอบคำถาม พร้อมทั้งการแสดงออกทางภาษากายก็เป็นสิ่งสำคัญ จึงทำให้ผู้สัมภาษณ์สามารถประเมินอะไรได้หลายๆ อย่างจากคำถามนี้ วิธีเตรียมตัวตอบคำถาม จุดแข็ง จุดอ่อน ตอนสัมภาษณ์งานแม้ความจริงแล้ว จุดแข็ง จุดอ่อน ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน รวมไปถึงในแต่ละสายงานก็มีจุดแข็ง จุดอ่อน ที่ต่างกันออกไปอีกด้วย แต่โดยรวมแล้ว การตอบคำถามประเภทนี้ เราต้องรวบรวมสติของเราและคิดก่อนตอบให้มากที่สุด มาดูกันว่าเราจะมีวิธีเตรียมรับมือกับคำถามนี้กันได้อย่างไรบ้าง – พยายามคิดว่าเราอยากให้ผู้สัมภาษณ์รู้เรื่องอะไรของเราบ้าง – ศึกษาตำแหน่งที่เราสมัคร ว่าต้องการคนที่มีทักษะแบบไหนในการทำงาน – ควรตอบคำถามด้วยเป็นความจริง เพราะถ้าโกหก แล้วเราไม่สามารถทำในสิ่งที่พูดได้ อาจเกิดปัญหาตามมาทีหลัง – พยายามทำจิตใจให้สบาย อย่าเครียด มิฉะนั้นความวิตกกังวล อาจแสดงออกมาทางสีหน้าได้ – ตอบคำถามให้กระชับ ตรงประเด็น ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป – ลองเล่าประสบการณ์จริงของคุณ หรือเรื่องที่เคยเจอมา เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์ได้เห็นภาพง่ายขึ้น ตัวอย่างจุดแข็งที่ควรตอบลำดับแรกในการพูดถึงจุดแข็งของเราคือการเลือกทักษะของเราให้ตรงกับลักษณะของงาน พร้อมแสดงออกว่าสามารถนำจุดแข็งตรงไหน นำช่วยมาพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มทักษะอื่นๆ เข้าไปได้ด้วย เช่น – เป็นคนตรงต่อเวลา – มีความตั้งใจและรับผิดชอบต่อหน้าที่ – เป็นคนซื่อสัตย์ – สามารถทำงานเป็นทีมได้ – มีความคิดสร้างสรรค์ – สามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้ดี ตัวอย่างจุดอ่อนที่ควรตอบก่อนอื่นเราต้องคิดว่า การบอกจุดอ่อนให้ผู้สัมภาษณ์รู้ ไม่ได้ส่งผลเสียกับเราเสมอไป เพราะตามธรรมชาติของคนเราทุกคนมักมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราควรต้องพิจารณาให้ดีเช่นกัน ว่าเราจะบอกจุดอ่อนของเราออกมาอย่างไร ไม่ให้ส่งผลเสียต่อการสัมภาษณ์และต่องานที่เรากำลังสมัคร อีกทั้งเมื่อเราบอกจุดอ่อนของเราไปแล้ว เราควรทิ้งท้ายด้วยการเรามีวิธีแก้ไขจุดอ่อนนี้อย่างไร หรือเราพร้อมจะปรับตัวและพัฒนาไปในด้านไหนบ้าง สำหรับหัวข้อจุดอ่อนที่ควรตอบ ได้แก่ – ประสบการณ์ในการทำงานยังน้อย – ขาดทักษะเฉพาะด้าน – ขาดความมั่นใจในตัวเอง – เป็นคนโฟกัสกับเรื่องต่างๆ มากไป – ไม่กล้าแสดงออก ลองเปลี่ยนจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งแน่นอนว่าการแสดงจุดอ่อนออกมา จริงๆ แล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก ถ้าไม่เช่นนั้นลองศึกษาจุดอ่อนของตัวเองที่มี ว่าเราพอจะสามารถแก้ไขหรือปรับจุดอ่อนนี้ได้มากแค่ไหน แล้วลองเปลี่ยนจุดอ่อนนี้ให้กลายมาเป็นจุดแข็งของเรา แต่ต้องมั่นใจจริงๆ ด้วยนะ ว่าเราสามารถปรับตัวเอง เพราะนอกจากจะช่วยให้การสัมภาษณ์งานเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างน้อยการเปลี่ยนจุดอ่อนของตัวเองให้กลายเป็นจุดแข็ง ก็ยังสามารถช่วยให้เราพัฒนาตัวของเราเอง ให้เติบโตไปได้ในทางที่ดีได้อีกด้วย เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเสริมจุดแข็ง เมื่อต้องตอบคำถาม– แนะนำตัวให้ชัดเจนจุดเริ่มต้นของการสัมภาษณ์งานทุกครั้ง คือการแนะนำตัว และนี่ถือเป็น First Impression ที่เราสามารถสร้างให้แก่ผู้สัมภาษณ์ประทับใจเราได้ตั้งแต่แรกเห็น โดยเราสามารถบอกชื่อ นามสกุล ประวัติการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน ได้เลย แต่อย่าลืมใส่ความเป็นกันเองและความเป็นตัวเองลงไปด้วย เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูตึงเครียดหรือดูเป็นทางการจนเกินไป หรือควรเปลี่ยนการสัมภาษณ์ให้การกลายเป็นการสนทนาย่อมๆ เราจะได้ไม่ต้องเป็นผู้พูดอยู่ฝ่ายเดียว และอาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อได้ – มีความซื่อสัตย์ว่าด้วยเรื่องความซื่อสัตย์ ทุกคนต้องมีคุณสมบัตินี้กันเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว และยิ่งโดยเฉพาะเรื่องของการทำงาน ยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ หากเราเริ่มต้นด้วยการแสดงตัวว่าเรามีความซื่อสัตย์ ตั้งแต่วันที่สัมภาษณ์งาน ยิ่งทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง พยายามตอบคำถามทุกเรื่องด้วยความเป็นจริง แสดงจุดแข็งและจุดอ่อนของเราอย่างตรงไปตรงมา จะทำให้เราได้เปรียบการในสัมภาษณ์งาน – เพิ่มเติมทักษะที่มี สร้างคะแนนบวกจุดต่อมาก็คือการเล่าถึงทักษะของเราหรือความสามารถพิเศษ ที่สามารถนำปรับใช้เข้ากับหน้าที่หรือตำแหน่งที่เราต้องการสมัคร โดยเราสามารถยกประสบการณ์ที่เคยทำ ไม่ว่าจะสมัยเรียน หรือการทำงานที่เก่า เพื่อนำมาเป็นข้อสนับสนุน ว่าเรามีทักษะนั้นจริงๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าทักษะหรือความสามารถต่างๆ ที่เรานำเสนอนั้น ต้องเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้จริงๆ เพราะเมื่อถึงเวลาที่ได้ทำงานจริง แล้วเราไม่สามารถทำได้ อาจกลายเป็นปัญหาภายหลังได้ – บอกนิสัยในการทำงานการเล่าถึงนิสัยในการทำงานหรือนิสัยในที่ทำงานของเรา ก็ถือเป็นการบอกจุดแข็งและจุดอ่อนของเราได้ด้วยเช่นกัน เพราะนิสัยส่วนตัวของแต่ละคน สามารถบ่งบอกได้เช่นกัน ว่าเราเหมาะกับตำแหน่งงานนั้นๆ หรือไม่ เช่น หากเป็นคนชอบสื่อสาร ช่างพูด ช่างเจรจา ก็อาจจะเหมาะกับงานที่ต้องติดต่อลูกค้า หรืองานด้านประชาสัมพันธ์ หรือถ้าเป็นเราคนช่างสังเกต ก็อาจะเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความละเอียดและความแม่นยำสูง เป็นต้น อีกทั้งเรายังสามารถบอกได้ว่านิสัยของเราที่เป็นจุดแข็ง สามารถช่วยนำพาให้งานหรือบริษัทก้าวหน้าและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ แต่อย่าลืมควรพูดถึงนิสัยเราแต่พอดี มิฉะนั้นผู้สัมภาษณ์ อาจมองว่าเราเป็นคนโอ้อวดจนเกินไป – เสริมทัพด้วยแรงบันดาลใจ และ Passion ในการทำงานคนเราทุกคนมีความฝันและแรงบันดาลใจในการทำอะไรสักอย่างในชีวิต เรื่องราวของการทำงานก็เช่นกัน โดยเราสามารถเล่าถึงแรงบันดาลใจหรือ Passion ต่างๆ ได้ ว่าเคยอยากทำอะไร เคยมีความชอบด้านไหน แล้วเราเคยประสบความสำเร็จแค่ไหนในเส้นทางนี้ ซึ่งจุดนี้จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราต่อตำแหน่งงาน ว่าเรามีใจรักในอาชีพและอยากประสบความสำเร็จในเส้นทางสายนี้อย่างจริงจัง – นำเสนอประสบการณ์ และสิ่งที่บริษัทจะได้รับจากเราประสบการณ์การทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญและอีกหนึ่งจุดแข็งที่เราต้องพรีเซนต์ การมีประสบการณ์ที่ตรงกับตำแหน่งนั้นๆ แบบแท้จริง ก็ทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ต้องอย่าลืมว่าควรบอกประสบการณ์ที่มีให้พอเหมาะ และควรเป็นประสบการณ์ที่ตรงกับสายงานนั้นจริงๆ ก่อนจะเสริมทัพด้วยสิ่งที่บริษัทจะได้รับจากเรา เมื่อเราได้เข้ามารับตำแหน่งนี้ – ศึกษาวัฒนธรรมองค์กรก่อนตอบคำถามก่อนจะตอบคำถามหรือแสดงตัวตนออกมา อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือวัฒนธรรมขององค์กร ก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์ เราควรถึงศึกษาถึงวัฒนธรรมขององค์กรนั้นๆ ให้ดี ว่าเรานิสัย ทักษะ และประสบการณ์ที่เรามี เหมาะสมกับที่นี่ไหม หรือหากมีบางจุดที่ขัดกับตัวเรา จะสามารถปรับตัวให้เข้าวัฒนธรรมองค์กรนั้นๆ ได้มากแค่ไหน หากเราศึกษาวัฒนธรรมและข้อมูลองค์กรมาเป็นอย่างดี ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า เราทำการบ้านมาพอสมควร เป็นการแสดงถึงความใส่ใจว่าเราอยากทำงานที่บริษัทนี้จริงๆ สรุปการตอบคำถามจุดแข็ง จุดอ่อน เมื่อต้องสัมภาษณ์งาน
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า หนังสือรับรองเงินเดือน สำคัญอย่างไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง เทคนิค หางานอย่างไรไม่ให้โดนหลอก 5 เคล็ดลับที่จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าผู้ สมัครงาน คนอื่น |